ถนนสู่อาณาจักร – ตอนที่ 177 ความกังวลของครูหญิง

ถนนสู่อาณาจักร

177 ความกังวลของครูหญิง

23 – 29 นาที

—————————————

【–มุมมอง เอเกอร์–】

เหล่านักเรียนฟังผมอย่างตั้งใจ

เพื่อพูดให้ชัดเจน มันไม่ใช่ผมกำลังพูด แต่เป็นไมล่า

「ในสถานการณ์ได้เปรียบ พวกทหารควรจะถูกส่งออกไปเป็นเส้นตรงสู่ศัตรูมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ในสถานการณ์เสียเปรียบ ตั้งแถวเรียงเฉียงๆแล้วป้องกันการกระแทก」

ไมล่าใช้หลากหลายอุปกรณ์ในการพูดบอกอย่างเข้มข้นสู่เหล่านักเรียนผู้ถูกทำให้สนใจ

「การโจมตีโดยทหารม้าอาจดูเหมือนทรงพลังเมื่อมองผ่านๆแต่แม้แต่ทหารราบก็หยุดพวกเขาได้ถ้าพวกไม่สร้างความผิดพลาดกับวิธีรับมือการโจมตี ในทางกลับกัน ถ้าเราคือทหารม้าผู้พุ่งเข้าตีเข้าไปข้างใน เราจะไม่เสียหายในการโจมตีตัดสินใจใดๆตราบใดที่ศัตรูยังไม่ก่อสร้างการความคุมและความเรียบร้อย」

เธอจริงจังแล้วอธิบายบนทฤษฎีดังนั้นเธอสมบูรณ์แบบในฐานะครู

ดูเหมือนผมเลือกคนถูกต้องสำหรับงาน

「ทุกคน ทำให้มั่นใจว่าพวกนายทำขบวนแถวกับความเหมาะสมเหล่านี้ พวกมันทั้งหมดคือขบวนแถวของยุคโบราณและแน่นอนว่าศัตรูจะรู้เกี่ยวกับวิธีการรบมาตรฐานด้วย อย่างไรก็ตามอย่าได้ประเมินพวกมันต่ำไป – 80% ของศึกทั้งหลายเอาชนะได้ด้วยกลยุทธ์ตามหนังสือ เมื่อคุยกันถ้ามันมีแม้แต่ความเบี่ยงเบนไม่เหมือนกันแม้แต่เล็กน้อยในสูตร มีแค่ความพ่ายแพ้คือบทสรุปเดียวเท่านั้น!」

ผมนั่งข้างไมล่าผู้มีไฟหลงใหลแล้วพยักหน้าอย่างใหญ่โต

จริงๆแล้วแผมแอบเอาเหล้าเข้ามากับผมอยู่ในประเป๋าแต่ผมมีเวลายากในการหาโอกาสดื่มมันดีๆ

「ถ้าอย่างนั้น หลังจากนี้เราจะมุ่งหน้าออกไปข้างนนอกสู่พื้นที่สวนสนามเพื่อลองจัดแถวตัวเราเองใหม่ด้วยร่างกายในขบวนแถวเหล่านี้ ถ้าพวกเธอทำมันไม่ได้ด้วยตัวเอง มันจะเป็นไปไม่ได้กับการสอนเหล่าทหาร」

น้ำเสียงของไม่ล่าโหดแรงขึ้นกว่าเดิม

ผมเดาว่าเธอพยายามรักษาศักดิ์ศรีซึ่งเธอมีในฐานะทหาร

ช่างเป็นคนน่ารัก

เหล่านักเรียนได้รับการสั่งสอนอันถูกทำให้อุดมความรู้มากกว่าเคยๆแล้วเกือบตามไม่ทัน

เพราะนั่น พวกเขาไม่รู้ว่าแค่สิ่งเดียวเท่านั้นที่ผมพูดคือ “เชิญ ไมล่า”

ด้วยนั่นคาบเรียนเช้าจบลงและต่อไปคือพักทานอาหารเที่ยงตามด้วยฝึกบนพื้นที่

「ฟฟฟฟู่…… หนูเหนื่อย」

「ทำได้ดีมาก หนูทำได้ดี」

ไมล่าปาดเหงื่อออกจากคิ้วซึ่งถูกเก็บรวบรวมเนื่อจากมันกลางฤดูหนาว น่าจะเพราะเธอคุยอย่างต่อเนื่องเป็นสองชั่วโมง

「หนูต้องเตรียมพื้นที่สำหรับคาบเรียนบ่าย ได้โปรดหนูขอตัวขณะหนูออกไปแค่ไม่นาน」

「โอ้เอาน่า เราควรกินด้วยกันก่อนสิอย่างแรก ไม่เอาเหรอ?」

「ไม่ หนูแสดงออกถึงการไร้ความสามารถออกมาจากตอนแรกเริ่มไม่ได้ หนูจะไปแล้ว」

ไมล่าวิ่งออกไปในความรีบ

อย่างคาด เธอชอบอะไรประเภทนี้มาก

แต่ตอนนี้ผมไม่มีใครกินด้วยกับผมเลย

ผมไม่มีคนรู้จักใดๆที่นี่ ผมเลยไม่มีทางเลือกนอกจากเชิญชวนสาวสุ่มๆมากินกับผม

กำลังเดินเล่นไร้จุดมายรอบอาคารโรงเรียน ผมเจอสาวแต่งตัวเหมือนครูผู้ถอนหายใจขณะเดิน

เธอดูอยู่ในปลาย 20 สูงมาตรฐาน บริเวณหน้าอกขาดหายเล็กน้อย

หน้าตาเธอไม่ได้กรีดร้องคำว่าสวยงามออกมาแต่เธอมีความน่ารักแบบโบราณๆอยู่กับเธอ

ต้นขาเธอดูเหมือนสุขภาพดีและอวบอั๋นผมจึงแน่ใจว่ามันจะรู้สึกดีถ้าผมไต่ขึ้นบนเธอในท่าหงายกายาแหกขาอ้า

「สวัสดี มีอะไรหรือ?」

「ฮ่าา ฉันล่ะสงสัย…… เอ๋? มาร์เกรฟฮาร์ดเลตต์! หนูนี้มันหยาบคาย!!」

ผู้หญิงลนลานคำนับผมลดตัวเธอเองลงเตี้ยมากกว่าที่เธอเตี้ยอยู่

「เธอไม่ได้ทำอะไรไม่เคารพเลยสักนิด ฉันสิควรเป็นหนึ่งผู้ขอโทษสำหรับเรียกระบุเธอกระทันหัน」

ผมพาตัวเองไว้ข้างสาวผู้ยังหดกลับไปในความกลัว

「จริงๆแล้วฉันไม่มีใครสักคนทานอาหารด้วยน่ะ ดังนั้นเธออยากเข้าร่วมกับฉันไหมถ้าเธอก็ไม่มีด้วยเหมือนกัน?」

「เอ๋? นั่นเป็นสิทธิพิเศษยิ่งใหญ่สำหรับหนูมากเกินไป นอกจากนี้ หนูไม่รวยขนาดนั้นดังนั้นหนูจะไม่สามารถไปด้วยกันกับมาร์เกรฟสู่ร้านที่เขาเลือก…… และเสื้อผ้าหนู……」

เสื้อผ้าสาวเรียบร้อยและสะอาดแต่ไม่เพียงพอสำหรับที่ซึ่งปรกติแล้วขุนนางไปเจอกัน

「ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันจะจ่ายสำหรับมื้ออาหารเป็นอย่างน้อยน่า สถานที่ซึ่งต้องใช้งานอย่างเป็นทางการไม่ใช่แนวการทำอะไรๆของฉันด้วย พี่จะพาน้องไปที่ดีๆซึ่งเรากินได้ไวๆ」

ผมจับมือสาวผู้ยังลังเลแล้วนำเธอไปกินด้วยกันกับผมเพื่อกิน

มือของเธอขาวผิวเธอเรียบเนียน

ผมมั่นใจว่ามืเธอจะรู้สึกน่าทึ่งกับเจี๊ยวของผม

ที่ซึ่งผมนำเธอไปคือที่ซึ่งผมไปบ่อยครั้งในเมืองหลวง

ที่ซึ่งเนื้อกับผักทอดอร่อยและร้านเหล่านั้นเปิดสู่คนธรรมดาด้วยเหมืออนกันดังนั้นมันไม่อวดตัวตนเกินความเป็นจริง

「มันอร่อยค่ะ หนูชอบอาหารประเภทนี้」

มันดูเหมือนเธอมีความสุข

「หนูคิดมาตลอดว่ามาร์เกรฟเป็นบางคนผู้ทำตัวสูงเลยเมฆหมอก หนูเลยจินตนาการว่าท่านจะไปที่ซึ่งหรูหรากว่านี้」

「ฉันก็ไม่ได้เติบโตมาแบบยิ่งใหญ่ขึ้นจนกว่ามาถึงชื่อเสียงโด่งดังด้วยเหมือนกัน」

ผมแน่ใจอยู่พอสมควรว่าไม่มีคนมากผู้อยู่ในที่ดีกว่าผมตอนนี้แต่มีวัยเด็กแย่ว่ากว่าผม

「พูดถึงแล้ว พี่จะซาบซึ้งถ้าน้องบอกชื่อฉันมา」

「อ๊ะ! หนูมันหยาบคายมากแค่ไหนกัน…… หนูคือโพลเต้ บรันต์! พ่อหนูคือ………… เจ้าหน้าที่กิจการภายในผู้ทำงานให้บารอน หนูก็อยากจะช่วยพ่ออีกแรง ซึ่งนำหนูเข้าสูการรับตำแหน่งครูที่นี่ หนูมีตำแหน่งแต่หนูไม่ใช่ขุนนาง ดังนั้นได้โปรดเรียกหนูว่าโพลเต้」

「โพลเต้…… ช่างเป็นชื่ออันสวยงาม ได้โปรดเรียกฉันว่าเอเกอร์ด้วย」

「หนูทำไม่ได้หรอกค่ะ! ถ้าผู้อื่นไปได้ยินว่าหนูทำเช่นนั้น หนูจะถูกฝังลงดิน」

สองเรายิ้ม – บรรยากาศดี

อย่างไรก็ตาม ไม่มีเวลามากจนกว่าเวลาพักกินข้าวจบลง และถ้าผมไม่กลับไปไมล่าจะอยู่ในปัญหา

「หนูไม่เป็นไรถ้าเรียกโพลเต้ ใช่มั้ย? ถ้าหนูมาเข้าร่วมอยู่กับพี่ตอนกลางคืนล่ะดีมั้ย เมื่อคาบเรียนจบ หนูอาจสามารถแก้บัญหาหนูซึ่งหนูถอนหายใจเกี่ยวกับมันก่อนหน้านี้ด้วยไง」

「ก-กลางคืน?」

「ใช่แล้ว มีร้านซึ่งมีเนื้ออร่อยๆแต่ไม่เปิดระหว่างตะวันขึ้น」

สีหน้าของโพลเต้ย้อมไว้ด้วยความระวังตัว

เพราะทั้งหมดข่าวลือไร้พื้นฐานของการกินผู้หญิงไม่เลือกหน้าถูกแพร่กระจายออกไปทั่ว

「ฉันไม่ถือถ้าหนูอยากชวนเหล่าครูคนอื่นด้วยเหมือนกัน เพราะยังไงก็มีข่าวลือเกี่ยวกับวิธีทำตัวแบบเลอะเทอะกับผู้หญิง」

ผมพูดอย่างล้อเลียน

โพลเต้หัวเราะคิกคักอย่างเขินอาย ไม่แน่ใจว่าผมล้อเล่นหรือไม่

「ได้เลย เสื้อผ้าหนูอาจดูเป็นอย่างนี้ แต่หนูจะยินดีเข้าร่วมอาหารค่ำกับท่านด้วย」

「แน่นอน เพราะทั้งหมดเราดื่มเหล้าระหว่างกลางวันไม่ได้」

มื้ออาหารตอนกลางวันตะวันขึ้นสูงจบในท่าทางเป็นจังหวะเดียวกัน

ตอนนี้ผมแค่ต้องกลับไปโรงเรียนโดยที่โพลเต้ไม่รับรู้ถึงเอ็นโด่ของผม

ความกระตือรือร้นพลังงานสูงของไมล่าถูกเก็บมาใช้ต่อใส่คาบวิชาบ่ายด้วยเหมือนกัน

「สิ่งซึ่งสำคัญเกี่ยวกับการสร้างแถวการต่อสู้ไม่ใช่ว่ามันดูสวยมากเท่าไหร่! มันเกี่ยวกับความเร็วและความแม่นยำ ไม่เหมือนการเดินสวนสนามเป็นขบวนพร้อมกัน ดังนั้นเธอไม่จำเป็นต้องทำพร้อมกันเสียทุกอย่างตราบใดที่เธอยังอยู่ด้วยกับแบบคร่าวๆ!」

「รับรู้ถึงสิ่งแวดล้อมรอบข้างตลอดเวลา ถ้าคนข้างเธอล้มลงไปคนผู้อยู่ทางขวาตรงๆจะต้องชิดเข้าปิดช่องว่างเพราะศัตรูจะฝ่าผ่านรูเหล่านั้นถ้าเธอปล่อยพวกมันเว้นว่างไว้」

「พวกเขามีเวลายากอยู่」

ถ้าเราแค่กำลังฝึกทหาร มันอาจพอสอนพวกเขาแล้วว่าตั้งแถวอย่างไร แต่เราจำเป็นต้องสอนพวกเขาถึงความสำคัญของขบวนแถวเพื่อทำให้พวกเขามีความรู้ในฐานะผู้บัญชาการมากยิ่งขึ้นไป

ไมล่าตะโกนอย่างสุดใจระหว่างหยดเหงื่อวิ่งลงข้างหัวเธอ

「ได้เลย มาพักกันสั้นๆเถอะจากนั้นเราจะเข้าสู่ขบวนแถวต่อต้านทหารม้าต่อ!」

เหล่านักเรียวทรุดร่วงลงอยู่กับที่

ไม่ล่าเปียกๆเหงื่อกลับมาสู่ด้านข้างของผม

「ทำได้ดีมาก」

「ขอบคุณ แม้ว่าหนูคิดว่าตื่นเต้นกับความดื่มด่ำมากเกินไป」

「ไม่หรอก พี่แค่คิดว่าหนูเหมาะสมกับอะไรแบบนี้มากๆ」

「หนูมีความสุขกับการสอนคนอื่นน่ะ」

เธอรู้ว่าเธอจีบกับผมต่อหน้าเหล่านักเรียนไม่ได้เธอจึงสร้างระยะห่างตัวเธอเองเล็กน้อยจากผมไป

「แต่หนูแค่สามารถสอนพวกมันได้จากมุมมองทหารเท่านั้น หนูเสนอการช่วยเหลือใดๆไม่ได้เมื่อเป็นเรื่องกิจการภายใน」

นั่นเป็นปัญหา

ในแง่ของการสอนกองทัพ ผมพูดได้แบบมีพื้นฐานจากอดีตการต่อสู้แต่กิจการภายในปล่อยทิ้งไว้อย่างสิ้นเชิงในมืออดอล์ฟ

มันแย่พอแแล้วที่ผมไม่รู้อะไรเลย แต่ผมไม่แม้แต่รู้ว่าควรสอนเรื่องอะไร

「ยังไงซะพี่จะคิดเกี่ยวกับมันภายหลัง」

「เพราะพี่ไร้ความรับผิดชอบไงล่ะ」

「ไม่ว่ายังไง…… พี่คิดว่าจะมีฝ่ายคัดค้านมากกว่านี้นะ」

ไม่มีผู้คนโตจากขุนนางชั้นสูงมากเกินไปในหมู่ผู้มีแนวโน้มเยอะว่าเป็นผู้บัญชาการได้ แต่พวกเขาหลายคนคือพวกคนผู้เป็นอัศวินหนุ่มสาวผู้เกี่ยวข้องกับไม่อัศวินผู้รับใช้โกลโดเนียมาเป็นรุ่นๆก็จะเกี่ยวข้องกับเจ้านายศักดินา ผมเตรียมตัวสำหรับที่ไมล่า ผู้ส่วนหนึ่งคือของกองทัพศัตรูผู้ยอมแพ้กับผมไม่นานที่ผ่านมา เพื่อรับการวิพากษ์วิจารณ์อันรุนแรงกว่านี้

「นั่นเพราะลอร์ดฮาร์ดเลตต์แหละ พี่นั่งข้างหนูพร้ออมสีหน้าน่ากลัวบนใบหน้าพี่…… ดังนั้นไม่มีใครกล้าเพียงพอจะใช้ท่าทางไม่สุภาพกับหนูในฐานะผู้ช่วยของพี่」

“แต่มีนักเรียนผู้ไม่เห็นด้วยนะ” – ไมล่าเพิ่มเติม

ดวงตาผมอาจหรี่เพราะผมง่วง

ไม่ว่ากรณีไหน มันจะถูกพบทันทีว่าผมงีบไปเพราะพวกเขาทั้ง 20 คนกำลังมองมาทางนี้

ผมไม่ถือถ้านั่นเกิดขึ้น แต่โดนขอโดยราชาทำให้อะไรต่างๆนาๆน่าหงุดหงิดมากขึ้นหลายเท่าสำหรับผม

「มันยังดีกว่าในกลุ่มเดียวกันของผู้บัญชาการ คนเหล่านั้นหลายคนในกลุ่มเดียวกันของเจ้าหน้าที่กิจการภายในมีพ่อแม่ผู้มาพร้อมกับตำแหน่งพอสมควร…… ดังนั้นมันจะยิ่งน่าหงุดหงิดมากขึ้น」

ช่างปัญหาเยอะ

ไมล่าต้องหายใจทันแล้วขณะเธอยืนขึ้นตรงๆ

「การพักจบ! ทุกคน ตั้งแถว!」

กำลังยืนและทำสีหน้าน่ากลัวคือมากที่สุดเท่าที่ผมทำได้ที่นี่

และจากนั้นค่ำคืนอันรอคอยมาแสนนานมาถึง

「ไมล่า ขอบคุณสำหรับงานหนักทั้งหมดนะ หนูกลับไปบ้านก่อนแล้วพักผ่อนได้」

「ค่ะ มันเหนื่อยหน่ายเสียจริง…… แล้วลอร์ดฮาร์ดเลตต์เล่า?」

「พี่มีธุระบางอย่างต้องเข้าทำ ณ โรงเรียน ขอโทษที」

「ไม่…… ธุระ…… ยังไงซะ นั่นไม่เป็นไร」

ไมล่าหันกลับแล้วมอบชำเลืองมองสู่ผมไม่กี่ครั้งขณะเธอมุ่งหน้ากลับไปคฤหาสน์

บางทีเธอรับรู้ถึงบางอย่าง

「ข-ขอโทษที่ทำให้รอค่ะ!」

พอดีเมื่อไมล่าหายลับวับไปจากสายตา โพลเต้วิ่งมาในเหยาะๆใหญ่ๆ

แน่นอนมันปรากฏว่าเธอไม่ใช่คนที่ร่างกายเข้ากล้ามมากทีุ่ด

「เพราะทั้งหมดการรอผู้หญิงคือส่วนหนึ่งของหน้าที่ผู้ชายด้วย ตอนนี้ ไปกันเถอะ」  

ผมนึกไปถึงคาบวิชาเกี่ยวกับมารยาทสู่ผู้หญิงซึ่งถูกสอนให้ผมโดยนนน่าขณะผมไปเป็นผู้ติดตามคุ้มกันกับโพลเต้สู่ร้าน

ผู้หญิงต้องไม่คิดว่าผมจะมารยาทงามขนาดนี้และแดงระหว่างหดตัวกลับเล็กลงกว่าเดิมในความกลัว

เรามุ่งหน้าสู่สถานที่ซึ่งผู้คนของชนชั้นสูงกว่าคนเหล่านั้นของร้านที่เราเยือนก่อนหน้าระหว่างตะวันขึ้น – คนธรรมดาผู้ร่ำรวยไปถึงขุนนางกับอัศวินชั้นต่ำ – รวมตัวกัน

「หนูได้ยินมาว่ามาร์เกรฟเป็นคนมีชีวิตชีวามากกว่านี้」

พูดอีกอย่าง เธอน่าจะหมายถึงข่าวลือว่าผมรุนแรงและไร้อารยธรรม

แต่ส่วนใหญ่มันไม่ผิด

「พี่เคยถูกบอกนั่นมากมาย แม้ว่าพวกมันส่วนใหญญ่บนสนามรบ」

「อุ่ฟุฟุ แต่ท่านค่อนข้างเป็นสุภาพบุรุษ หนูสงสัยว่าข่าวลือเกี่ยวกับท่านและผู้หญิงก็แต่งมาเกินจริงด้วย」

โพลเต้ดูเหมือนจะเจอไวน์แดงของร้าน

กำลังเห็นว่าแก้วที่สอองเธอเกลี้ยงแล้ว ผมรีบเติมมัน

「ถ้าเช่นนั้น…… อะไรทำให้คุณนายสวยๆเช่นนี้เหมือนเธอถอนหายใจก่อนหน้าเล่า ?」

「อา……」

โพลเต้ลังเลนิดๆ

เธอต้องกำลังสงสัยว่ามันดีหรือไม่กับการบอกผม

แต่ผมจินตนาการได้ว่ามันเกี่ยวกับอะไร

「มันเกี่ยวกับลูกๆขุนนางหรือ?」

「เอ๋!?」

ผมเดาสบายๆ แต่มันดูเหมือนผมถูก

พ่อของเธอคือเจ้าหน้าที่กิจการภายในผู้สนับสนุนตระกูลบารอน เท่าเทียมกับชั้นอัศวินดังนั้นแน่นอนเขาไม่มีจุดยืนมากมาย

กำลังพิจารณาว่าเธอคือลูกสาวอายุน้อยของเขา แม้แต่ขุนนางชั้นล่างและอัศวินก็ดูถูกเธอได้ด้วย

「ฉันก็โตมาจากการเป็นคนธรรมดา ดังนั้นฉันมีประสบการณ์คล้ายๆกัน」

เบื้องหลังส่วนตัวของผมเป็นที่รู้จักกันดี ดังนั้นสาวเลยพยักหน้าแล้วเริ่มบอกสถานการณ์กับผม

「หนูแน่ใจว่าทท่านรู้ว่าคุณเกรเทล เบลท์ซคือผู้ใดที่มาจากกลุ่มเดียวกันซึ่งหนูดูแล」

อืม จริงๆแล้วไม่

ครูใหญ่ของโรงเรียนพูดถึงชื่อของเด็กไม่กี่คนผู้มีพ่อแม่ขุนนางชั้นสูงล่วงหน้าแต่ผมลืมเกี่ยวกับพวกเขาหมดสิ้นแล้ว

ถ้าพวกเขาคือคุณนายสวยๆ ผมจะเคยเห็นหน้าพวกเธอตอนผมไปทั่วแต่ละชั้นเรียน

「เธอคือลูกสาวผู้ภาคภูมิใจที่สี่ของเคานต์เบลท์ซ…… หนูแค่ลูกสาวของพนักงานชั้นต่ำ……」

เบลท์ซ เบลท์ซ…… เขาอาจอยู่ในฝ่ายเคนเน็ธหรือบางทีอาจไม่อยู่

「กลุ่มเด็กๆของขุนนางอื่นรวมตัวกันรอบๆเธอด้วยดังนั้นมันยากสำหรับครูคนอื่นที่จะพูดอะไร……」

「เข้าใจแล้ว」

เหล่านักเรียนต้องเรียนรู้ใต้ผู้ฝึกสอนภายในโรงเรียนไม่ว่าจุดยืนพ่อแม่จะเป็นเช่นไร แต่นั่นแค่ความคิดเห็นภายนอก และผู้ฝักสอนรู้สึกลึกๆข้างในอย่างเลี่ยงไม่ได้ว่ารู้สึกเจียมตัวกับการสั่นสอนของพวกเะาเมื่อพวกเธอพิจารณาว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากเรียนจบ สำหรับลูกๆของขุนนางชั้สูงนั้นบ่อยครั้งจะรับตำแหน่งสูงกว่าตำแหน่งของพวกครูหลังจากพวกเขาออกจากโรงเรียน

「โดยเฉพาะกรณีหนู ที่บารอนคือพ่อของหนูผู้รับใช้เป็นบริวารของตระกูลเบลท์ซ」

ถ้ามันเป็นเจ้านายของพ่อเธอและลูกสาวของเจ้านายเธอ ไม่มีอะไรอันพวกเธอพูดโต้ได้

「ยังไงซะนั่นน่าขัดใจ ได้เลย ฉันจะทำบางอย่างเกี่ยวกับมัน」

「เอ๋!? ต-แต่จริงๆหนูไม่-……」

「ฉันเเข้าใจ ฉันจะไม่นำเธอเข้าข้องเกี่ยว ได้โปรดปล่อยฉันได้เลย」

โพลเต้คำนับหัวเธอเงียบๆ

「ยังไงซะ ความกังวลใจเธอแก้ไขแล้วตอนนี้ มามีความสุขกับอาหารกับเครื่องดื่มที่นี่เถอะ」

พยายามจะไม่ให้เธอตกใจกลัว ผมพักมือผมบนไหล่โพลเต้เบาๆเท่าขนนนกแล้วจากนั้นเทเหล้าให้เธอซึ่งแรงกว่าไวน์

เมื่อโพลเต้เริ่มเวียนๆจากการเมา ผมบอกเรื่องราวเกี่ยวกับแม่น้ำเทียรี่และที่ราบในดินแดนชนบท ด้วยกันกับเรื่องราวไม่ปรกติของดินแดนชาตติภูเขา ซึ่งเธอฟังด้วยความสนใจยิ่งใหญ่แล้วดื่มด้วยความสุขใจมากกว่าเดิน

「และจากนั้นเอง ลูกธนูบิน…… ตู้ม ตรงเข้าตัวพี่เลย……」

ผมกระตุ้นให้เห็นภาพโดยแทงมือผมเข้าสู่สีข้างผู้หญิง

「ม่ายย~! นั่นเจ็บนะค้าา…… อุ่ฟุฟุ」

อุมุ เธอไม่ได้อยู่บนความระวังตัวเมื่อผมสัมผัสกายาเธอ

ในท้ายที่สุด หัวของสาวเซไปมาทั่วอย่างไม่มั่นคง

「ดูเหมือนหนูกลายเป็นเมาๆหน่อยๆแล้ว……」   

「นั่นไม่ดีแล้ว ควรมีห้องบนชั้นสองของร้านนี้ที่น้องพักข้างในได้ ไปกันถอะ」

ผมโอบแขนรอบเอลโพลเต้แล้วนำเธอไปสู่ชั้นสองช้าๆ

—————————————

「อ๊าาาาาาาาาาา!! ฮาร์ดเลตต์ซาม้า! มันหน๊าหนา! มันยาวมาก! พี่จะฉีกหนูแล้ววววว!!」

เสียงรุนแรงของเนื้อพบตบกระแทกเข้าอีกเนื้อก้องดังสะท้อนออกดังขณะโพลเต้ปิดหน้าปิดตาด้วยสองมือแล้วโยนหัวโยกโขกลมสู่ด้านหลังในความเสียว

 

「โพลเต้! นี่มันรู้สึกยังไง!? มันรู้สึกดีมั้ย!?」   

ผมงัดปลายเจี๊ยวขึ้นให้มันถูกำแพงด้านในช่องคลอดเธอ จากนั้นผมแทงลึกเข้าไปในเธอหลังจากเห็นช่องเปิด

มันรู้สึกค่อนข้างแน่น แต่มันยังเป็นรูที่ดี

「ม-มันรู้สึกดี แต่พี่ทำไม่ได้น้า-!」

ผมกลิ้งโพลเต้บนเตียงแล้วแทงเข้าข้างในจากข้างบน

โพลเต้ไม่ใช่ผู้หญิงเรื่อนร่างใหญ่ที่สุด แต่ข้างในเธอลึกอย่างน่าตกใจ กลืนลิน 80% ของสมาชิกของผม

「รับนั่น」

เราเปลี่ยนท่าแล้วเข้าสู่ตำแหน่งหญิงอยู่บนเพื่อผมได้แทงเธอจากข้างล่างได้

「ม่ายยย! มันแทงแรงจะทะลุหนูลึกๆ…… พ-พี่ทำบางอย่างแบบนี้ไม่ได้」

「หนูมีหน้าอกน่ารักมาก สวยมาก」

ผมเอื้อมมือออกเพิ่อจับช้อนเนินเด้งๆเธอ

「ม่ายย~ นมหนูมันเล็ก!」

「พวกมันดีและน่ารักอยู่นา พี่จะแรงกว่านี้แล้วนะ ทุกอย่างดีมั้ย?」

「ฮฮฮฮฮฮฮฮิ้! ได้โปรดยกโทษให้หนูด้วยยยย–!」 องคชาตพี่ใหญ่มากมันจะฉีกหนูแหวกแหกออกครึ่ง!   

「ด้วยน้ำหวานหนูเอ่อเยิ้มหลากไหล หนูฟังดูแล้วไม่น่ามั่นใจในคำพูดเลยสักนิด ดูนี่ พี่จะถู ณ ตรงนี้ด้วย」

「อ๊าาาาาาาาาา! ทำไมพี่เก่งมากมาย…… มันรู้สึกดีเกินไปแม้ว่าหนูรู้สึกเหมือนรูของหนูจะฉีกขาด มันดีมาก!!」

หลังจากชิมเรีอนร่างผู้หญิงสักพัก ผมกลับสู่ท่าหงายกายาแหกขาอ้าแล้วพร้อมเสร็จจบทุกสิ่ง

「อาฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮี๊!」

「นั่นครั้งสามแล้วที่หนูแตก ไม่ใช่หรือ พี่ทำต่อแบบนี้แแล้วแตกในได้ไหม?」

「ม-ไม่ได้น้า! ข้างในไม่ดีหรอก!」

มันคือครั้งแรกที่เธอกำลังต่อต้านจริง บวกกันกับอีริชบอกผมว่าอย่าทำใครสักคนท้องด้วย ดังนั้นผมเดาว่าผมไม่มีทางเลือกอื่น

「ได้เลย…… อ่าาก……จะแตกแล้วนะ!!」

「โอ๊วววววววววววววววว—!!」

ช่วงเวลาสุดท้ายผมดึงเอ็นออกจากรูซึ่งกำลังบีบเสียแน่นแรงซึ่งไปถึงการแตกสุดจิ๊ต่อเนื่องครั้งที่สี่ของมัน

น้ำแตกปะทุออกพร้อมกันแล้วเอ็นผมอันพักอยู่บนท้องผู้หญิงฉีดอสุจิมากพอปกคลุ่มหน้ากับนมเธอ

「กุ่! โอ้วว!」

「น-นั่นมีมันเย้อะเยอะ……มันฉีดออกมา」

ผมเช็ดโพลเต้ผู้เปื้อนน้ำเชื้อด้วยผ้าเช็ดตัวเปียกแล้วเธอพลิกตัวหงายหลังแล้วให้เธอพักบนแขนผม ตอนแรก ผู้หญิงฝังหน้าเธอในอ้อมอกของผมโดยไม่พูดเอ่ยอะไรสักอย่าง แต่อกแตกออกใจตกร่วงหล่นสู่การมีน้ำตาออกมาอย่างช้าๆเรื่อยๆ

「มาร์เกรฟคือคนเหมือนข่าวลืออธิบายทั้งหมดจริงๆ…… หนูถูกกินแบบนี้…… อออุ่」

「อย่าร้อนใจเลยหนา ไม่ใช่มันรู้สึกดีหรือ?」

「มันเหลือเชื่อไปเลย…… แต่นี่…… กำลังถูกโอบกอดโดยบางคนผู้แต่งงานแล้ว…… มันไม่ซื่อสัตย์เอาซะเลย」

「โพลเต้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับอะไรหรอก ทุกสิ่งอยย่างจะออกมาดี ดังนั้นแค่ผ่อนคลายเถิด」

ผมกอดสาวสะอื้นใกล้แล้วจูบแก้มกับคอเธออย่างต่อเนื่องจนหายใจสะอื้นเข้าไปเปลี่ยนสู้กรนเบาๆ

ผมค่อนข้างแรงกับเธออยู่เธอจึงต้องกำลังรู้สึกเหนื่อย

「ถ้าอย่างนั้นวันนี้นั้นยังไม่จบสิ้น……」

ผมแค่ปล่อยเธอนอนบนแขนผมจนถึงเช้าได้ แต่เมลอาจงอน

ไมล่าสงสัยไม่เชื่อใจตั้งแต่แรก และซีเลียจะเอะอะ

ผมทำอะไรได้ ผมจะแค่ปล่อยเธอไว้ที่นี่เพื่อพักผ่อน

ผมเดาว่าผมจะทิ้งรอยจูบบนไหล่เธอเพื่อพิสูจน์การสร้างรักในค่ำคืนนี้

เมื่อผมกลับสู่คฤหาสน์ อย่างไรก็ไม่รู้ทุกสิ่งอย่างถูกรู้ออกไป

เมลงอนจนที่ผมสร้างเมียเก็บแถวพื้นที่แม้ว่าเธออยู่ตรงนี้ ไมล่าบ่นเกี่ยวกับผมกินผู้หญิงคนหนึ่ง ณ ร้านอาหาร และซีเลียคัดค้านการกระทำผมในน้ำตาพร้อมการปฏิบัติดัดนิสัยด้วยการทำตัวเงียบงันใส่

โดยบัญเอิญผมไม่เห็นครอลที่ไหนเลย เขาไปที่ไหนได้ในเวลาแบบนี้?

「อย่าเปลี่ยนประเด็น!」

ให้ตายเถอะ

วันต่อมาผมปล่อยคาบเรียนให้ไมล่าระหว่างผมไปแอบดูในห้องที่โพลเต้กับกลุ่มเดียวกันของเธอดูแลอยู่

「ถ้าบริเวณที่ชาวนาดูแลได้คือข้าวสาลี-…… โอ๊ะ โอ๊ะ โอ้ย」

ทุกครั้งเมื่อโพลเต้กางขาออก เธอร้องเสียงแหลมสั้นๆในความเจ็บ

ผมอาจจะแรงเกินไปเล็กน้อย

「ฉันสงสัยว่าคนไหนคือเบลท์ซ」

ณ ทันตากระพิบหนึ่งนักเรียนยืนขึ้น

「ผู้ฝึกสอน ถ้าคุณรู้สึกไม่ดีไม่ใช่คุณควรหยุดการเรียนไว้เหรอ? ถ้าคุณไม่สอนด้วยความตั้งใจดีที่สุดคุณมันแค่มารบกวน」

「นั่นถูกต้อง」「อย่างคาดกับเกรเทลซามะ ลูกสาวสวยตระกูเบลท์ซ*」

<วายุ: สาวคนนี้กำลังพูดในแบบคุณหนูโดยการจบประโยคด้วย~เดสุวะ ผมน่าจะแค่ไม่ใส่นั่นเข้าไป แต่ผมแค่อยากชี้ออกมา>      

「ฉันไม่เป็นไร…… อุ่…… อู๊ยยย」

ผมเจอเธอแล้ว ถ้าอย่างนั้นสาวนั้นคือเกรเทล เบลท์ซ

เธอสวยดังนั้นผมจะเก็บหน้าสาวนั้นไว้ในความทรงจำของผม

สาวๆอื่นก็ค่อยๆกระเถิบเข้าไปร่วมด้วยกันหลังจากตะโกนดังๆอย่างน่าหนวกหูด้วย

เข้าใจแล้ว มันปรากฏว่าเธอกำลังนำลูกๆคนอื่นจริง

กลุ่มเดียวกันของเจ้าหน้าที่กิจการภายในอนุญาตเสื้อธรรมดา กระนั้นเสื้อผ้าโอ้อวดสูงๆทำให้เธอยิ่งเด่นมากขึ้น พื้นฐานแล้วบ่งบอกทุกคนว่าผู้ปกครองของกลุ่มเดียวกันนี้คือผู้ใด

ตัวสาวเองค่อนข้างจะเด็กแต่เธอแลแล้วดูเป็นผู้หญิงที่ดี

การบิดม้วนในผมสีเกาลัดยาวถึงเอวนั้นสวยงาม และรูปลักษณ์พลังใจกล้าแกร่งของเธอส่งเสริมท่าทางหยิ่งยโสและชั้นสูงแนวการแต่งเสื้อผ้าเธอเน้นขนาดของหน้าอกกับเรือนร่างอวบๆของเธอ แม้ว่าเธอไม่ได้อ้วน ถ้าผมกอดเธอจากข้างหลังแล้วแทงเข้าไปในเธอระหว่างกำลังยืน ผมแน่ใจว่ามันจะดียิ่ง

แน่นอน เธอปรากฏดูเป็นว่าเห็นแก่ตัวและเป็นสาวโตมาแต่ในตระกูลดีๆ แล้วเธอก็น่าจะเป็นสาวบริสุทธิ์ด้วย

โออ้ โพลเต้ดูเหมือนเธออยู่ในตำแหน่งยากลำบากแล้วกำลังจจะร้องไห้

อย่างที่สัญญาไว้ ผมมจะออกไปช่วยเธอ

「เอะอะอะไรกันที่นี่?」

ผมเปิดประตูห้องเรียนแล้วเดินเข้าไปข้างใน

—————————————

ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 23 ปี ฤดูหนาว

สถานะ: มาร์เกรฟอาณาจักรโกลโดเนีย ลอร์ดศักดินาผู้ยิ่งใหญ่ของบริเวณตะวันออก ราชาแห่งภูเขา เพื่อนของดวอร์ฟ

พลเมือง: 155,000  เมืองหลัก – ราเฟน: 22,000 ลินต์บลูม: 3500

สินทรัพย์: 63,000 ทอง (เพิ่มเติมอาคารเสริมของราเฟน -100)

มาด้วยกัน: เมล (ภรรยาน้อย), ซีเลีย (ผู้ช่วย), ไมล่า (ผู้บัญชาการ), ลีอาห์ (คนรัก), อิริจิน่า (ผู้คุ้มกัน), ปีปี้ (ผู้คุ้มกัน?), โดโรเธีย (คนรัก), อลิส (คนรัก), ครอล (นอกใจหลายอย่าง), กิโดหน่วยติดตามคุ้มกัน

คู่นอน: 154, เด็กผู้เกิดแล้ว: 37

—————————————

แปลโดย: wayuwayu

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

วายุ แซ่จิว

กสิกรไทย

ได้โปรดโดเนทสนับสนุนผู้แปล ติดตามข่าวสาร สปอนเซอร์ตอน ช่องทางติดต่อ Facebook : wayuwayu แปล / X : @wayutl

ถนนสู่อาณาจักร

ถนนสู่อาณาจักร

Status: Ongoing
นี่เป็นเรื่องราวของนักสู้ทาสอายุน้อย ในสังเวียนใต้ดิน เขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเขา หรือเขาไปอยู่ที่ที่เขาอยู่ได้ยังไง, มีเพียงว่าชื่อเขาคือ เอเกอร์, และเขาแข็งแกร่ง วันหนึ่งเขาฆ่านายและหนีไปจากสังเวียน, เข้าร่วมกลุ่มของทหารรับจ้างในฐานะสมาชิกใหม่ ระหว่างภารกิจของเขา เขาได้พบกับแวมไพร์, ลูซี่, ผู้ที่สังหารหมู่กลุ่มของเขา ด้วยพลังเหนือมนุษย์ หลังจากที่ได้เรียนรู้ว่า เอเกอร์ รู้จักแต่การฆ่าเท่านั้น, ลูซี่ ให้เขาอยู่ที่บ้านของเธอ, สอนเขา และดูแลเขา สองปีผ่านไป, และในวันจากลาของเอเกอร์, พวกเขาสองคนแลกเปลี่ยนสัญญา ถ้าเอเกอร์เป็นราชา และปกครองแผ่นดินของป่าเอิร์ก, เขาสามารถมาเพื่อพาเธอไปในฐานะผู้หญิงของเขาได้ ทำสิ่งนั่นให้เป็นเป้าหมายในชีวิต, เอเกอร์ออกเดินทางเพื่อเป็นฮี่โร่, ราชา, และสร้างอาณาจักรของเขาเอง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท