ถนนสู่อาณาจักร – ตอนที่ 190 ศึกกวาดล้างผู้คลั่งใคล้มากราโด ④ ศึกแก้มือกับราชา

ถนนสู่อาณาจักร

190 ศึกกวาดล้างผู้คลั่งใคล้มากราโด ④ ศึกแก้มือกับราชา

–มุมมองเอเกอร์–

「อึกกกก……」

ผมรู้สึกถึงแสงกำลังโดนหน้าผมและตื่นขึ้น

ที่นี่คือ…… น่าจะข้างในเต็นท์ ที่ผมได้ถูกขนมาหลังจากหมดสติ ณ จุดของการต่อสู้

ผมจับตรงนี้และตรงนั้นบนร่างกายของผมและรู้สึกเจ็บไปทั่ว……

หน้าผมเจ็บมากที่สุดเป็นพิเศษ บวกกันกับมันมีการปูดปกคลุมผิวหน้า

ผมอาจจะโดนถูกมองผิดเป็นมอนสเตอร์ด้วยการบวมทั้งหมดนั่นบนหน้าผม

「อ๊ะ! ท่านตื่นแล้วเหรอ!?」

ซีเลีย ผู้ที่กอดขาผม ยกหัวเธอกระทันหัน

เธอต้องได้รักษาผมทั้งตลอดเวลานี้

「หัวและหน้าของพี่เจ็บ พี่ถูกซ้อมมากขนาดนั้น?」

「ใช่…… หน้าท่านดูเหมือนน่วมมากๆ ท่านหลับไปวันหนึ่งเต็มๆ」

เหมือนที่ผมคิด ผมบอกได้ว่าตาผมบวมแค่จากการจับมัน

แต่ผมไม่มีเวลาที่ต้องกังวลเกี่ยวกับหน้าผมตอนนี้

「เกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น?」

ซีเลียตอบและถูหน้าผมด้วยผ้าเย็น

「ราชาศัตรูและเอเกอร์ซามะทำตัวเองสลบกัน กองทัพอเลสใช้นั่นเป็นสัญญานถอยทัพ」

「แต่มันควรมีสิ่งกีดขวางข้างหลังพวกเขา ถ้าพวกเขาหันไป พวกเขาจะถูกเอาชนะอย่างเร็ว」

แม้ว่าถ้าผมล้ม ผมจินตนาการว่าลีโอโพลต์พลาดโอกาสโจมตีไม่ได้

「ทหารสามคนแบกราชาศัตรูไประหว่างคนอื่นๆก่อเป็นกำแพงของเนื้อเพื่อปกป้องพวกเขา …… พวกเขาตีฝ่ากลุ่มแยกไปข้างหลังในพริบตาและพวกเขาถอยกลับในห่าฝนของลูกธนู」

「เข้าใจแล้ว และเราไม่ได้ไล่ล่าพวกเขา」

「ใช่ หลังจากพวกเขาฝ่าผ่านกลุ่มของเรา คนผู้ขนราชายืนประจำที่และสู้ ซื้อเวลาพอ ให้ราชาหนีไป พวกเขาสู้ต่อไปจนกว่าพวกเขาทั้งหมดตาย……」

「เข้าใจแล้ว พี่เข้าใจ」

ผมนึกภาพที่เกิดเหตุในใจผมได้อย่างง่ายๆ

เมื่อรู้ว่าสมองกล้ามคนนั้นไม่ตายทำให้ผมยิ้มด้วยเหตุผลบางอย่าง

แน่นอน ผมจะอยากฆ่าเขาถ้าเขาโผล่ขึ้นมาหน้าผม แต่มันจะแค่เศร้านิดหน่าถ้าเขานั้นถูกยิงตายในทางที่ซึ่งไม่รู้จัก

「อืม อะไรที่ท่านยิ้มให้นั่น…… อ๊าา ท่านทำไม่ได้! ท่านถูกต่อยที่หัว ดังนั้นท่านต้องนอนลง!」

ผมหนีเป็นอิสระจากซีเลียขณะเธอพยายามยั้งผมไว้และจากนั้นออกนอกเต็นท์

ศพได้ถูกกวาดล้างจากสนามรบและแยกสู่พวกเดียวกันและศัตรู

บนฝั่งศัตรู…… มีศพอยู่ 97 คน หมายถึงพวกเขาทั้งหมดสู้จนตายของจริง

ในหมู่ศพ มีกลุ่มของทหารสามคนผู้ตายพร้อมแขนเกี่ยวกัน พร้อมด้วยลูกธนูมากมายแทงอยู่หลายที่บนร่างกายพวกเขาและดาบของพวกเขายังจับดาบพวกเขาอย่างแน่น น่าจะพยายามทำอย่างเต็มที่ที่สุดในการกันทางเพื่อราชาของพวกเขา

「เรารับมือกับพวกเขายังไง?」

ถ้าเราแค่ปล่อยภูเขาของศพไว้อย่างนั้น แน่นอนเลยว่าพวกเขาจะถูกกินโดยหมู่สัตว์หรือเหล่านก

นั่นจะเป็นจุดจบน่าเสียใจกับทหารผู้กล้าผู้สู้จนตาย

「มันจะใช้เวลาอยู่บ้างเพื่อส่งผู้บาดเจ็บกลับบ้านและจัดระเบียบกองกำลังของเราใหม่ ให้คนเหล่านั้นผู้ที่ไม่ได้ยุ่งอยู่กับการขุดเป็นคนฝังพวกเขา แล้วก็ อะไรคือชื่อของที่นี่?」

「หนูคิดว่ามันควรเป็นหุบเขาลึกทอกอร์」

ฟุมุ เข้าใจแล้ว

「พวกของเราก็โดนมาเยอะด้วยเหมือนกัน」

ผมอยากจะพวกเดียวกันที่ล้มตายไปสู่ครอบครัวของพวกเขา แต่แค่มีพวกเขามากเกินไป

「การนับผู้ตายไปถึงจำนวนพัน ไม่มีใครจะเชื่อว่านี่เป็นความเสียหายทหาร 100 คน……」

ทหารยืนยันหัวข้อสุดท้ายและพึมพำในความทึ่ง

อะไรแบบนี้แค่เกิดขึ้นเมื่อคิดง่ายๆเท่านั้น

หลังจากได้ยินว่าผมตื่นขึ้น ลีโอโพลต์, ทริสตัน, ไมล่า, ลูน่า, และทุกๆคน……ไม่ อิริจิน่าเป็นคนเดียวที่ส่งเสียงและพยายามให้กำลังใจทหาร

「ความเสียหายนั้นยิ่งใหญ่ แต่มันไม่ได้เป็นไปไม่ได้สำหรับเราที่จะเดินทัพไปข้างหน้าต่อไป การจัดระเบียบจะเสร็จอย่างสมบูรณ์เมื่อเย็น และเราควรจะสามารถกลับไปเดินหน้าได้พรุ่งนี้เช้าพร้อมกันเมื่อตะวันขึ้น」

เหมือนปรกติ ลีโอโพลต์ไม่ได้พูดอะไรสักอย่างกับผมเพื่อบ่งบอกว่าเขากังวลกับสุขภาพของผม

「อุว้าา หน้าท่านดูย่ำแย่ เหมือนออร์คทุกอย่างเลย…… โอ้ยย! หยุดมัน ได้โปรด! เอ่อ มันกินเวลามากกว่าที่ผมคิดดังนั้นอโตรัวน่าจะรวมกลุ่ม การเดินทัพอย่างเร่งรีบที่เวลานี้นั้นเสี่ยง」

ทริสตันถูกรัดคอโดยซีเลียทันทีจากข้างหลังเมื่อพริบตาที่เขาเริ่มหยาบคายกับผม

เข้าใจแล้ว…… ถ้าอย่างนั้นเรากวาดล้างอะไรอย่างเร็วไม่ได้

「กำลังใจของทหารขาดไปด้วย การปล่อยให้ราชาศัตรูหนีไปเป็นผลใหญ่……」

「เพิ่มจากกำลังใจ มันมีความไม่สบายใจตกค้างกับอะไรที่เราจะทำถ้าพวกเขาส่งทหารอเลสเป็นพันแทนที่จะเป็นร้อย」

ไมล่าและลูน่าออกความเห็นอย่างวิตกกังวล

「ทหารของอเลสหลายพัน……」

การดิ้นรนที่เรามีกับพวกเขาครั้งนี้เนื่องมาจากภูมิประเทศ

ในศึกที่ราบเราจะสามารถใช้ม้าของพวกเราได้ดังนั้นอะไรแบบนี้น่าจะไม่เกิดขึ้น

「กระนั้น ถ้าพวกคนเหล่านั้นเป็นพันๆปรากฏขึ้น…… อะไรที่เราทำได้?」

มากกว่าอะไรทุกสิ่ง พวกเขาจะร้อนอย่างไม่น่าเชื่อ

พวกเขาไม่ใช่ศัตรูผู้ผมอยากจะสู้ในฤดูร้อน

「กรณีนี้กับอเลส มันไม่เป็นธรรมชาติที่จะเคลื่อนไหวเมื่อเมืองรายล้อมได้รับรู้การปราบอโตรัว ผมเข้าใจได้ถ้าเมือเป็นพันฒมิตรกับพวกเขา แต่ผมคิดว่ามันดีกว่าที่จะส่งทูตไปเผื่อไว้เมื่อพิจารณาจำนวนกองกำลังที่น้อยสุดขีดของพวกเขา」

「ฉันจะปล่อยนั่นให้กับนาย ถ้าฉันเลี่ยงการสู่กับพวกเขาในอนาคตได้ฉันจะไม่ทำทั้งหมดนี่」

ลีโอโพลต์พยักหน้าอย่างเงียบๆและออกไป

「อืม การออกศึกยังคงเป็นพรุ่งนี้เช้า ใช่มั้ย? ถ้าอย่างนั้นมันจะเป็นหนึ่งวันจากนี้ไป……」

「ผมเอื้อมออกไปและจับตูดของลูน่า」

「อ๊ะ……」

ลูน่างอตัวเธอในความตกใจดั่งพยายามหลบมือที่เคลื่อนไหวเข้าไปในหว่างขาเธอ เธอผ่อนคลายและยกก้นเธอเพื่อมันทำให้ง่ายผมให้เข้าถึงมากกว่า

จากนั่นเมื่อผมกำลังจะโอบกอดเธอและกระแทกความใคร่อันสร้างขึ้นจากการต่อสู้ดุเดืออดกับเธอ

「ท่านทำไม่ได้!」

「ท่านถูกต่อยที่หน้าและอยู่หมดสติไปทั้งวัน! ท่านซั่มสาวซ้ายและขวาไม่ได้」

「พี่ไม่เป็นไร พี่ไม่รู้สึกถึงความเจ็บอีกต่อไปแล้ว」

แม้ว่าผมพูดว่าไม่ต้องกังวล  ซีเลียจะไม่ฟัง

เธอเกาะกอดมือขวาของผม ขอร้องผมอย่างสิ้นหวังให้หยุด 

「มันจะไม่ดีที่จะโยกตัวมากหลังจากโดนต่อยหัว ได้โปรด เอเกอร์ซามะ…… ฟังหนู ถ้าอะไรเกิดขึ้นกับเอเกอร์ซามะ หนู-…… หนู-…… หนูจะมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว」

ตอนนี้น้ำตาเริ่มไหลออกมาจากดวงตาเธอ ผมแค่เมินการเตือนของเธอไม่ได้

สาวน้อยคนนี้ใส่ใจมากมายเกี่ยวกับร่างกายผม

「ได้เลย ถ้าอย่างนั้นพี่จะฟังและไปนอนวันนี้ แต่ไปนอนด้วยกันไม่เป็นไร ถูกมั้ย?」

「ถ้ามันแค่นั้นเท่านั้น มากเท่าที่ท่านต้องการเลย!」

ซีเลียแอบมาอย่างเงียบๆสู่พื้นที่ผมนอนลงและคลานข้างผม

ลูน่าผู้เสียโอกาสถูกโอบกอดโดยผม ก็คลานมาข้างผมบนอีกฝั่ง

「ทริสตัน จัดการที่เหลือ เข้าใจมั้ย?」

หลังจากพูดอย่างนั้น ไม่ล่าก็คลานมาสู่เท้าของผม

ปีปี้ยั้งตัวเธอจากการกระโดดใส่ผมและจับขาผมเงียบๆแทน

「ครับ ครับ…… ผมจะทำอย่างอย่างจริงจังระหว่างลอร์ดศักดินาซามะมีความสุขกับตัวเอง」

หลังจากยืนยันทริสตันที่โอดครวญได้ออกไปจากเต็นท์แล้ว สาวๆดิ้นไปทั่วเหมือนหนอน ถอดเสื้อและกางเกงในของพวกเธอในพริบตา

อุมุ มันน่าเสียดายที่ผมโอบกอดพวกเธอคนใดๆไม่ได้เลย แต่การถูกล้อมโดยผู้หญิงเปลือยแบบนี่แน่นอนจะทำให้แผลของผมหายเร็วขึ้น

「มุ-! พี่ใจร้ายที่ปล่อยหนูไว้! ให้หนูได้นอนด้วยกันกับพี่ด้วย!」

「อิริจิน่าซัง พี่เหม็นเหงื่อดังนั้นไปอาบน้ำ!」

「ฉันเหงื่ออออกตลอดไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันถูกโอบกอด ไม่ใช่เหรอ?」

「มันเหม็นหลังจากสักพัก! และอิริจิน่าซังเป็นคนมีกลิ่นตัวแรงอยู่แล้วถ้าให้เริ่มพูด!」

ผมกลับไปหลับหลังจากผมได้ยินซีเลียและเลียและอิริจิน่าคุยกัน

เราออกเดินทางเช้าวันต่อมา ทิ้งอนุสรณ์หินแต่งด้วยดาบมากมายไว้ข้างหลังและออกจากหุบเขาลึกทอกอร์

[ที่นี่มีเหล่าชายกล้า 97 คนแห่งอเลสผู้สู่ในศึกแห่งทอกอร์]

ไม่นานหลังจากนั้น อโตรัว

「ปืนใหญ่ทั้งหมด เริ่มยิง」

ตามเสียงไร้อารมณ์ของลีโอโพลต์คือเสียงคำรามของปืนใหญ่ ตามด้วยควันที่กำลังขึ้นและฝุ่นจากกำแพงนอกอันมั่นคง

กำแพงเหล่านี้รอบเมืองอโตรัว – สูงและหนากว่าหนึ่งในทั่วราเฟน – ไม่ทรุดในพริบตาแม้ว่าจากการอาละวาดยิงของปืนใหญ่

แม้อย่างนั้น ดินปืนซึ่งขับดันลูกบอลเหล็กฝังเข้าสู่กำแพงหินและสร้างรอยแยกในหลายที่

「ถ้าเราทำต่อไปแบบนี้ ในท้ายที่สุดมันจะถูกทำลาย แต่มันดูเหมือนศัตรูไม่มีเจตนาออกมา」

「ฟุมุ บางทีมันจะเร็วกว่าถ้าเรายิงธนูไฟเข้าไปในเมือง」

การโจมตีปัจจุบันบนเมืองอโตรัวที่ปืนใหญ่แค่ตั้งมุมพื้นฐานแล้วในแถวแนวนอน

เครื่องดีดหินและธนูไฟเป็นทางเลือกที่พร้อมอยู่ แต่ความเสียหายโดยตรงกับพลเมืองถูกเลี่ยงถ้ามันเป็นไปได้สักนิด

「อเลสทำการเคลื่อนไหวมั้ย?」

「หน่วยสอดแนมได้ถูกส่งออกไป แต่พวกเขาไม่ได้รายงานความผิดปรกติอะไร」

ตั้งแต่เมือราชาวิ่งกลับไปบ้าน มันค่อนข้างจะดีเมื่อมันเงียบและทั้งหมด แต่การไม่ได้รับการตอบกลับแม้ว่าหลังจากทูตถูกส่งไปไม่ได้ทำให้ผมมีความสุข

「ถ้าเราทำให้อโตรัวพ่ายได้และกำจัดคนพวกคลั่งไคล้มากราโดเหลานั้น พวกเขาจะไม่มายุ่งกับเรา」

ผู้ส่งสาส์นถูกส่งไปเมืองรายล้อมด้วยเหมือนกัน แต่พวกเขาก็ตกใจเหมือนกันที่การกระทำอเลสและได้หันสายตาของพวกเขาไปหาสภา

มันดูเหมือนพวกเขาจะส่งผู้ส่งสาส์นเพื่อยืนยันสถานการณ์ทันที

「บางทีมันเป็นการตัดสินใจที่ยังไม่ได้ตกลงที่สร้างขึ้นโดยราชา」

ผมพยักหน้าตอบความคิดเห็นทริสตัน

「นั่นทำไมเขาถึงจงใจพูดว่าเขามาเดิน…… และนำแค่ทหาร 100 คนมาด้วยกันกับเขาเท่านั้น」

ถ้าเป็นอย่างนั้น กิลเดรสอาจอยู่ในจุดยืนที่ไม่ดี

「มันจะง่ายกว่าถ้าเขาทำการเคลื่อนไหวไม่ได้」

เมื่อพูดถึงปีศาจ รายงานมาพูดว่ารูปร่างคนหลายคนสามารถเห็นได้ว่าเข้าหามาจากทิศทางของอเลส

「ผู้ส่งสาส์นเรอะ?」

หลังจากที่เห็นความกล้าหาญของพวกเขา

ลีโอโพลต์แค่ปล่อยให้พวกเขาเข้าสู่ฐานหลักไม่ได้ เขาเลยนำพวกเขาไปที่ไกลออกไป

อย่างที่คาด ธนูมากมายเล็งและพร้อมยิงถ้าจำเป็น

「ถ้าอย่างนั้น นายต้องการอะไร?」

「เพราะเหตุการณ์เมื่อวาน เราอยากให้ท่านมาสภาของอเลสเพื่อปรึกษารายละเอียดมากกว่านี้」   

ฟุมุถ้าการตัดสินใจคนตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือสภา ถ้าอย่างนั้นนี่จะเป็นวิธีเร็วที่สุดที่จะสรุปอะไรๆ

มันจะอันตรายดังนั้น ผมสงสัยว่าผมควรส่งใครไปเป็นผู้ส่งสาส์น

「พวกเขาพูดว่าพวกเขาอยากเชิญลอร์ดฮาร์ดเลตต์เอง」   

「ฮ่าาา! พวกส้นตีนนั่นจริงจังเรอะ?」   

ไมล่าและซีเลียขึ้นเสียงของพวกเธอ

「ฉันก็ไม่อยากมุ่งตรงไปสู่กลางดงศัตรูผู้ที่ฉันเพิ่งสู้เสร็จ」   

นี่ไม่ได้เกี่ยวกับการพูดตรงๆหรืออะไรก็ตาม มันไม่มีสักองค์ประกอบที่ผมเชื่อใจได้

「แน่นอน ผมตอบกลับไปแบบนั้น แต่-……」   

ก่อนลีโอโพลต์จะจบประโยค เสียงที่คุ้นเคยทำหูเราวิ้ง

「ฮาร์ดเลตต์! ในนามของราชาแห่งอเลส กิลเดรส ฉันสาบานว่านั่นไม่มีอะไรสักอย่างเกี่ยวข้องกับการสมคบคิดและอะไรแบบนั้น!」   

「นั่น เขามาอีกแล้ว!」   

ซีเลียตะโกนอย่างคาดไม่ถึง

หัวของผมเริ่มเจ็บ

「อออู่มุ……. อย่างน้อยทำให้เป็นประเด็นระหว่างสองฝ่าย……」   

「ข้าก็มีเหตุผลที่ชวนเจ้า เชื่อข้า! ดู ข้าไม่มีอาวุธ ถ้าเจ้าคิดว่าข้ามีเจตนาแฝง ถ้าเช่นนั้นฆ่าข้าเสียลงตรงนี้ที่ข้ายืน!」   

กิลเดรสยกผ้าคลุมแดงยาวขึ้นและแสดงให้ดูว่าเขาไม่มีอาวุธไม่ว่าจะรูปแบบใดๆ……

「กิ่ย้าาาาา!」   

「เจ้าบ้าเอ้ย! ไม่ใช่แค่นายไม่มีอาวุธเท่านั้น นายมันเปลือยเต็มที่เลย!」   

ดวงตาของเธอเน้นไปที่ส่วนล่างเพื่อตรวจดูว่าจริงๆแล้วไม่มีอาวุธไหม แต่ซีเลียตะโกนหลังจากที่เธอได้เห็นอะไรซึ่งไม่ได้มีอยู่ตรงนั้น ผมก็ปล่อยเสียงของผมออกไปออย่างไม่ได้ตั้งใจโดยไม่สนใจมารยาทของผม

เจ้าบ้ากิลเดรส เปลือยใต้ผ้าคลุมอย่างสมบูรณ์

เขาไม่ได้ใส่กางเกงหนังและ ‘อะไร’ ที่ผมไม่ได้อยากเห็นถูกโบกสะบัดไปทั่ว

「ม-มันใหญ่……」   

「ไม่ ฮาร์ดเลตต์ โดโนะนั้น…… มุ ฉันบอกไม่ได้」   

ไมล่าและอิริจิน่าก็แดงพวกเธอชี้สายตาตั้งใจของพวกเธอไปสู่เอ็นห้อยโดยอัตโนมัติ

มันจริงที่ว่าเจ้าคนนี้ใหญ่

มันใหญ่พอที่ผมไม่รู้จากใจว่าของเขาหรือผมที่ใหญ่กว่า

「อย่างที่เจ้าเห็น ข้ามาที่ฐานศัตรูโดยไม่ได้ติดอาวุธ! เพราะข้าเชื่อใจว่าเจ้าจะไม่ทำร้ายข้า เจ้าควรเชื่อใจข้าว่าข้าไม่ได้วางแผนอะไรเลยกับเจ้าและตามข้ามา!」      

กิลเดรสไม่ได่ปล่อยให้หอกและปืนธนูซึ่งชี้ไปที่เขาเป็นผลกับการกระทำของเขาขณะเขาอ้าแขนเปิดกว้างและงอตัวสู่ผมในรูปลักษณ์ใส่ผ้าคลุมเปลือยๆของเขา

 「ฉันบอกได้ว่านายไม่ได้ติดอาวุธ นายไม่ต้องมาตรงนี้!」   

 「ยังไงซะ ข้าจะไม่กลับไปจนกว่าช้าจะนำเจ้ากลับไปด้วยกันกับข้า พาหอกและธนูมาหรืออะไรก็ตามและมากับข้า!」   

ตอนนี้ที่ผมดูแล้ว เขาไม่ได้ขี่ม้าเขาเพื่อมาที่นี่

เขาต้องวิ่งตลอดทางมาที่นี่จากอเลส เพราะขณะผมเข้าหากิลเดรส ทั้งร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อไหลหยดเหมือนน้ำตกและกลิ่นเข้มข้นจากร่างกายชายเริ่มลอยมาเตะจมูกของผม

 「มากับข้า! เจ้าคือชายกล้าและอเลสต้อนรับชายกล้า! มาเร็ว! มาเร็ว มาเร็ว มาเร็ว!」   

และดังนั้นผมรับคำเชิญกิลเดรสและไปเยือนอเลส

「……」   

ซีเลียและผมขี่ชวาร์ซและตามกิลเดรส

เพื่อรูปลักษณ์ เรานำทหารไม่กี่คนจากหน่วยติดตามคุ้มกันมากับเรา แต่พวกเขาจะไม่ทำเป็นผู้ติดตามคุ้มกันที่เหมาะสม

ถ้าอเลสพยายามจะฆ่าผมตอนนี้ พวกเขาจะทำอะไรสักอย่างเพื่อจะหยุดพวกอเลสไม่ได้

「พี่บอกหนูให้รอพี่ไม่ใช่เหรอ?」   

「ไม่มีทาง หนูอยากจะอยู่กับเอเกอร์ซามะในทั้งชีวิตและในความตาย」   

ซีเลียเกาะกอดหลังผม สาบานว่าจะไม่มีวันแยกตัวเธอเองจากผม

「ฟุมุ อย่างที่คาดกับชายผู้กล้าหาญเหมือนเจ้าที่ทำผู้หญิงตกหลุมรักเจ้า…… ถ้าอย่างนั้นข้ามีบางอย่างเพื่อรอคอยในการต่อสู้ของเรา」   

เขากำลังพูดเกี่ยวกับอะไร?

ก่อนผมได้รับคำตอบจากกิลเดรส ชุดกำแพงปราสาทปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเรา

「ยินดีต้อนรับสู่เมืองแห่งอเลส!」   

เราผ่านกำแพงเมืองและเห็นที่ซึ่งเต็มไปด้วยพลังงานไม่ปรกติ

สำหรับนครรัฐ จำนวนประชากรของเมืองพวกเขาปรกติแล้วเน้นไปในเมืองหลวง และความหนาแน่นของประชากรควรจะสูงกว่าที่นั่นนอกเหนือจากเมืองนอกเขตอื่นๆ

อเลสมีจำนวนประชากรประมาณ 40,000 ใกล้กับสองเท่าของจำนวนประชากรของราเฟน

อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่ความหนาแน่นของจะนวนประชากรที่ไม่ปรกติ

ในราเฟน มันปรกติสำหรับเสียงที่จะมาจากการยุ่งและวุ่นวายจากตลาดหรือการทำงานของเหล่าแรงงานที่จะครอบงำบรรยากาศของเมือง ในเมืองนี้ ความมีชีวิตชีวามาจากเสียงของพวกผู้ชายต่อสู้โดดเด่นออกมามากที่สุด

บางทีพวกเขาอาจทำการฝึกทางทหาร แต่ครึ่งบนของพวกเขาเปลือยเปล่า…… นั่นแม้แต่มีเหล่าชายเปลือยเปล่าทั้งตัวกำลังเล่นมวยปล้ำกับกันและกันลึกเข้าไปข้างใน

「มันเป็นการต่อสู้ฝึก พวกผู้ชายเหล่านี้จากอเลสจากอายุ 10 ถึง 45 ปีฝึกอย่างมีวินัยทุกๆวัน」   

「จาก 10 ขวบ……」   

ซีเลียก็ชะงักด้วย

มองดูรอบๆ ผมเห็นชายที่อายุน้อยมากจับชิ้นไม้และโจมตีผู้ชายผู้แก่เท่าราชา และจากนั้นชายจับการโจมตีของเด็กชายและโยนเขาไปข้างๆอย่างไร้ปรานี

「นี่คือความแข็งแกร่งของวิญญาณอเลส」   

「ชาติของเจ้า โกลโดเนีย ใช่ไหม? ทหารนั้นอ่อนแอและใจไม่แข็ง! ถ้าพวกเขามาอยู่ในอเลส ฉันจะฝึกพวกเขาเป็นการส่วนตัวเป็นห้าปีติดกัน……」   

ผมจะไม่สามารถทนมันได้ถ้ามันกับเจ้าคนนี้

「แต่ฮาร์ดเลตต์ เจ้ามันอีกเรื่องหนึ่ง มันน่าเสียดายมากๆที่เจ้ามีความกล้าเช่นนี้ กระนั้นเจ้าไม่ได้เกิดมาที่นี่ในอเลส ซึ่งนั่นทำไมข้าและเมืองอเลสนี้ต้อนรับเจ้า!」   

เมื่อกิลเดรสยกมือขึ้น ทหารหลายพันพูดอยูในระหว่างฝึกหยุดเคลื่อนไหวทั้งหมดพร้อมกันและพวกเขาเดินจากประตูสู่หัวใจของเมืองพร้อมๆกัน ตั้งแถวขึ้นบนสองฝั่งของถนนหลักซึ่งวิ่งผ่านตรงกลาง ที่อาคารซึ่งเป็นบ้านของสภาตั้งอยู่

「ขอเสียงชื่นชมคนกล้า!」   

  「อุ่โอออออออ้—!!」

ช่างเป็นการคำรามที่ดุดัน ผมสงสัยว่าพวกเขาติดค้างในใจไหมที่เราเป็นคนที่ฆ่าพวกพ้องของพวเขา

「นักรบเหมือนกันสู้อย่างกล้าหาญและจากนั้นเสียไปในการต่อสู้ มันมีความแค้นอะไรที่ต้องเก็บไว้เล่า? นอกจากนี้-」   

กิลเดรสคำนับอย่างลึกซึ้งใส่ผม

「ข้าเห็นอะไรที่หุบเขาลึก ข้าแค่คิดว่ามันจะน่าสมเพชสำหรับนกที่จะจิกซากของสหารผู้ล้มไป ……มันคือเราผู้เลือกการต่อสู้ตั้งแต่แรก แต่เจ้าไม่ได้ปล่อยนั่นให้กวนใจเจ้าและมอบการฝังที่ถูกต้องกับพวกเขา」   

มันทำให้ผมรู้สึกค่อนข้างไม่สบายใจเมืองหัวกล้ามนี้คำนับหัวแบบนั้น

「ได้เลย ข้าคำนับเสร็จแล้ว ตอนนี้ ไปที่สภากันเถอะ」   

กิลเดรสรีบยกหัวและก้าวไปข้างหน้า พร้อมด้วยผมตามหลังไปไกลๆ อย่างไรก็ตาม……

「เอเกอร์ซาม้าา…… ว้าาา」   

ซีเลียมุดเข้ามาใต้ผ้าคลุมของผมพร้อมด้วยน้ำตาในดวงตาเธอ

ผมโทษเธอไม่ได้ พวกผู้ชายหัวกล้ามเรียงแถวกันทั้งสองข้างของถนน พวกผู้ชายผู้เพิ่งฝึกมาไม่นานมานี้และได้สร้างเหงื่อเยอะ บวกกับพวกเขามากมายหลายคนเปลือยและเจี๊ยวห้อยของพวกเขาอยู่ในพื้นที่เปิด

「อะไรประเภทนี้นั้น แค่แปลก! และมันเหม็นมากๆ!」   

น่า น่า หนูไม่ต้องไปมองเจี๊ยวชายอื่น

แค่มาซ่อนใต้ผ้าคลุมพี่

「อเลสไม่มีเจตนาจะต่อต้านกับโกลโดเนีย แน่นอน อเลสก็ไม่ได้สนับสนุนอโตรัวด้วยเหมือนกัน」   

นั่นคือสิ่งแรกที่สภาพูดเมื่อเราไปถึงหน้าพวกเขา

แต่ผมแค่พูดว่า “โอ้ อย่างนั้นหรือ? ดี” และปล่อยให้มันไหลผ่านไปเรียบง่ายมากๆไม่ได้

「ถ้าอย่างนั้นการกีดกันเส้นทางมันเป็นเหตุการณอุบัติเหตุหรือ?」   

「นั่นคือราชาไปเดินเล่น เรารับรู้ว่ามันเป็นการกระทำไม่เหมาะสมแต่สุดท้ายท้ายสุดมันคือการตัดสินใจส่วนตัวของเขา สภาทำการตัดสินใจให้อเลส ไม่ใช่ราชา」   

ชายผู้ปรากฏว่าเป็นหัวหน้าของสภาจ้องกิลเดรส

「สภาโกรธอย่างสุดขีดกับความขัดแย้งไม่จำเป็นและผู้เสียสละที่เกิดขึ้นโดยราชา ดังนั้น สมาชิกสภาทั้งหมดเห็นพ้องต้องกันที่จะสนับสนุนการยกเว้นอำนาจราชาเป็นเวลาอันเหมาะสม มีข้อคัดค้านอะไรหรือไม่?」   

นี่น่าตกใจ

ราชาเสียอำนาจของเขาแค่โดยการตัดสินใจของสภา? ระบบปกครองของอเลสน่าสนใจ

「ข้าไม่มีข้อคัดค้านข้ากลับมาอย่างน่าขายขี้หน้าระหว่างปล่อยให้พวกพ้องของข้าตาย ข้าไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับบทลงโทษ」   

หัวหน้าของสภาพยักหน้า

「ลอร์ดฮาร์ดเลตต์ การต่อสู้นี้สร้างความโชคร้ายให้ทั้งสองชาติ ผลลัพธ์ออกมาที่เป็นเช่นนี้ทำให้ท่านพอใจหรือไม่?」   

「ถ้าอย่างนั้นจะไม่มีการจ่ายอะไรทดแทน?」   

ซีเลียพึมพำ และแน่นอนว่ามันจริงที่ผลลัพธ์ไม่ได้เหมาะสมเท่ากับผู้เสียสละที่ถูกสร้างขึ้น

แต่เราแค่จะโอดครวญและเลือกทางเลือกต่อต้านอเลสไม่ได้

ลำดับความสำคัญเราตอนนี้คือจัดการกับอโตรัว

「……แน่นอน อย่างไรก็ตาม ข้าขอให้เจ้าคอยระมัดระวังในอนาคตเมื่อเราทำอะไรนอกดินแดนอเลส」   

「นั่นโดยไม่ต้องพูดถึง เราคือผู้คนของอเลส และมันจะเป็นธรรมชาติสำหรับเราผู้จะปกป้องพวกมัน ไม่ใช่คนอื่นบางคน」   

หลังจากนั้น การประชุมจบลงและหัวหน้าของสภาฝากจดหมายถึงราชาคนโกลโดเนียให้ผมด้วยมารยาท

ซีเลียนำจดหมายสู่ตะวันและแอบดูเนื้อหา แต่ไม่มีอะไรนอกจากคำไม่ดูหมิ่นและคำพูดไร้พิษภัยแห่งมารยาทเขียนอยู่บนมัน

ผมเดาว่าเราไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการโจมตีกระทันหันจากอเลสสำหรับตอนนี้

ผมกลับไปและเน้นว่าจะจับอโตรัวอย่างไรได้

「เดี๋ยว ฮารด์เลตต์!」   

「……ท่านต้องการอะไรแล้วตอนนี้?」   

ผมตั้งการป้องกันโดยอัตโนมัติเมื่อเกิลเดรสเปิดปากของเขา

「จากกับคำให้เกียรติไร้สาระนั่น เราสู้กันโดยมีชีวิตแขวนอยู่เป็นเดิมพันและเป็นเพื่อนกันแล้วเมื่อนำมาพูดกัน」   

「อย่าตรงไปสรุปจากศัตรูไปเป็นเพื่อนเหมือนแบบนั้น……」   

「เหมือนอย่างที่เจ้าได้ยินทุกอย่างอำนาจของข้าถูกระงับและข้าไม่มีอะไรให้ทำตอนนี้ ข้ากำลังจะกลับไปบ้าน ดังนั้นทำไมเจ้าไม่มาและอยู่สักคืนเล่า」

「ไม่มีทาง! แน่นอนว่ามันจะเหม็นกลิ่นผู้ชาย!」   

ซีเลียต่อต้านมัน

แต่ตะวันกำลังตกดินแล้ว

มันน่าจะปลอดภัยกว่าที่จะอยู่ในคฤหาสน์เจ้านี่มากกว่าไปนอนโรงแรมห่วยๆที่ไหนก็ไม่รู้ในเมืองที่ไม่คุ้นเคย

「นอกจากนี้ เราจบในการเสมอ ไม่ใช่เหรอ? เรายังต้องสรุปผลด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง」   

「สู้อีกแล้วเรอะ?」   

ผมตั้งการป้องกันอย่างไม่ได้ตั้งตัวอีกกครั้ง

การบวมบนหน้าผมเพิ่งเริ่มหายไปด้วยเหมือนกัน

「ไม่ การสู้กันสู่ความตายจบในการเสมอ เราจะเจอหน้ากันบนศึกคนละประเภท」   

เราสองคนตามหลังกิลเดรสระหว่างอยู่ในความระแวดระวัง ซีเลียกำลังยืนหน้าผมดั่งจะปกป้องผมกับอะไรก็ตามแต่ที่จะมาทางผม

เราเข้าคฤหาสน์ที่ค่อนข้างจะใหญ่ของเขา ซึ่งไม่ได้ใหญ่มากเท่าวังและไม่มีห้องรับแขกหรือห้องทานอาหาร และตรงไปสู่ห้องนอน

「นี่คือเมียข้า」   

「มันเป็นความสุขขที่ได้พบเจ้า」   

เธอปรากฏว่าเป็นผู้หญิงกลางวัยสามสิบ ผู้ค่อนข้างมีกายใหญ่แล้วก็นมและตูดอวบ

อืม มันจะอย่างน้อยต้องเรือนร่างประเภทนี้แหละที่จะรับเอ็นขนาดเท่าของเขา

「นี่คือน้องสาวของข้า」   

「ยินดีที่ได้รู้จัก」   

เธอดูอายุประมาณกลางยี่สิบและสวยเพรียว อย่างน่าตกใจ เธอไม่มีอะไรเหมือนพี่ชายเธอ เธอขาดแผนกนมไปนิดหน่อย แต่ร่างกายเข้ากล้ามพร้อมด้วยกล้ามเนื้อแกะสลักในทุกส่วนของร่างกายเธอมอบร่างกายอันน่าประทับใจให้ไว้กับเธอ

「และนี่คือลูกสาวข้า」   

「……ว่าไงนั่น」   

เธออยู่ในปลายเลขสิบ ผมคิดว่าเธอยังโตอยู่ แต่นูนน้อยของเธอก็เริ่มก่อตัวขึ้นบนหน้าอกเธอแล้ว และเธออยู่ ณ ช่วงเวลาอายุที่ดีที่สุดที่เธอเริ่มมีกลิ่นของผู้หญิง

โชคดี ที่เธอนั้นดูคล้ายแม่

「ฉันควรเป็นหนึ่งในผู้ที่ดีใจที่ได้เจอพวกเธอทั้งหมด แม้กระนั้น ไม่ใช่เราทั้งหมดควรกินอะไรกันและแนะนำตัวเราหรือ?」   

กิลเดรสหัวเราะอย่างเต็มอกเต็มใจและดีดนิ้ว

จากนั้นผู้หญิงสามคนเริ่มถอดเสื้อผ้า

「เฮ้ ตอนนี้……」   

「ตอนนี้ ฮาร์ดเลตต์ สนามรบต่อไปจะไปดวลกันบนเตียง มาดูกันว่าผู้ใดจะทำให้ผู้หญิงร้องได้มากที่สุด!」   

「ท-ที่รัก! เจ้าใหญ่เกินไปเหมือนอย่างเคย! เราได้แต่งงานกันมา 20 ปีแล้วและกระนั้นพี่ทำรูข้ากรีดร้องทุกครั้งด้วยความสุขอีกครั้ง! ม-ไม่ไหวแล้ว ข้าจะแตก! แตกแล้วววววว!!」   

กิลเดรสกระแทกเจี๊ยวเข้าสู่เมียของเขาผู้นอนหงายหน้าอยู่บนเตียง

เขาก็คว้าหน้าอกและ เล้าโลมมันอย่างเข้มข้น และแม้ว่ามันดูเหมือนมันควรเจ็บเมื่อเขาใช้กำลังมากขนาดนั้น เมียเขาดูมีความสุขพร้อมด้วยแขนเธอรอบหัวเขาและครางในความเสียว

และเจี๊ยวใหญ่จัดของเขาที่ยัดเข้าสู่รูผู้หญิงมันแค่เหมือนซุงหนา

ช่องคลอดของเธอกำลังโดนแหกบานอย่างไร้ปรานีถึคงจุดที่มันฉีกออกตอนไหนก็ได้

「ช่างเป็นเจี๊ยวหนึ่งเลยนะนั่น เจ้าคนนี้เป็นมนุษย์จริงๆเรอะ」   

「แต่มันประมาณขนาดเดียวกันกับเอเกอร์ซามะ」   

ซีเลียกำลังปกปิดกายเปลือยของเธอด้วยผ้าห่มและเลี่ยงไม่ให้กิลเดรสมองเธอขณะเธอติดกับผมแน่น

เห็นได้ชัดว่าเธออยากรอเพราะเธอเห็นว่าศัตรูมีผู้หญิงสามคนรอเขา

「อิ่กกกกกกกกี๊!」   

เท้าผู้หญิงยืดเกร็งออกขึ้นไปสูงบนฟ้าแล้วเกร็งชักและจากนั้นแขนและขาเธอตกในที่สุดอย่างไร้เรี่ยวแรง

หน้าของเมียเขาสบายเละเทะและน้ำลายไหลออกริมฝีปากเธอ เธอไปถึงจุดสุดยอดของเธออย่างงดงาม

「……ถ้าอย่างนั้น อะไรที่นายกำลังพยายามจะพูดเมื่อแสดงการมีเซ็กส์ของคู่แต่งงาน?」   

ถ้าให้พูดจากใจ มันทำให้ผมมีอารมณ์นิดหน่อย แต่ผมไม่เข้าใจอะไรที่เขาอยากให้ผมทำ

「อุมุ ตานายต่อไป」   

กิลเดรสอุ้มเมียเหนื่อยเขาและนอนเธอไว้ตรงหน้าผม

「เจ้าจะซั่มเมียข้าต่อไป! มันเป็นศึกว่าผู้ใดทำให้เมียข้ารู้สึกดีที่สุดได้」

「เธอไม่เป็นไรกับนี่จริงๆเรอะ?」

 「แน่นอน ได้ยินมั้ยดาฟเน่」   

เมียเขาที่ชื่อดาฟเน่พยักหน้าบ่งบอกการยอมรับ

「ถ้าเจ้าเอาชนะดาฟเน่ได้ ถ้าอย่างนั้นเจ้าชนะ แต่ถ้าเธอรู้สึกเบื่อหน่าย ถ้าอย่างนั้นข้าชนะ ขณะที่รางวัล……」   

กิลเดรสชี้ไปที่ซีเลีย

「ถ้าข้าชนะ เจ้าจะต้องให้ข้ามีหนึ่งคืนกับเธอ ข้าจะทิ้งร่องรอยของข้าไว้บนเธอ」   

「ฮฮฮฮฮิ๊!!」   

ซีเลียกระโดดและปลีกลี้ไปที่มุมห้อง

「และถ้าเจ้าชนะ เจ้าทิ้งน้ำเชื้อไว้ในดาฟเน่ได้ มันปลอดภัยมั้ยวันนี้?」   

「ไม่ไข่ข้าตกมารอพร้อม ถ้าเจ้าแตกข้างใน ข้าจะท้อง」   

「นั่นมันเป็นเช่นนั้น โอ้ ใช่ เจ้าตามสบายที่จะดื่มด่ำกับนองสาวและลูกสาวข้าด้วย」   

ช่างเป็นเงื่อนไขที่ไร้สาระเสียจริง

「ท-ทำไม่ได้นะ เอเกอร์ซาม้า! เขาแค่แกล้งทำกับเมียเขาเพื่อที่เขาจะกินหนูได้!」   

「เขาไม่ได้ฉลาดขนาดนั้น นอกจากนี้……」   

ในฐานะชาย ผมถอยกลับไม่ได้จากการต่อสู้แบบนี้

ถ้าแย่สุดมาถึงแย่ที่สุด ผมจะแค่วิ่งหนีไปเปลือยๆด้วยกันกับซีเลียเหมือนคู่รักลับของผู้หญิงแต่งงานแล้ว

นอกจากนี้ ผมมั่นใจในตัวเอง เพราะการบาดเจ็บผม อสุจิที่เพียงพอได้รวมกัน ณ ไข่ของผมเพื่อที่ให้มันรู้สึกหนัก และกิลเดรสแค่พึ่งพาขนาดกับความแข็งแกร่งของเขาจากอะไรที่ผมเห็นได้เมื่อกี้นี้ ไม่ใช่ความเชี่ยวชาญการทำให้ผู้หญิงมีอารมณ์ของเขา

สำหรับทหารทั้งหมดผู้ล้มตายจากศึก ผมจะทำทั้งบ้านของตระกูลราชาท้อง

ผมเข้าหาดาฟเน่ผู้นอนคว่ำหน้า และทำการจูบ

「ดาฟเน่ ทนกับมัน」   

「ข้าจะไม่เป็นไร ข้าจะไม่รู้สึกสิ่งใดจากผู้ชายยกเว้นเจ้า ที่รักของข้า」   

ผู้หญิงพึมพำกับผม

「ถ้าเจ้ามีอะไรใดๆที่เจ้าอยากให้ข้าทำ ถ้าอย่างนั้นข้าจะทำตามคำร้องของเจ้าทั้งหมดตามนั้น อย่างเป็นธรรมชาติ ข้าจะไม่ต่อต้านใดๆ และแม้ว่าข้าจะพยายามเต็มที่เพื่อบีบ ข้าเพิ่งถูกแทงโดยเจี๊ยวที่เหลือเชื่อของผัวของข้า ดังนั้นอาจไม่มีความหมายในการแทงยกเว้นท่านใหญ่พอ」   

ผมลดกางเกงผมลงเพื่อปลดปล่อยเจี๊ยวของผมเพื่อทำให้เธอเงียบลง

「เพราะทั้งหมด เจี๊ยวของผัวของข้านั้นไม่ใช่ธรรมดาทะ-…… ฮฮฮฮิ๊! น-นี่คือ-」   

ขณะผมคลี่คลายเอ็นค่อนข้างใหญ่ของผมดาฟเน่กลายเป็นไร้คำพูดและจับมันอย่างทั้งระวังทั้งสงสัย

「ย-อย่างน้อย มันดูเหมือนท่านไม่ได้เล่นเล่ห์กลกับข้า ท-ที่รักของข้า ข้าควรทำอะไรดี อันนี้ค่อนข้างใหญ่」   

「แค่ให้เขาโอบกอดเจ้าอย่างไรก็ตามที่เขาอยาก ข้าเชื่อในเจ้า ดาฟเน่」   

ผมรัดแขนรอบเมียหน้าผัว ดูดนมเธอและถูเธอจากท้องถึงต้นขา

「นื้อออ อ๊าา…… ข้าเปียกพอแล้ว ถ้าเจ้าเป็นชายของจริง ทำไมเจ้าไม่พยายามและแสดงให้ข้าดูและกระแทกเข้ามาในข้าได้แล้ว」   

「อย่ารีบร้อนนัก เธอมีกายสวยงามดังนั้นให้ฉันได้มีความสุขกับเธอมากกว่านี้อีกนิด」   

ผมแหวกขาเธอออกกว้างและแทงหน้าเข้าไประหว่างนั้น เลียอวัยวะเพศเธออย่างทั่วถึง

ผู้หญิงค่อนข้างมีประสบการณ์ดังนั้นกายเธอตอบสนองการลูบไล้ของผมโดยการคัดหลั่งน้ำหวานแห่งรักเหนียว

เปลี่ยนตำแหน่ง ผมให้ผู้หญิงนั่งอยู่บนเตียง จากนั้นโอบกอดเธอจากข้างหลัง นวดหน้าอกเธออย่างช้าๆแต่ไม่หยุดหย่อน

「หนึอ๊า! ช-ช่างน่าโมโห ความรู้สึกจั๊กจี้นี้……นนนนู้……」   

ผมเน้นกับการดูดคอเธอระหว่างเก็บมือไว้บนหน้าอกของเธอ จากนั้นนำมือผมเองไปสู้หว่างขาเธอเพื่อกระตุ้นคลิตอริสของเธอ

「บางทีนี่พอแล้ว」   

「ฮ่ะโฮ้วว! น๊าาาาา!」   

ในฐานะการเก็บรายละเอียดงานผมใช้นิ้วของผมเพื่อหยิกคลิตเธอ ทำให้เกินระเบิดของน้ำหวานพุ่งฉีดออกมาจากรูเธอ

เธออยู่ในระหว่างกลางสามสิบ อายุที่เธอโหยหาผู้ชายอย่างมากที่สุด และเธอก็ได้พัฒนามาอย่างดี

ผมไม่คิดว่ามันจะอยากที่จะพิชิตผู้หญิงคนนี้

อย่างแรก ผมอ้าขาเธอกว้างและใส่ตัวผมเข้าไปในรูเธอในท่านอนหงายแหวกขาอ้า

「โอออ้ มันเข้าไปข้างใน」   

ผมดันสะโพกผมไปข้างหน้าและแท่งของผมไหลสอดใส่เสียดสีเข้าไปอย่างลื่นไหล

บางทีกิลเดรสช่วยโดยการที่ขยายมันก่อนหน้า แต่ผมใส่เข้าไปได้พอเหมาะทั้งความยาวของผมเข้าไปในเธอ

และจากนั้นปลายของเจี๊ยวของผมจิ้มดันกับทางเข้าของมดลูกของเธอ

มันดูเหมือนเขาขนาดเท่ากันกับของผม

「อ๊า ที่รักของข้า! นี่มันแย่แล้ว คนนี้ใหญ่…… ใหญ่เกือบจะเท่ากันกับ……」   

ขณะที่เมียร้องขอผัวเธออย่างสิ้นหวัง ผมวางมือผมไว้ที่เอวเธอและทำการแทงเบาๆ

「โอ๊ววว!」   

เธอปล่อยครวญต่ำๆและขาเธอเด้งขึ้น

รูสุกงอมของเธอยืดเปิดออก ไม่บีบแน่นแต่ห่อหุ้มแก่นกายของผม

มันดูเหมือนผมมีความสุขกับตัวเองได้ไม่ใช่แค่จากการแข่งขันเล็กๆของเรา

ถ้าผมกระแทกเจี๊ยวผมเข้าไปในเธอด้วยน้ำหนักทั้งหมดหลังมัน ดาฟเน่ร้องเสียงแหลมและหลังจากแทงไปสักพัก เธอเริ่มรัดแขนรอบคอของผม

เมื่อเธอรับรู้ว่าเธออยู่ต่อหน้าสามีเธอสั้นๆหลังจากนั้น เธอตื่นตกใจและเอามือออกจากผม

「นี่รู้สึกดีสำหรับเธอเหรอ?」   

「จ-เจ้าผิดแล้ว มันแค่เพราะเจ้าแทงแรง」   

ถ้าอย่างนั้นผมจะทำนี่ต่อไป

ผมยกดาฟเน่ขึ้นและจับต้นขาของเธอ จากนั้นผมแทงดั่งผมทิ้งสะโพกผมลงข้างล่างใส่เธอ

「ฮฮฮฮิ๊! ฟู้ยยย! อ๊านนน!」   

เธอปล่อยเสียงกรีดร้องคมและน้ำหวานรักเธอฉีดพ่นออกมาทุกครั้งของการแทง

ลิ้นเธอห้อยออกมาอย่างเละเทะขณะเธอมองผมอย่างตั้งใจด้วยตาแฉะ

「นั่นเป็นยังไงล่ะ? มันดีกว่าอะไรที่ผัวเธอทำมั้ย?」   

「……ไม่ ผัวฉันยังคงรู้สึกดีกว่า」   

นั่นไม่ดี ถ้าอย่างนั้นต่อไปคือนี่

ผู้หญิงอยู่บบนเตียงยืนสี่ขาขณะผมแทงเธอจากข้างหลัง

ถ้าผมใช้การเหวี่ยงใหญ่ของสะโพกของผม ผมจิ้มแหย่ทางเข้าของมดลูกเธอได้

「โอ๊วววววว–! น-นี่มันน่าทึ่ง! มันดีมาก!」   

ดาฟเน่ฉีดน้ำหวานรักสาดเป็นน้ำพุเหมือนเธอกำลังปัสสาวะ และเมื่อผมกดเธอจากข้างหลังไกลขึ้นระหว่างหยิกหัวนมเธอ เธอไปถึงจุดสุดยอดและกรีดร้อง

ผมก็รู้สึกเหมือนอสุจิเล็ดออกไปจากเจี๊ยวของผม แต่ผมน้ำแตกอย่างสมบูรณ์ไม่ได้จนกว่าเธอจะยอมผม ไม่อย่างนั้นมันจะเป็นผมแพ้

「นั่นเป็นยังไง มันดีกว่าผัวเธอมั้ย?」   

「อ๊า…… อา……」   

ร่างกายดาฟเน่สั่นเล็กน้อย กระนั้นกิลเดรสยังคงดูผ่อนคลายและไร้กังวล

「ย-ยังก่อน…… มันยังไม่ใกล้…… ความเสียวของการถึงจุดสุดยอดที่ผัวข้ามอบให้….」   

「ฟุฮ่าฮ่า เจ้าเคยเห็นเธอแตกสุดจิ๊ก่อนหน้านี้ ไม่ใช่เหรอ? เมื่อเมียข้าถึงยอดขุนเขาและถึงจุดสุดยอดจากก้นบึ้งของหัวใจเธอ ทั้งตัวเธอเสียเรี่ยวแรง ความจริงที่ว่าเธอกระตุกตรงนั้นตรงนี้หมายถึงมันไม่ใช่การแตกสุดจิ๊」   

「คุ! ถ้าอย่างนั้นแล้วนี่ล่ะ!」   

「โออออออ้—!」   

ผมแทงนิ้วของผมเข้าไปในรูตูดเธอและแทงแรงขึ้นเข้าสู่ช่องคลอดของเธอ

ดาฟเน่ไต่ไปถึงยอดและถึงจุดสุดยอดนับครั้งไม่ถ้วน แต่เธอไม่ทรุดหมดแรงจากความเหนื่อย

ผมรู้สึกได้ว่าเอ็นของผมเริ่มเต้นเป็นจังหวะ หมายถึงผมจะแตกก่อนถ้ายังอยู่อย่างนี้ต่อไป

「ฟุฟุฟุ ผู้หญิงที่ข้าโอบกอดมาเป็น 20 ปีได้ถูกย้อมในสีของข้าแล้ว ดังนั้นแม้ว่าเจ้าใช้แนววิชาเดียวกัน เธอจะไม่หลงเอ็นเจ้าอย่างง่ายดาย」   

「เอเกอร์ซาม้า! ได้โปรดทำเต็มที่!」   

กิลเดรสคืบเข้าหาซีเลียอย่างช้าๆ ไม่มีทางที่ผมจะแพ้ที่นี่

「เอ๋? ในตำแหน่งนี้-……」   

เราเข้าสู่ตำแหน่งนั่งที่เราหันหน้าเข้าหากันพร้อมด้วยเธอนั่งบนผมขณะผมดันสะโพกของผมเข้าไปในสะโพกของเธออย่างช้าๆ

ดาฟเน่ ผู้ที่เสียวสุดทรมานจากความเสียวของการแทงอย่างแรงกล้าก่อนหน้าดูผิดหวัง

「ยอมแพ้แล้วหรือ? เจ้าจะแค่ใช้เวลาและน้ำแตกในตำแหน่งนี้หรือ?」   

「แน่นอนว่าไม่…… ฉันมีแผนที่จะทำให้นายยอมแพ้」   

ผมนำปากผมไปสู่ปากดาฟเน่และขบเนื้อเธออย่างแหย่ๆ

บางทีเพราะเธอตกลงในการตอบกับการกระทำทางเพศที่ผมอยากทำ เธอฝังฟันเธอลงบนคอของผมเบาๆ

「ทำมันแรงกว่านั้น」   

「แบบนี้หรือ?」   

ขณะฟันดาฟเน่แทนม่านหนังผิวของผมและฝังลึกเข้าไปในคอของผม หว่างขาผมเต้นเป็นจังหวะพร้อมๆกัน

「เอ๋!? ไม่มีทาง อะไรใน-…… ใหญ่ขึ้น…… ก่ะ มันเจ็บ…… อุ อุอ๊าาาา นนนนนนนนนนนนนนี๊!!」   

เอ็นของผมขยายในพริบตาข้างในมดลูกของเธอและทำให้เธอกรีดร้องในความเสียวจนทรมานด้วยกันกับโยนหัวเธอไปข้างหลัง

น้ำหวานรักเธอหลั่งไหลออกมาอย่างไม่ขาดสายตามด้วยการกรีดนร้องเสียงแหลมต่อเนื่อง

「ตอนนี้ เราจะไปมีเซ็กส์ของจริงต่อ」   

ผมถอดเจี๊ยวผมออกจากข้างในเธอด้วยกำลังแและเปิดเผยเอ็นของผมที่ขนาดมันไม่มีอะไรก่อนหน้าเทียบเท่าได้

「ว้า! เหมือนต้นขาของหนูเลย!?」   

「นนนุ! แน่นอนข้าไม่ได้คาดว่ามันจะใหญ่เท่านี้!」   

ซีเลียและกิลเดรสก็ตกใจระหว่างน้องสาวและลูกสาวผู้รออย่างใจเย็นบนเตียงก็หายใจเข้าแรงในความตกใจ

「ตอนนี้ เตรียมพร้อม」   

「ด-เดี๋ยว เจ้าสิ่งนั้นจะไม่เข้า! มันใหญ่มากกว่าผัวข้า……. ช-ช่วยข้าด้วย ที่รักของข้า ถ้าสิ่งนั้นกระทำชำเราข้าถ้าอย่างนั้นข้าจะ-……」   

「นี่คือการแข่งขัน ทนมัน」   

「ข้าจะทำได้ยังไง มันเป็นไปไม่ได้ ไม่มีทาง น๊าาาาาาาาา!!」   

ผมทิ่มเจี๊ยวผมลึกเข้าสู่ดาฟเน่ในท่าสุนัข

ในพริบตา ไม้ใหญ่หนาไปตรงถึงมดลูกของเธอและมันขยายห้องทารกของเธอมากจนการปูดโปนปรากฏบนข้างนอกท้องของเธอ

ดาฟเน่พยายามจะหนีขณะเธอทรุดล้มบนเข่าเธอแต่ร่างกายเธอแค่ไถลราบไปบนเตียง

มันง่ายสำหรับผมที่จะซั่มเธอแบบนี้

「ยังไงซะ…… ดูเหมือนมันเข้าไปได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง」   

ผมดันเจี๊ยวผมยิ่งลึกเข้าไป

เสียงเปียกเหนียวแฉะสามารถได้ยินได้ตามมาด้วยเสียงครวญครางแห่งความทรมาน

ไม่ต้องกังวล มันแค่มีเหลืออีกนิด

ทันทีขณะผมดันกำลังเข้าไปยิ่งมากขึ้นอีก เจี๊ยวของผมถูกดูดเข้าไปข้างในและผมไม่รู้สึกถึงแรงต้านใดๆอีกแล้ว

ในที่สุดเอ็นของผมก็เข้าไปในมดลูกของเธอ

「อ๊ะ……」   

ดาฟเน่ผู้ตอนแรกสร้างเสียงเอะอะมากมาย กลายเป็นเงียบกระทันหัน

「ดาฟเน่…… ระหว่างชายคนนั้นกับข้า หนึ่งไหนของเรารู้สึกดีกว่า?」   

ดาฟเน่ไม่ตอบคำถามของกิลเดรสยังนอนราบอยู่บนเตียง หายใจออกสุดปอด

ทั้งกายของเธอเสียกำลังไปอย่างช้าๆเรื่อยๆ

ผู้หญิงยกหน้าสงบเธอขึ้นที่พูดว่าเธอยอมแพ้แล้วทุกอย่าง จากนั้นยิ้มให้ผัวที่รักของเธอ

「ข้าขอโทษ ที่รักของข้า ชายคนนี้ ……ดีกว่า…… ดีกว่าเจ้า แม้ว่าข้าอยากจะรักแค่เพียงเจ้าเท่านั้น…… ข้าแพ้เอ็นที่ใหญ่โตมโหฬารนี้!! ถ้าถูกเอาชนะและพิชิตโดยองคชาติ! ข้าชอบชายคนนี้มากกว่าแล้วตอนนนนนนี้!!」   

「นนนุ! ถ้าอนย่างนั้นเธอถูกขโมยไปจากข้า!」   

「พูดได้ดี มันเป็นฉันชนะ!」   

ณ เวลาเดียวกัน ผมรู้สึกเหมือนร่างกายผมไปถึงขีดจำกัดและน้ำแตกเข้าไปในหม้อน้ำผึ้งของเธอ

ในพริบตา ครรภ์ดาฟเน่เติมเต็มไปด้วยน้ำกามของผมและในที่สุดเธอหมดสติไปพร้อมด้วยสีหน้าที่พอใจบนใบหน้าของเธอ

「ฟฟฟู่…… ถ้าเราใช้ยาคุมตอนนี้ ไม่ใช่ว่ามันจะสามารถทำทันเวลาเหรอ?」   

「ไม่ มดลูกของเมียข้าเป็นของเจ้าอย่างที่สัญญา ข้าแน่ใจว่าเธอจะคลอดลูกที่มหัศจรรย์」   

กิลเดรสให้เมียเขาถูกขโมยไปจากเขาและทำให้ท้องต่อหน้าต่อตาของเขา กระนั้นเข้ายังคงยิ้มได้ด้วยท่าทางไร้กังวล

「พวก ข้าแพ้! อย่างที่คาดกับฮาร์ดเลตต์เจ้าก็ค่อนข้างเป็นนักรบบนเตียง」   

เขาตามด้วยการสั่งให้น้องสาวและลูกสาวบริการผม

ทำตามสัญญาสาวๆเหล่านี้เป็นของผมสำหรับคืนนี้ด้วย

อย่างไรก็ตาม สาวๆก็แดงจากการเห็นเอ็นของผมแล้วและไม่ได้ดูเหมือนลังเลที่จะเดินหน้า

「เอ็นใหญ่นี้ทีทำให้แม้ข้าบ้าไป…… มันน่าเกรงขามแค่ไหนที่สิ่งนี้เป็น」   

「นี่…… น่ากลัว」   

พวกเธอสองคนจับเอ็นผมและดื่มด่ำไปกับความรู้สึกของความเสียวตกค้างและพยายามจะขี่ผม

「เฮ้นี่ มันจะไม่เข้าไปเร็วขนาดนั้น」   

ดาฟเน่คุ้นเคยกับเจี๊ยวใหญ่ของกิลเดรสดังนั้นมันเข้าไปแม้ว่าความแน่นของรูเธอมาก แต่สาวๆเหล่านี้แน่นอนว่าจะพังถ้าสิ่งนี้เข้าพวกเธอตอนนี้

ผมอยากให้พวกเธอรอก่อนเป็นอย่างน้อยจนกว่ามันจะกลับไปสู่ขนาดปรกติ

「ไม่ มันจะไม่เป็นปัญหา…… เพราะ อ๊าานน!」

น้องสาวของราชาแทงไม้เข้าไปในกายเธอด้วยกำลัง

ข้างในเธอบีบรัดผมอย่างแน่น มันไม่ได้แม้แต่ดูเหมือนว่ามันจะฉีก

「ความบริสุทธิ์ของข้าถูกเอาไปโดยพี่ชายของข้าเมื่อข้ายัง 17 และเขาจะคว้านข้างในข้าอย่างบ่อยครั้ง」   

ถ้าอย่างนั้นเขาซั่มน้องสาว…… เขาโลภมากกับเซ็กส์แค่ไหน?

「ข้าแก่พอที่จะถูกพิจารณาว่าเป็นผู้หญิงปีที่แล้ว ดังนั้นพ่อของข้าชิงความบริสุทธิ์ของข้าไป……」   

เขาแม้แต่กระทำชำเราลูกสาวของเขา?

ชายอะไรกันนี่ ช่างอุกอาจมากยิ่ง

ขณะผมครุ่นคิดถึงการกระทำที่ผิดจรรยาบรรณ ลูกสาวเปลี่ยนกับน้องสาว

มันยากที่จะเรียกเธอว่ามีน้ำมีเนื้อเมื่อเทียบกับดาฟเน่ และผมทำอะไรก็ได้ที่ผมอยากทำกับเธอไม่ได้ด้วยเจี๊ยวของผม แต่มันรู้สึกดีที่ได้แกะสลักตัวผมเองเข้าไปในผลไม้ที่ยังคงไม่สุกงอมแบบนี้

「อ-อย่างปล่อยหนูไว้ตามลำพังสิ」   

ซีเลียรีบเพิ่มตัวเธอเองมาในการซั่มหมู่นี่ ยื้อแย่งชิงตำแหน่ง

「นนนุ…… ข้ารู้สึกเหงากับตัวเอง เฮ้ ข้าซั่มเจ้าได้มั้ย?」   

กิลเดรสเรียกสาวคนรับใช้ที่ยังอายุน้อยผู้เอาน้ำเข้ามา และจากนั้นสาวยิ้มอย่างมีความสุขและถอดกางเกงในของเธอ

ตั้งพื้นฐานจากสีหน้านั้นที่เธอเพิ่งทำ มันดูเหมือนเธอหลงเขาอย่างสมบูรณ์

「ตอนนี้มาแทงจากข้างหลังและปล่อยน้ำเชื้อของเราขณะเรามองสาวจูบกัน」   

กิลเดรสกระแทกคนรับใช้ของเขาระหว่างผมชนสะโพกกับลูกสาวเข้าจากข้างหลัง

สาวพัวพันลิ้นกันอย่างหลงไหลกับกันและกัน และสองเราฉีดน้ำเชื้อเข้าสู่อุโมงค์อย่างไร้ปรานีระหว่างมีความสุขกับฉากที่ผิดศีลธรรม

มันสู้สึกเหมือนผมสนิทกับชายผู้เกาะติดแค่ช่วงเวลาน้อยๆนิดเดียว

ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 23 ปี ฤดูร้อน

สถานะ: มาร์เกรฟอาณาจักรโกลโดเนีย ลอร์ดศักดินาผู้ยิ่งใหญ่ของบริเวณตะวันออก ราชาแห่งภูเขา เพื่อนของดวอร์ฟ 

พลเมือง: 159,000  เมืองหลัก – ราเฟน: 23,000 ลินต์บลูม: 4000

กองทัพส่วนตัว:  11,000 คน

ทหารราบ: 5500, ทหารม้า: 800, พลธนู 750, ทหารม้าธนู: 3950

ปืนใหญ่: 15 (3 ได้รับความเสียหาย)

สินทรัพย์: 300 ทอง

คู่นอน: 205, เด็กผู้เกิดแล้ว: 46

แปลโดย: wayuwayu

tipme : tipme.in.th/wayuwayutl

โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: ​http://linktr.ee/wayuwayu

ถนนสู่อาณาจักร

ถนนสู่อาณาจักร

Status: Ongoing
นี่เป็นเรื่องราวของนักสู้ทาสอายุน้อย ในสังเวียนใต้ดิน เขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเขา หรือเขาไปอยู่ที่ที่เขาอยู่ได้ยังไง, มีเพียงว่าชื่อเขาคือ เอเกอร์, และเขาแข็งแกร่ง วันหนึ่งเขาฆ่านายและหนีไปจากสังเวียน, เข้าร่วมกลุ่มของทหารรับจ้างในฐานะสมาชิกใหม่ ระหว่างภารกิจของเขา เขาได้พบกับแวมไพร์, ลูซี่, ผู้ที่สังหารหมู่กลุ่มของเขา ด้วยพลังเหนือมนุษย์ หลังจากที่ได้เรียนรู้ว่า เอเกอร์ รู้จักแต่การฆ่าเท่านั้น, ลูซี่ ให้เขาอยู่ที่บ้านของเธอ, สอนเขา และดูแลเขา สองปีผ่านไป, และในวันจากลาของเอเกอร์, พวกเขาสองคนแลกเปลี่ยนสัญญา ถ้าเอเกอร์เป็นราชา และปกครองแผ่นดินของป่าเอิร์ก, เขาสามารถมาเพื่อพาเธอไปในฐานะผู้หญิงของเขาได้ ทำสิ่งนั่นให้เป็นเป้าหมายในชีวิต, เอเกอร์ออกเดินทางเพื่อเป็นฮี่โร่, ราชา, และสร้างอาณาจักรของเขาเอง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท