ถนนสู่อาณาจักร – ตอนที่ 194 นนน่าอาละวาด

ถนนสู่อาณาจักร

194 นนน่าอาละวาด

 

 

–มุมมองเอเกอร์–

การปรึกษาที่ถูกเรียกอย่างมั่นใจว่าการประชุมแผน ตอนนี้กำลังเกิดขึ้นในห้องทำงาน

ผู้เข้าร่วมการประชุมที่ว่ามานั้นคือตัวผมเอง, ลีโอโพลต์, อดอล์ฟ, ทริสตัน, กับไม่ล่าและซีเลีย

「อย่างแรก ตอนนี้มันมีภัยเข้ามาใกล้จากการรุกรานของจักรวรรดิบนดินแดนของสหพันธรัฐ สนามรบหลักอยู่อีกฝั่งของทวีป บวกกับ มันยากที่จะเชื่อว่ากองทัพจะถูกส่งไปไกลถึงที่ราบกลางเป็นการเบี่ยงความสนใจเพราะระยะทางไกล แต่เพื่อเป็นการระวังไว้ก่อน ผมจะติดต่อสายลับผู้แทรกซึมชาติทางใต้」

「อย่างที่คาด พวกเขาจะไม่เดินทางมาทางนี้เพื่อไปสหพันธรัฐ…… มันโง่เกินไป ใช่ไหม?」

มันจะใช้เวลาครึ่งปีเพื่อให้ทหารเดินทัพจากภูมิภาคตะวันตกของจักรวรรดิสู่ที่ราบกลาง ไปจากที่นั่น จากนั้นผ่านภูมิภาคห่างไกลเพื่อเข้าสู้สนามรบทิศตะวันตก……มันจะใช้เวลาเป็นปีเพื่อให้กองทัพเดินทัพ และทหารจะเหนื่อยแทบตาย ณ จุดนั้น

มากกว่านั้น พวกเขาจะไม่สามารถข้ามภูมิภาคห่างไกลเมื่อมันกลายเป็นนรกแห่งน้ำแข็งระหว่างฤดูหนาว

แม้ว่าพวกเขาพยายามขนาดนั้นเพื่อเบี่ยงความสนใจสหพันธรัฐโอลก้า พวกเขาจะเพียงแค่ถูกสกัดกั้นโดยเรือของสหพันธรัฐ

การพิสูจน์ว่าพยายามโดยการเล่นไปทั่วกับทหารของพวกเขาเองทำเพียงแค่ตัดกำลังตัวพวกเขาเองอย่างไม่จำเป็นเพียงเท่านั้น

เราคาดได้ว่าพวกเขาจะไม่ส่งภัยทางทหารมาเพื่อข่มขู่เรา

「อย่างไรก็ตาม มันอาจมีผลกับเราทางอ้อม」

ไมล่าพูดขึ้นมา

「หมายความว่ายังไง?」

「แน่นอนว่าโกลโดเนียเข้าพวกกับสหพันธรัฐโอลก้าจากมุมมองของจักรวรรดิการ์แลนด์ พวกเขาน่าจะคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่เราจะเดินทางลงใต้จากที่ราบกลางและข่มขู่ภูมิภาคทางทิศตะวันออกพร้อมกับการมาของสหพันธรัฐหลังจากทั้งกองทัพเคลื่อนไหวออกมา」

「แต่มีชาติที่ไม่รู้จักทางใต้ของเราเยอะ ดังนั้นเราน่าจะได้รับประสบการณ์อันยากลำบาก」

「สุดท้ายมันเป็นแค่ความเป็นไปได้ และเพื่อขยี้โอกาสเล็กๆนั้น พวกเขาอาจขอให้ชาติทางใต้ส่งแรงกดดันทางทหารมาใส่โกลโดเนีย เหมือนที่โกลโดเนียมีความสัมพันธ์กับสหพันธรัฐทุกอย่าง จักรวรรดิมีความสัมพันธกับประเทศชาติทางใต้ผ่านช่องทางเหมือนการค้าขาย」

「ฟุมุ…… พูดอีกอย่าง ความเป็นไปได้ที่ประเทศชาติทางใต้จะเข้ามามีส่วนร่วมด้วยนั้นสูง」

ผมชำเลืองมองทริสตันเพราะเขามีสีหน้าว่างเปล่าบนในหน้า ผมหันไปมองลีโอโพลต์แทน

「เครือข่ายข้อมูลในชาติทางใต้นั้นยังไม่สมบูรณ์ แต่ไม่มีรายงานสัญญานใดๆว่าพวกเขาจะทำเหมือนที่ว่ามาเมื่อสักครู่ ความสัมพันธ์ระหว่างหสพันธรัฐของคนแวนโดเลียและชาติศักดิสิทธิ์อัลแตร์พื้นฐานแล้วด้อยกว่า เพราะเป็นที่ซึ่งพวกเขามีการปะทะกันในการต่อสู้ขนาดเล็กที่ทุกโอกาสที่พวกเขาทำได้ ผมไม่เชื่อว่าทั้งสองชาติมีกำลังหลือเพื่อทำการบุกรุกทางเหนือ」

「แล้วลิบาติสล่ะ?」

มันเป็นประชาธิปไตย…… ถ้าผมจำได้ ไม่ใช่นั่นคือประเทศที่ใช้ระบบแปลกๆเพื่อบริหารหรือ

「หลังจากเห็นผลโกลโดเนียขยายใหญ่ขึ้นด้วยวิธีที่รุกรานมอลต์ พวกเขาน่าจะระวังตัวอยู่ แม้ว่าพวกเขาไม่ได้ประกาศว่าพวกเขาจะไม่มีส่วนร่วมในการต่อสู้ยกเว้นชายแดนของเขาถูกล่วงเกิน พลเมืองเล่นบทบาทใหญ่ในการตัดสินใจนโยบายประเทศชาติและตราบใดที่พวกเขารักษาจุดยืนโดยการเก็บคนของพวกเขาไปให้ไกลๆกับการให้ความร่วมมือกับสงครามแล้วนั้นจะไม่มีอันตรายใดๆที่พวกเขาจะทำอะไรทางทหาร」

「เข้าใจแล้ว ถ้าเป็นกรณีนั้นเราไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับพวกเขาสำหรับตอนนี้ เราจะรับมือกับพวกเขาหลังจากเราเริ่มได้กลิ่นสัญญาณออกศึกระบาดจากพวกเขา」

ไม่ล่าสามารถรู้ได้ด้วยเหตุผลดังนั้นเธอถอยกลับอย่างเชื่อฟัง

สรุปแล้ว ตอนนี้ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับทหารให้ต้องกังวล

「ผลทางเศรฐกิจนั้นยิ่งจริงจังมากกว่าผลทางทหาร」

เมื่อในที่สุดก็ถึงตาของเขา อดอล์ฟนำเอกสารหลากหลายใบออกมา

เขาก็ส่งพวกมันให้ผมแม้ว่าเขาถอนหายใจเมื่อเขาเห็นผมยื่นให้ซีเลีย

「ในสงครามใหญ่แบบนี้น อะไรเหมือนเหล็กจะราคาเพิ่มงั้นหรือ?」

「นั่นน่าจะเกิดขึ้นด้วยเหมือนกัน ชาติของเราก็นำเข้าของผลิตทางอุตสาหกรรมระดับสูงจากสหพันธรัฐด้วย ขึ้นอยู่กับสภาพของสงคราม สินค้าอุปโภคบริโภคที่ดีน่าจะถูกเปลี่ยนมูลค่าค่าเป็นของพร้อมใช้ทางกองทัพ」

เข้าใจแล้ว สหพันธรัฐจะหยุดส่งออกของเมื่อพวกเขาเข้าสู่สถานการณ์ที่มอบของพร้อมใช้ออกไปไม่ได้

ถ้าเป็นอย่างนั้น ของมูลค่าสูงเช่นเรือและรถม้าชั้นสูง และของเล็กกว่าเช่นเครื่องตกแต่งจะราคาสูงขึ้น

「มากกว่านั้นสิ่งของเหมือนยาและสินค้าเกี่ยวกับอาหารก็จะมูลค่าเพิ่มขึ้นด้วยเหมือนกัน มันไม่มีอะไรเช่นมียาเยอะเกินไปบนสนามรบดังนั้นชาติใกล้เคียงจะซื้อมากที่สุดเท่าที่พวกเขาทำได้ เพิ่มเติมจากนั้น เกี่ยวกับเรื่องเสบียง……」

อดอล์ฟถอนหายใจดั่งกลายเป็นเข้าใจอะไรบางอย่าง

「ผมสงสัยว่าทำไมราคาของข้าวสาลีขึ้นราคาไม่นานมานี้ เข้าใจแแล้ว ถ้าอย่างนั้นพ่อค้าสหพันธรัฐรวบรวมพวกมัน」

「อย่างที่คาด ข้อมูลไม่ได้เดินทางมาทางฝั่งคลาร่าเร็วขนาดนั้น ถ้าราคานั้นขึ้นแล้ว ถ้าอย่างนั้นมันไปถึงราคาสูงสุดหรือ?」

หลังๆซีเลียเริ่มเข้าใจอะไรเหมือนเศรษฐกิจและราคาตลาด

เธอขอให้แคลร์สอนวิชาเธอครั้งหน้าได้……

「ไม่ พ่อค้าแม่ค้าของสหพันธรัฐไม่ได้มาสู่โกลโดเนียเพื่อซื้อข้าวสาลีโดยตรง ดูจากลำดับของเหตุการณ์ ก่อนอื่นพวกเขาจะซื้อและเก็บรวบรวมข้าวสาลีในสหพันธรัฐ และผลลัพธ์ที่ตามมาคือจำนวนของการส่งออกมาประเทศเราลดลงและจากนั้นราคาจึงเพิ่มขึ้น ตอนนี้ เราอยู่ที่จุดนั้น」

“ฟุมุ ฟุมุ” – ซีเลียพยักหน้าอย่างตั้งใจ

ลีโอโพลต์มองไปทางอื่น แล้วทำเหมือนมันไม่เกี่ยวกับเขา แต่แน่นอนว่าเขากำลังฟังด้วยเหมือนกัน

ในทางกลับกัน ปรากฏว่าไมล่ากำลังฟังแต่ดูไม่เหมือนว่าจะเข้าใจอะไรที่ถูกพูดมาเกี่ยวกับเศรษฐกิจมาก

ขณะสำหรับผม ผมตดออกไปทางทริสตัน เสียงและกลิ่นทำให้เขาตื่นมาพร้อมทำหน้าขยะแขยง

「และเมื่อเราไปถึงขั้นต่อไปที่ข้อมูลได้แพร่กระจายไปสู่พ่อค้าแม่ค้าทั่วไปของชาติเรา ราคาจะเพิ่มขึ้นยิ่งสูงมากขึ้นทันทีเมื่อทุกคนเริ่มซื้อข้าวสาลีเก็บไว้ ตอนนี้มันเกือบได้เวลาเก็บเกี่ยวฤดูใบไม้ร่วง และทั้งทวีปควรรับรู้ถึงการพูดกันเกี่ยวกับสงคราม ซึ่งลอร์ดศักดินาจะเก็บข้าวสาลีมูลค่าสูงไว้กับตัวแทนขายมัน…… หมายถึงราคาน่าจะเพิ่มยิ่งมากขึ้นเข้าไปอีก」

「……ถ้าอย่างนั้นจะไม่ใช่ปัญหาเรื่องอาหารผู้คนจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเหรอ」

ไม่ล่าและซีเลียดูกังวล

「ผมจะตอบตรงๆว่านั่นจะเกิดขึ้น ผลลัพธ์ของมันจะตรงข้ามกันระหว่างขุนนางสภาและชาวหมู่บ้านทำนาและเมือง」

หน้าซีเลียเกร็งเมื่อเธอรู้เกี่ยวกับสถานการณ์อันเลวร้าย แต่เธอดูะเหมือนคิดอะไรออกบางอย่าง

「หือ? ถ้าอย่างนั้นในกรณีนั้น-……」

อดอล์ฟพยักหน้าด้วยเหมือนกัน

「ถูกครับ ผู้คนในดินแดนจะซาบซึ้งกับเราแทน เราไม่เคยซื้อสินค้านำเข้าหรูหราจากสหพันธรัฐมากๆตั้งแต่แรก」

นายลืมเกี่ยวกับเมียฉันแล้ว

นนน่ารักการใช้ของจากสหพันธรัฐ

เมื่อผมไม่อยู่ระหว่างสงครามและแม้แต่ตอนนี้จำนวนโซฟานุ่มนิ่มทวีคูณขึ้น

อย่างไรก็ตาม อดอล์ฟพูดต่อโดยที่ความคิดผมไม่ไปถึงเขา

「ผมใช้หนึ่งในผู้ฝึกหัดลาดตระเวนรอบๆและนี่คือตอนนี้สถานการณ์ข้าวสาลีดูเป็นอย่างไร」

ซีเลียดูส่วนหนึ่งในเอกสารที่ถูกชี้

สรุปก็คือที่นาทั้งหมดในหมู่บ้านนั้นเรียงรายไปด้วยจำนวนมีเขียนรวมต่อจากหมู่บ้าน

นอกจากจำนวน…… มันดูเหมือนเครื่องหมาย ‘+’ อยู่ที่นั่น

「ที่นาทั้งหมดรวมไปถึงที่อยู่ทางใต้ซึ่งไม่เคยเสร็จการปรับปรุงอย่างสมบูรณ์ แต่ละที่จะมีจำนวนเก็บเกี่ยวได้เพิ่ม แน่นอนว่าส่วนหนึ่งของเหตุผลนั่นเพราะการพัฒนาการควบคุมน้ำท่วมและการเพิ่มคุณภาพของดิน แต่สภาพอากาศนั้นดีที่สุด และยิ่งพวกเขาไกลออกไปมากเท่าไหร่-……」

「อธิบายเหตุผลกับซีเลียภายหลัง นายพยายามพูดถึงอะไร?」

ถ้าผมไม่ขัดอดอล์ฟ เขาจะพล่ามต่อไปตลอดกาล

「ดินแดนทั้งหมดของเราจะได้รับการเก็บเกี่ยวจำนวนเหลือเฟือใกล้กับอุดมคติ เราคาดถึงการเก็บเกี่ยวนั้นเทียบไม่ได้กับปีที่แล้ว」

「ถ้าอย่างนั้น……… อะไรเกี่ยวกับการขึ้นราคาข้าวสาลีกระทันหันนั่นล่ะ」

「ถ้าจำกัดแค่ในดินแดนของเรา เราถูกพิจารณาได้ว่าโชคดี เพิ่มเติมนั้น เราได้รับข้อตกลงค้าขายอย่างเลือกปฏิบัติดีกว่ากับชาติตะกร้าขนมปัง อาณาจักรมอลต์ โกลโดเนียอาจได้รับประสบการณ์ช่วงเวลาเศรษฐกิจอันยากลำบาก แต่เราอยู่สบายอย่างคาดไม่ถึง」

หน้าตาทุกคนผ่อนคลาย

ไม่ ลีโอโพลต์เหมือนเดิม

ทริสตันไม่ได้ดูเหมือนจะใจเย็น น่าจะเพราะเขาดื่มชามากไปและจำเป็นต้องไปห้องน้ำ ผมจะไม่ให้เขาไป

「ถ้าอย่างนั้นเราควรติดต่อเซเลสติน่าด้วย」

「……ไม่มีความจำเป็นต้องพูดอะไรสักอย่างไม่จำเป็น ใช่ไหม?」

โอ้ เอาน่าซีเลีย หนูไม่ได้จำเป็นต้องร้ายขนาดนั้นเลย

มันจะทำให้ผมเจ็บปวดหัวใจถ้าเราเล่นเล่ห์กับเด็กไร้เดียงสาแค่เพื่อเราได้ลดราคา

「แม้ว่ามันเป็นมอลต์ ผมสงสัยว่ามีความจำเป็นด้วยสำหรับพวกเขาที่ต้องขายข้าวสาลีให้เราไหม」

ลีโอโพลต์พูดอย่างเย็นชา

「ถ้าในความเป็นจริงราคาข้าวสาลีจะเพิ่มขึ้น ถ้าอย่างนั้นที่นากว้างใหญ่ในมอลต์จะเปลี่ยนเป็นพื้นที่แห่งทองคำ มีภัยมากเกินไปรอบชาตินั้นเกินเราจะป้องกันด้วยตัวเราเองได้」

มันเป็นอย่างนั้น มาส่งผู้ส่งสาส์นทันทีเถอะ

「ไม่ว่ากรณีไหน ราคาข้าวสาลีตลาดจะเพิ่มขึ้น แม้ว่าทุนของเราต่ำเมื่อพิจารณาวิถีชีวิตของพลเมือง เราปล่อยให้พวกเขาขายมันให้เราอย่างง่ายๆไม่ได้ ข้อมูลถูกรวบได้หมุนเวียนไปถึงพ่อค้าแม่ค้าผู้ยิ่งใหญ่และพวกเขาน่าจะวิ่งกันเพื่อทำการซื้อตอนนี้」

ทุกคนกระจายตัวหลังจากได้ยินคำสุดท้าย

ลีโอโพลต์และไมล่าจะจัดระเบียบทหารที่ได้รับบาดเจ็บและอดอล์ฟ…… เขามีงานที่จะต้องทำเป็นภูเขาและไม่ได้ดูเหมือนรู้ว่าเริ่มตรงไหน

เมื่อผมโอบมือรอบซีเลียและกำลังจะให้เธอโม๊กเอ็นผมหรือบางอย่าง เสียงเรียกผมกระทันหันจากข้างหลังผม

「นายท่าน ผมขอเวลาสักครู่ได้ไหม?」

「โว่ว!」

นั่นทำให้ผมกลัว ผมหันไปและเห็นเซบาสเตียนอยู่ที่นั่น

เขาอยู่ที่นั่นตลอดเวลาเมื่อเราประชุมหรือ? ……เขามีสื่อว่าอยู่นี่อ่อน แม้แต่ผมยังไม่รู้

「ความลับการเป็นพ่อบ้านขึ้นอยู่กับการอยู่ระหว่างทำให้มันดูเหมือนไม่มีอะไรอยู่ตรงนั้น」

อืม ผมคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้สำหรับคนนี้ว่าจะปล่อยเนื้อหาของการประชุมไปให้คนอื่น

「ถ้าอย่างนั้น มีอะไร?」

มันหายากที่เซบาสเตียนจะดึงผมไปคุย

คนอาวุโสนี้เก็บการสื่อว่าอยู่ไว้ให้เหมือนอากาศจนกว่าเขามีอะไรจะพูด

「ใช่ จริงๆเกี่ยวกับท่านหญิงครับ」

「อาา……」

ไหล่ซีเลียห่ออย่างผิดหวัง

ผมสงสัยว่าเธอทำบางอย่างอีกแล้วหรือ ผมรู้สึกไม่มีแรงจูงใจอยากรู้เล็กน้อยอย่างไม่ได้ตั้งใจ

「นนน่า…… ทำอะไรหรือ?」

อย่างแรกพ่อบ้านคำนับลึกๆ

「ได้โปรดให้อภัยผมถ้าผมพูดบางอย่างที่ดูหมิ่นท่านหญิง ไม่นานมานี้ คนรับใช้หลายคนได้มีความรู้สึกไม่เป็นมิตรกับนนน่าซามะมากขึ้น พวกเธอส่วนหนึ่งผู้พูดลับหลังเธออย่างเปิดเผยนั้นถูกจัดการแล้ว…… แต่ผมไม่สามารถดูแลพวกเธอได้ทั้งหมดเพราะความไร้ความสามารถของผม ดังนั้นผมเกรงว่าบางคนอาจทำหรือพูดอะไรบางอย่างไม่ระวัง」

ผมรู้นานมาแล้วว่าคนรับใช้หลายคนไม่ชอบนนน่า แต่ตอนนี้มันถึงจุดที่ว่าเซบาสเตียนพูดกับผม

「ตัวผมเองและคาร์ล่าซามะเป็นพิเศษสามารถไกล่เกลี่ยอะไรได้ถึงจุดหนึ่ง แม้ว่าไม่มีอะไรบอกว่าแรงผลักดันอะไรจะเริ่มมีปัญหามากขึ้น สุดท้ายแล้วนี่คือเพื่อตระกูลฮาร์ดเลตต์ ซึ่งทำไมผมรู้สึกเหมือนมีความจำเป็นต้องให้นายท่านรู้」

ปรกติแล้ว การที่พ่อบ้านพูดไม่ดีเรื่องพฤติกรรมคุณหญิงนั้นเป็นการกระทำหยาบคายสุดขีด

อย่างไรก็ตาม เซบาสเตียนกังวลอย่างบริสุทธิ์ว่านนน่าและตระกูลจะได้รับความอับอายหรือไม่

「ผมจะยอมรับการลงโทษใดๆก็ตามสำหรับการกระทำไร้มารยาทของผม」

ผมจะไม่ทำอะไรสักอย่างกับเซบาสเตียน

นอกจากนี้……

「เรารู้ว่าความผิดอยู่กับนนน่าซังอย่างแน่นอน」

ซีเลียสายหัวเธอยอมแพ้ด้วย

「ถ้าอย่างนั้นแม้แต่คาร์ล่าก็รับมือมันไม่ได้」

「ช่างโชคร้าย」

ผมคิดว่าคาร์ล่าจะรับมือกับความไม่พอใจสู่นนน่า แต่ในสายตาของคนรับใช้ นนน่ามีจุดยืนสูงกว่าคาร์ล่า

พวกเธออาจไม่เชื่อใจเธอพอที่จะบอกคาร์ล่าเกี่ยวกับทุกอย่าง

「ถ้าอย่างนั้นฉันไม่มีทางเลือกนอกจากคุยกับเธอ นี่เป็นโอกาสอันสมบูรณ์แบบ สภาพร่างกายเธอน่าจะฟื้นหลังจากฟื้นตัวหลังคลอดแล้วตอนนี้ ถ้าอย่างนั้นฉันลงโทษเธอได้นิดหน่อย เคซี อยู่ที่นั่นไหม?」

(จ้ะ อยู่นี่~)

ผีเคเซบินสู่ผมหลังจากผมเรียกเธอ ผมมีงานนิดหน่อยสำหรับเธอ

นนน่าเป็นภรรยาที่รักยิ่งของผม ดังนั้นแม้ว่าเซบาสเตียนจะพูดอะไรนั่น ผมยังต้องยืนยันมันด้วยตัวเองก่อนผมจะตำหนิเธอได้

ถ้าเธอเริ่มสร้างปัญหาอะไรก็ตาม ให้พี่รู้ด้วย พี่จะตัดสินใจหลังจากเห็นว่าอะไรเกิดขึ้นบนที่ก่อเหตุ

(เข้าใจแล้ว แม้ว่าหนูมั่นใจ…… ว่าพี่ยังค้นพบมันด้วยตัวเองได้ค่อนข้างง่ายวันนี้)

「พี่แน่ใจ…… มันแย่เมื่อเธอท้อง แต่หลังจากคลอด หยุดเธอไม่ได้เลย……」

ไม่ต้องพูดอีกแล้ว เธอเป็นเมียที่น่ารักของพี่

เธอมีจุดดีอยู่เยอะด้วย

「เอเกอร์ซามะ…… มันเหมือนกันกับอีหมูตอนนั่นด้วย แต่ท่านรักสาวๆเห็นแก่ตัวจริงๆนะ ไม่ใช่เหรอ」

ผมสงสัยว่าผู้ใดที่เธอกำลังอ้างอิง

หลังจากส่งผีสอดแนมออกไป ผมกำลังจะปล่อยตัวแล้วดื่มเหล้านิดหน่อย แต่เคซีกลับมาหาผม

(มีปัญหา~ มันอยู่บนระเบียง)

「มันยังไม่ถึงแม้แต่ 30 นาทีเลย」

ผมตามหลังเคซี่และซีเลียไป

เมื่อเราเข้าหาระเบียงเราสามารถได้ยินเสียงนนน่าตะโกนอย่างโกรธเคือง

「เธอ! ดูว่าขนมฉันเปียกขนาดไหน! นี่มันหมายความว่าอะไร!?」

「ข-ขออภัยค่ะท่านหญิง แต่นี่ปรกติสำหรับขนมประเภทนี้……」

「อย่ามาโกหกกับฉันนะ! ฉันเคยกินนี่มาก่อน ฉันน่าใจว่าเธอทิ้งมันตากอากาศก่อนนำมาให้ฉัน! 」

「แน่นอนว่าไม่ค่ะ ท่านหญิง…… จะทำอะไรแบบนั้น……」

นนน่ากล่าวหาแม่บ้านอายุน้อย

แม่บ้านพูดว่าเธอจะเปลี่ยนมันและมุ่งหน้าออกไปห้องทานอาหารระหว่างเกือบร้องไห้

แค่เพื่อตรวจมันสองรอบ ผมก็เข้าไปห้องทานอาหารเพื่อชิมขนมแบบเดียวกันกับที่นนน่ากินด้วย

「โอ้ เตรียมมาอย่างสดใหม่มากแล้วก็รู้สึกฉ่ำเล็กน้อยด้วยเหมือนกัน」

「นี่คือมิลล์โรล ไม่ใช่เหรอ? ของหวานประเภทนี้นุ่มและฉ่ำอยู่แล้วถ้าให้พูด」

พูดอีกอย่าง นี่คือความเช้าใจผิดบนฝั่งนนน่า

เมื่อเรากลับไปสู่ระเบียง นนน่ากำลังดุแมรบ้านอีกแล้ว

「มันยังเปียกอยู่! เธอจะระรานฉันหรือยังไงกันห้ะ? เธอคิดกับฉันไม่ดีหรือบางอย่างหรอไงห้ะ!?」

「อุ อุ่แงงงงง๊…… ว๊าาาาา……」

แม่บ้านน้ำตาแตกอออกมาอย่างแท้จริง

ถูกปล่อยให้ไม่มีทางเลือกผมเข้าหาเธอซึ่งหน้า

「เอเกอร์ซาม้า! ถ้าอย่างนั้นการประชุมจบแล้วเหรอค้า อะร้า เธอร้องไห้เพราะอะไรหนอ?」

นนน่ารีบเปลี่ยนสีหน้าเธออย่างรวดเร็ว

ผมหยิบขนมอบในมือเธอแล้วโยนมันใส่ปากของผม

「ความฉ่ำของขนมนี้อร่อย คิดอย่างนั้นเหรอ?」

「ค-ค่ะ หนูก็คิดว่ามันอร่อยด้วย เอาเลย พี่ไปได้แล้ว」  

  โชคร้าย เธอผิดอย่างที่ถูกกล่าวหา

ขณะผมสงสัยว่าควรทำอะไรกับเธอ เคซี่บินมาพร้อมรายงานอีกครั้ง

(เธอทะเลาะกับเมลิสซ่าซัง~)

ครั้งนี้ มันคือเมลิสซ่า? …… ให้ตายเถอะ มีอะไรอีกในครั้งนี้

ผมวิ่งไปแล้วแอบดูในห้องเพื่อได้เห็นนนน่าและเมลิสซ่าถกเถียงกัน

「เหมือนที่ฉันพูดเมื่อกี้ เงินนี้สำหรับเด็กและจะถูกส่งไปเมืองหลวง เอเกอร์ซังยอมรับนี่แล้วด้วย」

「ฉันมีบางอย่างที่ฉันอยากซื้อตอนนี้ซึ่งจะไม่มีครั้งหน้าอีก! ให้ฉันใช้แค่ครั้งนี้มันไม่เป็นไรหรอก ไม่ใช่หรือไง!?」

「มันเป็น เธอมีเครื่องประดับเหลือเฟือแล้วนี่」

「เด็กๆเหล่านั้นควรได้รับเงินเลี้ยงดูแล้วด้วย!」

「นั่นแค่พอสำหรับจำนวนขั้นต่ำสุดสำหรับการใช้ชีวิตของพวกเธอ และพวกเธอควรได้ให้กินบางอย่างดีๆนานๆครั้งด้วย……」

มันดูเหมือนนนน่าค้นพบทองซึ่งสมควรจะถูกส่งไปสู่เด็กๆในเมืองหลวง

อย่างที่ทุกคนควรรู้ เงินในบัญชีของผมว่างเปล่าอยู่ตอนนี้และผมแจ้งพ่อค้าแม่ค้าแล้วว่าอย่าให้นนน่ายืมเงิน ดังนั้นเธอไม่มีอะไรไว้ใช้จ่าย

สองคนนี้ ที่จริงๆแล้วไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีถกเถียงกันต่อด้วยการที่เมลิสซ่าปัดป้องคำขอเห็นแก่ตัวของนนน่าเป็นอย่างแรกและจากนั้นมันเริ่มเยอะขึ้นอย่างช้าๆเป็นนมปะทะนม

「ถ้าอย่างนั้นเด็กกำพร้าพวกนั้นสำคัญกว่าฉันเรอะ!?」

「นนน่า เธอมีความสุขเหลือเฟือกับของหรูหราแล้ว! เธอคิดอะไรอยู่ ที่มาพยายามเอาเงินค่าขนมของเด็กๆไปเนี่ย!?」

และจากนั้นในที่สุด นนน่าพูดมัน

「นั่นอะไรน่ะ!? เธอมันแค่อดีตอีตัว!」

อากาศในห้องเย็นยะเยือกในพริบตา

เมลิสซ่ายืนนิ่งๆพร้อมด้วยสีหน้าตกอกตกใจบนใบหน้า จากนั้นห้อยหัวเธออย่างอ่อนแอ

หน้าของนนน่าเสียใจอย่างรวดเร็วแล้วหายไป แต่เธอรีบหันหนีเพื่อเมินเมลิสซ่าอย่างรวดเร็ว

「นั่นพอแล้ว」

ก่อนผมหยุดคิดว่าทำอะไรดีได้ ร่างกายของผมเคลื่อนที่ไปเองและก้าวเข้าไปในห้อง

「อ๊ะ…… เอเกอร์ซัง……」

เมลิสซ่าฝืนตัวเธอเองให้ยิ้ม แต่ดวงตาเธอนั้นแดงและดูเหมือนเธอร้องไห้ได้ทุกเมื่อ

「อุ่ หนู- ……อืม นั่นไม่มีอะไรมากน่ะ จริงๆ」

นนน่ารีบใส่สีหน้าดีกว่าเก่าเพื่อให้ดูดีสำหรับผม แต่เธอดูเหมือนหาทางและมีปัญหากับการทำอย่างนั้น

อย่างน้อยมาก เธอก็ทำหน้าไม่ใส่ใจไม่ได้หลังจากพูดบางอย่างแบบนั้นกับเมลสซ่า

แต่ความโมโหเดือดพล่านยังคงคาอยู่ในหัวใจของผม

「เมลิสซ่า ออกไป」

ซีเลียดึงมือของเมลิสซ่าผู้ดูดั่งว่าเธออยากพูดบางอย่าง และออกจากห้องไป

「พูดอะไรกับเมลิสซ่า?」

「พี่กำลังฟังอยู่เหรอ!? หนูไม่ได้อยากสื่ออย่างนั้นจริงๆ มันแค่ออกมาจากความร้อนอกช่วงเวลานั้นแล้ว……」

ผมวางมือบนไหล่นนน่า…… แล้วจากนั้นใช้อีกมือเพื่อตบแก้มเธอ

เสียงเพียะอันคมบาดหูก้องและดวงตาสีฟ้าเปิดกว้างในความตกอกตกใจ

ผมรั้งมือค่อนข้างเยอะเมื่อผมตบเธอด้วยการเปิดมือ ตบโดนเธอเหมือนแปรงขนนกและทำให้แน่ใจว่ามันไม่ทิ้งร่องรอยบนใบหน้าหรือทำฟันเธอหัก ดังนั้นมันไม่ควรเจ็บมากเกินไป

「อา…… อาาา…… อาา…… อาาาา………」

นนน่าปล่อยเสียงฟังแล้วน่าสงสารออกมาแล้วจับบริเวณแก้มที่ผมตบเธอ

ดวงตาของเธอเติมเต็มด้วยน้ำตาพริบตา

「ออุ่……แออ๊……ว๊าาาาาาาาาาา!!」

จากนั้นเธอร้องไห้น้ำตาแตกอย่างควบคุมไม่ได้ – ดังมากเสียจนทั้งคฤหาสน์ได้ยิน – และพุ่งออกนอกห้องเป็นพายุเร็วเท่าที่เธอวิ่งได้

เธอควรระวังเพราะเธอซุ่มซ่ามหรือไม่อย่างนั้น…… เห็นไหม เธอสะดุดล้ม

แม้อย่างนั้น นนน่ายังคงวิ่งและร้องต่อไป

「พี่จะไม่ไล่ตามเธอไปเหรอ?」

ซีเลียและเมลิสซ่ากลับเข้ามาในห้อง

「เมลิสซ่าเธอไม่ได้จะสื่อสิ่งที่เธอพูด เธอแค่อวดดีเกินไปและพูดเหมือนคายนั่นออกมาในความร้อนอกช่วงเวลานั้น อย่าให้มันไปทำร้ายเธอนะ」

ผมกอดเมลิสซ่าใกล้และลูบผมเธออย่างอ่อนโยน

「ได้ หนูไม่เป็นไร มันแค่ตกอกตกใจเล็กน้อย ยังไงมันก็เป็นความจริงอยู่ดี……」

ถ้าอย่างนั้นมันไม่ได้กวนใจเธอั

ผมต้องให้นนน่าขอโทษด้วย

「ไม่ใช่เราควรให้ยามตามหาเธอเหรอ?」

「ไม่มีความจำเป็น คนเดียวเท่านั้นที่นนน่าไปร้องไห้ได้คือตัวพี่และอีกคนหนึ่งเท่านั้น」

ผมเดินอย่างช้าๆโดยไม่ตื่นตกใจไปสู่ห้องคาร์ล่า

ผมเข้าโดยไม่ทำแม้แต่การเคาะและนั้นเอง เธออยู่ที่นั่น

คาร์ล่ากำลังนั่งอยู่บนโซฟาระหว่างนนน่านอนอยู่ข้างบน ฝังหน้าเธอลงในอกของคาร์ล่า

ขึ้นอยู่กับมุมมอง มันจะดูตรงๆเหมือนนนน่ากำลังขี่เธอ

นนน่าไม่แม้แต่จะหันมามองผมเมื่อผมเข้าไปข้างใน

ทำแค่เสียงสะอื้นเป็นครั้งคราว

คาร์ล่ากำลังลูบเส้นผมที่ดูแลอย่างพิถีพิถันพร้อมหน้าตาสับสนบนใบหน้าของเธอ

「เธอพุ่งระเบิดเข้ามาในนี้เหมือนคนบ้าเลย อะไรบนโลกเกิดขึ้นกันเนี่ย?」

「หลายๆอย่างเกิดขึ้น และพี่ดุเธอ」  

หลังจากอธิบายสถานการณ์ให้เธอ นนน่าหยุดสะอื้นและจับคาร์ล่าอย่างแน่น

มันเกือบเหมือนเธอเป็นเด็กซนผู้กำลังรอการลงโทษของเธอ

「ฮ่าา…… ฉันว่าแล้วว่านี่จะเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็ว เจ้าบื้อนี่」   

เธอดีดหน้าผากนนน่าด้วยนิ้ว

ไหล่นนนน่ากระตุกตอบรับ

「ฉันจะใช้โอกาสนี้เพื่อพูดมันถ้าอย่างนั้น เธอรู้ว่าคนรับใช้และคนส่วนใหญ่ในคฤหาสน์นั้นไม่ชอบเธอ ใช่มั้ย?」

「กระซิก…… มันไม่เป็นอย่างนั้นสักนิด…… เธอเธอรักฉัน…… เหมือนผู้ดูแลชื่อแซลลี่……」

「เธอเป็นภรรยาถูกกฎหมาย ดังนั้นเป็นธรรมชาติที่พวกเธอนั้นต่อต้านเธอไม่ได้ นนน่า บวกกับผู้ดูแลนั้นถูกปฏิบิติดีกว่าคนอื่นดังนั้นแน่นอนเธอจะมีกำลังใจดีกว่า เกือบไม่มีใครที่นี่ผู้ชอบเธออยากที่เธอเป็น」

「อุแงงง้……ฮืออออออ!」

อาา เธอพูดบางอย่างโหดร้ายมากและทำนนน่าร้องไห้อีกแล้ว

「มันไม่เป็นไร นี่เพื่อให้ดีกว่าสำหรับตัวเธอเอง…… และเธอน่าจะรู้ตัวเอง มีคนรับใช้คนไหนที่ดูดีใจเมื่อเธอเรียกคนนั้นมั้ย? ใช้หูดีๆของเธอซี่ เธอได้ยินคำพูดเชยชมจากใครสักคนมั้ย? แค่คนเดียวที่จะปกป้องเธอคือ-…… มันฟังดูไร้สาระเมื่อฉันพูดมันตอนนี้ แต่มันมีแค่ฉันและเมลิสซ่า」

「ฮิ้ก…… กระซิก…… ฮือออออ」

คาร์ล่าพูดต่อระหว่างสวมกอดนนน่าผู้กำลังร้องไห้

「ไม่ต้องพูดถึงคนรับใช้นะ…… เธอจำเป็นต้องขอโทษเมลิสซ่าให้ถูกต้อง ตั้งแต่แรกน่ะ เธอถูกช่วยโดยเอเกอร์เหมือนกันทั้งคู่ทุกอย่าง เธอพูดหัวเรื่องพวกนั้นอย่างไม่ระวังไม่ได้」

「ได้…… ฉันจะขอโทษเมลิสซ่า…… แต่ฉันทำอะไรดีล่ะ ฉันพูดบางอย่างย่ำแย่อย่างน่าากลัว……」

「ฉันจะอยู่กับเธอ ใส่หัวใจเข้าไปในมันแล้วพูดว่าขอโทษ」

คาร์ล่าถอนหายใจ ดั่งกำลังพูดว่าเธออ่อนให้นนน่ามากเกินไป

แต่ผมแน่ใจว่าเมลิสซ่าจะยกโทษให้นนน่าถ้าเธอขอโทษอย่างแท้จริง

บางที่ผมจะเตรียมตัวให้เธอถูกตบอย่างน้อยหนึ่งครั้ง

ผมก็มีอีกสิ่งหนึ่งซึ่งผมอยากถาม

「เฮ้นนน่า ทำไมเธอใช้จ่ายอย่างไมจำเป็นและทำตัวเห็นแก่ตัวมาก?」

「อะไรนะ!?」

「ถ้าอย่างนั้นพี่เขาถามตรงๆ…… ยังไงซะ อย่างที่คาดฉันว่า」

ถ้าเธอรู้สึกเหมือนเธอต้องซื้อของแพง ถ้าอย่างนั้นผมไม่ถือการให้เงินเธอไปทำเช่นนั้น

แต่ผมไม่คิดว่านนน่าเพียงแค่ชอบของหรูหรา

เมื่อผมได้ตำแหน่งขุนนาง ไม่นานเธอก็สามารถดูเหมือนและใช้ชีวิตเหมือนขุนนาง

แต่ตอนนี้มันดูเหมือนเธอเพียงแค่หาเรื่องใช้เงิน

ผมไม่เข้าใจท่าทางเห็นแก่ตัวสุดขีดของเธอด้วยเหมือนกัน

เธอไม่ใช่ผู้หญิงผู้จะไม่มีเหตุผลกับคนอื่นในอดีต

ถ้าธรรมชาติเธอออกมาเพราะวิถีชีวิตหรูรา มันอาจอธิบายอะไรๆได้ แม้ว่ามันดูเหมือนเธอกำลังฝืนใจมันมากกว่า

「นั่น-…… อืม……」

「พี่ไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์หนู ถ้าหนูอยากจะอยู่ตามวิถีชีวิตหรูหรา ที่เราพาทางหาเงินสำหรับมันได้ ยังไงก็ตามแต่ถ้าหนูมีวัตถุประสงค์อื่น…… ถ้าอย่างนั้นเราสรุปปัญหาโดยไม่ต้องใช้เงินได้ ถูกมั้ย? ทำหนูไม่อธิบายตัวเองตอนนี้ล่ะ?」

「ออออุ่~」

หลังจากคร่ำครวญสักพัก นนน่าเริ่มพูดอย่างกล้าๆกลัวๆ

「หนูเหงา」

「เหงา?」

นนน่าห่างจากคาร์ล่าและมามุดสู่อ้อมอกผม

「เอเกอร์ซามะออกไปบ่อย…… และวันนี้ แม้ว่าอยู่ในบ้าน พี่ประชุมตลอดเวลานี้และไม่ได้สนใจหนูเลย…… และหนูรู้สึกเหงา!!」

ผมรู้สึกถึงอกเธออัดตัวผมทำให้ผมยากลำยบาก แต่นี่ไม่ใช่บรรยากาศดีที่เจี๊ยวผมจะแข็ง

「ถ้าหนูใช้เงิน…… และรวบรวมของหรูหรา พี่จะจำได้ว่าหนูอยู่ที่นี่ทุกครั้งที่พี่เห็นพวกมัน! ถ้าหนูทำมากไป หนูจะโดนดุด้วย ถ้าหนูทำตัวเห็นแก่ตัว เอเกอร์ซามะจะสังเกตหนู!」

มันคืออย่างนั้น…… เธอยากใหั้ผมสนใจเธอ

ผมมีแผนปฏิบัติกับนนน่าด้วยรักและความหลงใหล แม้ว่านั่นไม่ได้เอาใจผู้หญิงอย่างเธอพอ

ถ้าอย่างนั้นเธออยากให้ผมมีกำลังใจหรือบางอย่าง ช่างน่ารักจริงๆ

「แต่มันเป็นความจริงว่าใช้เงินเยอะมากเกินไปกลายเป็นนิสัย ถูกมั้ย?」

「ม-มั้ง」

ถ้าอย่างนั้นมันจริง

「ช่างเป็นผู้หญิงที่ทำอะไรไม่เป็นจริงๆน้า」

ผมกอดนนน่าแน่นและจูบคอเธอซ้ำๆ

「อย่าทำอะไรไร้ความหมายเช่นนั้นอีกครั้งจากตอนนี้ไป ถ้าหนูเหงา แค่บอกพี่ว่าหนูอยากได้ความสนใจ」

「พี่หมายความว่าอย่างนั้นจริงๆเหรอ? พี่จะใช้เวลากับหนูแม้ว่าเมื่อพี่ยุ่งเหรอ?」

「ใช่ อย่างน้อยพี่กอดหรือจูบได้ระหว่างการประชุม นั่นทำไมไม่ต้องทำตัวเห็นแก่ตัวอีกแล้ว」

นนน่ายกหัวเธอขึ้นจากหน้าอกผมแล้วยิ้ม

นี่ดูเหมาะกับเธอมากว่าเยอะ ความสวยธรรมชาติเธอส่องสว่างจ้ากว่าปรกติและเธอก็สวยมากจนมันทำให้ร่างกายผมสั่นหนาวด้วยสัญชาตญาณ

「ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป หนูจะมาปรึกษากับเอเกอร์ซามะก่อนใช้เงิน」

「ได้โปรดทำอย่างนั้น และก็เธอทำอะไรร้ายๆกับคนรับใช้ไม่ได้ด้วยเหมือนกัน ทำตัวให้ใจดีรอบๆพวกเธอ」

「แน่นอนค่ะ แต่ตอบแทนนั่น พี่ต้องกอดหนูในอ้อมแขนและจูบหนูทั้งเช้าทั้งกลางคืนไม่ว่าเมื่อไหร่ที่พี่อยู่ในคฤหาสน์」

「แน่นอน แม้ว่าพี่รับประกันไม่ได้ว่าพี่จะจบที่นั่น」

เราจูบและกอดกันแบบเต็มด้วยไฟหลงใหล

「ถ้าอย่างนั้นในท้ายที่สุด มันเป็นบททดสอบแสนใจอ่อนให้ ยังไงซะ นนน่าคนหนึ่งผู้ไม่ใช้จ่ายอย่างสูญเปล่าจริงๆแล้วหนูฟังแล้วดูเหมือนบ้า แต่อะไรก็ช่างเถอะ」

นี่ทำให้คาร์ล่าค่อนข้างมีปัญหาด้วย

ผมจะตอบแทนน้ำใจให้เธอในอนาคต

นั่นก็ขั้นแรกสำเร็จแล้วผมว่า แต่ทุกอย่างยังไม่แก้ปัญหา

ผมต้องแก้ไขการถลุงอำนาจอันก่อโดยนนน่าเท่าที่ผ่านมาและทำให้ความรู้สึกไม่ดีที่สะสมมาอยู่ในหมู่คนรับใช้ทั้งหมดให้เจือจาง

ในฐานะสามี การมีคนอื่นเกลียดภรรยาที่รักยิ่งของตัวเองไม่ใช่ความรู้สึกอันดีที่สุดในโลก

ผมโอบแขนรอบเอวนนน่าแล้วอุ้มเธอขึ้นเพื่อที่ผมหิ้วเธอด้านข้างได้

เธอตกใจเร็วๆครู่หนึ่งโดยการกระทำของผม แต่รีบโอบแขนเธอที่คอผมอย่างมีความสุข

「อา…… เราจะทำมันตอนนี้?」

「ใช่ ตอนนี้ มันดีถ้าเร็วเท่าที่เร็วได้ ถูกมั้ย?」

ถ้าผมลงโทษนนน่าต่อหน้าคนรับใช้ ถ้าอย่างนั้นความโกรธพวกเธอน่าจะบางลง

ถ้าผมจะทำมัน ตอนนี้คือเวลาทำ

「นี่จะเป็นครั้งแรกหลังจากคลอด…… ได้โปรดอ่อนโยนนะ」

「หืม พี่น่าจะทำไม่ได้」

เพราะทั้งหมดผมลงโทษเธอระหว่างเธอท้องไม่ได้

「เราจะมุ่งหน้าตรงไปห้องนอนเลยเหรอ?」

「ไม่ สู่ห้องโถงรับแขก」

เรารวบรวมคนรับใช้ทั้งหมดในห้องนอนนนน่าไม่ได้

「น-นั่นจะน่าอาย」

「ทนกับมัน นี่คือบางอย่างที่จำเป็น」

แน่นอนว่าน่าอายที่ต้องถูกลงโทษต่อหน้าคนรับใช้

แต่นั่นคือที่เธอบอกพวกคนรับใช้ได้ว่าเธอเสียใจมากแค่ไหน

「อ๊านน เอเกอร์ซามะพี่ลามก」

ผมสั่งคนรับใช้ให้รวมกัน

ได้เวลาลงโทษ

 

 

ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 23 ปี ฤดูร้อน

สถานะ: มาร์เกรฟอาณาจักรโกลโดเนีย ลอร์ดศักดินาผู้ยิ่งใหญ่ของบริเวณตะวันออก ราชาแห่งภูเขา เพื่อนของดวอร์ฟ 

พลเมือง: 159,000  เมืองหลัก – ราเฟน: 23,000 ลินต์บลูม: 4000

สินทรัพย์: 0 ทอง

ครอบครัว: นนน่า (ภรรยาแก้ตัวใหม่), คาร์ล่า (ภรรยาน้อย), เมล (ภรรยาน้อย), คุ (คนรัก), รุ (คนรัก), เมลิสซ่า (เศร้า), มิเรล (คนรัก), ลีอาห์ (คนรัก), มิตี้ (คู่หมั้น), มาเรีย (คู่หมั้น), แคทเธอรีน (คู่หมั้น), เคซี่ (ผี), ริต้า (หัวหน้าแม่บ้าน), โยกุริ (นักเขียนบทละคร), ปีปี้ (คนรัก), อลิส (ตูด), อัลม่า (ร้องไห้), เซบาสเตียน (พ่อบ้าน), โดโรเธีย (คนรัก, ในเมืองหลวง)

ลูก: ซู, มิว, เอคาเธอรีน่า, อมาต้า, อนาสตาเซีย (ลูกสาว); แอนโตนิโอ, คลอดด์, กิลบาร์ด, ไรเนอร์, บาร์โตโลม (ลูกชาย); โรส (ลูกสาวบุญธรรม)

ลูกน้อง: ซีเลีย (ผู้ช่วย), กิโด้ (หน่วยติดตามคุ้มกัน), ครอล (ยิ้ม), อิริจิน่า (ผู้บัญชาการ), ลูน่า (ผู้บัญชาการ), รูบี้, ไมล่า (เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย), โพลเต้ (ผู้กำกับนักเรียน), อดอล์ฟ (เจ้าหน้าที่กิจการภายใน), ทริสตัน (นักกลยุทธ์?), แคลร์ & ลอรี่ (ทำการเคลื่อนไหวลับ), ชวาร์ซ (ม้า), ลิเลียน (นักแสดงหญิง)

แม่ – มาร์เซลีน;

ลูกสาว – สเตฟานี, บริดเจ็ต, เฟลิซี (จับไว้เลี้ยงดู)

ประเทศอื่น: เซเลสติน่า (ราชินีของมอลต์), โมนิก้า (นางกำนัล), คลอเดีย (ท่านหญิง), คลาร่า

คู่นอน: 206, ลูกผู้เกิดแล้ว: 46

 

แปลโดย: wayuwayu

tipme : tipme.in.th/wayuwayutl

โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: ​http://linktr.ee/wayuwayu

ถนนสู่อาณาจักร

ถนนสู่อาณาจักร

Status: Ongoing
นี่เป็นเรื่องราวของนักสู้ทาสอายุน้อย ในสังเวียนใต้ดิน เขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเขา หรือเขาไปอยู่ที่ที่เขาอยู่ได้ยังไง, มีเพียงว่าชื่อเขาคือ เอเกอร์, และเขาแข็งแกร่ง วันหนึ่งเขาฆ่านายและหนีไปจากสังเวียน, เข้าร่วมกลุ่มของทหารรับจ้างในฐานะสมาชิกใหม่ ระหว่างภารกิจของเขา เขาได้พบกับแวมไพร์, ลูซี่, ผู้ที่สังหารหมู่กลุ่มของเขา ด้วยพลังเหนือมนุษย์ หลังจากที่ได้เรียนรู้ว่า เอเกอร์ รู้จักแต่การฆ่าเท่านั้น, ลูซี่ ให้เขาอยู่ที่บ้านของเธอ, สอนเขา และดูแลเขา สองปีผ่านไป, และในวันจากลาของเอเกอร์, พวกเขาสองคนแลกเปลี่ยนสัญญา ถ้าเอเกอร์เป็นราชา และปกครองแผ่นดินของป่าเอิร์ก, เขาสามารถมาเพื่อพาเธอไปในฐานะผู้หญิงของเขาได้ ทำสิ่งนั่นให้เป็นเป้าหมายในชีวิต, เอเกอร์ออกเดินทางเพื่อเป็นฮี่โร่, ราชา, และสร้างอาณาจักรของเขาเอง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน