ถนนสู่อาณาจักร – ตอนที่ 197 ก่อนการเก็บเกี่ยว

ถนนสู่อาณาจักร

197 ก่อนการเก็บเกี่ยว

 

 

–มุมมองเอเกอร์–

ในห้องทำงาน มีจานอาหารซึ่งไม่เหมาะกับบรรยากาศวางอยู่ข้างบน ส่วนหนึ่งถูกหยิบเข้าสู่ปากของสาว

รสชาติเด่นเฉพาะของพาสต้าแพร่กระจายทั่วทั้งปากสาว มอบรสชาติต่างจากพาสต้าปรกติเล็กน้อย

「หืม อื้ม…… อันนี้น้ำมันนั้นต่างกัน มันไม่ได้ค้างอยู่ในปากหรือไม่อย่างนั้นหนูก็ว่ารสมันไม่จัด」

ซีเลียสามารถบอกจุดต่างแบบเฉพาะเจาะจงทันที

วิธีที่เธอยัดเต็มแก้มเหมือนแฮมสเตอร์นั้นน่ารัก แต่…… เธอสามารถกินคำเดียวมากเท่านั้นในการกัดคำเดียวหรือนี่?

หลังจากนั้น โพลเต้และเกรเทลกลับมาจากการตรวจสอบแล้วก็ชิมพาสต้าด้วย

พวกเธอกัดคำเล็กๆแทน

「นี่คือ-…… โอ้ หนูชอบอันนี้」

「อ่ะร้า มันสดชื่นและเหมาะสำหรับลิ้นผู้หญิง」

โดยรวมแล้วมันได้รับคำติชมที่ดี แต่เกรเทลกำลังใส่หูสุนัขด้วยเหตุผลบางอย่าง

อย่าบอกผมนะว่าเธอไปทำการตรวจสอบโดยดูเป็นแบบนั้น

「เอาล่ะตอนนี้อดอล์ฟ อะไรคือความหมายของการเอาอาหารมาระหว่างการประชุมกิจกรรมภายใน? ซีเลียจะอ้วนอีกครั้ง」

「หนูไม่อ้วนอีกแล้ว! นอกจากนี้ ปรกติแล้วหนูกินสี่มื้อทุกวะ-…… ช่างมันเถอะ」

ผมพักซีเลียไว้บนตักของผม

เกรเทลเริ่มกระดิกเท้าอย่างไม่มีความสุข

อดอล์ฟกระแอมคอก่อนเริ่มพูด

「เช้าวันนี้ กลุ่มค้าขายจากนครรัฐมาถึง น้ำมันนี้เป็นหนึ่งในของที่พวกเขาพามาด้วยกับเขา ส่วนตัวแล้วผมคิดว่ามันเป็นของใช้ประจำบ้านอันยอดเยี่ยมและผมแค่อยากให้ทุกคนลองมันด้วยเหมือนกัน」

「โฮฮฮ่ ถ้าอย่างนั้นเราเริ่มค้าขายกับเราแล้ว นายทำงานค่อนข้างไวเลย」

ความสัมพันธ์ถูกสร้างผ่านการเยี่ยมเยียน แต่ผมไม่ได้คิดว่าเราต้องพูดเกี่ยวกับอะไรที่หนัก โดยเฉพาะเกี่ยวกับการค้าขาย อดอล์ฟต้องทำบางอย่างด้วยตัวเอง

「เพราะทั้งหมดคลังสมบัติเราเกลี้ยง เราต้องรุกการคุยที่จะสร้างเงินให้เรา」

เขาไม่ต้องกังวลมากขนาดนั้นหรอก

ถ้าเราหมดเงิน เราแค่ต้องยืมจากบางคน

「ถ้าอย่างนั้นอะไรที่เขานำมาอีก?」

อดอล์ฟนำรายการสินค้าแลกเปลี่ยนออกมา

「ของหลักๆประกอบไปด้วยน้ำมันและผลไม้หลากหลาย มากกว่านั้น ทั้งหมดนั้นเดินทางผ่านชาติประชาธิปไตยลิบาติส และมีของเครื่องประดับกับของหรูหราหลากหลายปนอยู่ข้างในด้วยเหมือนกัน」

「เข้าใจแล้ว…… เดี๋ยวก่อนนะ ทำไมพวกเขาต้องผ่านลิบาติส? นครรัฐติดกับโกลโดเนีย ไม่ใช่มันจะเร็วกว่าสำหรับพวกเขาที่จะเดินทางตรงเหรอ?」

จากที่พวกเขาว่า พวกเขาไม่ได้ตรงมาสู่ราเฟน แต่อ้อมไปทางใต้ผ่านลิบาติสและชาติทางใต้ก่อนเดินทางขึ้น

โดยบังเอิญ มอลต์ไม่ได้มีค่าในการแลกเปลี่ยนมากก่อนข้าวสาลีเก็บเกี่ยวได้และถูกมองข้าม

「มาดูกัน พวกเขาใช้ทางไกลถ้าคุณดูจากระยะ แต่มันเป็นเส้นทางสั้นที่สุดถ้าท่านพิจารณาเวลา」

「อาา เข้าใจแล้ว」

เพราะโพลเต้สอนวิชานี้มากก่อน เธอดูเหมือนเข้าใจสถานการณ์อย่างดี

ซีเลียก็พอรู้อะไรๆทั่วไปด้วย เกรเทลแค่แกล้งทำเป็นเข้าใจและให้ผมถูก้นเธอ

「อ๊านน……」 「คุ!」

ด้วยเหตุผลบางอย่าง ซีเลียจ้องผมเมื่อผมยิ้มให้เกรเทลหลังจากแหย่เธอนิดหน่อย

「โกลโดเนียและนครรัฐนั้นข้างกันแต่ดินแดนไม่ได้เชื่อมต่อโดยตรงกับนครรัฐ อย่างแรกพวกเขาต้องข้ามพรมแดนโกลโดเนียมาก่อน, ให้ของถูกตรวจสอบและจ่ายภาษี, จากนั้นหลังจากนั้น พวกเขาจะต้องผ่านดินแทนลอร์ดศักดินาหลายคน หยุดและจ่ายภาษีทุกครั้งที่พวกเขาทำ ถ้าพวกเขาอยากดำเนินการราบรื่นกว่า พวกเขาน่าจะจำเป็นต้องจ่ายสินบนเพิ่มเติม ถึงจุดนั้น ลิบาติสจะต้องการแค่การจ่ายครั้งเดียวสำหรับการเข้าไปถึงที่นั่นภายในพรมแดนชาติของพวกเขา และการเคลื่อนไหวใดๆภายในชาติตามหลังนั่นจะราบรื่น ไม่มีการเก็บเงินเพิ่มเติมเกิดขึ้น」

เข้าใจแล้ว ภาษีและการกั้นถนน……… ปัญหาซึ่งมอบอาการปวดหัวให้พ่อค้าแม่ค้าทุกคน

ผมเคยได้ยินว่าลอร์ดศักดินาจิตใจไม่ดีบางคนจะจงใจทำให้คนหนึ่งรอหลายวันยกเว้นคนนั้นติดสินบนพวกเขา

ถ้านี่เกิดขึ้นในดินแดนของผม ผมจะเปลี่ยนมัน อย่างไรก็ตามผมไม่มีอะไรพูดได้กับอะไรที่เกิดขึ้นนอกดินแดนของผมม

「มากกว่านั้น ลิบาติสมีชื่อเสียงว่าเป็นประเทศปลอดภัย」

「ฉันคิดว่าพวกเขาแค่เป็นประเทศที่น่าติดตาม แต่มันดูเหมือนพวกเขาดียิงกว่านั้น ฉันเข้าใจแล้วตอนนี้ ฉันไม่สนว่าพวกเขาใช้เส้นทางไหน ฉันจะอนุญาติพ่อค้าแม่ค้า ดังนั้นบอกพวกเขาว่าพวกเขาทำอย่างที่พวกเขาต้องการได้ตามสบาย」

อดอล์ฟพยักหน้ารับรู้

「เพิ่มเติม มีข้อมูลที่น่าสนใจหนึ่งเพิ่งเข้ามาจากคาราวานพ่อค้าแม่ค้า ผมเชื่อว่าคุณรู้ว่านครรัฐตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำเทียรี่เหนือและแม่น้ำเทียรี่-…..」

ผมเพิ่งรู้ตอนนี้ ดังนั้นไม่มีปัญหา

「มีเมืองตั้งอยู่ริมน้ำส่วนของฝั่งแม่น้ำเทียรี่ ใต้เมืองนั้นเป็นบริเวณที่มีพื้นที่ชุ่มน้ำนั่นหมายถึงมีพื้นที่เป็นบึงที่ทำให้มันเดินยาก บวกกับปลิงและแมลงมีพิษ ไม่ต้องพูดถึงว่าที่นั่นจะมีมอนสเตอร์เหนียวๆซ่อนอยู่ภายในบึงที่นั่น ป่าหนาแน่นจะไม่ปล่อยให้ตะวันส่องผ่านใบไม้ที่ปกคลุมหนาแน่น

เมื่อพิจารณาความร้อนของทางใต้และความลึกที่ดูเหมือนไม่สิ้นสุด มันควรค่อนข้างเป็นที่ซึ่งไม่สบาย」

「การคิดแบบนั้นไม่ผิด ปัจจุบันนี้ ไม่มีอำนาจไหนพยายามปกครองบริเวณนั้น เพราะทั้งหมด มันเป็นที่อันตรายที่คนหนึ่งซึ่งก้าวเข้าไปในขอบเขตหายไปบ่อย」

「เข้าใจแล้ว…… ถ้าอย่างนั้น อะไรน่าสนใจมากเกี่ยวกับที่นี่ล่ะ?」

ถ้ามันใกล้ เราจะต้องทำการเตรียมการ แต่ที่นี่ค่อนข้างไกล

「แค่เป็นที่อันตรายพอที่จะไม่ให้ผู้คนเข้ามาหา แต่ผมได้ยินว่าสมุนไพรที่ใช้ทำยาแพงโตที่นั่น」

อดอล์ฟเอาใบไม้ไม่กี่ใบที่เก็บไว้ในขวดให้ผมดู

「ใบไม้หนึ่งใบของสมุนไพรนี้ทำยาได้หนึ่งขวด มันเป็นยารักษาซึ่งมีข่าวลือว่าแม้แต่นำคนตายกลับมามีชีวิตได้」

แน่นอน เขาเพิ่มหลังจากนั้น “แต่คุณเชื่อทุกอย่างที่พ่อค้าแม่ค้าพูดไม่ได้” ทุกคนจ้องอย่างสนใจ

「พูดถึงแล้ว ใบหนึ่งมี่ค่า 20 ทอง」

ซีเลียและโพลเต้พรืดออกมาในความตกใจ

「อดอล์ฟ! อะไรที่นายเพิ่งซื้อ!?」

「นั่นถูกแล้ว! นั่นครึ่งของเงินประจำฉันเลยนะ…… ไม่นั่นสี่ใบดังนั้นมีค่าสองปี อับบั่บ」

ราคายานั้นสูงไปถึงท้องฟ้าได้ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพ แต่มันไม่เคยได้ยินว่ายาใช้ครั้งเดียวราคา 20 ทอง

มีแค่คนรวยมากหรือสิ้นหวังมากเท่านั้นจะซื้อบางอย่างแบบนั้น

「ผมซื้อนี้มาเพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเขา แต่มันค่อนข้างง่ายสำหรับลอร์ดศักดินาซามะของเราที่นี่จะได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นผมไม่คิดว่ามันจะเสียของ」

ช่างรู้ดี ผมต้องยืนยันมันกับหมอ

ถ้ามันเป็นยาปลอม ผมจะลงโทษเขาให้เขาไปเดทกับคุณหญิงกอนซาเลส

「ถ้าเราเอาพวกเขาไว้เป็นคู่ค้า เราให้เขาเติมของพร้อมใช้เราด้วยยาเหมือนอย่างนี้จำนวนเยอะๆได้」

「เข้าใจแล้ว และฉันว่าเราจะแลกเปลี่ยนเหล็ก?」

「ผลิตภัณฑ์เหล็กที่เสร็จแล้วเป็นหลักๆ มีเมืองในเมืองทางตะวันออกที่มีเหมืองใกล้กับเทือกเขา แม้ว่าพวกเขาไม่มีถ่านเพื่อละลายเหล็ก…… พูดอีกอย่าง พวกเขาไม่มีไม้เพียงพอ ป่าในบริเวณของพวกเขาค่อนข้างเล็ก ดังนั้นผมเชื่อว่าผลิตภัณฑ์เหล็กและเหล็กกล้าสำคัญกับพวกเขาอย่างมาก」

ทางวิธีการนครรัฐแล้วไม่ได้ด้อยกว่าเราในเรื่องเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามบริเวณแคบของดินแดนของเขาสร้างขีดจำกัดกับอะไรที่พวกเขาทำได้ เพื่อจะรักษาพลเมืองของเมืองอัดแน่นเกินไปด้วยผู้คน ดินแดนเหลือถูกเปลี่ยนเป็นที่นา ดังนั้นดินแดนพวกเขาพื้นฐานแล้วไม่มีป่าอุดมสมบูรณ์เหลืออยู่

「ตราบใดที่ยาแพงไม่ได้ถูกซื้อทั้งหมด การค้าขายกับพวกเขาควรไปทิศทางได้กำไรคืนมา ผมมีเจตนาที่จะดูกรณีนี้ลึกกว่าเป็นการส่วนตัว」

「เราจะได้รับเงินและพวกเขาจะได้รับเหล็ก นี่เป็นความสัมพันธ์ที่ดี แค่ให้แน่ใจว่าไม่ทำอะไรมากเกินไป」

ค้าขาย…… พ่อค้าแม่ค้า…… มันรู้สึกเหมือนผมลืมอะไรสักอย่าง โอ้ช่าง

「ยังมีข้อมูลหนึ่งที่สำคัญ มันเกี่ยวกับการเก็บเกี่ยวข้าวสาลี……」

「ไม่ใช่เราได้การเก็บเกี่ยวอุดมสมบูรณ์เหรอ?」

「โพลเต้และเกรเทลพยักหน้าและจากนั้นอธิบายของพวกเธอต่อ」

「ดินแดนมาร์เกรฟได้รับการเก็บเกี่ยวอุดมสมบูรณ์ อย่างไรก็ตามสำหรับโกลโดเนียและดินแดนคนอื่นนั้นไม่มาก…… พวกเขาค่อนข้างได้การเก็บเกี่ยวไม่ดีถ้าให้พูดกันตรงๆ」

มีปีที่การเก็บเกี่ยวข้าวสาลีอุดมสมบูรณ์ แต่ก็มีปีที่การเก็บเกี่ยวแย่ด้วยเหมือนกัน

สำหรับปีที่มีการระบาดของสงคราม, เหมือนปีนี้, การได้การเก็บเกี่ยวพืชผลน้อยนั้นเพิ่มผลกระทบเป็นสองเท่ากับทุกคนในดินแดน

「จากอะไรที่คาราวานพ่อค้าแม่ค้าว่า นครรัฐและลิบาติสมีการเก็บเกี่ยวที่คุณภาพดี…… แต่สิ่งที่ผมกังวลนั้นคือ-」

「อะไร?」

「ฤดูร้อนปีนี้ดูเหมือนชื้นมากกว่าปรกติ ดั้งเดิมแล้ว เมื่อเราได้สภาพอากาศแบบนี้…… ไม่นานก็จะมีฝนตกระหว่างเวลาเก็บเกี่ยว」

การเก็บข้าวสาลีดีกว่าเมื่อสภาพอากาศแห้งกว่า ดังนั้นการได้ฝนเยอะระหว่างการเก็บเกี่ยวนั่นมีผลกระทบหนัก

「จนถึงตอนนี้ เราสามารถซื้อเมล็ดพืชจากสหพันธรัฐแม้ว่าเรามีการเก็บเกี่ยวที่แย่ แต่ปีนี้……」

มันก็จะขึ้นอยู่กับสภาพของสงครามด้วย แต่มันยากที่จะเชื่อว่าพวกเขาจะส่งออกเสบียงอาหารเมื่อพวกเขาอยู่ระหว่างสมคราม

「มันไม่แน่นอนว่าเราจะโดนฝนตกหนักอีกมั้ย เราคาดถึงอากาศแห้งและท้องฟ้าปลอดโปร่งได้สำหรับการเก็บเกี่ยวอันอุดมสมบูรณ์ของเรา」

ซีเลียพยายามคิดแง่บวก และผมได้ยินอิริจิน่าตะโกน “ฉันแน่ใจทุกอย่างจะไม่เป็นไร!” จากระยะไกล

เธอตะโกนเพราะเธอฝึกหรือบางอย่างหรือ……?

「……ข้าวสาลีที่เก็บเกี่ยวระหว่างฤดูใบไม้ร่วงควรพร้อมเก็บเกี่ยวได้อีกครั้งแล้วประมาณตอนนี้ มารีบเกี่ยวพวกมันเถอะ」

「เห็นด้วยครับ เราไม่ควรเสียพืชผลอันสุกงอมอย่างไม่จำเป็น มาตั้งความสำคัญไว้กับการเก็บเกี่ยวมัน」

เมื่อรู้ถึงชุดเหตุการที่ไม่สงบใจ อดอล์ฟและผมทำการตัดสินใจทันที นี่คือสิ่งเดียวเท่านั้นที่เราทำได้แล้วเราทำต่อต้านสภาพอากาศตรงๆไม่ได้ด้วย

「มอลต์เป็นอะไรมั้ย?」

อดอล์ฟพูดหลังจากมองเอกสารในมือของเขา

「ไม่มีปัญหาในมอลต์สำหรับตอนนี้ ผมทำการคำนวณคร่าวๆและจำนวนของผลิตที่พวกเขามีภายในชาตินั้นมากกว่าที่พวกเขาใช้ พวกเขาไม่ควรขาดเสบียงแม้ว่าพวกเขามีการเก็บเกี่ยวที่ไม่ดี ผมก็เคยดูประวัติของพวกเขาด้วย แต่ไม่มีการบันทึกไหนบอกว่ามอลต์ได้รับประสบการณ์ขาดแคลน」

ถ้าอย่างนั้นก็ดี

อย่างที่คาดกับประเทศที่เก่งกับการทำนาเท่านั้น อย่างน้อยพวกเขาก็มีอะไรกิน

「นี่จะเป็นการเก็บเกี่ยวแรกของเราตั้งแต่พวกเขาทำสัญญากับเรา และมันดูเหมือนราชินีเซเลสติน่าจะมาที่นี่ด้วย」   

ถ้าอย่างนั้นผมเห็นรอยยิ้มสดใสและส่องสว่างที่เป็นประกายแสงเหมือนพระอาทิตย์ได้อีกครั้ง

ผมจะให้แน่ใจว่าเอาใจเธอเยอะๆ

หลังจากเราสนทนาเสร็จผมตีตราการอนุญาตอะไรสักอย่างและอะไรๆนั่นที่ว่ายอมรับที่อดอล์ฟยื่นให้ผม

คนผู้นำกระดาษมาและโพลเต้ยังมีอะไรต้องทำดังนั้นพวกเธอรีบออกไปจากห้อง น่าจะไปห้องน้ำอย่างแน่นอนผมบอกได้

「ฟฟฟู่…… พี่เหนื่อย」  

ผมลุกขึ้นจากโต๊ะของห้องทำงานและทิ้งตัวเองลงบนโซฟาและเอนหลัง

การทำงานของลอร์ดศักดินาจากเช้าจนถึงตอนนี้แย่กับร่างกาย

อะไรอย่างแรกที่ผมจะทำหลังจากตื่นขึ้นคือโอบกอดผู้หญิง จากนั้นกินบางอย่างดีๆและจากนั้นดื่มเหล้า

ถ้าอย่างนั้นผมเดาว่าผมทำงานอีกนิดได้ก่อนโอบกอดผู้หญิงมากกว่านี้ได้

「ฮ-โฮ่ง」   

โอ้ เกรเทลยังอยู่ที่นี่ผมนึกว่าเธอไปแล้วกับโพลแต่แน่ๆ

「คู้นนนน~」   

เกรเทลคลานบนพื้นมาหาผมสี่ขา

จากนั้นเธอพลิกกระโปรงขึ้นเพื่อเปิดเผยกางเองออกแบบพิเศษพร้อมหางติดอยู่ใต้มัน ซังเห็นได้ชัดว่าเธอใส่ตลอดเวลา

「ออุ…… มันเป็นซักพักแล้วโฮ่ง หนูเหงาโฮ่ง」   

ผมฝากเธอไว้กับอดอล์ฟ ดังนั้นมันเป็นสักพักแล้วตั้งแต่ผมสนใจเธอ

「ได้เลย มาทำอะไรที่เธออยากทำ」   

「ว-วววู้ โฮ่ง!」   

เกรเทลวิ่งไปทั่วด้วยสี่ขาแล้วจากนั้นกระโดดใส่ผม ประกบปากเธอกับปากของผม

เมื่อผมลูบหัวเธอระหว่างกำลังใส่หูสุนัข ปากเธอตกอย่างรวดเร็วว

เธองอตัวลงไกลถึงหว่างขาผมและเกรเทลวางมือเธอไว้หน้ากางเกงผมเพื่อถอดมันออก

「เธอเป็นลูกสุนัขวันนี้ และสุนัขไม่ใช่มือพวกมัน」   

「ใช่ โฮ่ง!」   

เกรเทลเอามือเธอกลับไปบนพื้นอย่างเชื่อฟังและพยายามใช้ปากเธอเพื่อแก้เชือกกางเกงผม แม้ว่ามันดูเหมือนเธอดิ้นรนกับมัน

ลมหายใจร้อนเร่าและน้ำลายทำให้กางเกงผมเปียกและความรู้สึกชื้นส่งผ่านมาสู่ไม้เนื้อที่โด่ขึ้นอย่างช้าๆ

「อ่ะ…… โฮ่ง!」   

เมื่อในที่สุดเธอก็ทำกางเกงหลวม สุนัขเกรเทลกัดกางเกงผมและดึงมันออกดั่งเธอรอไปนานกว่านี้ไม่ได้แล้ว

「คิ่ย้าาา! มันใหญ่แล้ว โฮ่ง」   

เธอน่าจะคาดว่าเจี๊ยวผมจะขนาดหนึ่งขณะเธอรู้สึกมันผ่านกางเกงของผม และความร้อนจากลมหายใจออกของเธอก่อให้เจี๊ยวผมเกิดมีอารมณ์และชี้ตรงขึ้นหลังจากมันฝ่ากางเกงผมเป็นอิสระ

สาวหูสุนัขขยับมือสู่ตัวแท่งด้วยสัญชาตญาณ แต่เธอนึกออกว่าผมบอกเธอว่าอย่างใช้พวกมัน ทำให้เธอลดมันลงอีกครั้งและจากนั้นนำหน้าเข้ามาใกล้

การกระตุ้นจากการดีดลิ้นของเธอทำให้ต้องการมากไปกว่านั้น

กระนั้น มันก็เป็นความเสียวจะถึงไม่ถึงแปลกที่มีความสุขได้

「เลียไข่พี่ด้วย…… อาา นั่นดี แบบนั้นทุกอย่างเลย」   

จนกว่าผมซั่มเกรเทลไป เธอคือคุณนายขุนนางชั้นสูงผู้ไม่แม้แต่จะรู้เลยว่าเจี๊ยวผู้ชายดูเป็นอย่างไร

ตอนนี้ เธอดูเหมือนสุนัขฝึกมาผู้คลานอยู่บนพื้นและดูดเอ็นผมอย่างเมามันพร้อมสีหน้าเขินอาย

ผมไม่มีความสุขกับการทำให้สาวๆอับอายแบบนี้ แต่ความรู้สึกผิดศีลธรรมทำให้ผมแข็งกว่าปรกติ

「มันแข็งมาก…… เกือบเหมือนชิ้นเหล็กเลยอ่ะ…… โฮ่ง」   

「พี่ไม่ถือถ้าหนูกัดมัน พี่รับมือกับฟันหนูได้」   

บรินฮิลด์มาเพื่อดื่มเลือดของผมสัปดาห์ละครั้งฝังเขี้ยวเธอสู่เจี๊ยวของผม

「โฮ่ง…… อั้มมุ่!」

เธอเปิดปากของเธอและขบเจี๊ยวผมเล่นๆด้านข้างของลำแท่ง มอบการกระตุ้นจำนวนพอเหมาะพอดีเพื่อให้ผมเงี่ยนมากกว่านี้

เมื่อผมวางมือผมบนหัวสาว เธอปิดตาเธอและเกร็งตัวดั่งคาดถึงการกระทำต่อไปของผม

เธอต้องรู้สึกว่าผมเกือบถึงขีดจำกัดจากที่เอ็นกระตุก และคาดว่าผมจะเหวี่ยงสะโพกผมระหว่างกดหัวของเธอลง

ก่อนผมทำเช่นนั้นอย่างไรก็ตาม บางคนขัดจังหวะพวกเรา

「เอเกอร์ซามะ มันเวลาบ่ายแล้ว ดังนั้นท่านควรหาอะไรกิน…… อะไรที่ท่านกำลังทำอยู่!?」   

ซีเลียกลับมาหลังจากไปห้องน้ำ

ทันทีเมื่อเธอเห็นเกรเทลคุกเข่าระหว่างขาของผม เธอเข้าใจสถานการณ์ได้ทันที

「ปุ่ฮ่า…… ได้โปรดอย่าเข้ามาขวาง ฉันพยายามสร้างเสียวให้นายท่านฉันที่นี่! ……โฮ่ง」   

เธอไม่ต้องฝืนพื่อเติมนั่นเข้าเมื่อจบประโยคหรอก

เมื่อเห็นว่าหน้าผมเต็มไปด้วยความเสียว ซีเลียไม่ได้ดันเกรเทลออกไปข้างๆ แต่นั่งลงข้างเธอแทน

「ถ้าอย่างนั้นฉันจะทำให้ท่านเขารู้สึกดีด้วย! เพราะทั้งหมดลิ้นของมือใหม่ไม่พอที่จะทำให้เอเกอร์พอใจหรอกย่ะ」   

「เธอพูดว่าอะไรนะ!? เธอพยายามหาข้อผิดพลาดในวิชาที่สอนฉันโดยนายท่านเองเหรอไง!?」   

「ฮึ่ม เอเกอร์ซามะสอนฉันตั้งแต่ฉันยังเด็กๆ!」   

เกรเทลตอบสนองกับคำว่า ‘เด็ก’ และมองผม

แน่นอนนั่นจะนำไปสู่ความเข้าใจผิด ผมโอบกอดซีเลียหลังจากเธอโตขึ้น…… ไม่ ผมเดาว่าผมแค่ปล่อยให้เธอเล่นกับเจี๊ยวผมเมื่อเธอยังค่อนข้างเด็ก

แต่ใครสนเกี่ยวกับนั่นจริงๆเล่า

เพื่อเทียบกับเกรเทล ซีเลียถอดกางเกงขาสั้นและเปิดเผยตูดขาวๆเด้งๆ

จากนั้นเธอนั่งระหว่างขาผมและสองสาวสู้กันแย่งเลียเจี๊ยวผมกัน

「อ๊ะ เธอใช้ฟันแบบนั้นได้ยังไงกัน」   

「อ่ะร้า ฉันได้รับการอนุญาตจากนายท่านให้ทำอย่างนั้น」   

「คุ …… ถ้าอย่างนั้นฉันจะทำมันด้วย」   

การกัดเล่นของพวกเธอจากสองฝ่ายดึงครวญออกมาจากริมฝีปากของผม

ขณะผมวางมืบนหัวพวกเธอเพื่อเตรียมการยิงน้ำเชื้อของผม มีการขัดจังหวะอีกที ประตูถูกเปิดอ้าไว้

「ขออภัย ถ้าพี่เสร็จกับการประชุมแล้วบางทีพี่อยากจะกินกับหนูมั้ย」   

「ถ้าพี่ไม่ถือหนูอยากให้พี่ดูบทใหม่หนู หรือไม่มั้ง」   

คนที่รากฏในห้องคือแคทเธอรีนและโยกุริ ผู้หลังๆอยู่ใกล้กันค่อนข้างบ่อย

ผมยินดีกินกับพวกเธอ

แต่พวกเธอมาเวลาที่ไม่ดี

สองคนในระหว่างขาของผมควรรับรู้ว่าพวกเธอถูกเห็นโดยอีกสองสาวได้ แต่สาวผู้กำลังแข่งขันไม่ได้ให้ความสนใจและไม่หยุดดูด ดูดติดน้ำอย่างดังต่อไป

「……อยู่ระหว่างมีความสุขอยู่เหรอ?」   

「มันสนุกที่มีสองสาวเด็กๆดูดพี่แบบนั้นเหรอ?」   

สองสาวอื่นดูเหมือนโกรธนิดหน่อยขณะพวกเธอเข้าห้อง แต่ม้วนปลายชุดและถอดกางเกงในอย่างตื่นเต้น

「ในฐานะผู้หญิงผู้หลงเสน่ห์ชายคนเดียว กัน ฉันแพ้ไม่ได้」   

「ใช่ ให้เรารับมือกับการพุ่งฉีดสุดท้าย」   

ซีเลียและโยกุริไต่บนทั้งสองฝั่งของต้นขาและยืดลิ้นสู้เจี๊ยวของผม

「ว้า อย่าเอามันไปสิ!」   

「แคทเธอรีนซัง ใช่มั้ย! ท่าทางการเลียที่ลามกนั่นอะไรกับ……」   

หัวผมงอไปด้านหลังขณะสี่สาวเน้นการโจมตีบนไม้เนื้อของผม

ผมได้ความรู้สึกนี้เท่าไหร่ก็ไม่พอ ไม่ต้องพูดถึงว่าพวกเธอทั้งหมดคุ้นเคยกับเจี๊ยวของผมและเน้นการกระตุ้นลงว่าจุดอ่อนผมอยู่ตรงไหนได้อย่างแม่นยำ

「หัวหน้า มันเป็นวันที่ดี ไปเดินทางไกลกันเถอะ」   

ผู้บุกรุกอีกคนเข้ามาในฉาก ครั้งนี้คือปีปี้ผู้มาข้างในจากหน้าต่าง

อย่าไต่กำแพงนอกบ้านสิ หนูจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นโจรหรือบางอย่าง

「พี่ยุ่งนิดหน่อยตอนนี้…… โอ้ นี่ยอดเยี่ยม!」   

「พี่มีความสุขกับผู้หญิงเหรอ? ถ้าอย่างนั้น ปีปี้อยากเข้าวงด้วย!」   

ปีปี้วิ่งอย่างมีความสุขและกระโดดเข้ากลุ่มสาวๆ

แต่ไม่มีที่ว่างอีกแล้ว

ผู้หญิงคนอื่นไม่อยากยอมพื้นที่ไปด้วยเหมือนกันและนั่งมั่นอยู่ตำแหน่งของพวกเธอเอง

「มันช่วยไม่ได้แต่ เอาหัวพี่ไประหว่างขาหนู」   

ปีปี้ห่อต้นขารอบหัวผมและห้อยตัวเองลงเพื่อเข้าหาเจี๊ยวผมจากหน้าอก

「อ่ะฮ่าฮ่า น่าสนใจจัง」   

ช่องคลอดปีปี้นั้นตกมาอยู่หน้าผมโดยบังเอิญดังนั้นเองผมเลียเธอระหว่างมีความสุขกับวิชาลิ้นที่ไม่เหมือนใครจากสาวๆห้าคน

「ฮาร์ดเลตต์ซามะ ถ้าการประชุมเสร็จแล้วถ้าอย่างนั้นหนูจะอยากทำความสะอาดห้อง…… อ่ะร้า ซาลาเปาผู้หญิง」   

สาวๆดูเหมือนจะรวมกันจากทุกที่วันนี้

「ขอโทษแต่ที่นั่งเต็มแล้ว รอเดี๋ยวสักนิดนึง」   

「โอ้ ไม่ หนูจะไม่เป็นไร」   

ริต้าเข้าหาผมระหว่างถอดชุดแม่บ้าน

「ถ้าพี่ยืนได้ ถ้าอย่างนั้นหนูบริการพี่ยิ่งมากกว่าได้」

ผมลุกขึ้นจากโซฟาหลังจากถูกบอก นำสาวๆสี่คนรอบหว่างขาของผมมากับผม

ปีปี้ถูกยกขึ้นอย่างสมบูรณ์เพราะเธอเบาและอุ้มง่าย

「ถ้าอย่างนั้นถ้าจะขอรบกวน……」   

ริต้าอ้อมมาหลังผม แยกขาผมออกเล็กน้อย…… และวางปากเธอกับรูทวารของผม

「ขอบคุณที่ปล่อยให้หนูทำนี่ หนึ่บ! นื้ออ! หนูจะใช้ลิ้นของหนู ดังนั้นได้โปรดผ่อนคลาย」   

「อุ่โอออ้!」   

「คิ่ย้าา! มันบวมขึ้นอ้ะ!」 「ล-เลียรูตูด…… และแม้แต่สอดใส่ลิ้นเธอเข้าไปข้างใน ช่างเป็นแม่บ้านบ้ากาม」

เกรเทล ผู้ชินกับเซ็กส์และการโม๊กเอ็น ก็ดูเหมือนตกใจเมื่อเธอเห็นริต้าแหย่ลิ้นเธอเข้ามาในตูดผม

เธอลืมเห่าเหมือนสุนัขหมดเลย

「มันเป็นยังไง รู้สึกดีมั้ย」   

ริต้าถูหน้าอกกับผมจากข้างหลังขณะเธอแหย่ตูดผมต่อไ

โยกุริและแคทเธอรีนก็เลียนแบบเธอและถูหน้าอกพวกเธอเองกับผมทั้งสองฝั่งตรงข้ามกัน

ซีเลียและเกรเทลดูดและเลียให้เข้มข้นขึ้นระหว่างกัดลำแท่งผมเบาๆจากทั่งสองฝั่ง

ปีปี้นำนิ้วก้อยแหย่ในรูปลาย

เจี๊ยวผมที่เป็นป้อมปราการไม่ทนทานพอเพื่อทนการเน้นโจมตีของผู้หญิงห้าคน

「ทนไม่ไหวแล้ว……  จะแตกแล้ว…… อุโออออออออ้!!」   

แค่เมื่อผมกำลังจะน้ำแตก – และลืมน้ำจำนวนไร้สาระที่มันเกิดขึ้นไปแล้วประตูเปิดขึ้นอีกครั้ง

「เฮ้เอเกอร์ มันเป็นสักพักแล้วดังนั้นอยากกินข้าวเที่ยงด้วยกันมั้ย? เมลรอยู่ด้วย……」   

「อุ่โออออ้! พี่หยุดมันไม่ได้!!」   

คนผู้โผล่ขึ้นมาคือคาร์ล่าและนนน่า ผู้ตามมาด้วยผู้ดูแลอุ้มเด็กกันมาสองคน

หัวผมว่างเปล่า แต่ไม้เนื้อของผมอาละวาดอย่างไม่ยั้งตัวเอง ฉีดภาระของมันไปทุกๆที่เหมือนน้ำ

ส่วนที่แย่ที่สุดคือเจี๊ยวผมชี้ไปที่ประตู

「กิ่ย้าาา-!」 「ระวัง ท่านหญิง!」

ผู้ดูแลสองคนรีบแอบนนน่าหลังคาร์ล่า อสุจิตกเป็นฝนลงบนหัวเธอและทำเธอเปียกทันที

คาร์ล่าถูกอาบน้ำเชื้ออย่างยอมแพัและห้อยหัวเธอ

นนน่าสามารถหลีกอันตรายได้อย่างฉิวเฉียด

「นั่นอันตราย ท่านหญิง」   

「ท่านต้องยังไม่เคลื่อนไหว」   

การน้ำแตกดำเนินต่อไปหลายนาทีและสุดท้ายนั้นจบสงบลง

「โห้ ขอโทษเกี่ยวกับนั่น ถ้าอย่างนั้นหนูอยากกินข้าวเที่ยงด้วยกันเหรอ?」   

「……แต่ก่อนนั่นหนูต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าและอาบน้ำ」   

อย่างที่คาดกับสมาชิกผู้ให้บริการของฮาเร็มของผม, คาร์ล่า, เธอถอนหายใจและออกจากห้องไปด้วยรอยยิ้ม

อย่างไรก็ตาม คนหนึ่งจะไม่อนุญาตินั่น

「ฮ่าา ฮ่าา น้ำเชื้อที่รักของฉัน…… น้ำเชื้อที่ฉันสกัด……」   

แคทเธอรีนที่ลามกเข้าหาคาร์ล่าด้วยดวงตาที่ดูเหมือนไม่ได้จับอะไรอยู่ที่จุดหนึ่ง

เมื่อเห็นปรากฏการรณ์แปลกประหลาด มันทำให้คาร์ล่าตื่นตกใจอย่างเป็นธรรมชาติ

「อ-อะไรของเธอ เธอมีสายตาแปลกๆ หยุดมันนะ! อุว้าาา อย่าเลียฉัน!」   

แคทเธอรีนผลักคาร์ล่าลงบนพื้นและเริ่มเลียอสุจิบนร่างกายของเธอ เพราะสาวๆกำลังใส่เสื้อผ้าฤดูร้อน เนื้อหนังขอพวกเธอเปิดเผยเยอะ

แคทเธอรีนคลานลิ้นเลียนบริเวณเปิดเผยทั้งหมด ดังนั้นมันทำให้เป็นฉากที่อดใจไม่ไหว

「เฮ้! ต้นขาฉัน…… อาา อย่าเลียหน้าอกฉัน!」   

ความซวยของคาร์ล่าไม่จบลงตรงนั้น

ดั่งติดต่อจากแคทเธอรีน โยกุริ, ริต้า, และแม้แต่เกรเทลยืนขึ้นอย่างช้าๆ

พวกเธอเซไปมาขณะพวกเธอเดินและรวมกันรอบคาร์ล่าเหมือนซอมบี้จะกินเหยื่อ เลียทั้งเนื้อทั้งตัวของคาร์ล่า

「กิ่ย้าาา ฉันถูกกระทำชำเรา นนน่า ช่วยฉันที!」   

「ฉ-ฉันขอโทษ ฉันตัวน้อยๆไร้กำลังทำอะไรเกี่ยวกับมันไม่ได้ ฉันคิดว่าพวกเธอจะปล่อยเธอไปเมื่ออสุจิทั้งหมดหายไปแล้ว」   

「คนทรยศ! เอเกอร์ ช่วยหนูด้วย!」   

「ขอโทษ ฉันไม่คิดว่าฉันหยุดการแสดงเซ็กซี่เช่นนี้ได้」   

ผมพาตัวเองไปแทรกแซงกับการพัวพันและเลียกันและกันของผู้หญิงไม่ได้

ในท้ายที่สุด สาวๆเลียคาร์ล่าจนกว่าไม่มีร่องรอยของอสุจิเหลืออยู่บนร่างกายเธอ

 

 

การขอร้องของแคลร์ ①

เพื่อฉลองชัยชนะศึกผมถูกเชิญเป็นการส่วนตัวไปสู่บ้า-…… อาคารบริษัทของบริษัทฟลิตช์เพื่องานเลี้ยงเล็กๆ

ผมกำลังจะชวนนนน่าด้วยเหมือนกัน แต่เธอพูดว่าคนจัดจะไม่สามารถเตรียมได้ใหญ่พอที่จะต้อนรับทุกคน ดังนั้นเธอปฏิเสธอย่างเกรงใจ

「ถ้าอย่างนั้นจะขออะไรล่ะ?」   

「อ่ะร้า งานฉลองนี้นั้นเพื่อขอบคุณพี่ที่ให้ความช่วยเหลือหนูมากกว่าและแน่นอนว่าเพื่อฉลองชัยชนะของพี่ในสงคราม」   

ไม่มีทางที่นี่จะเกี่ยวกับนั่นอย่างเดียว

ผมชำเลืองมองข้างหลังลอรี่และมีแม่บ้านยกอาหารไม่กี่คนกำลังยิ้ม

จุดที่ผมเน้นสนใจคือชุดพวกเธอ

ผมก็ชินกับการเห็นชุดของคนรับใช้ของบริษัทฟลิตช์แล้ว อย่างไรก็ตามทุกคนที่นี่ กำลังใส่กระโปรงซึ่งสั้นกว่า 10 ซม.

มากกว่านั้นโดยเฉพาะลอรี่นั้นใส่สิ่งที่น่าสงสารเกินกว่าเป็นกระโปรง ซึ่งไปถึงแค่กลางต้นขาเธอเท่านั้นและจะเปิดเผยกางเกงในถ้าเธองอตัวแค่นิดเดียว

แม้แต่ผมก็บอกได้ว่าเธอมีแผนใช้การล่อลวงทางเพศเพื่อให้ผมเสร็จเธอแล้วตกลงรับคำขอหนึ่ง

「……ถ้าอย่างนั้นเรามาผ่อนคลายและทานอาหารด้วยกันไหม?」   

「ฉันไม่อยากทำ อย่าพูดบางอย่างเย็นชาแบบนั้น」   

เธอมองชำเลืองจีบปากจีบคอและเอียงมาข้างหน้านิดหน่อย

ผมเห็นหัวนมสีอ่อนของเธอและร่องของบริเวณหน้าอกของชุดของเธอได้ 

แต่ผมจะไม่ถูกล่อลวงวันนี้

เพราะทั้งหมด การผมซั่มหมู่กับสาวๆเช้านี้กินผมไป 20 น้ำ

แม้แต่ไข่ผมยังดูเบาไปนิดหน่อย

「ถ้าอย่างนั้นพี่เริ่มเก็บเกี่ยวข้าวสาลีในดินแดนพี่แล้ว ถูกมั้ย?」   

「ใช่ ชาวนาจะทุ่มเทเวลาพวกเขาส่วนใหญ่กับมัน」   

มันจะค่อนข้างเป็นช่วงเวลาลำบากสำหรับพ่อค้าเร่และแม้แต่ช่างเหล็กกับนักล่าในหมู่บ้านทำนาที่รวมกันเก็บเกี่ยว หมายถึงหนังสัตว์และเครื่องประดับทำมือจะไม่ถูกผลิต

「หนูได้ยินมาว่าดินแดนพี่จะได้รับการเก็บเกี่ยวอุดมสมบูรณ์สุดมหัศจรรย์ ยินดีด้วย」   

「อืม ขอบคุณ」   

「ดังนั้นเอง หนูมีบางอย่างที่ต้องปรึกษาเกี่ยวกับนั่น……」   

ผมมีความรู้สึกแย่เกี่ยวกับนี่

「ราคาตลาดของข้าวสาลีตอนนี้เพิ่มขึ้น…… แม้แต่สำหรับบริษัทของเรา และดังนั้นเราอยากเตรียมตัวสำหรับเหตุการณ์ที่แย่ที่สุด ซึ่งก็คือทำไมหนูอยากจะซื้อสิทธิของข้าวสาลีที่เหลือจากการเก็บเกี่ยว หนูยินดีเสนอมากกว่าราคาตลาด 20%」

「……」      

พูดอีกอย่างเธอพยายามตัดสินราคาของข้าวสาลีที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยว

เมื่อคิดเกี่ยวกับมันปรกติ มากกว่าราคาตลาดปัจจุบัน 20% จะได้เปรียบสำหรับผม และลอร์ดศักดินาที่ไม่รู้เรื่องอาจรับการตกลงนั้นทันที

「……เธอไม่เป็นกับการซื้อข้าวสาลีราคาแพงแบบนั้นเหรอ?」   

「มันจะเป็นการพนัน แต่มีโอกาสเล็กๆที่บางอย่างจะทำให้ราคาขึ้นอย่างสูงมาก นี่เป็นการคาดเดาเตรียมกับความเสี่ยงนั้น」   

สายตาเล่นหูเล่นตาของเธอที่ซ่อนความโลภเงินตอนนี้เห็นได้

「เหมือนถ้าจักรวรรดิรุกรานสหพันธรัฐเหรอ?」   

คำพูดของผมทำให้แคลร์แข็งนิ่ง

โออ้ มันค่อนข้างหายากสำหรับเธอที่จะกลายเป็นแข็งอย่างเห็นได้ชัด

เธอไม่ใช่ลูกน้องของผมแต่เป็นพ่อค้าแม่ค้าแทนและมันธรรมชาติสำหรับเธอที่จะไล่ตามกำไร ผมไม่คิดว่าเธอจะหลอกผม แต่ผมจะไม่แพ้ตรงจุดนั้นง่ายๆด้วย

「มีอะไร อาหารกำลังเย็น กินเร็วเข้าสิ」   

「พ-พี่ได้ข้อมูลพี่ค่อนข้างเร็วนะ ไม่ใช่เหรอ?」   

「มันไม่เหมือนว่าพี่เร็ว แต่ไม่ใช่เธอแค่ช้าเหรอ?」   

แหล่งที่มาของข้อมูลผมคือจากจดหมายคลาร่า ผู้ใก้กับมารเควสมาลอดอลผู้ทรงเกียรติ แต่เธอไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าผู้ช่วย

ผมไม่คิดว่าแคลร์จะช้ากว่าผู้ให้ข้อมูลแบบนั้น

แคลร์ถอนหายใจ

「ไม่นานมานี้ หัวหน้าผู้มีอิทธิพลของที่ทำงาน….. ของบริษัทฟลิตช์ลดลง อย่างเป็นธรรมชาติ ความสามารถรวบรวมข้อมูลลดลงมาตามนั้นด้วยเหมือนกัน ไม่ หนูไม่ควรพูดว่าแค่ฟลิตช์เท่านั้น ในความเป็นจริง อำนาจของบริษัททั้งหมดในสตูร่าลดลง」   

ฟุมุ มันหายากสำหรับเธอที่จะพูดเกี่ยวกับข้อมูลภายในแบบนี้

ผมจะฟังเงียบๆ

「บริษัทของสตูร่าอยู่บนชายฝั่งแม่น้ำเทียรี่เหนือและพัฒนาผ่านการรักษาการค้ากับชาติทางเหนือมากราโด, เทรีย, อาร์คแลนด์…… และโกลโดลเนีย พวกเขาจะเคลื่อนไหวตามสบายไม่ว่าเมื่อไหรที่ชาติขัดแย้งกันและสามารถพัฒนาทางเศรษฐกิจ」   

แน่นอนค้าขายกับสหพันธรัฐเป็นปัจจัยสำคัญ แต่ถ้ามีสงคราม มันจะเป็นไปไม่ได้ในการซื้ออะไรสักอย่างจากประเทศฝ่ายตรงข้ามและการขนส่งก็ทำไม่ได้ด้วย

สตูร่า ผู้ทำธุรกิจที่ไหนก็ได้อย่างปลอดภัยควรมีความได้เปรียบใหญ่ในแง่ของการซื้อและขนส่ง

「แต่ขณะที่สำหรับตอนนี้ทั้งภูมิภาคทางเหนือของที่ราบกลางกลายเป็นดินแดนโกลโดเนีย ดังนั้นการเจรจานั้นไม่จำเป็น เรากำลังใช้ประสบการณ์และฐานลูกค้าเพื่อก่อตัวขึ้นมาถึงจุดนี้และกำลังพยายามสู้กลับ…… แต่แม้แต่นั่นก็กำลังถูกชิงไปอย่างช้าๆ」   

โกลโดเนียมีบริษัทพื้นที่ด้วยเหมือนกัน

พวกเขาใช้เส้นสายกับอาณาจักรหรือขุนนางผู้ยิ่งใหญ่เป็นผู้สนับสนุนเพื่อขยายอิทธิพลของพวกเขาอย่างรวดเร็ว

ผมจำได้ว่ามีคนที่ดูแลบริษัทภายในผู้ยึดติดกับตระกูลขุนนางเชิญมางานเลี้ยงน้ำชาประจำที่จัดโดยนนน่าแล้วเขาอยากจะเจอกับผมด้วย

ถ้าผมตอบรับพวกเขาผมจะไม่สามารถมีบทกับงานเลี้ยงมากและเห็นได้ชัดว่านนน่ารู้สึกโกรธเพราะนั่น

「เข้าใจแล้ว…… เธอมีเวลาที่ลำบากด้วย」   

แคลร์ทำดีมาจนถึงตอนนี้

ถ้าผมไม่มีเธอเมื่อผมติดหนี้หรือเมื่อผมต้องการพัฒนาใหญ่ ดินแดนของผมน่าจะอยู่ในสภาพแย่กว่านี้

ไม่มีนักต้มตุ๋นหรือการเล็ดข้อมูลมาถึงตอนนี้ด้วยเหมือนกัน แม้ว่าถ้าบริษัทใหญ่อื่นพยายามเข้าหาผม ผมไม่คิดว่าผมสามารถเปลี่ยนจากบริษัทฟลิตช์ไปหาพวกเขาได้

「และดังนั้น หนูคิดว่าบริษัทฟลิตช์จะล้มละลายเร็วๆนี้」   

「ทำไมล่ะ!?」   

ผมเกือบขยี้โต๊ะ

ในหัวใจผมผมตัดสินใจจะอยู่กับพวกเขาจนถึงสุดท้ายและแคลร์ประกาศมากระทันหันว่าเธอจะทิ้งพวกเขา

「อ่ะร้า แต่มาร์เกรฟซามะจะอยู่กับตัวหนู พูดถึงแล้ว พี่รู้ว่าใครคือประธานของบริษัทฟลิตช์มั้ย?」   

「……พี่ไม่รู้ชื่อหรือหน้าเขา」   

 “อืม เขาชื่อฟลิตช์” – เธอเสริมมาด้วยรอยยิ้ม

แน่นอนนั่นค่อนข้างชัดเจน

คนผู้ให้ความร่วมมือกับผมและทำธุรกิจกับผมตลอดเวลานี้คือแคลร์

ผมไม่รู้จักประธานหรือใครก็ตามจากสาขาหลัก

 「ถ้าสาขาหลักกลายเป็นภาระในอนาคตอันใกล้ หนูมีแผนจะเริ่มบริษัทเอกชนใหม่ เมื่อเวลามาถึง หนูร้องขออย่างถ่อมตัวให้พี่ปฏิบัติกับหนูด้วยความช่วยเหลือด้วยเหมือนกับ」   

「แน่นอน หนูเป็นแม่ค้าเดียวเท่านั้นสำหรับพี่」   

เราจูบกันอย่างลึกซึ้งโดยไม่สนว่าคนรับใช้อยู่ตรงนี้

ไม่ดี ผมรู้สึกได้ว่าไข่ผมหนักขึ้น

「ถ้าอย่างนั้น ฉันมีบางอย่างที่อยากให้เธออธิบาย」   

「หืม? เราจะไม่ไปสู่เตียงเหรอ?」   

「ก่อนนั้น…… พี่ได้ยินมาว่าคาราวานของพ่อค้าแม่ค้ามาที่นี่จากนครรัฐเป็นประจำและผ่านลิบาติส」   

แคลร์ยังคงยิ้มแต่มีความโกรธนิดหน่อยหลังสีหน้าของเธอ

「คาราวานไม่มีอะไรเกี่ยวกับเราอย่างแน่นอน…… และอยู่ใต้การสนับสนุนของพ่อค้าแม่ค้าแห่งลิบาติส」   

เธอดันตัวกับผมและถามผมว่าอะไรเกิดขึ้น

แต่มันเป็นบางอย่างที่อดอล์ฟเจรจา ดังนั้นผมไม่รู้

「มันไม่ได้ทำให้หนูสบายใจหลังจากหนูเพิ่งบอกพี่ว่าจะเป็นอิสระแล้วก็มีคู่แข่งทางการค้าอยู่ข้างหน้าหนูแล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าพี่จะไม่เปลี่ยนคาราวาน พี่จะนำเข้าจำนวนมากจากอาณาจักรมอลต์อยู่ดี ถูกไหม?」   

ไม่ แต่อดอล์ฟบอกผมว่าอย่าให้สัญญาอะไรด้วยตัวผมเองในเรื่องเกี่ยวกับข้าวสาลี

ถ้าเขาโกรธ ถ้าอย่างนั้นผมจะยึดกิจการภายในมาดูแลเอง

「ลอรี่! ลูนิส! อมิดรา!」   

「「「ค่ะ แคลร์ซามะ!」」」   

สามสาวคลานไปใต้โต๊ะและผมรู้สึกคลื่นของความเสียวทันที

「โอ่ะอาา! พ-พี่จะไม่เปลี่ยนใจ แม้ว่าหนูทำนี่ ปรึกษากับอดอล์ฟ!」   

「ชายคนนั้นพูดให้เชื่อได้ยาก ดังนั้นถ้ามาร์เกรฟตัดสินใจสุดท้ายได้่ ลอรี่จะทำยิ่งเข้มข้นมากกว่า」   

「อ่โอออ้…… แม้แต่ตูดพี่!」   

การโจมตีมากมายดำเนินต่อหลังจากนั้น และในท้ายที่สุดแคลร์ตัดสินใจเข้าร่วมด้วยตัวเธอเอง อย่างไรก็ตามผมสามารถทนได้จนถึงจุดจบเพราะความคิดว่ามันจะยุ่งยากแค่ไหนที่จะต้องดูแลกิจการภายในด้วยตัวผมเอง

นั่นอาจเป็นเนื่องจากผลไม้เพิ่มสารอาหารที่ผมกินเมื่อวาน

สามสาวอื่นนอนเหนื่อยบนโต๊ะพร้อมน้ำเชื้อของผมไหลออกจากหว่างขาพวกเธอ เหมือนแคลร์ทุกอย่าง แต่เธอเป็นแค่คนเดียวเท่านั้นที่พูดคำลาจากคมๆออกมาได้

「อออุ่…… หนูจะไม่ยอมแพ้ พี่ได้ยินมั้ย…… อย่างแน่นอนหนูจะ…… ทำกำไรใหญ่…… จากข้าวสาาา-」   

「ช่างเป็นผู้หญิงที่น่ากลัว แต่นั่นเป็นอะไรที่ทำให้เธอน่ารัก」   

มันดูเหมือนเราจะมีปฏิสัมพันธ์สนุกมากกว่านี้ในอนาคต

 

ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 23 ปี ฤดูร้อน

สถานะ: มาร์เกรฟอาณาจักรโกลโดเนีย ลอร์ดศักดินาผู้ยิ่งใหญ่ของบริเวณตะวันออก ราชาแห่งภูเขา เพื่อนของดวอร์ฟ เพื่อนของราชาแห่งอเลส

พลเมือง: 161,000  เมืองหลัก – ราเฟน: 24,000 ลินต์บลูม: 4000

กองทัพส่วนตัว: 5300 คน

ทหารราบ: 3000, ทหารม้า: 900, พลธนู: 900, ทหารม้าธนู: 500

ปื้นใหญ่: 19

สำรอง: 3000

สินทรัพย์: 0 ทอง

คู่นอน: 209, ลูกผู้เกิดแล้ว: 46

 

แปลโดย: wayuwayu

tipme : tipme.in.th/wayuwayutl

ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: ​http://linktr.ee/wayuwayu

ถนนสู่อาณาจักร

ถนนสู่อาณาจักร

Status: Ongoing
นี่เป็นเรื่องราวของนักสู้ทาสอายุน้อย ในสังเวียนใต้ดิน เขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเขา หรือเขาไปอยู่ที่ที่เขาอยู่ได้ยังไง, มีเพียงว่าชื่อเขาคือ เอเกอร์, และเขาแข็งแกร่ง วันหนึ่งเขาฆ่านายและหนีไปจากสังเวียน, เข้าร่วมกลุ่มของทหารรับจ้างในฐานะสมาชิกใหม่ ระหว่างภารกิจของเขา เขาได้พบกับแวมไพร์, ลูซี่, ผู้ที่สังหารหมู่กลุ่มของเขา ด้วยพลังเหนือมนุษย์ หลังจากที่ได้เรียนรู้ว่า เอเกอร์ รู้จักแต่การฆ่าเท่านั้น, ลูซี่ ให้เขาอยู่ที่บ้านของเธอ, สอนเขา และดูแลเขา สองปีผ่านไป, และในวันจากลาของเอเกอร์, พวกเขาสองคนแลกเปลี่ยนสัญญา ถ้าเอเกอร์เป็นราชา และปกครองแผ่นดินของป่าเอิร์ก, เขาสามารถมาเพื่อพาเธอไปในฐานะผู้หญิงของเขาได้ ทำสิ่งนั่นให้เป็นเป้าหมายในชีวิต, เอเกอร์ออกเดินทางเพื่อเป็นฮี่โร่, ราชา, และสร้างอาณาจักรของเขาเอง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท