ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา – บทที่ 535 ลู่หยวนปะทะรูปลักษณ์เซียน

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

บทที่ 535 ลู่หยวนปะทะรูปลักษณ์เซียน

บทที่ 535 ลู่หยวนปะทะรูปลักษณ์เซียน

ต้องทราบก่อนว่าพลังของรูปลักษณ์เซียนมาจากแดนเซียน!

แม้กระทั่งหลุมดำที่ปกคลุมห้วงอากาศก็ถูกบดขยี้อีกครั้ง!

หากพลังประเภทนี้ปรากฏในแผ่นดินหยวนหง มันก็มากพอที่จะบดขยี้ผู้ไปถึงขั้นอมตยุทธ์ได้!

แม้กระทั่งอุบายไร้ที่สิ้นสุดของลู่หยวนในอดีตก็ไม่สามารถทำให้อู๋เต้ากับเจิ้งชิงเทียนสบายใจได้

แต่เมื่อรูปลักษณ์เซียนเคลื่อนลงมา พวกเขาก็อยากขึ้นไปเพื่อให้การช่วยเหลือ ทว่าแรงกระแทกของอีกฝ่ายพุ่งเข้ามาจนทำให้ทั้งสองไม่สามารถเคลื่อนไหวได้!

ตอนนี้แรงกดดันถูกคลายแล้ว พวกเขาจึงเฝ้าดูอย่างสิ้นหวังขณะลู่หยวนถูกกำราบเอาไว้!

แต่ถึงอย่างนั้น ลู่หยวนกลับยังไม่ตาย!

อู๋เต้าและเจิ้งชิงเทียนพลันผ่อนคลายขณะความสงสัยเล็กน้อยปรากฏบนใบหน้า

ลู่หยวนหาทางเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้มาได้อย่างไร?!

รูปลักษณ์เซียนไม่ทราบถึงเรื่องนี้ แม้มันจะเป็นเพียงดึงจิตเทวะส่วนหนึ่งมาควบคุมร่างกายดังกล่าว ถึงกระนั้นก็ไม่สามารถรู้สึกถึงสัมผัสของมือขนาดใหญ่ที่ร่ายรำอยู่ในอากาศธาตุ

มันไม่อาจสัมผัสได้ว่าร่างกายของลู่หยวนถูกบดขยี้จนโลหิตสาดกระเซ็น

แต่มันสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่ากลิ่นอายซึ่งเป็นของลู่หยวนหายไปในทันที จากนั้นตนเองจึงให้ข้อสรุปว่าลู่หยวนตายแล้ว!

แววตาของรูปลักษณ์เซียนเต็มไปด้วยความเหยียดหยัน ขณะเอ่ยกับห้วงอากาศด้วยเสียงอันดังลั่น

“ข้าสังหารให้เจ้าแล้ว ถึงเวลาส่งข้ากลับเสียที ตอนนี้มันเป็นช่วงที่ข้าต้องทำการทะลวง ข้ายังต้องรอให้ร่างจำแลงนี้กลับสู่ร่างหลักก่อน ถึงตอนนั้นก็จะทะลวงผ่านข้อจำกัดการบ่มเพาะนับหมื่นปีในคราวเดียว!”

“อย่าทำให้ข้าต้องเสียโอกาส!”

สีหน้าของรูปลักษณ์เซียนสงบเล็กน้อยขณะเอ่ยเร่งเร้า “เร็วเข้าสิ”

“โห? หมายความว่าถ้าจิตเทวะของเจ้าหายไป การทะลวงก็จะถูกหยุดนิ่งเอาไว้ชั่วคราวงั้นหรือ?”

น้ำเสียงลากยาวลอยเข้าหูของรูปลักษณ์เซียนจากที่ใดไม่ทราบ

ดวงตาของรูปลักษณ์เซียนพลันแข็งทื่อ แล้วร่างขนาดใหญ่เหนือห้วงอากาศก็พลันหันมองไปรอบข้าง!

น้ำเสียงนี้ช่างคุ้นเคยยิ่งนัก มันไม่ใช่ใครอื่นนอกจากลู่หยวน!

เป็นไปไม่ได้!

รูปลักษณ์เซียนปฏิเสธที่จะคาดเดาในใจชั่วขณะ!

เป็นไปไม่ได้ที่คนอย่างลู่หยวนจะหลบหนีจากการโจมตีที่เพิ่งเผชิญได้!

คนที่เพิ่งพูดจะต้องเป็นคนที่มีการบ่มเพาะทรงพลัง! มันมากถึงขนาดแม้แต่ระดับการบ่มเพาะของร่างจำแลงมหาจักรพรรดิในตอนนี้ ไม่สามารถตรวจจับได้ว่าคนผู้นี้อยู่ที่ไหน!

รูปลักษณ์เซียนยกยิ้มขณะจิตเทวะระเบิดออกมา เพื่อค้นหาทุกสิ่งรอบข้างอย่างละเอียด แต่กลับไม่มีร่องรอยของอีกฝ่าย!

ดูท่าว่าเสียงเมื่อครู่จะเป็นเพียงภาพหลอนชั่วขณะเท่านั้น!

“ข้าสงสัยเหลือเกินว่าพี่เต๋าคนไหนที่ยังคงฝึกฝนอยู่ในดินแดนแห้งแล้งแห่งนี้?”

รูปลักษณ์เซียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงแจ่มชัด “ข้ารู้ว่าเส้นทางระหว่างแดนเซียนกับสถานที่แห่งนี้ถูกปิดในตอนแรก ทำให้พี่เต๋าทั้งหลายถูกทิ้งไว้ที่นี่จนไม่สามารถกลับไปได้”

“พี่เต๋าไม่เต็มใจที่จะปรากฏตัวก็เพราะหลงเหลือเพียงเศษเสี้ยววิญญาณอยู่ที่นี่ใช่หรือไม่? ข้าสงสัยเหลือเกินว่าพี่เต๋าเคยได้ยินชื่อมหาจักรพรรดิจิ่วเทียนแห่งแดนเก้าสวรรค์หรือไม่?”

“หากพี่เต๋าเชื่อใจ ข้าสามารถให้วิถีสวรรค์ตอบแทนด้วยการอัญเชิญข้าเพื่อพาพี่เต๋ากลับแดนเซียนได้ ถึงตอนนั้น ข้าสามารถสร้างกายหยาบใหม่ให้พี่เต๋าได้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นสหายคนพิเศษสำหรับข้า”

รูปลักษณ์เซียนเงียบไปชั่วขณะ แต่ไม่มีใครตอบกลับมา

สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่รูปลักษณ์เซียนด้วยความสงสัยว่า ‘พี่เต๋า’ ที่อีกฝ่ายพูดถึงคือใคร

ตอนนี้เองก็ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าตี้อู่เหอซั่นมีสีหน้าซีดเผือดราวกับดิน ดวงตาของนางถึงกับเต็มไปด้วยโทสะเล็กน้อย

นางหลับตาเล็กน้อยขณะพยายามสุดความสามารถเพื่อปกปิดโทสะเอาไว้ราวกับกำลังนึกถึงอดีตที่ไม่น่ายินดีขึ้นมา!

“แดนเก้าสวรรค์…”

ตี้อู่เหอซั่นพึมพำอย่างแผ่วเบา แต่ทุกคำพูดกลับลอดไรฟันออกมา!

เมื่อไม่มีใครตอบ รูปลักษณ์เซียนก็วาดอักขระแปลกประหลาดด้วยมือ อักขระดังกล่าวปกคลุมอากาศธาตุขณะปลดปล่อยพลังอันน่าตกตะลึงออกมา ทำให้ผู้คนหวาดกลัวที่จะเข้าใกล้

อักขระทะลวงลึกเข้าไปในห้วงอากาศ ราวกับบางสิ่งสลักเครื่องหมายที่ลบไม่ออกลงไปในห้วงอากาศ!

“ในเมื่อพี่เต๋าปฏิเสธที่จะแสดงตัว ข้าก็คงต้องขอตัวก่อน หากพี่เต๋าคิดได้แล้วก็สามารถจุดอักขระนี้เพื่อเรียกหาข้าได้”

สิ้นคำ รูปลักษณ์เซียนก็เรียกวิถีสวรรค์อีกครั้ง แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง อีกฝ่ายกลับปฏิเสธที่จะตอบรับ

“วิถีสวรรค์ เจ้าเรียกจิตเทวะของข้าออกมาจากร่างจำแลงแล้วไม่ส่งกลับแบบนี้มันหมายความว่าอย่างไร? ตอนนี้ข้าอยู่ในช่วงวิกฤติ เจ้าอย่าทำอะไรน่าอับอายจะดีกว่า ไม่อย่างนั้น เหอะ… ข้าขอบอกเจ้าเลยว่าแดนเก้าสวรรค์จะต้องเป็นศัตรูกับวิถีสวรรค์อย่างแน่นอน! ในเมื่อวิถีถดถอยลงคลองเช่นนี้ เจ้าก็ต้องทนทุกข์ทรมาน!”

วิ้ง!

ทันทีที่สิ้นคำของรูปลักษณ์เซียน เสียงทุ้มต่ำก็ดังขึ้น

แสงสีแดงพลันปรากฏเหนือศีรษะรูปลักษณ์เซียน!

ชั้นอักขระลึกลับเกิดเป็นค่ายกลแสงขนาดใหญ่ก่อนจะแผ่ขยายออกไปในทันทีจนปกคลุมท้องนภาไปกว่าครึ่ง!

วิ้ง!

เสียงประหนึ่งระฆังดัง แล้วชั้นของค่ายกลอักขระขนาดใหญ่ก็เคลื่อนลงมาขณะมุ่งมาทางรูปลักษณ์เซียนเพื่อล้อมอีกฝ่ายเอาไว้

รูปลักษณ์เซียนสะบัดร่างกายเพื่อทำลายค่ายกลอักขระขนาดใหญ่ทั้งหมดที่เคลื่อนลงมา

อักขระแตกสลายในพริบตาก่อนจะกระจัดกระจายไปทุกหนแห่ง

ชั้นค่ายกลอักขระขนาดใหญ่เหนือท้องนภาที่เคลื่อนลงมาชั้นแล้วชั้นเล่ารวมตัวเข้าด้วยกันก่อนจะตกลงไป

แต่ทันทีที่มันเข้าใกล้รูปลักษณ์เซียน ก็ถูกกลิ่นอายของอีกฝ่ายทำให้แตกสลายก่อนจะกระจายออกไปทุกทิศทาง

ตอนนี้เองที่มีบุคคลผู้หนึ่งยืนอยู่ในท้องนภาอันไกลลิบขณะก้มมองสรรพสิ่งทั้งหลาย!

ทันทีที่ร่างดังกล่าวปรากฏ กลิ่นอายไร้พรมแดนก็ถูกเปิดเผยโดยไม่มีการปิดบัง เขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากลู่หยวน!

รูปลักษณ์เซียนตกตะลึงทันทีที่เห็นลู่หยวน

เจ้าเด็กนี่ไม่ได้ถูกขยี้จนตายไปแล้วหรือ?!

แล้วอีกฝ่ายหลบหนีออกมาได้อย่างไร?!

“จะตกใจไปไย?”

มุมปากของลู่หยวนยกยิ้ม “ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าข้าจะฆ่าเจ้าด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว?”

“ไม่ต้องห่วง ข้าจะฆ่าเจ้าเดี๋ยวนี้แหละ!”

ดาบสามคมฉิวหลงในมือของลู่หยวนพลันลุกเป็นไฟ เพลิงขุนพลสวรรค์ก็ทะยานสู่ท้องนภาประหนึ่งแดนชำระไร้ที่สิ้นสุด!

แล้วเสียงของระบบก็ดังขึ้นจากก้นบึ้งหัวใจของสวี่หยาง

[แจ้งเตือนจากระบบ : เนื่องจากใช้ปกปิดกลิ่นอายเพื่อหลีกเลี่ยงการตามรอย ทำให้ค่าโชคชะตาวายร้ายของท่านลดลง 5000]

[การใช้ค่ายกลต้องห้ามประสบความสำเร็จ

ระดับค่ายกล : ระดับสวรรค์

ค่าโชคชะตาวายร้ายของท่านลดลง 10000]

[ท่านยืนยันที่จะใช้ค่าโชคชะตาวายร้าย 10000 แต้ม เพื่อใช้ทักษะเทวะแบบครั้งเดียว ‘อำนาจสวรรค์เทพดาบ’ หรือไม่?]

“ยืนยัน”

ลู่หยวนพ่นออกมาทีละคำ แล้วจิตสังหารในดวงตาก็ไม่อาจถูกปกปิดได้อีกต่อไป

[ระบบรับทราบ หลังจากหักค่าใช้จ่ายกับค่าโชคชะตาวายร้ายทั้งหมดแล้ว

ค่าโชคชะตาวายร้ายของท่านในตอนนี้ 65000]

ทันทีที่สิ้นเสียงของระบบ ฟ้าดินก็ตกอยู่ในความเงียบทันที

ราวกับพลังมหาศาลที่มองไม่เห็นบดขยี้ลงมาขณะปิดผนึกและปกคลุมทั่วพื้นที่เอาไว้

“นี่มัน?”

เมื่อรูปลักษณ์เซียนสัมผัสได้ถึงพลังอันมหาศาลนี้ มันก็ตกอยู่ในความเงียบชั่วขณะ แล้วความรู้สึกอันคุ้นเคยก็แล่นเข้ามาในใจ

เมื่อกำลังคิ้วขมวดพลางหวนรำลึก มันก็พลันตระหนักได้ว่าอักขระทั้งหมดที่เพิ่งแตกสลายและตกลงไป กลับหยุดนิ่งอยู่ในอากาศธาตุ!

อักษรขระเหล่านี้กระจัดกระจายออกไปขณะปกคลุมรูปลักษณ์เซียน

อักขระเหล่านี้หมองหม่นและนิ่งงัน ราวกับอยู่ภายใต้ผนึกบางอย่าง!

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

Status: Ongoing
นิยายแปลเรื่อง ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา เรื่องย่อ : ลู่หยวน ชายหนุ่มผู้กลับชาติมาเกิดใหม่ในมหาแดนโชคชะตา พร้อมกับตำแหน่งคุณชายแห่งตำหนักธารสุญญะผู้โฉดชั่ว! ทั้งก่อกรรมทำเข็ญ ทั้งลักพาตัวลูกหลานของกองกำลังอื่นมากักขังไว้นับไม่ถ้วน หนึ่งในนั้นคือสาวงามผู้กำลังจะมีผู้ฝึกยุทธ์รูปหล่อตามมาช่วยชีวิต บัดซบ… ไม่ว่าจะคิดอย่างไร นี่มันบทบาทของตัวร้ายกากเดนชัด ๆ! ในระหว่างที่กำลังปวดหัวกับชีวิตใหม่อยู่นั้นเอง กล่องข้อความก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า บ่งบอกว่าการเชื่อมต่อกับระบบวายร้ายสำเร็จแล้ว! ด้วยระบบที่สามารถช่วงชิงโชคชะตาของเหล่าตัวเอกได้ ตำนานจอมวายร้ายสุดอหังการ์ผู้โค่นล้มพระเอกทั่วหล้าจึงเปิดฉากขึ้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน