ผู้กล้าเหนือกาลเวลา – บทที่ 154 สามเจ้าเล่ห์ชิงอาหาร

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา

บทที่ 154 สามเจ้าเล่ห์ชิงอาหาร

สวี่ชิงเคยสู้กับระดับรวมปราณขั้นบริบูรณ์ของเผ่าสิงซากสมุทรมาก่อน

จัดการยากยิ่งนัก

ไม่ว่าจะเป็นพลังกายเนื้อหรือความแข็งแกร่งของชีวิตล้วนทำให้การลงมือครั้งนั้นของสวี่ชิงจำต้องแล่มันเป็นชิ้นทั้งเป็นๆ ถึงจะฆ่าตายได้

ส่วนระดับสร้างฐานเผ่าสิงซากสมุทรเขายังไม่เคยสู้อย่างแท้จริง ดังนั้นตอนนี้จึงระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง จนทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้วก็ยังไม่เข้าไปใกล้มากจนเกินไป

ภายใต้การจับจ้องของเขา จากแสงกะพริบวูบวาบของแสงค่ายกลส่งข้าม เงาร่างเผ่าสิงซากสมุทรที่อยู่ในนั้นก็ชัดเจนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

ผู้บำเพ็ญตนนี้ไม่ได้เปลี่ยนมาจากศพเผ่ามนุษย์ แต่เป็นต่างเผ่าที่สวี่ชิงไม่เคยเห็นมาก่อน ที่หลังมีปีกเหมือนค้างคาว เพียงแต่ปีกนั่นแหว่งวิ่นเล็กน้อย แต่พลังระดับสร้างฐานทั้งร่างก็ยังคงแผ่ออกมาอย่างชัดเจนจากการปรากฏตัว

เสี้ยวขณะต่อมา เงาร่างของเผ่าสิงซากสมุทรตนนี้ก็ชัดเจนโดยสมบูรณ์ท่ามกลางเสียงครืนครันเบาๆ ของค่ายกล ในชั่วขณะที่การส่งข้ามเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์ ร่างของเขาก็จะถอยไป เห็นได้ว่าตอนที่มาก็ระมัดระวังสุดขีดเช่นกัน

แต่เขาไม่มีทางรู้ถึงสิ่งที่วางแผนรอคอยเขาอยู่พวกนั้นแน่นอน

แทบจะในขณะที่เงาร่างของเขาถอยไป น้ำทะเลรอบๆ ก็แผ่ระลอกกลายเป็นกำแพงทะเลหลอมสูงขึ้นไปแต่ละด้านทันที สกัดกั้นเขาเอาไว้

ซ้ายขวาหน้าหลังกระทั่งว่าข้างบนล้วนเป็นเช่นนี้ กำแพงทะเลแต่ละด้านแฝงไว้ด้วยพลังที่น่าหวาดกลัว สะกดกำราบมาในทันที

ทำให้ในขณะที่ผู้บำเพ็ญเผ่าสิงซากสมุทรตนนี้ร่างถอยไปชนกับข้างบนก็มีเสียงดังทุ้มดังมา แม้พลังน่าครั่นคร้ามจากระดับสร้างฐานจะทำให้กำแพงทะเลถล่มทันที แต่ด้านที่สอง สาม สี่ก็ทยอยปรากฏขึ้นทันที

พลังเวทในร่างสวี่ชิงเหนือกว่าผู้บำเพ็ญระดับเดียวกันหลายเท่า ตอนนี้มือทั้งสองข้างจากที่ไกลลิบนั่นประสานปางมือไม่หยุด ทันใดนั้นน้ำทะเลรอบๆ ก็โหมบ่าระลอกคลื่นทันที กำแพงที่หลอมสูงแต่ละด้านพุ่งไปหาผู้บำเพ็ญเผ่าสิงซากสมุทรจากทั่วทุกด้านฉับพลัน

“แค่เจ้าคนเดียวอย่างนั้นหรือ” ประกายเย็นเยือกฉายวาบขึ้นในดวงตาของผู้บำเพ็ญเผ่าสิงซากสมุทรตนนี้ ตอนนี้เขามองเห็นรอบๆ แล้วค้นพบว่ามีเพียงแค่สวี่ชิงคนเดียวเท่านั้นในที่ไกล ดังนั้นจึงหัวเราะเหี้ยมเกรียมออกมา

ส่วนพิษรอบๆ นั้นเขาไม่สนใจ เป็นเผ่าสิงซากสมุทรทั่วตัวล้วนเป็นพิษทั้งสิ้น อีกทั้งคุณสมบัติเฉพาะของร่างกายก็ทำให้เขาไม่เกรงกลัวพิษ

ดังนั้นเขาจึงเมินหมอกพิษที่นี่ สองมือประสานกำลังจะสำแดงวิชาระเบิดรอบๆ แต่เสี้ยวพริบตาต่อมาสีหน้าของเขาก็พลันเปลี่ยนไป พบว่าหลังจากที่ปีกของเขาสัมผัสกับหมอกพิษรอบๆ ก็มีสัญญาณของการถูกกัดกร่อน นี่ทำให้ในของเขาตื่นตะลึง

“นี่คือพิษอะไร!”

ในขณะเดียวกับที่สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป เนื่องจากการปิดล้อมของกำแพงรอบๆ ทำให้พิษของที่นี่รวมตัวกัน ไม่กระจายออกไป พิษร้อยกว่าชนิดเมื่อผสมรวมกันแล้วก็ทำให้ร่างของผู้บำเพ็ญเผ่าสิงซากสมุทรคนนี้เกิดเค้าของการถูกกัดกร่อนเช่นกัน

นี่ทำให้ใจของเขาตื่นตะลึงอย่างรุนแรง ในขณะที่ประสานปางมือพิษศพเข้มข้นกลุ่มหนึ่งก็แผ่ออกมา ปีกข้างหลังยิ่งกระพืออย่างรุนแรง แผ่ระลอกคลื่นพลังน่าครั่นคร้ามออกมา ยกน้ำทะเลรอบๆ ซัดไปยังกำแพงที่ล้อมรอบๆ เขาทันที

เพียงพริบตากำแพงแต่ละด้านก็ถล่ม แต่ทุกด้านที่ถล่มก็จะมีอีกสามด้านปรากฏขึ้น คำนวณจากจำนวนนี้ กำแพงทะเลรอบๆ ผู้บำเพ็ญเผ่าสิงซากสมุทรไม่ใช่แค่ไม่ลดลง กลับมีแต่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

หมอกพิษข้างในก็สำแดงพลานุภาพข้างในในเวลานี้เอง ทำให้ผู้บำเพ็ญเผ่าสิงซากสมุทรที่ถูกขังอยู่ข้างในหน้าเปลี่ยนสีอีกครั้ง ด้วยพลังของกายเนื้อที่แข็งแกร่งและการฟื้นฟู ก็ยังสัมผัสได้ถึงสัญญาณการกัดกร่อนร่างกายเพิ่มขึ้น

กระทั่งว่าเขามีความรู้สึกอย่างรุนแรงอย่างหนึ่งว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไป อย่างมากคือหนึ่งก้านธูป มีความเป็นไปได้เป็นอย่างมากว่าตนจะถูกละลายทั้งเป็น

ดังนั้นเขาจึงไม่ลังเลแม้แต่น้อย เอากระดูกสัตว์สีดำชิ้นหนึ่งออกมาทันที แววตาฉายจิตสังหาร พ่นเลือดสีน้ำเงินไปบนนั้น

กระดูกชิ้นนี้สั่นสะเทือนทันที ไอพลังประหลาดบนนั้นปะทุขึ้นทันควัน ก่อเป็นเงาดำทางหนึ่งที่เหมือนจะมีสติปัญญาของตัวเอง ส่งเสียงหัวเราะชวนอกสั่นขวัญแขวนออกมาเป็นระลอกๆ ยิ่งมีกลิ่นอายต่างหวาดกลัวแผ่ออกมา กวาดโหมไปรอบด้าน

ทุกที่ที่ผ่าน กำแพงทะเลทุกด้านที่สัมผัสกับมันถล่มลงทันที

เห็นได้ชัดว่ากระดูกสัตว์ชิ้นนี้เป็นอาวุธเวธประเภทหนึ่ง

ภายใต้การปะทุตอนนี้ก็เลือกที่จะโจมตีไปทางทิศหนึ่งอย่างรุนแรง ทิศทางนี้เล็งไปทางสวี่ชิง และผู้บำเพ็ญเผ่าสิงซากสมุทรตนนั้นก็สำแดงความเร็วสูงสุดออกมาจากการถล่มลงของกำแพงทะเลแต่ละด้านๆ พุ่งไปนอกหมอกพิษ จิตสังหารในดวงตาของเขารุนแรงแฝงไปด้วยความเย็นยะเยือก

สีหน้าของสวี่ชิงเรียบนิ่ง ในที่สุดในใจก็สงบลงในเสี้ยวขณะนี้

‘ไม่ใช่ผู้บำเพ็ญระดับสร้างฐานสภาวะแสงนภาจริงๆ ด้วย’

หากเป็นสภาวะแสงนภาไม่จำเป็นต้องทำลายกำแพงทะเลของเขาให้ยุ่งยากแบบนี้ น่าจะพุ่งชนทุกอย่างมาปรากฏตัวต่อหน้าเขาได้ในทันที อีกทั้งความเป็นไปได้ที่อีกฝ่ายเก็บซ่อนพลังเอาไว้ก็มีไม่มาก ในเมื่อที่นี่สำหรับอีกฝ่ายแล้วก็เป็นถิ่นของศัตรู

หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ความคิดนี้น่าจะโจมตีสังหารโดยเร็วที่สุดแล้วจากไปซ่อนตัว

หลังจากมีการวิเคราะห์เช่นนี้ จิตสังหารในดวงตาสวี่ชิงปะทุขึ้น ในขณะเดียวกันอาวุธเวธของผู้บำเพ็ญเผ่าสิงซากสมุทรคนนี้ในที่สุดก็ทำลายกำแพงทะเลด้านสุดท้ายลง ผู้บำเพ็ญเผ่าสิงซากสมุทรคนนี้จิตสังหารก็ตลบอวลจากการสลายไปของเงาดำ พุ่งมาหาสวี่ชิงทันที ใกล้จะเข้ามาถึงเต็มทีแล้ว

แต่สวี่ชิงเร็วกว่าเขา ร่างของเขาก้าวออกไปทันที เพียงพริบตาก็ปะทะเข้ากับเผ่าสิงซากสมุทรคนนี้เข้าอย่างจัง

ผู้บำเพ็ญเผ่าสิงซากสมุทรตนนั้นสั่นสะท้านอย่างบ้าคลั่งไปทั้งร่างท่ามกลางเสียงดังสนั่น กระอักเลือดสดๆ ออกมา ถอยหลังไปทันที ในขณะที่สีหน้าแฝงความหวาดกลัว ร่างของสวี่ชิงก็พุ่งมาอีกครั้งโดยไม่หยุดชะงักเลยแม้แต่น้อย

กริชในมือขวาแผ่เพลิงพิฆาตสีดำออกมา ต่อให้เป็นในน้ำทะเล ไฟนี้ก็ยังคงลุกไหม้ เงาร่างทั้งสองก็ปะทะเข้าหากันอีกครั้งจากที่สวี่ชิงประชิดเข้ามา

เสียงสนั่นหวั่นไหวดังก้อง หลังจากปะทะกันหลายครั้ง ผู้บำเพ็ญเผ่าสิงซากสมุทรตนนี้ก็ตกใจสงสัย มีความคิดคล้ายกับผู้บำเพ็ญเผ่าสิงซากสมุทรระดับรวมปราณขั้นบริบูรณ์คนนั้น ไอพลังประหลาดของเขาไม่มีผลกับสวี่ชิง พิษศพของเขาสู้พิษของอีกฝ่ายไม่ได้ การฟื้นฟูของเขาก็เช่นกัน

ตอนนี้จากการที่กริชของสวี่ชิงสะบัด ผู้บำเพ็ญเผ่าสิงซากสมุทรคนนี้ยกมือขวาขึ้น เงาดำบนกระดูกชิ้นนั้นก็ส่งเสียงเคี้ยกๆ ออกมาพุ่งมาหาสวี่ชิงก่อนทันที

กระทั่งว่าบนเงาดำนั้นเผยดวงตาสีแดงคู่หนึ่งฉายความโลภออกมา เห็นว่าจะประชิดเข้าใกล้ได้แล้ว แต่เสี้ยวพริบตาต่อมาเงาดำก็พลันเบิกตาโต คิดจะถอยไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว

แต่กลับสายไปแล้ว!

เสี้ยวพริบตาต่อมา เงาของสวี่ชิงที่แอบซุ่มอยู่รอบๆ ก็ปะทุขึ้นมาทันที มันจ้องเงาดำนี้นานแล้ว ตอนนี้ภายใต้ห้วงอารมณ์ก็แผ่ซ่านความหิวออกมาก่อนจะพุ่งไปทันที

เงาดำนั่นเหมือนเจอศัตรูตามธรรมชาติ ในขณะที่สั่นสะท้านไปทั้งร่างก็ส่งผลต่อความเร็วเหมือนทำให้ถูกสะเทือนจนไม่กล้าหนี ขยับเขยื้อนช้าลง

เพียงพริบตา เงาของสวี่ชิงก็พุ่งมาหามันทันที ร่างสีดำก็แยกออกเป็นปากมหึมาแล้วกลืนมันลงไปอย่างดุดัน

ในเวลาเดียวกับที่ความพึงพอใจแผ่ซ่านออกมา เงาดำถูกเจ้าเงากลืนลงไปทั้งเป็น

จากเสียงเรอที่ดังขึ้น แววตาไร้รูปร่างของมันจับจ้องไปที่ร่างของผู้บำเพ็ญเผ่าสิงซากสมุทรที่สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมหาศาล

ในแววตาของผู้บำเพ็ญเผ่าสิงซากสมุทรคนนี้เผยความตื่นกลัวออกมา ร่างถอยไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว แต่ในเสี้ยวพริบตาที่เขาถอยไปก็มีเสียงกระดิ่งถี่รัวดังมาเป็นระลอกๆ เสียงนี้มาพร้อมด้วยความศักดิ์สิทธิ์กลุ่มหนึ่ง สามารถทะลุกายเนื้อไปยังวิญญาณได้

ในเสี้ยวพริบตาที่ดังเข้าไปในหูของผู้บำเพ็ญเผ่าสิงซากสมุทรคนนี้ ร่างของเขาก็หยุดชะงักอย่างควบคุมไม่ได้ แม้ไม่นานนักก็สลัดหลุดได้ แต่เสียงกระดิ่งก็ประชิดเข้ามาแล้ว

ประกายดำฉายวาบ เหล็กแหลมสีดำทิ้งกระดิ่ง ความเร็วปะทุโดยสมบูรณ์ พุ่งทะลุหว่างคิ้วเผ่าสิงซากสมุทรตนนี้ วนอ้อมรอบหนึ่งก็พุ่งทะลุคอของเขา แล้วจึงหอบกระดิ่งลอยอีกครั้ง

ในขณะเดียวกัน เพลิงพิฆาตสีดำทั้งร่างสวี่ชิงก็พวยพุ่งขึ้น เหมือนแปรเปลี่ยนเป็นมนุษย์เพลิง เขาก็กระตุ้นวิเศษเวทขนนกบนร่างขึ้น

ในเสี้ยวพริบตาที่กระตุ้นขนนก ความเร็วของสวี่ชิงก็เพิ่มขึ้น เพียงก้าวเดียวก็แหวกระลอกคลื่นน้ำทะเลที่ซัดโหม ความเร็วทั้งตัวมาถึงขีดจำกัดสูงสุด มาถึงข้างหน้าผู้บำเพ็ญเผ่าสิงซากสมุทรที่รูม่านตาหดเล็ก ได้รับบาดเจ็บสาหัสทันที

กริชในมือขวาจมเข้าไปในคอของอีกฝ่ายแล้วปาดอย่างโหดเหี้ยมทันที เลือดสีฟ้าพุ่งกระฉูดทันควัน ในขณะที่เสียงร้องน่าสังเวชแหบแห้ง กริชของสวี่ชิงก็แปรเปลี่ยนเป็นเพลิงดำทะลักเข้าไปในบาดแผลของผู้บำเพ็ญตนนี้ แทรกเข้าไปในกายแล้วเผาไหม้อย่างโหดเหี้ยม

เผ่าสิงซากสมุทรตนนี้กำลังจะดิ้นรน แต่เข่าของสวี่ชิงก็ยกขึ้นแล้วแทงเข่าไปที่คอของมัน

เสียงบึ้มดังขึ้น ร่างของผู้บำเพ็ญเผ่าสิงซากสมุทรคนนี้สะเทือนจนเกือบแหลกสลาย ส่วนการเผาไหม้วิญญาณจากเพลิงดำก็ทำให้เผ่าสิงซากสมุทรตนนี้ส่งเสียงร้องโหยหวนออกมา

ในขณะที่ดิ้นรนอย่างรุนแรง เงาก็เข้ามาใกล้ แผ่ลามไปที่ขาทั้งสองของเผ่าสิงซากสมุทร ทุกที่ที่ผ่านก็ทำให้เผ่าสิงซากสมุทรตนนี้สั่นสะท้านรุนแรงจนถึงขีดสุด เสียงร้องก็เปลี่ยนเสียงไป

ที่ที่เงาปกคลุมเร่งการกัดกร่อนของร่างมัน เหมือน…สภาวะศพสมุทรเปลี่ยนเป็นศพของจริง

นั่นเป็นเพราะไอพลังประหลาดในร่างของมันกำลังถูกเจ้าเงากลืนกินอย่างบ้าคลั่ง และทางเมื่อเจ้าเงากลืนกินเข้าไป ร่างกลับแผ่กลิ่นอายเผ่าสิงซากสมุทรออกมาร่างๆ

ส่วนเหล็กแหลมสีดำก็ไม่อยู่เฉย มันพุ่งไปยังอาวุธเวทกระดูกที่อยู่ข้างๆ หลังจากที่แทงทะลุเข้าไปอย่างโหดเหี้ยม บรรพจารย์สำนักวัชระที่อยู่บนนั้นก็แปลงกายดูดอาวุธเวทกระดูก อาวุธเวทชิ้นนั้นสั่นสะท้านทันที วิญญาณในนั้นถูกบรรพจารย์สำนักวัชระดูดไปอย่างรวดเร็ว

เหตุการณ์นี้ดำเนินไปหนึ่งก้านธูป ท่ามกลางความสิ้นหวังของผู้บำเพ็ญเผ่าสิงซากสมุทร การกระเสือกกระสนของเขาก็อ่อนแรงลงเรื่อยๆ สุดท้ายเสียงบึ้มดังขึ้น ร่างกายสูญสิ้นไอพลังประหลาดทั้งหมด สูญเสียวิญญาณกลายเป็นเศษเถ้าแผ่กระจายไปในน้ำทะเล

อาวุธเวทกระดูกนั่นก็เช่นกัน กลายเป็นเศษฝุ่น

ความฮึกเหิมตื่นเต้นฉายวาบในดวงตาสวี่ชิง วิญญาณของเผ่าสิงซากสมุทรในร่างตอนนี้เหมือนฟืน กำลังเผาไหม้อย่างบ้าคลั่ง ทะลวงไปยังช่องเวทที่ยี่สิบเอ็ด

เสียงบึ้มดังขึ้น ร่างสวี่ชิงสั่นสะท้าน ประกายแสงฉายวาบในตา ช่องเวทที่ยี่สิบเอ็ดของเขาทะลวงเปิดแล้ว! 艾琳小說

จากการไหลทะลักของพลังวิญญาณ จากการหล่อเลี้ยงของพลังเวท สวี่ชิงหันไปมองค่ายกลพลางหรี่ตาลง

เขาไม่ได้ทำลายมันทิ้ง แต่จัดวางกับดักต่อ รอคอยอย่างเงียบๆ ขณะเดียวกันก็มองไปทางเงา

เมื่อครู่เขาสัมผัสได้ว่าขณะที่มันกลืนกินเผ่าสิงซากสมุทร ตัวมันก็แผ่กลิ่นอายเผ่าสิงซากสมุทรออกมา ดังนั้นจึงเริ่มครุ่นคิด

เวลาไหลไป สวี่ชิงเสียดายเล็กน้อย เขารอตนที่สองไม่ได้แล้ว

อย่างไรเสียเผ่าสิงสมุทรก็ไม่ได้โง่ หลังจากส่งข้ามมาแล้วคนหนึ่งก็น่าจะไหวตัวทัน ดังนั้นรออยู่นานก็ไม่มีตนที่สองออกมา สวี่ชิงจึงทำลายมันทิ้งเสียเลย แล้วไปหาค่ายกลส่งข้ามแห่งต่อไป

ส่วนเงาก็เห็นได้ชัดว่าไอพลังประหลาดเข้มข้นขึ้น อีกทั้งเหมือนว่าได้ลิ้มรสผลประโยชน์ ความปรารถนายิ่งมีมากกว่าสวี่ชิงเสียอีก ทุ่มสุดตัวค้นหายิ่งกว่าเดิม

ส่วนบรรพจารย์สำนักวัชระ ระลอกคลื่นพลังก็เพิ่มขึ้น เห็นได้ชัดว่ากลืนกินอาวุธเวทของอีกฝ่ายเขาก็ได้รับประโยชน์มากมายเช่นกัน

นี่ทำให้สวี่ชิงลังเลเล็กน้อย อย่างไรเสียอาวุธเวทก็สามารถขายได้เงินได้

“นายท่านเมื่อครู่ข้าควบคุมไม่อยู่ ครั้งต่อไปข้าดูดเจ็ดส่วน เหลือสามส่วน แบบนี้ก็สามารถขายได้ ข้าเป็นกายวิญญาณอาวุธ ข้ามีความมั่นใจในการจัดการ คนรับซื้อยากจะค้นพบ

“แต่ข้าแนะนำว่าทางที่ดีนายท่านอย่าขายให้สำนัก ข้ารู้จักตลาดมืดมากมายที่พวกเราจะเอาไปขายได้” บรรพจารย์สำนักวัชระเป็นคนเจ้าเล่ห์ในหมู่คนเจ้าเล่ห์ สวี่ชิงแค่เปลี่ยนสีหน้าเขาก็เดาเหตุผลได้แล้ว จึงรีบเอ่ยขึ้นอย่างระมัดระวัง

สวี่ชิงปรายตามองเหล็กแหลมสีดำแวบหนึ่ง ไม่พูดอะไร

หลังจากนั้นหนึ่งวัน สวี่ชิงก็หาค่ายกลส่งข้ามที่ซ่อนอยู่ในรอบแยกแผ่นดินแห่งหนึ่งในโลกใต้สมุทรเจอภายใต้การทุ่มสุดตัวของเจ้าเงาเช่นนี้เอง หลังจากวางกับดักที่นี่ เขาก็นั่งขัดสมาธิรอ

เพียงพริบตาก็ผ่านไปหลายวัน ในขณะที่สวี่ชิงกำลังจะตัดสินใจทำลายทิ้งหาค่ายกลแห่งต่อไป ค่ายกลที่เขานั่งเฝ้าค่ายกลนี้ จู่ๆ ก็แผ่ระลอกคลื่น!

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา

Status: Ongoing
เมื่อเขากลายเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวในเมืองที่ถูกพลังของเทพเจ้าทำลายล้าง…รายละเอียดกำลังภายใน-เทพเขียนเรื่องใหม่จากนักเขียนชื่อดัง ‘เอ่อร์เกิน’ ผู้เขียน ‘หนึ่งความคิดนิจนิรันดร์’ ‘สู่วิถีสุรา’ ฟื้นลิขิตฟ้าข้าขอเป็นเขียน’ ‘หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา’ เมื่อเทพเจ้าลืมตาจับจ้องมา โลกก็เกิดการเปลี่ยนแปลง ไอพลังประหลาดกระจัดกระจายไปทั้งโลกมนุษย์ เกิดการกลายพันธุ์ต่อสรรพชีวิตบนโลก ‘สวี่ชิง’ เด็กหนุ่มผู้รอดชีวิตใช้ชีวิตเพียงลำพัง ดิ้นรนเอาตัวรอดจากอสูรร้ายและไอพลังประหลาดได้พบกับพลังวิเศษ แต่ในโลกกลียุคเช่นนี้ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นจึงจะมีชีวิตรอด เพื่อที่จะแก้แค้นให้กับคนที่รัก เพื่อตามหาครอบครัวที่อาจจะมีชีวิตอยู่ที่ใดสักแห่ง เขาจะต้องแข็งแกร่งขึ้นให้ได้ . . . เขาต้องรอด!!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท