วันอาทิตย์
หลังจากช่วงเวลาอันแสนวิเศษเมื่อวาน ผมก็กลับมาทำหน้าที่ของตัวเอง
ผมไปทำงานพาร์ทไทม์ตามปกติในวันนี้
ปิ๊งป่อง!
เสียงเพลงของประตูอัตโนมัติดังขึ้นพร้อมกับคำพูดของผม “ยินดีต้อนรับครับ”
ลูกค้าก็คือซาเองุสะซังที่แต่งตัวเหมือนวันอื่นๆ
เมื่อเธอสบตากับผมเธอก็มุดหน้าลงไปซ่อนในผ้าพันคอและรีบเดินไปที่มุมนิตยสาร
ผมก็ยังอดขำกับซาเองุสะที่ยังคงทำตัวน่าสงสัย แม้ว่าเมื่อวานพวกเราจะอยู่ด้วยกันก็ตาม
ผมรู้สึกพอใจที่จะได้ทำการ “จ้องมองการกระทำของซาเองุสะซัง” ซึ่งกลายเป็นงานอดิเรกของผมตอนทำงานไปซะแล้ว
สิ่งแรกที่เธอทำก็คือหยิบนิตยสารออกมาเล่มนึงและเปิดมันอย่างรวดเร็วราวกับเธอไม่ได้อ่านมันเลย
จากนั้นเธอก็เก็บเล่มแรกแล้วเธอก็หยิบอีกเล่มมาเปิดผ่านๆต่อโดยไม่ได้สนใจจะอ่านเลย
แต่ว่าทันทีที่ผมคิดแบบนั้นใบหน้าของเธอก็แดงก่ำไปทั้งหน้า
เกิดอะไรขึ้นน่ะ? ผมลองมองนิตยสารในมือของเธอชัดๆ ก็พบว่ามันคืออัลบั้มภาพของเธอเองในชุดที่ดูวาบหวิว(aka กราเวียร์)
ซาเองุสะซังวางนิตยสารเล่มนั้นลงก่อนจะสูดหายใจลึกๆเพื่อดึงตัวเองกลับมา
ท่าทางแบบนั้นมันน่ารักสุดๆจนผมอยากจะเข้าไปปลอบเธอเลย
แล้วเธอก็หยิบตะกร้าขึ้นมาและหยิบพุดดิ้ง คัพเค้กและชานมลงในตะกร้าและเดินมาที่แคชเชียร์
ผมตั้งสติและเริ่มทำหน้าที่
แต่ดูเหมือนว่าซาเองุสะซังที่ยังคงอายเรื่องนิตยสารอยู่ก็จ้องมองผมตาไม่กระพริบ
เธอคงคิดว่าผมยังไม่รู้ตัวจริงของเธองั้นสินะ แม้ว่าเราเมื่อวานจะอยู่ใกล้กันประมาณนี้ก็ตาม แต่ผมก็ทำเป็นไม่รู่ไม่ชี้ต่อไป
“ทั้งหมด 532 เยนครับ—”
“นี่ค่ะ!”
เธอะอาแบงค์พันเยนออกมาก่อนที่ผมจะพูดจบซะอีก
ดูเธอจะสนุกกับการทำแบบนี้มากเลยนะ
นี่เธอไม่คิดจะจ่ายมาแบบพอดีๆเลยสินะเนี่ย ผมจึงรับเงินมาและทอนกลับไป
เป็นอีกครั้งที่เธอกุมมือผมไว้ตอนที่รับเงินไปอย่างระมัดระวัง
“อ๊ะ!”
ดูเหมือนเธอจะเห็นว่าวันนี้ผมใส่กำไลของชิโอรินมานะ
“คุณลูกค้าครับ…..มือครับมือ”
มือของผมยังถูกเธอกุมเอาไว้อยู่ผมจึงกล่าวเตือนโดนข่มความอายไว้ ซาเองุสะซังที่เพิ่งจะรู้ตัว ก็รีบเอาเงินเก็บในกระเป๋าและรีบเดินออกไปจากร้าน
ผมขำออกมาระหว่างที่มองซาเองุสะซังผู้น่าสงสัยเดินออกไป
ผมโล่งใจนะเพราะถึงเมื่อวานมันจะเกิดเรื่องหลายๆอย่าง แต่พวกเราสองคนก็ยังทำตัวเป็นปกติได้
ผมทำงานต่อไปอย่างมีความสุข