บทที่ 232 การรวมตัวของยอดมนุษย์
หลังจากที่ไป๋เยี่ยหารือกับอาจารย์ที่ปรึกษาแล้ว เขาก็วางแผนจะเปลี่ยนแผนกฝึกงานหลังปีใหม่หรือในเดือนมกราคมนั่นเอง ซึ่งตามตารางแล้วก็ควรจะเป็นแผนกศัลยกรรมกระดูก
ไป๋เยี่ยตั้งตารอที่จะได้เข้าฝึกงานในแผนกศัลยกรรมกระดูกมาโดยตลอด เพราะตั้งแต่ที่ได้รับทักษะการผ่าตัดเลเวลห้าแล้ว เขาก็ไม่เคยมีโอกาสแสดงฝีมือเลย
อย่างไรไป๋เยี่ยก็ยังคงชื่นชอบการทำงานในวอร์ดมากกว่าการทำงานวิจัยแสนน่าเบื่ออยู่ดี
หลังจากจัดการเรื่องต่างๆ ให้เรียบร้อยแล้ว ไป๋เยี่ยก็ไปรายงานตัวกับแผนกศัลยกรรมกระดูกตั้งแต่เนิ่นๆ อีกทั้งคลาสของเขาก็กำลังจัดงานเลี้ยงรับปีใหม่อยู่ด้วย ว่ากันตามตรง ตั้งแต่เปิดเทอมมา ไป๋เยี่ยแทบไม่ได้สังสรรค์กับใครเลยยกเว้นเมื่ออยู่ในหอพัก เขาไม่เคยได้ทำกิจกรรมร่วมกับคลาสเลย
แน่นอนว่าสาเหตุหลักๆ ก็คือเขางานยุ่งมาก
นอกจากนี้ ในแวดวงการวิจัยด้านการแพทย์ระดับนานาชาติก็เริ่มเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้น หลังจากที่วารสาร ‘การแพทย์ผู่เจ๋อ’ สมัยใหม่ถูกตีพิมพ์ออกไป
การถือกำเนิดของทฤษฎีจุลชีพภายในลำไส้จะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง
ผู้ที่เข้าใจความผันแปรของยุคสมัยย่อมควบคุมอนาคตได้
เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ประธานสาขาทวารหนักจากสมาคมศัลยแพทย์นานาชาติได้จัดงานแถลงข่าวขึ้น ได้รับความสนใจจากสื่อและสถาบันวิจัยจากทั่วทุกมุมโลก
ทุกคนรู้ดีว่าสิ่งที่จะถูกประกาศในงานแถลงข่าวครั้งนี้จะต้องเป็นข่าวใหญ่อย่าง ‘รางวัลผลงานดีเด่น‘ แน่นอน
งานแถลงข่าวครั้งนี้จึงเรียกได้ว่าเป็นการรวมตัวของเหล่ายอดมนุษย์ มีทั้งสื่อในแวดวงวิทยาศาสตร์และวิชาการมากมายจากทั่วทุกมุมโลกมารวมตัวกัน
เจียลี่ ประธานสมาคมประธานสาขาทวารหนักขึ้นกล่าวต่อหน้าสาธารณชน
“หลังจากที่ใช้เวลาสองเดือนไปกับการอภิปรายและการตรวจสอบ ในที่สุดเราก็ได้ผู้ชนะของรางวัลผลงานดีเด่นประจำสาขาทวารหนักสมาคมศัลยแพทย์นานาชาติครั้งที่สิบสองที่ผ่านการโหวตจากทางสมาคมและการรับรองจากมูลนิธิแล้วครับ”
“ผู้ชนะคือ ‘ไป๋เยี่ย’ จากประเทศจีนครับ อันที่จริงทางเราได้วางแผนที่จะมอบรางวัลนี้ให้กับเขาในการประชุมประจำปีแล้ว แต่เนื่องจากเพิ่งมีการเสนอทฤษฎีจุลชีพภายในลำไส้ขึ้นมา ซึ่งยังคงขาดผลการทดลองและตัวทฤษฎีก็ยังไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเป็นระบบ ทางเราจึงตัดสินใจเลื่อนการประกาศรางวัลออกไปก่อน”
“หลังจากที่ใช้เวลาพัฒนาอยู่พักหนึ่ง แนวคิดจุลชีพภายในลำไส้ของไป๋เยี่ยก็ถูกตั้งเป็นทฤษฎีที่ค่อนข้างสมบูรณ์เลยครับ โดยทฤษฎีนี้มีส่วนช่วยอย่างมากต่อการพัฒนาทางการแพทย์และสรีรวิทยา ทฤษฎีนี้จะทำให้แนวทางการวินิจฉัย การรักษา การป้องกันการเกิดและพัฒนาของโรคทางลำไส้เปลี่ยนแปลงไป…เพราะฉะนั้น…บัดนี้ รางวัลผลงานดีเด่นจึงตกเป็นของคุณไป๋เยี่ย เขาสมควรที่จะได้รับมันจริงๆ!”
เจียลี่ประกาศต่อหน้าสื่อมวลชนจากทั่วทุกมุมโลก ผู้คนในแวดวงวิชาการต่างพากันตื่นเต้น
รางวัลผลงานดีเด่นเป็นรางวัลที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลกและเป็นรางวัลที่ทบยอดมาเรื่อยๆ มีเพียงผู้ที่มีส่วนร่วมในการวินิจฉัย การรักษาและเสนอแนวทางพัฒนาองค์ความรู้ด้านโรคทางลำไส้เท่านั้นที่จะได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการ
ยิ่งช่วงนี้ไป๋เยี่ยก็เป็นที่กล่าวขานจนได้ขึ้นปกวารสารชั้นนำในวงการมากมาย
ทว่ากลับไม่มีใครรู้ประวัติหรือประสบการณ์ในแวดวงวิชาการของไป๋เยี่ยมากนัก
นักข่าวจากวารสารอเมริกันเจ้าหนึ่งชิงเปิดประเด็นขึ้นก่อน “คุณเจียลี่ช่วยแนะนำคุณไป๋เยี่ยโดยละเอียดได้ไหม พวกเรายังไม่ค่อยรู้จักคุณไป๋เยี่ยกันเท่าไหร่เลย”
คำถามของนักข่าวคนนี้ได้รับการสนับสนุนจากหลายคน เพราะพวกเขายังรู้จักไป๋เยี่ยไม่มากนัก
ไม่ค่อยมีใครรู้เรื่องการประชุมประจำปีที่ญี่ปุ่นเท่าไหร่ รู้เพียงแค่มีคนชื่อไป๋เยี่ยออกมาเสนอทฤษฎีใหม่ตอนจบงานเท่านั้น
แต่เมื่อทุกคนกำลังเดินทางไปดูเหตุการณ์ที่ญี่ปุ่น พวกเขากลับพบว่าไป๋เยี่ยไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว แต่กลับมาทำการทดลองที่ปักกิ่งแทน
เรื่องนี้จึงดูลึกลับขึ้นมาอย่างไม่น่าสงสัย
หลังจากนั้น ประเทศญี่ปุ่นก็ได้ตีพิมพ์วารสาร ‘การแพทย์เอเชีย‘ ฉบับพิเศษขึ้นเพื่อแสดงความก้าวหน้าทางการพัฒนาองค์ความรู้ด้านจุลชีพภายในลำไส้ของญี่ปุ่น ไป๋เยี่ยก็ได้หว่านผลงานไว้ในวารสารการแพทย์ชื่อดังหลายเจ้าจากทั่วทุกมุมโลก
บทความที่เขาตีพิมพ์ปรากฏอยู่บนหน้าปก หัวข้อของบทความบ่งบอกให้ชาวโลกรู้จักชื่อของ ‘ไป๋เยี่ยจากประเทศจีน‘ ผู้คิดค้นทฤษฎีจุลชีพภายในลำไส้
หลีอวี่หรานที่นั่งอยู่ในออฟฟิศพลอยรู้สึกตื้นตันใจไปด้วยเมื่อเห็นว่าไป๋เยี่ยได้รับรางวัลผลงานดีเด่น
เธอดูจะตื่นเต้นมากกว่าไป๋เยี่ยด้วยซ้ำ เพราะเธอรู้จักไป๋เยี่ยดีกว่าคนอื่นๆ ยิ่งได้ยินว่ามีคนอีกมากมายที่ยังไม่รู้จักไป๋เยี่ย เธอก็ยิ่งรู้สึกประหลาดใจ
เจียลี่ยิ้ม “พรุ่งนี้ทางเราจะเดินทางไปประเทศจีนเพื่อมอบรางวัลให้กับไป๋เยี่ยกับมือ จากนั้นทุกท่านก็จะได้พบกับยอดอัจฉริยะผู้นี้ แต่…ก็มีบางอย่างที่พอจะเปิดเผยให้ทุกท่านก่อนได้ ใบหน้าของเขาจะทำให้ทุกท่านได้ซาบซึ้งไปกับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์อย่างแน่นอน”
คำพูดของเจียลี่สร้างปริศนาในใจให้กับทุกคนอีกครั้ง ใครคือไป๋เยี่ย แล้วไป๋เยี่ยมีหน้าตาอย่างไร
บทความของไป๋เยี่ยถูกตีพิมพ์ลงบนวารสาร แต่กลับไม่มีใครรู้อะไรเกี่ยวกับไป๋เยี่ยเลย
หลังจากงานแถลงข่าวจบลง สื่อของวารสารต่างๆ ก็เริ่มค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับไป๋เยี่ย
ไม่ขวนขวายก็ไม่มีทางรู้ ไป๋เยี่ยเปรียบเสมือนขุมทรัพย์ล้ำค่าที่เมื่อทุกคนขุดขึ้นมาต่างต้องพากันตะลึงงัน
ไป๋เยี่ยเป็นคนเก่งจริงๆ!
เขาเป็นผู้ค้นพบสารอาร์เทแอนนิวอินชนิดใหม่! ซึ่งการค้นพบครั้งนั้นได้ช่วยชีวิตผู้คนไว้มากมาย
นอกจากนี้ยังมีเกณฑ์บีพีเอฟเอชของสถาบันทดลองเอ็มไอโอที่ถูกเสนอโดยไป๋เยี่ย
เกณฑ์บีพีเอฟเอชสร้างผลกระทบเป็นวงกว้างให้กับแวดวงสัตววิทยาทดลอง จนกล่าวได้ว่าเป็นหลักชัยแห่งนวัตกรรมที่สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของเกณฑ์เอ็มไอโอ-บีพีเอฟเอชต่อโลกใบนี้ ทั้งยังสร้างมาตรฐานให้กับตลาดสัตว์ทดลองอีกด้วย 艾琳小說
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังลบล้างข้อครหาของด็อกเตอร์ไมคัส ทรานส์ลีผู้ยิ่งใหญ่ โดยค้นพบยีนที่ไม่เสถียรในหนูเคเอ็ม และเพาะพันธุ์หนูเคเอ็มพันธ์ใหม่ที่มียีนเสถียรขึ้นสำเร็จ
เมื่อทุกคนได้ประจักษ์ถึงความสำเร็จของไป๋เยี่ยต่างก็พากันเงียบไปทันที ความสำเร็จของเขาเปรียบดั่งแผนที่ขนาดใหญ่ที่ผู้คนมองเห็นเป็นเพียงหมู่บ้านเริ่มต้นเท่านั้น ทว่าภายหลังกลับต้องตกตะลึงกับความกว้างขวางสุดลูกหูลูกตา
ชายผู้นี้มีส่วนช่วยอย่างมากในการพัฒนางานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์โดยที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อน
เดิมทีใครๆ ต่างก็มองว่าเขาแค่โชคดีที่บังเอิญค้นพบทฤษฎีใหม่
แต่ตอนนี้เขากลับกลายเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง เป็นอัจฉริยะผู้อยู่นอกกรอบทว่ากลับเปี่ยมไปด้วยคุณธรรมและชื่อเสียงอันเลื่องลือ
ยามที่ผู้อื่นประสบความสำเร็จต่างกลายเป็นสุดยอดบุคคลสาธารณะด้วยอิทธิพลสื่อ ในขณะที่ไป๋เยี่ยเอาแต่ขลุกอยู่ในห้องแล็บ คอยมีส่วนร่วมในการพัฒนามวลมนุษยชาติ
ตอนนี้ผู้คนต่างกำลังรอคอยพิธีมอบรางวัลด้วยความหวังว่าจะได้พบกับยอดนักวิทยาศาสตร์ในงาน
หลังจากที่หลีอวี่หรานได้อ่านข้อมูลมากมายเกี่ยวกับไป๋เยี่ยแล้ว ในใจของเธอก็ปนเปไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เธอคิดว่านี่คือสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ตัวจริงควรทำ ไม่ใช่การเข้าร่วมงานประชุมมากแสงสีหรือการประกาศความยิ่งใหญ่ของตนเองต่อหน้าสื่อ แต่เป็นการลงมือทำเรื่องต่างๆ จริงๆ
หลังจากที่หลีอวี่หรานตัดสินใจถอดวารสาร ‘การแพทย์ผู่เจ๋อสมัยใหม่’ ออกจากเอซีไออีในตอนแรก เธอก็ไม่ได้ออกตัวอะไรมากมาย ไม่ได้ใช้ตัวตนและสถานะของตนเองมาเป็นสิ่งกดดัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงบรรดาคำพูดที่ไม่มีประโยชน์ เธอเพียงแค่เปลี่ยนแปลงตนเองเพื่อปรับปรุงอิทธิพลของวารสารเท่านั้น
ตอนนี้เธอตั้งตารอที่จะได้พบกับไป๋เยี่ยอย่างยิ่ง เธออยากรู้จักตัวตนของไป๋เยี่ย ถึงขั้นคิดว่าถ้าไป๋เยี่ยมีอายุน้อยกว่าเธอไม่กี่ปีแบบนี้ ไม่ใช่ตาเฒ่าวัยหกสิบเจ็ดสิบปี เธอก็อาจจะหลงรักเขาก็เป็นได้…
ในที่สุดก็มีข่าวประกาศออกมาในขณะที่ทุกคนกำลังตั้งตารอ
‘เจียลี่ ประธานสาขาทวารหนักจากสมาคมศัลยแพทย์นานาชาติมาเยือนประเทศจีนและมอบรางวัลให้ไป๋เยี่ย’
สื่อมวลชนจากทั่วทุกสารทิศมารวมตัวกันที่ปักกิ่งในช่วงเวลาสั้นๆ โดยหวังว่าจะได้รับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับไป๋เยี่ยบ้าง