กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี – บทที่ 226 ฉันชื่อหรูฮวา

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

บทที่ 226 ฉันชื่อหรูฮวา

บทที่ 226 ฉันชื่อหรูฮวา

เหล่าไต้ยิ้มอย่างเกรงใจ “กินสิ กินสิ”

เซี่ยชิงหยวนนั่งยอง ๆ ใต้โต๊ะถือชามวุ้นกุ้ยหลิงไว้ในมือ อยากจะร้องไห้แต่กลับไม่มีน้ำตา

ดูเหมือนว่าเธอคงต้องอธิษฐานให้เทพหายนะทั้งสองนั่นรีบกินและจากไปจะง่ายกว่า

น่าเสียดายที่เธอไม่ได้โชคดีขนาดนั้น ก่อนที่เหล่าไต้จะไปทักทายพวกเขา ฟู่ชุนไจ่ก็พบเหล่าไต้เช่นกัน

เขายกมือขึ้น “เหล่าไต้บังเอิญจัง”

เหล่าไต้อยากจะยืนขึ้นโดยไม่รู้ตัว แต่ในขณะที่เขากำลังจะขยับ กางเกงของเขาก็ถูกจับอีกครั้ง และเขาก็ขยิบตาอย่างสิ้นหวัง

ไม่ว่าตอนนี้เขาจะโง่แค่ไหน เขาก็พอเดาความจริงได้แล้ว

เซี่ยชิงหยวนกำลังหลีกเลี่ยงคนเหล่านี้

แต่เหตุใดเธอจึงกลัวคนพวกนี้? จู่ ๆ เหล่าไต้ก็จำข่าวลือตอนที่เซี่ยชิงหยวนมากว่างโจวเมื่อครั้งล่าสุดได้ว่า โจวจิ่นจือถูกผู้หญิงคนหนึ่งข่มขืน

แม้เขาจะไม่ต้องการยอมรับจริง ๆ แต่เขาก็เริ่มสงสัยว่าเซี่ยชิงหยวนอาจเป็นผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม?

เขารู้สึกว่าเซี่ยชิงหยวนอาจเป็นผู้หญิงคนนั้น

เขาลุกขึ้นยืนอย่างเร่งรีบ ก้าวไปข้างหน้าสองก้าวทักทายกับฟู่ชุนไจ่ และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “พี่ชุน คุณก็มากินขนมหวานด้วยเหรอ? มานั่งข้างนอกกันเถอะ อากาศข้างนอกดีกว่าเยอะเลย”

ในขณะที่เขาพูด เขาคล้องแขนฟู่ชุนไจ่จะพาออกไปนั่งข้างนอก

ฟู่ชุนไจ่ขืนร่างกายของเขาไว้ งงงวยกับความกระตือรือร้นอย่างกะทันหันของเหล่าไต้

เขาชี้ไปที่พัดลมเพดานและโต๊ะที่เหล่าไต้นั่งอยู่ตอนแรก “ถ้านายอยากไปนั่งข้างนอกก็ไปนั่งเองสิ งั้นเราจะนั่งข้างในแทน”

โจวจิ่นจือชำเลืองมองแล้วเบือนสายตาไปทางอื่น

แต่เมื่อตระหนักถึงสิ่งที่เขาดูเหมือนจะเห็นเมื่อกี้นี้ เขาก็ต้องหันกลับมาอีกครั้ง

เขาเห็นชายกระโปรงสีเหลืองห่านของใครบางคนที่หมอบอยู่ใต้โต๊ะตัวนั้น

แม้ว่าเขาจะไม่เห็นใบหน้า แต่เขาก็จำเธอได้เพียงแค่มองแวบแรก

เขาคิดถึงข้อมือขาวของเธอ และคิดถึงก้นกลมที่เธอบิดต่อหน้าเขาในคืนนั้นอย่างอธิบายไม่ได้

ปากของเขาเริ่มแห้ง

เมื่อเริ่มรู้สึกอึดอัด เขาก็เตรียมจะเรียกฟู่ชุนไจ่ออกไป

แต่แล้วฟู่ชุนไจ่ก็คล้องแขนของเขาก่อนที่เขาจะได้ทันก้าวออกไป “ไปกันเถอะ ลูกพี่ นั่งตรงนั้นกันเถอะ”

และทิศทางที่โจวจิ่นจือถูกลากไปคือโต๊ะที่เหล่าไต้เคยนั่งอยู่

โต๊ะอยู่ห่างจากที่พวกเขายืนอยู่เพียงไม่กี่ก้าว เซี่ยชิงหยวนอดไม่ได้ที่จะหัวใจเต้นรัวเมื่อเห็นเท้าคู่หนึ่งเดินมาหาเธอ

เธอกำชามในมือแน่นและจ้องมองที่เท้าเหล่านั้นจนกระทั่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ

ฟู่ชุนไจ่มาหยุดอยู่ข้างหน้าเธอและตะโกนเสียงดัง “อา สาวสวยเธอนี่เอง!”

เซี่ยชิงหยวนตัวสั่นด้วยความตกใจ และลุกขึ้นยืนจากใต้โต๊ะบราวนี่ออนไลน์

แย่ที่สุด เธอปิดหน้าแล้วเตรียมจะวิ่งออกไป!

แต่เธอลืมไปว่าตัวเองมุดอยู่ใต้โต๊ะ และเมื่อเธอลุกขึ้นอย่างกะทันหัน หัวของเธอก็ชนโต๊ะอย่างแรง

ด้วยเสียงดัง ‘ปัก!’ ดวงตาของเซี่ยชิงหยวนเหมือนเห็นดาวบินวนอยู่รอบๆ

เธอจับชามในมือไม่แน่นนัก และมันก็กระเด็นทันที

และด้วยความบังเอิญ วุ้นกุ้ยหลิงทั้งชามก็หกใส่หลังเท้าของโจวจิ่นจือ

โจวจิ่นจือบังเอิญสวมรองเท้าแบบหุ้มข้อสีขาวคู่หนึ่ง ดังนั้นเมื่อวุ้นกุ้ยหลิงสาดใส่มันและชามก็คว่ำลงบนรองเท้า มันดูน่าเกลียดมากเหลือเกิน

เซี่ยชิงหยวนเงยหน้ามองอีกครั้ง เพียงรู้สึกว่าใบหน้าของโจวจิ่นจือมืดยิ่งกว่าวุ้นกุ้ยหลิงซะอีก

เธอเสร็จแน่!

ฟู่ชุนไจ่และเหล่าไต้ตกใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน และพวกเขาไม่กล้าที่จะพูดอะไรไปชั่วขณะ

เซี่ยชิงหยวนยืนขึ้น มือของเธอก็เปรอะเปื้อนน้ำเชื่อมและถูนิ้วอย่างรู้สึกผิด

เธอชำเลืองมองโจวจิ่นจือและก้มศีรษะลง

เหล่าไต้เป็นคนแรกที่ตอบสนอง

เขาก้าวมายืนบังหน้าเซี่ยชิงหยวน ยิ้มน่าเกลียดยิ่งกว่าร้องไห้ “พี่โจว น้องสาวของฉันคนนี้โง่เขลาจริงๆ พี่อย่าถือสาเธอเลยนะ เดี๋ยวกลับไปฉันจะสอนเธอให้ดีเลย”

โจวจิ่นจือมองผ่านเหล่าไต้ไปที่ร่างของเซี่ยชิงหยวน

เมื่อเธอก้มศีรษะลง เขาสามารถมองเห็นคอที่เรียวยาวและสวยงามของเธอได้ ราวกับหงส์ขาวที่สง่างาม

หัวใจของโจวจิ่นจือเต้นแรงอย่างอธิบายไม่ถูก

เขาก้มลงไปหยิบชามที่คว่ำใส่เท้าของเขาออกแล้วพูดว่า “ไปกันเถอะ”

เซี่ยชิงหยวนนั่งยอง ๆ บนพื้น มองชามกระเบื้องตราไก่หมุนเป็นวงกลมอยู่บนพื้นและพูดอะไรไม่ออก

แต่ฟู่ชุนไจ่ยังไม่อยากออกไป

เขาหยุด “ลูกพี่ ทำไมต้องรีบออกไปด้วย? อย่างน้อยถามก่อนสิว่าสาวสวยชื่ออะไร!”

มันนานมากแล้วตั้งแต่เธอจากไปครั้งล่าสุด และเธอก็จากไปอย่างลึกลับ วันนี้ลูกพี่ของเขาได้มาเจอกับเธออีกครั้ง จะจากไปเฉย ๆ ได้ยังไง?

เขาถามเซี่ยชิงหยวน “เฮ้ สาวสวย เธอชื่ออะไร?”

เหล่าไต้ได้แต่ยิ้มและพูดว่า “พี่ชุน ได้โปรด”

โจวจิ่นจือแสดงความอดกลั้นบนใบหน้าของเขา และเขากำลังจะจากไปจริง ๆ

เซี่ยชิงหยวนเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ฟู่ชุนไจ่ “ฉันชื่อหรูฮวา ไต้หรูฮวา”

หางตาของโจวจิ่นจือกระตุก

สีหน้าของฟู่ชุนไจ่และเหล่าไต้แข็งค้าง

สาวสวยคนนี้ไม่เพียงแต่มีรูปลักษณ์ที่งดงาม แต่ยังมีชื่อที่ไพเราะอีกด้วย!

ฟู่ชุนไจ่พูดกับโจวจิ่นจือราวกับขอผลงาน “ลูกพี่ ได้ยินไหม เธอชื่อไต้หรูฮวาแหละ!”

โจวจิ่นจือกัดฟันพูดประโยคหนึ่ง “เข้าใจแล้ว”

เขาไม่อยู่ต่อ ทำเพียงแค่โบกมือแล้วก้าวเดินออกไปทันที

ฟู่ชุนไจ่ไล่ตามเขาไปอย่างรวดเร็ว “ลูกพี่ เรายังไม่ได้เอาขนมเลย!”

ก่อนจากไปฟู่ชุนไจ่ยังไม่ลืมที่จะหันศีรษะและพูดทิ้งท้ายกับเซี่ยชิงหยวน “น้องสาวหรูฮวา เอาไว้เราจะมาคุยเล่นด้วยเมื่อมีเวลานะ!”

แต่แน่นอนว่าเซี่ยชิงหยวนไม่สนใจเขา เธอหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าขึ้นมาเช็ดมือแล้วพูดกับเหล่าไต้ว่า “เหล่าไต้ ฉันขอโทษนะ วันนี้ฉันทำให้คุณต้องลำบากใจแล้ว”

เหล่าไต้รีบโบกมือปฏิเสธ “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร”

ส่วนเรื่องระหว่างเซี่ยชิงหยวนและโจวจิ่นจือ เขาอยากจะถามแต่ไม่สามารถเปิดปากถามได้ ดังนั้นเขาจึงพูดว่า “เราเองก็ไปกันเถอะ”

หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว เขาจะมีใจอยากกินอีกได้ยังไง?

เซี่ยชิงหยวนพยักหน้า “ฉันขอจ่ายเงินก่อนนะ แล้วเดี๋ยวฉันขอเลี้ยงอาหารค่ำคุณในครั้งต่อไปแทน”

เซี่ยชิงหยวนกลับไปที่ร้านซ่อมรถของเฮ่ออวี้เฟิง ซึ่งอีกฝ่ายก็เพิ่งกลับมาพอดี

เขาเล่าว่าลูกค้าคนนั้นเรียกเขาไปคุยที่สถานีตำรวจก่อนหน้านี้ และกว่าที่จะคุยกันเสร็จและกลับมาได้ก็ต้องใช้ความพยายามอย่างหนัก

เซี่ยชิงหยวนกล่าวว่า “คุณพักก่อนเถอะ ฉันจะเอาเสื้อผ้าไปส่งที่ไปรษณีย์เอง”

เมื่อคืนเธอซื้อเสื้อผ้าห้าหรือหกร้อยตัวจากร้านของเหล่าไต้ และวันนี้ก็ซื้อมาอีกเกือบพันตัว

เธอวางแผนที่จะส่งเสื้อผ้ามากกว่าพันตัวนี้กลับไปที่เตียนเฉิงก่อน จากนั้นจะขอให้เหล่าไต้นำเสื้อผ้าจากบ้านของเขาไปที่ที่พักเพื่อให้เธอเลือกในตอนบ่าย จากนั้นเธอก็จะขนของใหม่กลับไปเองทางรถไฟ

เธอไม่ต้องการออกข้างนอกไปมากกว่านี้ถ้าไม่จำเป็น

สำหรับการไปตลาดค้าส่งอีกครั้ง ในตอนนี้เธอจะยังไม่ไปที่นั่น

ไม่ใช่ว่ากลัว แต่เธอแค่ไม่ต้องการ

เธอสามารถบอกได้ว่าลูกพี่โจวคนนั้นไม่ต้องการคุยกับเธออย่างเห็นได้ชัด แต่ผู้ชายที่ชื่อชุนไจ่มักส่งเสียงดังตลอด ซึ่งน่ารำคาญจริง ๆ

มันจะดีกว่าถ้าเจอกันน้อยลง ดังนั้นเธอควรหลีกเลี่ยง

ทว่าเฮ่ออวี้เฟิงไม่ยอมปล่อยให้เธอไปคนเดียวแน่นอน

เขาโยนประแจในมือแล้วพูดว่า “ผมจะไปด้วย”

จากนั้นเขาล้างมือในอ่างพลาสติก เช็ดด้วยผ้าขนหนูที่แขวนอยู่บนราวข้าง ๆ และแบกถุงกระสอบที่ใส่เสื้อผ้าขนาดใหญ่หลายใบไปไว้บนรถสามล้อไฟฟ้าของเขา

เมื่อเห็นว่าเซี่ยชิงหยวนยังคงยืนอยู่ตรงนั้น เขาขมวดคิ้ว “ขึ้นมาสิ”

เซี่ยชิงหยวนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “ค่ะ”

เธอรีบปีนขึ้นไปที่เบาะหลัง

ที่มุมตรงข้ามถนน ฟู่ชุนไจ่และโจวจิ่นจือยืนอยู่

ฟู่ชุนไจ่มองไปที่คนสองคนที่จากไปพลางพ่นควันบุหรี่ออกจากปากของเขา “ไอ้แมวขโมย! ไอ้หนุ่มนั่นจะมาเป็นคู่ของเธอไม่ได้!”

หลังจากพูดอย่างนั้น ฟู่ชุนไจ่ก็พับแขนเสื้อขึ้นและกำลังจะก้าวไปข้างหน้า

โจวจิ่นจือคว้าตัวเขาไว้ “นายจะทำอะไร? นายคิดจริง ๆ เหรอว่านายสามารถสร้างปัญหาไปทั่วได้เหมือนฮ่องกงในเมืองกว่างโจว?”

ฟู่ชุนไจ่พูดอย่างโกรธเคือง “แต่ลูกพี่ หรูฮวากำลังออกไปกับใครบางคนนะ!”

โจวจิ่นจือจ้องมองลูกน้องตัวเองด้วยสายตาเย็นชา “ชุนไจ่ ถ้านายยังทำเหมือนคำพูดของฉันเป็นลมอีกครั้ง นายก็ไม่ต้องติดตามฉันอีกต่อไป!”

คำพูดนี้ทำให้ฟู่ชุนไจ่กลัวทันที

เท้าของเขาที่สวมรองเท้าแตะเหยียบดับบุหรี่บนพื้น และเขาก็เงียบไป

เมื่อเห็นเขาเช่นนี้ โจวจิ่นจือพูดเบา ๆ ว่า “เราอยู่คนละโลกกับเธอ”

ครั้งที่แล้วที่มีปัญหากับแก๊งชิงหลง มันทำให้ชื่อของเขาโด่งดัง

พ่อของโจวจิ่นจือซึ่งไม่สนใจเขามากว่ายี่สิบปี จู่ ๆ ก็คิดจะตามหาเขาหลังจากที่ลูกชายคนโตเสียชีวิต

โทรศัพท์ทางไกลจากมณฑลยูนนานโทรเข้ามา แต่ก็ไม่อาจได้ยินน้ำเสียงที่แท้จริงที่สุดของเขาผ่านคลื่นโทรศัพท์ที่อยู่ห่างไกลได้

ชายคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงผิดหวังอย่างมาก “จิ่นจือ แม่ของแกเป็นคนอ่อนโยน ทำไมแกถึงเป็นแบบนี้? ไปเป็นคนในโลกใต้ดินแบบนั้นคิดว่ามันง่ายเหรอ? แถมยังไปเป็นผู้นำอีก? ตอนนี้แกเป็นสวะของสังคม เดินไม่ระวังเข้าหน่อยก็ถูกยิงตายง่าย ๆ แล้วรู้ไหม?”

ชายชราคนนั้นพูดอย่างเอาเป็นเอาตายและปวดใจ ราวกับว่าโจวจิ่นจือเป็นลูกชายที่มีค่าของเขา แต่กลับทำตัวไร้ประโยชน์

จากนั้นชายชราใช้น้ำเสียงของผู้บังคับบัญชาพูดกับโจวจิ่นจือ “ฉันจะจัดการให้แกกลับมาที่มณฑลยูนนาน และเริ่มทำงานจากการเป็นเจ้าหน้าที่ระดับล่างในสำนักงาน สำหรับทุกสิ่งอย่างที่แกมีในฮ่องกงและกว่างโจว ฉันจะเก็บกวาดให้แกเอง!”

โจวจิ่นจือจำได้ว่าตอนนั้นเขาตอบกลับไปเพียงประโยคเดียวเท่านั้น “คุณคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน?”

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Status: Ongoing
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี …ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด!หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท