อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต – ตอนที่ 8 พลังที่แท้จริงและการกลับมาของวายร้าย (มุมของเรด)

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

ตอนที่ 8 พลังที่แท้จริงและการกลับมาของวายร้าย (มุมของเรด)

 

 

เข้าสู่การตรวจสอบขีดความสามารถของคัตสึมิคุง

 

เป้าหมายคือการบันทึกค่าพลังและความสามารถของเขาโดยจำลองการต่อสู้กับศัตรูขึ้นมาขณะแปลงร่าง

 

ซึ่งสถานที่ที่จะทำการทดสอบก็คือห้องฝึกขนาดใหญ่บริเวณชั้นใต้ดินของสำนักงานใหญ่

 

หรือก็คือสถานที่เดียวกับที่พวกฉันทำการฝึกฝน

 

 

『ห-โห ดูท่าจะผลาญเงินไปเยอะเลยสิท่า….ทั้งที่อยู่ใต้ดินแท้ๆ แต่ทำไมฉันเหมือนกลายเป็นลิงที่ได้มาเห็นโลกอนาคตกับเขากันนะ…』

 

 

พื้นที่โดยรอบสามารถเปลี่ยนได้ไปตามการเซ็ทติ้ง

 

สภาพพื้นที่ของห้องในขณะนี้เป็นกำลังลองเหมืองถ่านหินในอดีต

สายตาของเขาแสดงความสงสัยออกมากับสิ่งที่เห็นอย่างชัดเจน ราวกับลูกสุนัขที่ถูกพาไปฉีดวัคซีน

 

 

「สำหรับอัศวินดำแล้ว สิ่งที่อยู่ภายในตัวของเขาก็เหมือนกับกล่องดำที่รอพวกเราเปิด」

 

 

ห้องที่พวกฉันอยู่ตอนนี้คือห้องสังเกตการณ์ที่สามารถมองเห็นทั่วสนามฝึกได้อย่างชัดเจนจากด้านบน

 

ภายในห้องก็จะมีคนพวกฉัน3คน ประธานเรมะ คาเนะซากิ และคนอื่นๆ อยู่ด้วยกันประมาณ 10 คน

 

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนที่ตั้งหน้าตั้งตารอวันนี้ที่สุดก็คือประธานนี่แหละ

 

 

 

「สูทที่พวกเธอใช้อยู่ตอนนี้จะมีระบบในการควบคุมพลังงานที่ใช้และกระจายส่วนเกินออกพร้อมกับตรวจสอบสภาพร่างกายของผู้สวมใส่ได้ว่าเป็นเช่นไรจากระยะไกล ต่างจากชุดต้นแบบ ไม่สิ จัสติสครูเซเดอร์โปรโตไทป์เซโร่ ซึ่งไม่มีของพวกนี้เลย」

 

 

「ทำไมล่ะ? 」

 

「ฉันลืมใส่น่ะ」

 

 

สายตาทุกคนจับจ้องไปที่ประธาน

 

ทว่าประธานก็หาได้หวั่นไหวอะไร

 

 

「นอกจากนี้สูทดังกล่าวยังสามารถตรวจสอบไซต์ของพวกเธอได้―――เดี๋ยวก่อนสิ ฉันแค่ล้อเล่นน่า อย่าเอาปืนพลังงานมายิงใส่กันสิเห้ย! ไม่รู้หรือไงว่ามันเจ็บสุดๆ ไปเลยน่ะ โฮ่ยๆ เยลโล่? ไอเสียงปี๊ปๆ เมื่อกี้มันคือการบอกว่าชาร์ตเต็มสูบไม่ใช่เหรอ? 」

 

「「「……」」」

 

 

เพราะการเล่นมุกไร้สาระพวกนี้เป็นของที่ออกมาจากปากประธานประจำ พวกเราก็เลยได้แค่ถอนหายใจและเก็บปืนพลังงานที่ใช้ป้องกันตัวเอาไว้

 

 

 

「เห้อ ให้ตายเถอะพวกเธอนี่ ฉันไม่ได้สนใจพวกเธอในฐานะเพศตรงข้ามหรอกน่า」

 

「คิดคำพูดให้มันเข้าท่ากว่านี้ไม่ได้หรือไงยะ!!」

 

「อย่าเอาฉันไปรวมกับคนทั่วไปสิ」

 

「แล้วอะไรมันคือข้อดีของการทำตัวไม่เหมือนชาวบ้านเขาล่ะ? 」

 

 

ไอ้เจ้าหมอนี่สติมันหลุดไปแล้วจริงๆ

 

 

 

「เห้อ เรื่องไร้สาระเอาไว้แค่นี้ก่อนละกัน เอ้า คัตสึมิคุง นายพร้อมหรือยัง? 」

 

 

『หืม? ทางนั้นพร้อมแล้วสินะ เรมะ』

 

 

 

……。

 

 

 

「「「เอ๋? 」」」

 

ทำไมเขาถึงเรียกประธานด้วยชื่อได้อย่างไม่ขัดขืนผิดกับพวกเราล่ะ

 

 

「อ้าพร้อมแล้ว ไม่ต้องคิดอะไรมากแล้วทำตัวตามสบายได้เลย อะไรของพวกเธอน่ะสายตาน่ารำคาญนั่น เอาเถอะ ไว้ค่อยคุยทีหลัง」

 

 

ประธานส่งสายตาเหมือนรำคาญพวกเรา แล้วก็พูดกับคัตสึมิคุงผ่านไมโครโฟนต่อ

 

 

 

「ตอนนี้ฉันได้ทำการซ่อมสูทของนายให้คล้ายกับของเดิมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ว่าฉันก็แอบวางยาบังคับเปลี่ยนร่างกับทันทีหากนายตั้งใจว่าจะหลบหนี พึงระลึกไว้ด้วย่ละ」

 

『เรื่องแค่นี้ฉันรู้หรอกน่า』

 

 

「โอเค ถ้าฉันให้สัญญาณก็แปลงร่างได้เลย」

 

พอพูดจบประธานก็หันมาหาพวกเราที่ตกใจอยู่

 

 

 

「อ่ะ แล้วอะไรของพวกเธอกัน? 」

 

「ทำไมถึงเรียกกันด้วยชื่อจริงได้ล่ะ?!」

 

「เงินฟาดหัวแน่ๆ ……? 」

 

「ล้างสมอง……? 」

 

「เห้อ เข้าใจอย่างถ่องแท้เลยว่าพวกเธอมองฉันเป็นคนยังไง」

 

 

คัตสึมิคุง เรียกประธานว่าเรมะ ซึ่งเป็นชื่อต้นของเขา

 

มันแปลกเกินไปหรือเปล่าประธานก็ไม่ได้มีอายุใกล้เคียงกับเขาสักหน่อย กลับกันพวกเราที่อายุพอๆ กันเขากลับไม่ยอมเรียกชื่อเลยสักนิดเว้นเสียแต่ว่าจะบังคับ

 

「ฮ่าๆๆๆ ไม่ไหวๆ นี่สิน้อพวกที่กลายเป็นมาเซ็นไตตอนอายุยังน้อยช่างไร้เดียงสาด้านความรัก น่าเศร้าใจจริงๆ ที่ทั้งชีวิตพวกเธอรู้จักแต่อัศวินดำและพวกสัตว์ประหลาด…」

 

「ไม่รู้ตัวเลยหรือไงว่าประธานก็เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องนี้…!!」

 

 

พอถูกพูดออกมาจากปากของเจ้าหมอนี่ก็แอบรู้สึกหงุดหงิดอย่างไม่มีเหตุผล

 

 

 

「ใช้หนังน่ะ」

 

「หะ? 」

 

「ก็แค่ถามว่าอยากดูหนังอะไรเป็นพิเศษไหม แล้วก็ส่งให้เขาไป」

 

 

ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีแล้วมันช่วยให้เรียกชื่อจริงได้ตรงไหน

 

หรือว่าเขาส่งพวกรอมคอมไปให้แล้วเกินใจหวั่นไหวจนเรียกชื่อกันงั้นเหรอ?

 

 

 

「ส่วนตัวฉันเองก็ชอบดูหนังอยู่แล้วก็เลยเข้ามาเขาด้วยเรื่องนี้ หลังจากเป็นคนส่งนั่นไปให้เขาสักพัก ความสัมพันธ์ของพวกเราก็เลยดีขึ้นระดับหนึ่ง จากนั้นก็แค่สังเกตชีวิตประจำวัน ว่าเขาทำอะไรบ้างอย่างการออกกำลัง อ่านหนังสือ เล่นคอมนิดหน่อย แล้วก็เอามาวิเคราะห์ว่าจะจัดการเช่นไรเพื่อพัฒนาสุขภาพจิตของเขาด้วย หนังก็กลายเป็นหนึ่งในนั้น」

 

「「「……」」」

 

 

「ทว่าฉันก็เนียนบอกว่าตัวเองเป็นแค่หนึ่งในนักวิจัย เขาก็เลยไม่รู้ว่าฉันเป็นคนทำสูทพวกนี้ขึ้นมา」

 

อิตาประธานนี่!

 

แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าหากคัตสึมิคุงรู้ว่าประธานคือคนทำสูท เขาคงไม่มีทางคุยกันได้แบบนี้แน่!

 

「นอกจากนี้คนในสำนักงานเราก็เหมือนจะชอบเขากันไม่น้อยก็เลยเอาของขวัญนั่นนี่มามอบให้ ฉันก็แค่จัดการให้มันเรียบร้อยเพื่อเอาหน้า ประมาณนั้นแหละพอใจหรือยัง? ฉันจะได้กลับไปเรื่องการทดลองสักที」

 

 

เขาหันไปมองที่ไมโครโฟนเมื่อเห็นว่าพวกเราไม่พูดอะไรกลับ

 

สุดท้ายคัตสึมิคุงอาจจะเห็นว่าพวกเราเป็นคู่แข่งกับเขา จึงไม่อาจสร้างสัมพันธ์ฉันเพื่อนได้โดยง่าย

 

 

อึก แต่ฉันก็ไม่มีทางยอมแพ้หรอก!

 

 

 

「ขอโทษที่ให้รอนะ แปลงร่างได้เลย」

 

『อ่า』

 

ฉันดูภาพของเขาที่ฉายอยู่บนจอ

 

เขาทำการชูของที่สวมไว้ตรงข้อมือซึ่งคล้ายกับนาฬิกาสีดำ 『โปรโตเชนเจอร์』ก่อนจะกดปุ่มที่อยู่ข้างๆ มัน 3 ครั้ง

 

เมื่ออุปกรณ์ถูกใช้งาน สถานพลังพิเศษก็จะก่อนตัวขึ้นรอบๆ เขา อนุภาคของสูทเริ่มปกคลุมร่างของเขาตั้งแต่คอลงมา จากนั้นก็มีหน้ากากที่คลุมทั้งหัวของเขาค่อยๆ สวมลงไป

 

หากเป็นพวกฉันนี่คือจุดสิ้นสุดของการแปลงร่าง ทว่าสำหรับคัตสึมิคุงมันยังไม่จบ

 

เกราะสีเทาบริเวณหน้าอกได้ถูกเพิ่มเข้ามาด้วยในช่วงท้าย

 

 

 

『เชน——โปรโตไทป์ เซโร่….』

 

 

เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ก่อนจะโบกมือไปมาเพื่อสำรวจอาการของตัวเอง

 

…นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นเขาแปลงร่าง ขั้นตอนส่วนใหญ่นั้นไม่ได้ต่างกับพวกฉันเท่าไหร่

 

หากไม่นับขั้นตอนพิเศษที่เพิ่มเข้ามาในช่วงท้าย

 

 

 

「พลังงานภายในชุดเป็นยังไงบ้าง? 」

 

 

ประธานถามเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง

 

 

「พลังงานที่ส่งออกมา ค่าพลัง และปัจจัยอื่นๆ มีความเสถียรสูงเป็นอย่างมาก ทว่าหากพิจารณาว่านั่นคือสูทโปรโตไทป์ถือว่าผิดปกติมากครับ」

 

「แบบนี้นี่เอง ค่าความเข้ากันได้ก็สูงมากด้วยสิ นี่เขาสามารถดึงพลังดั้งเดิมที่คาดการเอาไว้ในทฤษฏีของสูทโปรโตไทป์ออกมาได้จริงเหรอนี่?!」

 

 

ประธานจ้องไปยังจอที่วัดค่าพลังอย่างตั้งใจ ก่อนจะสูดหายใจเข้าออกเพื่อสยบความตื่นเต้น

 

 

 

「ใจเย็นไว้ตัวฉัน….มันยังไม่จบ….ส่งศัตรูจำลองออกไป ตั้งค่าระดับเลเวล」

 

「รับทราบครับ แต่ว่าเลเวล 10เลย….จะดีจริงๆ เหรอครับ?? 」

 

「ถ้าสูงสุดมัน 10 ก็ตามนั้นแหละ」

 

 

เมื่อเจ้าหน้าที่พิมพ์คำสั่งลงไปในเครื่องหุ่นยนต์ร่างมนุษย์ก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าคัตสึมิคุง

 

สำหรับเจ้าตัวนี้พวกเราสามารถเอาชนะมันได้อย่าง่ายดายแล้ว แต่ในไม่ใช่กับช่วงแรกที่มาฝึกฝน

 

ระหว่างนั้นประธานก็หยิบไมโครโฟนพูด

 

 

「คัตสึมิคุง ลองเล่นกับมันดูหน่อยนะ แม้ระดับสูงสุดที่เราสร้างได้จะไม่พอมือนาย แต่ก็ขอให้เข้าใจด้วย」

 

 

เขาพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะเตรียมเผชิญหน้ากับศัตรูจำลอง

 

เขาทำท่าทางเหมือนกับวอมเท้าเล็กน้อย ก่อนที่วินาทีต่อมาร่างของเขาจะหายวับไปกับตา―――、

 

 

 

「หา!? 」

 

「อะไรกัน!? 」

 

 

เจ้าหน้าที่หญิงคนหนึ่งพูดออกมาด้วยความตกใจ

 

ฉันเองก็ตกใจที่ได้ยินเสียงนั้น และมองไปยังหน้าจาก็พบว่ามีเสียงบางอย่างคล้ายกับอะไรถูกทำลายดังขึ้น

 

ใช่แล้วมันคือภาพที่คัตสึมิคุงแกว่งขาผ่าหุ่นตัวนั้นออกเป็นสองส่วน

 

 

 

「เกจพลังเกินค่าที่จะสามารถวัดได้! อ๊ะ กลับมาเป็นศูนย์? ไม่สิกลับไปเกินจะวัดได้อีกแล้ว…..」

 

 

เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบค่าพลังที่วัดได้ในจอสลับกับภาพตรงหน้าที่เห็น

 

ทุกครั้งที่เขาโจมตี ค่าพลังจะเหวี่ยงให้สูงเกินพิพักและกลับมาเป็นศูนย์เมื่อเสร็จสิ้น

 

จริงๆ ฉันเองก็ไม่รู้หรอกว่ามันบ่งบอกอะไรแบบมีนัยสำคัญ แต่ฉันก็พอสัมผัสได้ว่ามันไม่ใช่เรื่องปกติ

 

 

 

「……ส่งศัตรูออกไปเพิ่ม」

 

「จ-จะดีเหรอครับ? 」

 

「ก็บอกให้ปล่อยไปไง!!」

 

 

ประธานพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น อีกฝ่ายก็พยักหน้ารับและปล่อยศัตรูออกไปเพิ่ม

 

หลังจากเอาชนะพวกมันไปได้ประมาณ 10 ตัว ―――ศัตรูระลอกใหม่ก็เริ่มโผล่มา เขาจึงพุ่งออกไปด้วยความรวดเร็วและเตะหุ่นที่อยู่ตรงหน้าสุดราวกับเตะลูกฟุตบอล

 

หัวของหุ่นตัวนั้นกระเด็นไปทันที

 

 

ทว่าหุ่นที่อยู่รอบๆ ก็หาได้สนใจก่อนจะสาดกระสุนสีใส่เขา

 

 

 

『หึ!』

 

 

เขาทำการยื่นหมัดทะลวงร่างของหุ่นไร้หัวและเคลื่อนที่ต่อโดยใช้ร่างของมันเป็นเพราะป้องกันเพื่อประชิดตัวหุ่นตัวอื่น ก่อนจะทำล้างบางพวกมันด้วยหมัดและลูกเตะที่เร็วจนน่าเหลือเชื่อ

 

 

「หุ่นถูกบดขยี้เป็นขนมเลย…」

 

「อย่างที่คิดสุดยอดไปเลย คัตสึมิคุง」

 

「หากเป็นศัตรูกันจริงๆ พลังนั่นคงจะกลับมาทำร้ายพวกเราสินะ」

 

 

เนื่องจากพวกเรา 3 คนเคยรับมือกับเขามานับครั้งไม่ถ้วนจึงไม่แปลกใจนัก แต่ประธานกับคนอื่นๆ นั้นต่างออกไป

 

 

「สูทโปรโตไทป์ไม่ใช่ความบกพร่อง เพียงแค่ก่อนหน้านี้ไม่มีใครสามารถดึงพลังที่แท้จริงของมันออกมาได้ต่างหาก จาก 0 ถึง 100 ภายในชั่วพริบตา ไม่จริงน่าเพราะเป็นรุ่นโปรโตไทป์ที่ถูกสร้างขึ้นมาให้ทนทานความร้อนเป็นพิเศษภายในก็สามารถรองรับการเหวี่ยงนี้ได้……ระบบการซ่อมแซมตัวเองเลยทำให้ชุดไม่ถูกทำลายลง….แต่แค่นั้นมันจะพอเหรอ ไม่สิเพราะมีความเข้ากันได้เป็นอย่างมากจึงสร้างผลลัพธ์แบบนี้ออกมาสำเร็จ ถึงจะดึงพลังออกมาเกินที่จะวัดได้ทว่ามันก็ต้องมีลิมิตตรงไหนสักที หลังจากนี้เห็นทีต้องติดตัววัดเอาไว้ภายในสูทซะแล้วสิ」

 

「ประธาน……? 」

 

 

หมอนั่นกำลังพึมพำอะไรออกมาไม่รู้อยู่คนเดียว

 

พอฉันเรียกเขา เขาก็มองแรงมาทางฉันทันที

 

 

「หะหรุบปาก! เสียงดังเกินไปแล้ว สมองของฉันกำลังแล่นสุดเหวี่ยงอยู่แท้ๆ!!」

 

 

ท่าทางจะตื่นเต้นสุดๆ

 

 

ประธานต้องมองไปยังคัตสึมิคุงที่ทำลายหุ่นไปเรื่อยๆ ด้วยกำลังอันเหลือล้น

 

 

「อ่ะ จริงสิ….ทำไมฉันถึงไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนนะ…เพราะว่าเขาไม่กลัวว่าตัวเองจะตาย จึงสามารถใช้งานของพวกนี้ได้อย่างเต็มกำลังสินะ….」

 

「……หือ? 」

 

「เอ่อ ช่างมันเถอะ ไม่มีอะไรหรอก」

 

 

เรื่องพวกนี้ฉันก็เคยคิดเหมือนกัน

 

เพราะเขาไม่กลัวที่จะระเบิดตัวตายตอนที่แพ้พวกฉัน

 

มันเป็นระเบิดที่ถูกซ่อนเอาไว้ในรังของโอเมก้า ตอนที่เห็นเขาพยายามใช้ฉันตกใจแทบแย่

 

 

「ฉันน่าจะคิดได้ตั้งแต่แรก」

 

「หา? 」

 

「พลังไม่ได้เป็นผู้เลือกเขา แต่เป็นเขาต่างหากที่เลือกพลังนั้น เฉกเช่นเดียวกับข้ารับใช้ที่มิอาจทำร้ายนายของตนได้….เขามีความเข้ากันได้กับสูทตัวนี้เป็นอย่างมาก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขาสามารถดึงพลังทั้งหมดของมันออกมาสำเร็จ….」

 

「ประธานตั้งใจจะบอกอะไรกันแน่คะ? 」

 

 

「ชุดที่ฉันควรจะทำให้กับเขาไม่ใช่จัสติสครูเซเดอร์โฟ แต่เป็นโปรโตไทป์เซโร่ทู ต่างหาก!」

 

「ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีค่ะ!」

 

「ทำไมกันล่ะเจ้าพวกมนุษย์โลกเอ้ย!!」

 

 

ฉันถูกสวนกลับมาด้วยคำพูดแปลกๆ แทนซะงั้น

 

แต่สรุปง่ายๆ ก็คงประมาณว่าจะปรับปรุงชุดเขาแทนที่จะสร้างใหม่สินะ?

 

 

ระหว่างนั้นเองประธานก็เริ่มคลั่งหนักยิ่งกว่าเก่า

 

 

 

「ฮุฮุ ฮิฮิฮิ!! ในที่สุดปริศนาก็คลี่คลาย อัศวินดำคุง ไม่สิ!! คัตสึมิคุง!! นายที่แหละคือสุดยอดแห่งผู้ใช้สูทแปลงร่าง!!」

 

「อ-เอ่อ ชักจะหลุดเกินไปหน่อยนะ……」

 

「ไม่ง่ายเลยนะที่จะเห็นตาลุงคลั่งขนาดนี้…」

 

 

ฉันอดตกใจไม่ไหวกับเสียงหัวเราะแปลกๆ ของประธาน

 

ก็อาจจะเป็นเพราะเขามีความรักให้กับสูทที่ตัวเองสร้างขึ้นมาเป็นอย่างมาก แต่มันก็ทำใจยอมรับไม่ค่อยได้กับท่าทางจริงๆ

 

 

 

「อะ อึก ขอบใจจริงๆ ขอบใจมากที่สามารถใช้งานสูทโปรโตไทป์ที่ฉันทำได้…!!」

 

「ครั้งนี้ร้องไห้เฉย……」

 

「ตาลุงนี่น่ากลัวชะมัด……」

 

「อารมณ์อ่อนไหว……」

 

หลังจากเขาจัดการหุ่นไปเสียเยอะ…

 

 

ท่าทางของคัตสึมิคุงก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นเรื่อยๆ

 

อาจจะเป็นเพราะเขาได้ขยับร่างกายไปมาอย่างที่ตัวเองอยากก็ได้

 

 

 

「ก็ได้แต่แอบหวังนะว่าจะออกไปข้างนอกได้ ถึงจะเป็นแค่ฝันก็เถอะ」

 

 

ใบหน้าจริงๆ ของเขาไม่ควรให้ใครได้รู้

 

แม้การต่อสู้ครั้งล่าสุดจะทำหน้ากากของเขาพังไปจนใบหน้าบางส่วนโผล่ให้คนอื่นเห็น แต่มันก็แค่ส่วนปากกับจมูก ดังนั้นคงพอถูไถไปได้

 

 

『พบการปรากฏตัวของสัตว์ประหลาด!! พบการปรากฏตัวของสัตว์ประหลาด!! จัสติสครูเซเดอร์เตรียมออกปฏิบัติการ!!』

 

「「「!? 」」」

 

 

 

สัญญาณเตือนดังขึ้นกึกก้องไปทั่ว จัสติสเชนเจอร์ก็สั่นไปมา

 

ฉันรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากและหันไปมองที่ประธาน ทางเขาเองก็ไม่ต่างกัน

 

 

 

「ให้ตายสิ เอาอีกแล้ว! ไม่อ่านบรรยากาศเลยหรือไงฟะไอ้ตัวบ้านี่! อารมณ์ตื่นเต้นมันพลอยหายไปด้วยเลยเนี้ย!!」

 

「ประธาน! หรือจะเป็นโอเมก้า!? 」

 

「ไม่หรอก นั่นนะ….」

 

เขาหยิบอุปกรณ์บางอย่างออกมาจากกระเป๋าก่อนจะตรวจสอบดู จากนั้นก็เอามือก่ายหน้าผากทันที

 

 

「จำเรื่องที่ฉันเล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อ เมื่อ 1 ปีเศษก่อนได้ไหม ตอนที่รัฐบาลได้เข้าไปขอความร่วมมือกับคัตสึมิคุงเป็นการชั่วคราว」

 

「เรื่องที่ถูกปิดเป็นความลับนั่นสินะคะ……? 」

 

「อ้า มันกลับมาแล้ว ตัวปัญหาที่ฆ่าไม่ตายตราบใดที่อยู่บนผืนดิน」

 

 

ภาพของคัตสึมิคุงได้ถูกเปลี่ยนไปเป็นฉากอื่น

 

มันคือภาพของมหาสมุทรแห่งหนึ่ง

 

ไอน้ำจำนวนมากกำลังลอยขึ้นมาเหนือผิวน้ำก่อนปรากฏ ร่างของสัตว์ประหลาด

 

 

 

「สัตว์ประหลาดแม็กม่า! เจ้าตัวที่อัศวินดำโยนมันลงมหาสมุทร ได้ฟื้นกลับมาอีกครั้งแล้ว!!」

 

 

สัตว์ประหลาดตัวแรกที่โผล่มาอีกครั้งในรอบหลายเดือน

 

ชีวิตประจำอันแสนสงบสุขของฉันเริ่มถูกทำลายลง

 

เพื่อจะรักษามันเอาไว้อีกครั้ง กำลังใจในการต่อสู้ของพวกเราจึงสูงยิ่งกว่าเดิม

 

—————-

 Note 1 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

Status: Ongoing
คัตสึมิ โฮมุระ วายร้ายที่รู้จักกันในนาม อัศวินดำ ชายผู้คิดว่าตัวเองคือวายร้ายแสนโฉดชั่ว เมื่อพ่ายแพ้ให้กับฝั่งฮีโร่เขาก็ถูกจับตัวไป ทว่าสิ่งที่รอเขาอยู่กลับไม่ใช่คุกหรือพวกตำรวจ แต่กลับเป็นขุมนรกที่ตัวเขาเกินจะคาดฝันแทนซะอย่างงั้น โลกที่ขบวนการเซ็นไตมีอยู่จริง เรื่องราวของอัศวินดำจอมวายร้ายที่มีสามัญสำนึกผิดแปกและถูกคนธรรมดาเข้าใจผิดมาโดยเสมอ บัดนี้เขากำลังจะถูกลากเข้าขบวนการเซ็นไตเสียแล้ว ※ผลงานชิ้นนี้กาวล้วนๆไม่มีเกลือผสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท