ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 287 เปลี่ยนงาน(2)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 287 เปลี่ยนงาน(2)

ตอนที่ 287 เปลี่ยนงาน(2)

หลังจากเจี่ยงสือเหิงสงบลงแล้ว เขาก็ทำหน้าย่นขึ้นมาอีกครั้ง และดูไร้เรี่ยวแรงนิดหน่อย

ลุงเจี่ยงมาที่นี่แล้ว เมื่อเห็นสภาพของเจี่ยงสือเหิงเป็นแบบนี้ เขาก็รีบส่งมอบขวดยาที่นำมาด้วยให้ฉินมู่หลานทันที ก่อนจะพูดขึ้น “คุณหนูน้อย ผมเอาของพวกนี้มาให้หมดแล้ว คุณหนูลองดูเลยครับ ว่านายน้อยใช้อะไรได้บ้าง”

ฉินมู่หลานเลือกขวดยาออกมาสองอัน หลังจากนั้นก็เทออกมา หลังจากนั้นก็ให้เจี่ยงสือเหิงทันที

“พ่อคะ นอกจากพ่อได้รับบาดเจ็บแล้วยังโดนพิษด้วย เพราะฉะนั้นต้องระวังหน่อย ถึงฉันจะปิดกั้นการไหลเวียนพิษในร่างกายของพ่อแล้ว แต่มันก็ได้แค่ควบคุมเอาไว้เท่านั้น ต้องใช้เวลาอีกสักพักจึงจะกำจัดพิษได้หมด แต่พ่อไม่ต้องกังวลนะคะ ฉันจะไม่ปล่อยให้พ่อเป็นอะไรไปแน่นอน”

เจี่ยงสือเหิงได้ยินแบบนี้ ก็หัวเราะขึ้นทันที ก่อนจะพูดขึ้น “มู่หลานไม่ต้องกังวล พ่อไม่ร้อนใจหรอก พ่อเชื่อในฝีมือการรักษาของลูก ลูกจะต้องรักษาหายแน่นอน แต่ว่า…พ่อโดนพิษจริงเหรอ?”

แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้เลยว่าโดนวางยาตอนไหน

ฉินมู่หลานพยักหน้าด้วยสีหน้าหนักแน่นแล้วพูดขึ้น “ใช่ค่ะ โดนพิษ เพียงแต่ไม่รู้ว่าใครวางยาพิษพ่อ”

เมื่อพูดจบ ฉินมู่หลานก็อดเอ่ยถามขึ้นอีกครั้งเสียไม่ได้ “พ่อคะ พ่อกับอาหลี่อยู่ด้วยกันตอนที่ได้รับบาดเจ็บเหรอคะ พวกพ่อไม่ได้ยุ่งอยู่กับงานกันเหรอ ทำไมถึงไปอยู่ด้วยกันได้คะ”

“พวกเรามีธุระที่หนึ่งที่ต้องไป และพวกอาหลี่ก็มาเป็นคนคุ้มกันพวกเรา ใครจะไปคิดว่าสุดท้ายจะเกิดอุบัติเหตุได้” เจี่ยงสือเหิงยังรู้สึกหวาดกลัวเมื่อนึกถึงภาพเหตุการณ์ในตอนนั้น หากไม่ใช่เพราะมีอาหลี่กับคนอื่นคอยคุ้มกัน ป่านนี้พวกเขาคงยังไม่ได้ออกจากฐานที่นั่นด้วยซ้ำ

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ ก็พยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้

กลายเป็นว่าทั้งสองบังเอิญมีภารกิจที่ต้องมาอยู่ด้วยกัน โชคดีที่วันนี้เธอไปที่สถาบัน ไม่อย่างนั้นคงพลาดไปแล้ว

“พ่อคะ พ่อพักผ่อนให้เต็มที่ก่อนเถอะค่ะ เอาไว้ค่อยคุยเรื่องนี้ตอนอาการพ่อดีขึ้นแล้ว”

“ได้”

หลังจากเจี่ยงสือเหิงพูดคุยต่ออีกไม่กี่คำ ก็รู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย จึงทำใจให้โล่งแล้วหลับตาพักผ่อน

ฉินมู่หลานตรวจชีพจรให้เจี่ยงสือเหิงอย่างเบามืออีกครั้ง ในที่สุดก็โล่งใจ ก่อนจะเดินออกจากห้องพักผู้ป่วย

ลุงเจี่ยงเห็นแบบนี้ก็ตามไป ก่อนจะบอกสถานการณ์ที่บ้านให้ฉินมู่หลานทราบ “คุณหนูน้อยครับ ผมรีบร้อนออกมา จึงไม่ได้บอกรายละเอียดที่บ้าน เดี๋ยวผมจะไปติดต่อคนที่บ้าน แล้วเล่าสถานการณ์ที่นี่ให้ฟัง พวกเขาจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง”

“ดีเลยค่ะลุงเจี่ยง ลุงรีบไปติดต่อเถอะ เดี๋ยวทางนี้หนูเฝ้าเอง”

“ครับ”

ลุงเจี่ยงดำเนินการอย่างรวดเร็ว ติดต่อไปทางบ้านเรียบร้อยแล้ว “คุณหนูน้อย ผมติดต่อเรียบร้อยแล้วครับ แต่คุณหนูเหยากับคนอื่นเป็นห่วงอาหลี่ พวกเขาจึงจะมาเยี่ยมครับ”

ฉินมู่หลานได้ยินเช่นนี้ก็พยักหน้า เป็นอันว่ารับรู้แล้ว

หลังจากเซี่ยเจ๋อหลี่ฟื้น สิงเจิ้งหาวก็มาเรียกฉินมู่หลานทันที

หลังจากเซี่ยเจ๋อหลี่เจอฉินมู่หลาน จึงได้เข้าใจว่าฟู่ซวี่ตงไม่ได้หลอกตน มู่หลานอยู่ที่นี่จริง ๆ และได้ช่วยเขาไว้ ภรรยามาได้ถูกเวลาจริง ๆ

“มู่หลาน ขอบคุณมากนะ คุณรักษาขาขวาของผมเอาไว้อีกแล้ว ทำให้ขาขวาของผมยังใช้งานได้”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินมู่หลานก็จ้องมองเซี่ยเจ๋อหลี่ แล้วเอ่ยขึ้น “ทำไมคุณต้องขอบคุณฉันล่ะคะ ถ้าอยากขอบคุณฉันจริง ต่อไปก็อย่าทำให้ตัวเองบาดเจ็บอีก”

เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินแบบนี้ ก็พยักหน้าอย่างหนักแน่น แล้วเอ่ยขึ้น “ได้ ต่อไปผมจะพยายามไม่ให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บอีกแล้ว”

แต่เซี่ยเจ๋อหลี่ยังจำเหตุการณ์ก่อนหน้าได้ จึงสอบถามอาการของเจี่ยงสือเหิงอีกครั้ง

“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ พ่อบุญธรรมไม่เป็นไร ตอนนี้เขาพักอยู่ที่ห้องถัดไปนี่เอง หลังจากอาการคุณดีขึ้นแล้วค่อยไปหาเขาก็ได้”

ครั้นเซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินว่าเจี่ยงสือเหิงไม่เป็นไร ก็รู้สึกโล่งใจ ขณะเดียวกันก็พยักหน้าเห็นด้วยแล้วพูดขึ้น “ได้ เดี๋ยวผมดีขึ้นแล้วจะไปหาพ่อบุญธรรม”

หลังจากฉินมู่หลานพูดคุยกับเซี่ยเจ๋อหลี่อีกไม่กี่คำ ก็ทำได้เพียงบอกให้เขานอนพักผ่อนเยอะ ๆ และตัวเธอเองก็ไปที่ห้องพักผู้ป่วยของเจี่ยงสือเหิง เมื่อเห็นว่าเจี่ยงสือเหิงยังคงหลับอยู่ก็ไม่รบกวน และหลังจากพูดคุยกับลุงเจี่ยงแล้ว เธอก็ไปหาเฉาเจิ้งเฟิง

“หมอเฉาคะ ไม่ทราบว่าคุณมีของพวกนี้ไหมคะ”

หลังจากที่ฉินมู่หลานพูดจบก็ยื่นกระดาษในมือไปให้ทันที

เฉาเจิ้งเฟิงมองดูรายละเอียดอย่างถี่ถ้วน จากนั้นก็พยักหน้าแล้วบอกว่า “มีหมดเลย คุณอยากได้ของพวกนี้มาสกัดยาใช่ไหมครับ?” หลังจากพูดจบ เขาก็มองฉินมู่หลานด้วยแววตาเปล่งประกาย ทันใดนั้นก็ตั้งตารอชม

ฉินมู่หลานพยักหน้าแล้วกล่าวขึ้น “ค่ะ ฉันอยากสกัดยาบางอย่าง ให้พ่อบุญธรรมกับสามีได้ใช้กัน”

“พ่อบุญธรรมเหรอ?”

เฉาเจิ้งเฟิงไม่ใช่แพทย์เจ้าของไข้ของเจี่ยงสือเหิง ดังนั้นจึงไม่ทราบว่าพ่อบุญธรรมของฉินมู่หลานก็อยู่ที่โรงพยาบาลอีกคนหนึ่งด้วย

ฉินมู่หลานอธิบายสถานการณ์โดยย่อให้ฟัง หลังจากนั้นก็บอกว่า “หมอเฉาคะ ของพวกนี้จะพร้อมใช้ตอนไหนคะ”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เฉาเจิ้งเฟิงก็รีบกล่าวทันที “ผมจะให้คนรีบจัดเตรียมให้ทันทีเลยครับ”

“ค่ะ ถ้าอย่างนั้นรบกวนหมอเฉาด้วยนะคะ”

หลังจากฉินมู่หลานได้รับของแล้ว ก็รีบเร่งสกัดยาที่เหมาะกับอาการให้เจี่ยงสือเหิงกับเซี่ยเจ๋อหลี่ ถึงแม้ว่าอาการของทั้งคู่จะไม่ได้แย่สักเท่าใด แต่เธอก็ยังคงสกัดยาเตรียมไว้

เมื่อฉินมู่หลานทำงานทั้งหมดนี้เสร็จแล้ว สุดท้ายสิงเจิ้งหาวก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะพูดขึ้น “พี่สะใภ้ ในที่สุดคุณก็ทำเสร็จ ผมเห็นว่าผู้กองเซี่ยมาหาคุณ แต่เห็นคุณยุ่งอยู่ จึงไม่อยากรบกวนครับ”

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ ก็ยืนขึ้นแล้วบอกกว่า “อาหลี่อยากเจอฉันเหรอ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันรีบไปเลย”

หลังจากฉินมู่หลานมาถึงห้องพักผู้ป่วยของเซี่ยเจ๋อหลี่แล้ว ก็พบว่ามีเขาเพียงแค่คนเดียว “อาหลี่ แล้วคนอื่นล่ะ ทำไมไม่เห็นซวี่ตงเลย”

“อาการบาดเจ็บของซวี่ตงไม่ร้ายแรง เขาเลยออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว”

ฉินมู่หลานได้ยินเช่นนี้ ก็ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมเช่นนี้ “ถึงซวี่ตงจะไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ควรได้พักฟื้นก่อนจะออกจากโรงพยาบาลสิ ทำไมเขาถึงรีบร้อนขนาดนี้”

“นี่เป็นเรื่องที่ผมอยากบอกคุณเหมือนกัน”

เซี่ยเจ๋อหลี่จ้องมองฉินมู่หลานแล้วบอกกล่าวว่า “ครั้งนี้ผมจะเปลี่ยนงานหลังจากออกจากโรงพยาบาล จึงอยากบอกให้คุณรู้ล่วงหน้า”

“อะไรนะคะ…เปลี่ยนงาน?”

ฉินมู่หลานแสดงสีหน้าค่อนข้างเหลือเชื่อ จากนั้นก็มองขาขวาของเซี่ยเจ๋อหลี่แล้วพูดขึ้น “เป็นเพราะอาการบาดเจ็บที่ขาของคุณเหรอ แต่คุณไม่ต้องกังวลหรอกนะคะ การผ่าตัดของคุณประสบความสำเร็จ คงไม่มีผลข้างเคียงอะไรหลงเหลือ เพราะฉะนั้นไม่ต้องเปลี่ยนอาชีพหรอกค่ะ”

เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นแบบนี้ ก็ส่ายหัว แล้วพูดขึ้นว่า “ผมรู้ว่าครั้งนี้บาดเจ็บหนักมาก แล้วยังเจ็บซ้ำข้างเดิมอีก เพราะฉะนั้นคงมีผลข้างเคียงเหลือไม่มากก็น้อย เปลี่ยนงานก็ไม่แปลก”

ฉินมู่หลานขมวดคิ้วแล้วหันมองเซี่ยเจ๋อหลี่ เธอบอกไปแล้วว่าจะไม่มีผลข้างเคียงหลงเหลือ แต่เขากลับจะพยายามให้เป็นอย่างนั้น นี่มันหมายความว่าอย่างไรกัน

เซี่ยเจ๋อหลี่ขยิบตาให้ฉินมู่หลาน

ฉินมู่หลานเห็นเช่นนี้ ก็ไม่พูดอะไรมาก

ครั้งนี้เจี่ยงสือเหิงกับเซี่ยเจ๋อหลี่ได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากที่พักฟื้นอยู่นาน ในที่สุดก็ได้ออกจากโรงพยาบาลพร้อมกัน และเซี่ยเจ๋อหลี่ก็เปลี่ยนงานจริง โดยย้ายไปทำงานที่สถาบันวิจัยของเจี่ยงสือเหิง

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

พี่หลี่เปลี่ยนงานแล้ว จะมีตำแหน่งอะไรในสถาบันกันนะ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน