การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย – บทที่ 367 สารภาพ

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

บทที่ 367 สารภาพ

บทที่ 367 สารภาพ

เฮ่อหลานถามอย่างคาดคั้น ทำให้ทั้งถังซวงและเกอชิงเหม่ยไม่รู้ว่าจะพูดยังไง

แต่ถังซวงพยายามกลบเกลื่อนอย่างรวดเร็ว รีบรุดไปด้านหน้าก่อนจะหยิบขวดลายครามขนาดเล็กออกจากหน้าอกแล้วเทยาใส่ปากของเฮ่อหลานอย่างรวดเร็ว “แม่คะ กินยานี้ก่อนค่ะ”

เฮ่อหลานไม่ปฏิเสธ เธอกลืนยาอย่างว่าง่ายก่อนจะหันมองถังซวงไม่วางตาแล้วเอ่ยปากถาม “ซวงเอ๋อร์ บอกแม่ได้ไหมอย่าปิดบังแม่แบบนี้เลย”

ถังซวงถอนหายใจ ก่อนจะพูดอย่างจนใจว่า “ค่ะ แม่เข้าไปข้างในก่อนนะคะ”

เกอชิงเหม่ยก้าวไปด้านหน้าพร้อมกับพยุงแขนของเฮ่อหลานด้วยเช่นกัน

ทุกคนนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น

ถังซวงขยิบตาให้กับโม่เจ๋อหยวนเพื่อส่งสัญญาณให้โทรหาจิงเจ้อหรง

โม่เจ๋อหยวนเข้าใจความหมายอย่างรวดเร็วก่อนจะลุกขึ้นออกไปเงียบ ๆ

เวลานี้เกอชิงเหม่ยบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้เฮ่อหลานฟังด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน เธอกล่าวถึงสถานการณ์ทั้งหมดเพียงเบื้องต้นและไม่ได้พูดถึงอันตรายร้ายแรงอะไร

“อาหลาน เห็นไหมว่าฉัน ซวงเอ๋อร์ และเสี่ยวเซวี่ยต่างก็สบายดี เธอไม่ต้องกังวลอะไรเลย ที่ฉันไม่ได้บอกกับเธอก่อนหน้านี้เพราะเธอกำลังตั้งท้อง ฉันกลัวว่ามันจะส่งผลต่ออารมณ์และเด็กในท้อง พวกเราไม่ได้มีเจตนาที่จะปิดบังเลยนะ”

ถังซวงพยักหน้าเห็นด้วย “ใช่ค่ะแม่ พวกเราทุกคนสบายดี ไม่เป็นอะไรเลย แม่ไม่ต้องกังวลนะคะ”

ได้ยินเกอชิงเหม่ยและถังซวงพูดออกมาอย่างนั้น ซ่างสยงเยี่ยและคนอื่น ๆ ต่างรู้สึกว่าพวกเขากลายเป็นตัวปัญหา เพราะพวกเขามาที่นี่จึงทำให้เฮ่อหลานรู้เรื่องราว

“ขอโทษด้วยนะครับ พวกเราผิดเองที่รีบมา”

ได้ยินซ่างสยงเยี่ยพูดอย่างนั้น ถังซวงอดไม่ได้ที่จะกล่าวตอบ “คุณชายซ่างคะ ฉันจะโทษคุณได้ยังไงล่ะคะ เพราะคุณเป็นห่วงป้าเกอเลยรีบมาที่นี่ ต้องขอบคุณต่างหาก”

ขณะพูดอย่างนั้น ถังซวงมองเฮ่อหลานอีกครั้ง “แม่คะ ตั้งแต่คุณชายซ่างกับคนอื่น ๆ มาที่นี่ พวกเขายังไม่ได้ดื่มน้ำสักแก้วเลย เราต้อนรับพวกเขาก่อนดีไหม”

เฮ่อหลานที่กลับมามีอารมณ์คงที่แล้วหันมองซ่างสยงเยี่ย เปาลี่ผิง และเฟ่ยไห่ชางอย่างรู้สึกผิด “ขอโทษด้วยนะคะ เดี๋ยวฉันให้เด็กรินชาให้ค่ะ”

ซ่างสยงเยี่ยโบกมือก่อนจะพูดขึ้นว่า “ไม่เป็นไรหรอกครับ พวกเราไม่ได้หิวน้ำหรอก”

ขณะนั้นเองจิงเจ้อหรงกับเสี่ยวเซวี่ยก็เข้ามา

“อาหลาน… เป็นยังไงบ้างครับ”

จิงเจ้อหรงกลัวว่าภรรยาจะอารมณ์แปรปรวนไปกระทบกับร่างกายและเด็กในครรภ์

ถังเซวี่ยเองก็เช่นกัน เธอพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว “แม่คะ พวกเราไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังนะคะ อีกอย่างพวกเราสบายดี ไม่มีใครเป็นอะไรเลย แม่อย่าโกรธเลยนะ”

เฮ่อหลานสัมผัสได้ว่าทุกคนกำลังเป็นห่วงเธอจริง ๆ จึงรู้สึกผ่อนคลายขึ้น

“ไม่ต้องห่วง แม่สบายดี ซวงเอ๋อร์ให้แม่กินยาแล้ว”

พอเห็นว่าภรรยายังอารมณ์ดี จิงเจ้อหรงถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นเขาค่อยหันกลับมาต้อนรับซ่างสยงเยี่ยและคนอื่น ๆ “ขอโทษที่ทำพวกคุณอึดอัดนะครับ เอาล่ะ มาดื่มชากันก่อนเถอะครับ”

จิงเจ้อหรงส่งถ้วยชาให้ทุกคนด้วยรอยยิ้ม

แม้ซ่างสยงเยี่ยและคนอื่น ๆ กล่าวทักทายจิงเจ้อหรง แต่ในใจของทุกคนอดไม่ได้ที่จะกล่าวโทษตัวเอง เพราะพวกเขามาที่นี่ทำให้เกิดปัญหาในครอบครัวซะได้

ในคราวแรกเฮ่อหลานกังวลมาก

แต่เมื่อเห็นว่าลูกสาวทั้งสองสบายดี เธอจึงผ่อนคลายลง

เรื่องราวทั้งหมดจบลงด้วยดี เธอไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรอีก แต่เธอสัมผัสได้ว่าทุกคนกำลังเป็นห่วงตนอย่างหนัก เฮ่อหลานจึงหันมองจิงเจ้อหรง “อาเจ้อคะ ก่อนหน้านี้ฉันรีบออกมาเพราะกังวลมาก แต่ฉันเห็นแล้วว่าซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเซวี่ยและพี่สาวสบายดี ฉันไม่เป็นไรแล้วล่ะค่ะ เดี๋ยวขอตัวกลับไปที่สวนด้านหลังก่อนนะคะ คุณดูแลแขกตามสบายเถอะ”

เห็นสีหน้าผ่อนคลายและรอยยิ้มของเฮ่อหลาน จิงเจ้อหรงรู้สึกโล่งอกเป็นอย่างมาก

“ครับ”

ถังซวงและถังเซวี่ยออกไปกับเฮ่อหลานเช่นกัน ส่วนเกอชิงเหม่ยที่อยากจะไปด้วย แต่ซ่างสยงเยี่ยหยุดเธอเอาไว้เสียก่อน “สหายเกอ ผมมีเรื่องอยากคุยกับคุณสักหน่อยน่ะครับ เดี๋ยวผมต้องกลับแล้ว”

ซ่างสยงเยี่ยรีบมาที่นี่เพราะเป็นห่วงตน เกอชิงเหม่ยเลยไม่ปฏิเสธ

“ค่ะ”

เกอชิงเหม่ยและซ่างสยงเยี่ยเดินมาที่ห้องโถงด้านข้าง เขามองเกอชิงเหม่ยแล้วพูดขึ้นว่า “สหายเกอ… ผมดีใจมากที่คุณปลอดภัย ผมได้ยินมาว่ามันเป็นเพราะแม่ของหลิวก่วงซิ่วที่มาระรานคุณ สิ่งที่พวกเขาทำน่ารังเกียจมาก สองคนนั้นถูกลงโทษยังไงหรือครับ?”

เขาอยากรู้ว่าคนพวกนั้นได้รับผิดยังไง เพื่อจะได้หาวิธีชำระแค้นให้หญิงสาวได้อย่างสาสม

พอเห็นความกังวลในแววตาของซ่างสยงเยี่ย เกอชิงเหม่ยรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เธอพูดออกไปตามตรง “คุณซ่างไม่ต้องกังวลนะคะ ทั้งสองแม่ลูกถูกขับไล่ออกจากเมืองหลวงและอยู่ในที่ ๆ พวกเขาสมควรอยู่แล้วค่ะ พวกเขาจะไม่มีวันมาให้ฉันเห็นหน้าอีกเป็นครั้งที่สอง”

ได้ยินอย่างนั้นซ่างสยงเยี่ยถอนหายใจอย่างโล่งอก

แต่ในใจเขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงสิ่งที่สองแม่ลูกได้รับนั้นน้อยเกินไป หลังจากนี้เขาจะตามสืบว่าสองแม่ลูกไปอยู่ที่ไหน และค่อยคิดบัญชีให้กับเกอชิงเหม่ยให้ได้ แต่ยังไงเรื่องทั้งหมดนี้เขาเพียงคิดในใจและไม่ได้พูดให้อีกฝ่ายรับทราบ

“สหายเกอ อย่างนั้นดูแลตัวเองให้ดีนะครับ”

เกอชิงเหม่ยหัวเราะออกมา

“ไม่ต้องห่วงค่ะคุณซ่าง ฉันไม่ได้เข้ามาเมืองหลวงบ่อย ๆ หรอก แล้วฉันก็ไม่รู้จักใครด้วย เลยไม่มีความแค้นกับใครเลย หลังจากนี้มันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่นอน”

“ดีแล้วครับ”

หลังจากทั้งสองคนพูดคุยกันเสร็จแล้ว ซ่างสยงเยี่ยรู้สึกว่าผู้หญิงตรงหน้าของเขาสวยขึ้นทุกวัน ยิ่งเขามองเธอมากเท่าไหร่ ยิ่งไม่อาจละสายตาไปจากเธอได้

แน่นอน เกอชิงเหม่ยสังเกตเห็นสายตาของซ่างสยงเยี่ย เธอก้มศีรษะลงอย่างอึดอัด ไม่นาน ก็เงยหน้าขึ้นอีกครั้งเพราะไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ แต่ซ่างสยงเยี่ยยังคงมองเธออยู่อย่างนั้น

“คุณซ่างคะ เอ่อ…”

ก่อนที่เกอชิงเหม่ยจะทันได้พูด ซ่างสยงเยี่ยกล่าวขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน

“สหายเกอ ผมรู้ว่าการที่ผมมาที่นี่ในวันนี้ทำให้คุณลำบากใจ แต่ผมอดไม่ได้ที่จะกังวล มาที่นี่โดยไม่ทันคิด… ผมยอมรับเลยว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับคุณมันส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของผมด้วย ผมรู้สึกกับคุณแตกต่างจากคนอื่น ๆ และถ้าคุณก็คิดเหมือนกัน คุณสามารถพูดกับผมได้เลย ยังไงเราสองคนก็เป็นชายหญิงที่ยังไม่แต่งงาน มันไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร”

“คุณ…”

เกอชิงเหม่ยรู้สึกตกตะลึงกับคำพูดซื่อตรงของซ่างสยงเยี่ย เธอไม่รู้เลยว่าควรตอบกลับอีกฝ่ายอย่างไร

อีกทั้งในใจของเธอตอนนี้ปั่นป่วนอย่างมาก

เมื่อเห็นว่าเกอชิงเหม่ยยังเงียบ ซ่างสยงเยี่ยไม่ได้เร่งรัดอะไร เขายกยิ้มอ่อนโยนก่อนจะตอบกลับว่า “ผมจะกลับมาอีกครั้ง คุณไม่ต้องรีบให้คำตอบหรอกครับ ไว้หลังจากคุณคิดทบทวนเรื่องนี้แล้ว มันก็ยังไม่สายเกินไปที่จะบอกผม ผมรอได้”

หลังพูดจบแล้ว ซ่างสยงเยี่ยไม่คิดจะอยู่ที่นี่ต่อ

“สหายเกอ ตอนนี้ผมคงต้องกลับจริง ๆ ผมออกจากเมืองก่างเฉิงมานานเกินไป ที่นั่นคงกำลังวุ่นวายน่าดู”

เกอชิงเหม่ยพยักหน้าแล้วตอบกลับว่า “ค่ะ รีบกลับเถอะ เดี๋ยวฉันจะไปส่งคุณที่สถานีรถไฟนะคะ”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมไปคนเดียวได้ แต่ว่า… สหายเกอ หลังจากนี้ไป… ผมขอเรียกคุณว่าชิงเหม่ยได้ไหมครับ?” ซ่างสยงเยี่ยกล่าวอย่างแผ่วเบา

นี่เป็นครั้งแรกที่เกอชิงเหม่ยรู้สึกว่าเขินอาย เธอไม่คิดมาก่อนว่าซ่างสยงเยี่ยจะเป็นผู้ชายที่ตรงไปตรงมาขนาดนี้ เธอไม่สามารถตั้งรับทุกอย่างได้ทันเลยสักนิด

ซ่างสยงเยี่ยเห็นว่าเกอชิงเหม่ยเขินอาย ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อเพียงบอกลาด้วยรอยยิ้ม

เวลานี้เกอชิงเหม่ยไปส่งซ่างสยงเยี่ยที่ประตู มองดูจนกระทั่งเขาลับสายตา และเห็นโม่เจ๋อหยวนกำลังจะกลับแล้วเช่นกัน

“เจ๋อหยวน รีบกลับจังล่ะจ๊ะ?”

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

Status: Ongoing
การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนี่ผู้มั่งคั่งร่ำรวยเธอตื่นขึ้นมาในร่าง ‘ถังชวง’ เด็กสาวในยุค 70 ที่มีชีวิตแสนลำบากในตระกูลที่กขี่ทั้งเธอ แม่กับน้องสาว… แต่จากนี้เธอจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ เธอจะเป็นเศรษฐีนี่ให้ได้เลย! นิยายแปลเรื่อง การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนี่ผู้มั่งคั่งร่ำรวย [重返七零之空间小辣]ผู้แต่ง:钰儿เรื่องย่อ: เธอเกิดใหม่มาในร่งของ ถังซวง’ เด็กสาวที่ถูกกใน ยุค 70!! แถมยังต้องมาเจอกับพ่อใจร้ายที่วัน ๆ เาแต่ทุบตี เธอเลยต้องวางแผนให้แม่หย่ากับพ่อเฮงซวยแบบนี้แล้วพาแม่กับน้องสาว ออกไปจากตระกูลปรสิตนี่ และหลังออกจากระกูล เธอก็มุ่งมั่นตั้งใจพาครอบครัวไปสู่เส้นทางเศรษฐีนี่ให้ได้ในสักวัน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท