การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย – บทที่ 425 รวบรวมหลักฐาน

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

บทที่ 425 รวบรวมหลักฐาน

บทที่ 425 รวบรวมหลักฐาน

ได้ยินที่ตู้หรงหมิงพูด ทุกคนจึงรู้ว่าเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นแน่

“คุณตู้ ใครเป็นคนออกคำสั่งนี้คะ? คุณใหญ่ที่สุดในหน่วยไม่ใช่หรือ? แล้วใครจะมาสั่งให้คุณพักได้?”

เดิมทีตู้หรงหมิงก็อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว แต่หลังได้ยินคำถามของโหยวอี้หง เขาก็พูดไปอย่างขุ่นเคืองว่า “ถึงฉันจะมีตำแหน่งใหญ่ที่สุด แต่ก็มีแผนกอื่น ๆ ที่รับผิดชอบหน่วยงานของเราอยู่ ผู้นำที่อาวุโสกว่าฉัน เขาย่อมอยู่เหนือจากฉันเป็นธรรมดา”

โหยวอี้หงอยากจะถามบางอย่างต่อ แต่เมื่อได้ยินเขาพูดถึงขนาดนั้นเธอจึงไม่พูดอะไรต่อ

แต่กลับเป็นตู้จ้งเหลียนที่กัดฟันแน่นถามออกไป “พ่อครับ เป็นตระกูลจิงใช่ไหม”

ตู้หรงหมิงเองก็คาดเดาไว้อย่างนั้นเหมือนกัน ยิ่งได้ยินที่ลูกชายคนเล็กพูด เขาถึงกับเก็บกลั้นความโกรธไม่อยู่ “แกยังมีหน้ามาพูดอย่างนี้อีกหรือ มันไม่ใช่เพราะความดื้อด้านของแกหรือไงถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้กับครอบครัวเรา” เวลานี้ความโกรธของเขาปะทุขึ้นอย่างอดไม่ไหว แต่เมื่อเห็นร่างกายที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผล เขาจึงไม่ได้ลงมือเพราะรู้สึกว่าลูกชายเจ็บหนักมากพอแล้ว

เรื่องนี้ตู้จ้งเหว่ยเองก็พอจะคาดเดาได้

แต่จะกล่าวโทษตระกูลจิงได้ยังไง? ใครเป็นคนบอกให้ตู้จ้งเหลียนทำเรื่องโง่ ๆ อย่างนี้กันล่ะ? ตอนนี้ชายหนุ่มรู้สึกอึดอัดอย่างมากไม่รู้ว่าตนเองจะเป็นเพื่อนกับถังซวงต่อไปได้หรือไม่ และเขากับชุนหยานจะคบกันต่อได้ไหม?

ตู้จ้งเหว่ยเดินกลับไปที่ห้องของตัวเอง

ตู้หรงหมิงที่เห็นลูกชายเดินออกไป สีหน้าของเขาดูไม่ค่อยดีนัก แถมลูกชายคนโตกลับไม่ช่วยเขาแก้ปัญหาใด ๆ ทั้งยังปล่อยให้เขาอยู่คนเดียว ไม่อยู่ในสายตาของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย

ส่วนโหยวอี้หงไม่คิดสนใจตู้จ้งเหว่ย เธอหันมองตู้หรงหมิงอย่างกระวนกระวาย “คุณตู้ เราจะทำยังไงดี? ตอนนี้คุณแค่พักผ่อน แล้วอีกสองวันก็ได้กลับไปทำงานแล้วใช่ไหม?”

“ฉันจะไปรู้ได้ยังไง!”

ตู้หรงหมิงไม่อยากจะอยู่ที่นี่ต่อ เขาเดินกลับห้องตัวเองทันที

ส่วนโหยวอี้หงที่เห็นตู้หรงหมิงเดินออกไปยิ่งรู้สึกกระวนกระวาย

สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเด็กผู้หญิงคนนั้นคนเดียว แม้แต่งานของคุณตู้ยังได้รับผลกระทบไปด้วย ถึงสิ่งที่ลูกชายของหล่อนทำจะผิด แต่เด็กหญิงคนนั้นไม่ผิดด้วยหรือไง?

“ไม่ ฉันไม่เชื่อ ถึงตระกูลจิงจะมีอิทธิพลมาก แต่เขาจะรังแกพวกเราอย่างนี้ไม่ได้ ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าจะไม่มีใครจัดการกับพวกเขาได้”

ตู้จ้งเหลียนหันไปมองแม่ของตนเอง

“แม่ครับ ลองถามพ่อดูหน่อยสิว่าจะทำยังไงกับเรื่องนี้ เราทำอะไรไม่ได้หรอกครับ แต่พ่อต้องรู้จักผู้ใหญ่บางคนแน่”

เมื่อโหยวอี้หงได้ยินอย่างนั้น เธอเม้มปากแล้วพูดว่า “แม่รู้ แม่จะไม่เข้าไปยุ่ง”

แม้เธอไม่อยากจะยอมรับ แต่โหยวอี้หงเองก็เข้าใจดีว่าตู้หรงหมิงย่อมรู้เรื่องนี้ดีกว่าใคร “จ้งเหลียน อาการบาดเจ็บของลูกยังไม่ดี กลับไปพักผ่อนที่ห้องก่อนเถอะนะ”

ตู้จ้งเหลียนยังเจ็บแผลอยู่ไม่น้อย เขาพยักหน้า “ครับ”

ในตอนนี้ บรรยากาศในตระกูลตู้ทั้งมืดมนและเงียบเหงา แต่ว่าในตระกูลจิงกลับเต็มไปด้วยความสนุกสนาน

คุณนายจิงเห็นโม่เจ๋อหยวนและเฟิงเยี่ยหานอยู่ที่บ้าน จึงสั่งให้ทำอาหารมากมายหลายอย่าง เธอกล่าวเชิญให้พวกเขากินข้าวเยอะ ๆ เพราะยังไงหญิงชราอย่างเธอก็ชอบหนุ่มหล่อเป็นที่สุด

ผู้เฒ่าจิงมองคุณนายจิงอย่างขบขัน แต่เขาเองก็ชอบเฟิงเยี่ยหานเหมือนกัน เพราะลูกชายทั้งสามคนของพวกเขาไม่ดื่มแอลกอฮอล์ แต่เมื่อมีโม่เจ๋อหยวนและเฟิงเยี่ยหานมาร่วมโต๊ะ ทั้งสองสามารถร่วมดื่มกับเขาได้อย่างลื่นไหล

“มาเถอะเสี่ยวเยี่ย เรามาดื่มกัน”

“ครับคุณปู่จิง”

เฟิงเยี่ยหานชอบดื่มกับผู้เฒ่าจิงมาก และสุภาพอยู่เสมอ อีกทั้งยังบอกให้ผู้เฒ่าจิงดื่มช้า ๆ ด้วย

ผู้เฒ่าจิงโบกมือให้เฟิงเยี่ยหาน “เสี่ยวเยี่ยไม่ต้องกังวล พวกเราดื่มช้า ๆ สบาย ๆ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง”

“ครับ”

เฟิงเยี่ยหานตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

เห็นอย่างนั้น คุณนายจิงจ้องมองผู้เฒ่าจิงแล้วพูดว่า “ดื่มแต่พอดี ไม่ต้องมากล่ะ”

“ไม่ต้องห่วง ฉันดื่มนิดหน่อยเท่านั้น ซวงเอ๋อร์ก็บอกแล้วนี่ว่าไม่เป็นไร”

ถังซวงพยักหน้าพร้อมยกยิ้ม “ไม่ต้องห่วงค่ะ คุณปู่ดื่มแค่นิดหน่อย ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”

จิงไค่หรงและจิงซิวหรงเองก็มีความสุขมากเช่นกันที่เห็นชายชรามีความสุข ทุกคนพูดคุยอย่างสนุกสนาน

อวี๋มินและเมิ่งผิงพูดคุยสองสามคำ ขณะที่มองโม่เจ๋อหยวนและถังซวง ก่อนจะมองเฟิงเยี่ยหานและถังเซวี่ย พวกหล่อนกลับรู้สึกว่าอาหารวันนี้ไม่ค่อยถูกปากนัก

ถังซวงและถังเซวี่ยยังเด็ก แต่มีคนรักเป็นชายที่โดดเด่นมาก ลูกชายผู้โง่เขลาของเธอทั้งสองเทียบไม่ติดเลย

“คุณแม่คะ ช่วยดูให้หน่อยได้มั้ยคะว่ายังมีผู้หญิงดี ๆ ในเมืองหลวงคนไหนยังโสดอีกหรือเปล่า ลองแนะนำให้พวกเขารู้จักกับเหวินหยวนและเหวินรุ่ยหน่อยได้ไหมคะ ทั้งสองคนอายุก็เยอะแล้วแต่ยังไม่ได้คบหาใครเป็นตัวเป็นตนเลย”

“แม่…”

ทั้งจิงเหวินหยวนและจิงเหวินรุ่ยไม่ชอบใจ

คุณนายจิงเหลือบมองลูกสะใภ้ทั้งสองก่อนจะพูดว่า “ก่อนหน้านี้พวกเธอบอกว่าไม่รีบร้อนไม่ใช่หรือ? ทำไมตอนนี้คิดรีบแล้วล่ะ?”

เมิ่งผิงก้มศีรษะลงด้วยความอับอาย

เพราะสายตาที่ย่ำแย่ของเธอทำให้เกิดเรื่องร้ายกับลูกชาย ตอนนั้นเธอจึงไม่คิดรีบร้อน แต่เมื่อเห็นถังซวงหมั้นหมายไปแล้ว และถังเซวี่ยเริ่มจะส่งสัญญาณบางอย่าง เธอจึงกังวล

ส่วนอวี๋มินที่ไม่รู้สึกอะไร ก็ตอบตามตรงว่า “แม่คะ ตอนนั้นกับตอนนี้ไม่เหมือนกัน ตอนนั้นฉันไม่รีบ แต่ตอนนี้ฉันรีบแล้วค่ะ”

“โอ้ ตกลง ๆ ไม่ต้องห่วง ฉันจะลองดูให้”

“ขอบคุณค่ะคุณแม่”

จิงเหวินหยวนและจิงเหวินรุ่ยไม่สามารถขัดใจพวกแม่ ๆ ได้ จึงทำได้เพียงนั่งเงียบ

หลังจากมื้ออาหารเย็นสิ้นสุดลง จิงเจ้อหรงไปส่งเฮ่อหลานไปพัก จากนั้นเดินไปที่ลานของถังซวงและเห็นว่าโม่เจ๋อหยวนกับเฟิงเยี่ยหานก็อยู่ที่นี่ด้วย

“ดีเลยที่พวกเธอทุกคนอยู่ที่นี่ เรามาพูดคุยธุระกันเถอะ”

โม่เจ๋อหยวนและเฟิงเยี่ยหานเล่าถึงเรื่องที่พวกเขาไปรู้มา “ถึงจะพอมีหลักฐานอยู่บ้าง แต่มันก็เล็กน้อยไม่พอที่จะจัดการกับตู้หรงหมิงได้”

จิงเจ้อหรงส่ายศีรษะ “แค่นี้ก็เกือบจะพอแล้วล่ะ ตู้หรงหมิงไม่ใช่แค่ติดสินบนเท่านั้น แต่เขายังเคยรับสินบนด้วย”

ถังซวงถึงกับอุทานออกมาหลังได้ยินอย่างนั้น “เขากล้ามากจริง ๆ”

“ใช่ เขากล้ามาก”

แม้แต่โม่เจ๋อหยวนเองก็พยักหน้ารับ เขาหันมองจิงเจ้อหรงก่อนจะถามว่า “แล้วลุงจิงมีหลักฐานว่าตู้หรงหมิงรับสินบนหรือครับ?”

“ยังไม่มีหรอก แต่ก็มีเค้าโครงลาง ๆ แล้วล่ะ ในไม่ช้าเราคงได้หลักฐานที่ชัดเจน”

ในตอนท้าย จิงเจ้อหรงหันมองถังซวงก่อนจะถามว่า “บอกเรื่องนี้กับตู้จ้งเหว่ยหรือยัง? แล้วเขาเป็นยังไงบ้าง?”

ถังซวงเล่าเรื่องที่ถังชุนหยานเคยพูดไว้ก่อนหน้า “ถ้าจากมุมมองของทั้งสามคน ตู้จ้งเหว่ยค่อนข้างซื่อตรง และเขาไม่ช่วยเหลือผู้เป็นพ่อแน่นอน แต่หลังจากเหตุการณ์นี้ ความสัมพันธ์ของพวกเราคงไม่อาจเหมือนเดิมได้”

“นั่นเป็นสิ่งที่ช่วยไม่ได้แหละนะ ก็ได้แต่หวังว่าตู้จ้งเหว่ยจะมีหนทาง”

หลังพูดจบแล้ว จิงเจ้อหรงยืนขึ้น

“เอาล่ะ งั้นพ่อกลับก่อนนะ” ก่อนจะกลับ เขาหันมองโม่เจ๋อหยวนและเฟิงเยี่ยหาน “ถ้าพวกเธออยากจะอยู่ที่นี่ต่อ ก็อยู่ได้เลย พวกเราจะได้พูดคุยกันง่ายขึ้นด้วย”

เฟิงเยี่ยหานตาเป็นประกายทันที รีบตอบรับ “ขอบคุณครับลุงจิง”

จิงเจ้อหรงเดินออกไป

ผ่านไปไม่กี่วัน ถังซวงและคนอื่น ๆ ร่วมกันสืบค้นการกระทำของตระกูลตู้ ในที่สุดพวกเขาก็มีหลักฐานเพียงพอแล้ว และสิ่งที่เฟิงเยี่ยหานกับถังซวงค้นพบถึงกลับสร้างความประหลาดใจให้กับทุกคน

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

Status: Ongoing
การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนี่ผู้มั่งคั่งร่ำรวยเธอตื่นขึ้นมาในร่าง ‘ถังชวง’ เด็กสาวในยุค 70 ที่มีชีวิตแสนลำบากในตระกูลที่กขี่ทั้งเธอ แม่กับน้องสาว… แต่จากนี้เธอจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ เธอจะเป็นเศรษฐีนี่ให้ได้เลย! นิยายแปลเรื่อง การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนี่ผู้มั่งคั่งร่ำรวย [重返七零之空间小辣]ผู้แต่ง:钰儿เรื่องย่อ: เธอเกิดใหม่มาในร่งของ ถังซวง’ เด็กสาวที่ถูกกใน ยุค 70!! แถมยังต้องมาเจอกับพ่อใจร้ายที่วัน ๆ เาแต่ทุบตี เธอเลยต้องวางแผนให้แม่หย่ากับพ่อเฮงซวยแบบนี้แล้วพาแม่กับน้องสาว ออกไปจากตระกูลปรสิตนี่ และหลังออกจากระกูล เธอก็มุ่งมั่นตั้งใจพาครอบครัวไปสู่เส้นทางเศรษฐีนี่ให้ได้ในสักวัน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท