ที่หนึ่งอันยอดเยี่ยมนั่น จะไปถึงมันอีกครั้งได้ไหมนะ – ตอนที่ 48

ที่หนึ่งอันยอดเยี่ยมนั่น จะไปถึงมันอีกครั้งได้ไหมนะ

​           ขอบคุณทุกท่านที่เข้าสนับสนุนกัน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกๆ ท่านจะสนับสนุนกันต่อไปในอนาคต

 

​           ปิดเทอมหน้าร้อน

​           ในที่สุดฉันก็สามารถผ่อนคลายร่างกายและสมองที่เหนื่อยล้าจากการเรียนได้แล้ว

​           ย้อนกลับไปสองสัปดาห์ก่อนตอนที่ต้องเตรียมตัวสอบปลายภาคนั่นถือเป็นสัปดาห์นรกของฉันเลย

​           เพราะตัวเองไม่ได้มีพรสวรรค์ในด้านการเรียนมากนัก ฉันจึงจำเป็นต้องใช้พรแสวงของตัวเองบวกกับการช่วยเหลือจากเพื่อนสนิทอย่างเซริ จนในที่สุดฉันก็ผ่านพ้นมันมาได้ คิดๆ ไปแล้วก็รู้สึกภูมิใจในตัวเองไม่น้อย

​           อย่างที่รู้กันว่าโรงเรียนฮิบิยะของฉันนั้นขึ้นชื่อลือชาเรื่องความยากในการเรียน เพราะว่าเป็นโรงเรียนที่มุ่งมั่นในเรื่องการส่งนักเรียนเข้าสู้รั้วมหาวิทยาลัยให้ได้มากที่สุดในบรรดาเครือข่ายโรงเรียนเดียวกัน บรรดาอาจารย์จึงไม่เคยปล่อยให้พวกนักเรียนได้อยู่กันอย่างสุขสบาย

​           แค่นั้นยังไม่พอ ความยากมันไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้นเพียงอย่างเดียว หากแต่มันอยู่ตรงการแข่งขันกันเองของเหล่านักเรียนด้วย พูดง่ายๆ ก็คือที่นี่มันเป็นแหล่งรวมพวกนักเรียนเก่งๆ พอเป็นนักเรียนเก่งค่าเฉลี่ยของคะแนนสอบก็สูง พอคะแนนสูงเหล่านักเรียนก็ต้องแข่งขันกันมากขึ้นนั่นเอง

​           แต่ยังไงโรงเรียนก็คือโรงเรียน มันย่อมต้องมีทั้งพวกเด็กเรียนและเด็กธรรมดาๆ อยู่รวมกันอยู่แล้ว แน่นอนว่าเด็กธรรมดาย่อมเยอะกว่าและฉันเองก็เป็นหนึ่งในนั้น

​           พอคิดแบบนั้นแล้วก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมา หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วก็โทรหาเซริก่อนเข้านอนเหมือนทุกที

​           “…โอ้วใช่ อามายะ ตกลงเธอจะไปทะเลกับพวกนิโนะมิยะคุงหรือเปล่าน่ะ?”

​           ช่วงหนึ่ง เซริถามฉันเรื่องที่พวกเราถูกนิโนะมิยะและเพื่อนๆ ชวนไปเที่ยวทะเลกัน ซึ่งคนที่จะไปส่วนใหญ่แล้วเป็นคนที่เคยไปติวสอบด้วยกันนั่นเอง

​           พูดแล้วก็ต้องย้อนกลับไปตอนช่วงติวสอบครั้งล่าสุด ถ้านับกันจริงๆ ก็เป็นครั้งที่สองแล้วที่ฉันมาติวร่วมกับกลุ่มเพื่อนๆ ของนิโนะมิยะ

​           ใจจริงไม่ค่อยอยากมาเท่าไรนักไม่ใช่ว่าไม่ชอบการติวกับเพื่อนๆ แต่คราวนี้มีเพื่อนร่วมห้องคนอื่นๆ ที่ครั้งก่อนไม่ได้มาติวด้วยกันที่สำคัญแล้วส่วนใหญ่ดูเหมือนจะเป็นแฟนคลับของนิโนะมิยะ ฉันมองจากดาวอังคารแล้วยังรู้เลยว่าพวกเธอมาติวด้วยจุดประสงค์อะไร

​           แล้วทำไมฉันต้องไปน่ะหรอ…

​           หึๆๆ ลองใครมาเจอสถานการณ์กดดันแบบนั้นแล้วกล้าปฏิเสธนี่จิตใจต้องแข็งแกร่งขนาดไหนนะ

​           พอนึกย้อนแล้วก็เคืองเซรินิดๆ ที่ไม่ยอมช่วยกันเลย ถึงสุดท้ายจะกลับคำยอมไปติวเป็นเพื่อนก็เถอะ

​           “เฮ้ออ… โดนกดดันขนาดนั้นจะปฏิเสธยังไงล่ะ ถูกบอกว่าให้มาให้ได้นะขนาดนั้น”

​           ไม่ใช่แค่นิโนะมิยะที่พูด แต่เพื่อนๆ เขาทุกคนก็พูด เลยตกลงไปแบบขัดไม่ได้ ฮืออ….

​           “งั้นก็ไปซิ”

​           “แต่เธอไม่ไปกับฉันนิ”

​           ครั้งนี้เซริยืนยันหนักแน่นว่าไม่ไป จะหวังให้เธอกลับลำแบบก่อนหน้านี้คงจะยาก

​           “ไม่เป็นไรน่า คนไปกันเยอะแยะ รับปากเขาไปแล้วด้วย”

​           “สถานการณ์มันบังคับนินา”

​           “แล้วตกลงจะไปไหม?”

​           “ก็ต้องไปแหละ”

​           วางสายจากเซริแล้วก็รู้สึกเหนื่อยใจอย่างประหลาด จริงๆ การไปทะเลในหน้าร้อนกับเพื่อนๆ นั้นก็ดูเป็นอะไรที่น่าสนุกอยู่หรอก เพียงแต่ครั้งนี้มันไม่ใช่เพื่อนที่สนิทกัน แถมบางคนไม่เคยคุยกันเลยด้วยซ้ำ

​           กำหนดการคือวันที่ 3 หรือก็คืออีก 2 วันหลังจากนี้ ที่หมายคืออ่าวตะวันออกที่อยู่ถัดไปสองเมือง ต้องนั่งรถไฟไปถึง 2 ชั่วโมง

​           ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่อยากไป ฉันเลยเลิกคิดแล้วปิดไฟนอน ตั้งใจว่าพรุ่งนี้จะตื่นแต่เช้ามาทำการบ้านที่เหลือให้เสร็จก่อนไปเที่ยว แต่ความตั้งใจนั้นก็เป็นอันเหลวไปเพราะวันต่อมาเซริบุกมาที่บ้านซะก่อน

​           “อามายะ รู้ข่าวหรือยัง?”

​           ทันทีที่เข้ามาในห้องยังไม่ทันจะได้นั่ง เซริก็ยิงคำถามที่ไม่เข้าใจเลยสักนิดมาให้

​           “ก็พวกผู้หญิงที่จะไปเที่ยวทะเลกับเธอครั้งนี้น่ะ บอกว่าจะอวดชุดว่ายน้ำให้พวกผู้ชายดูกันล่ะ เห็นว่าจะเอาให้ตาค้างกันไปเลย”

​           “อ่ออ… เห็นในกลุ่ม RaNE แล้ว”

​           เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร เพราะเห็นพิมพ์คุยเล่นกันในกลุ่ม RaNE ตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว

​           “แบบนี้แย่แน่ๆ ไม่ได้แล้วๆๆ”

​           “อะไรไม่ได้?”

​           ฉันนั่งมองเซริที่ร้อนรนจนนั่งไม่ติดด้วยความสงสัย

​           “ชุดว่ายน้ำเธอไง เธอบอกว่ามีชุดตอน ม.ต้น ใช่ไหม เป็นแบบไหนเอามาดูซิ”

​           “หืออ???”

​           “เหอะน่า เอามาลองเดี๋ยวนี้เลย”

​           เซริที่กระสับกระส่ายดึงฉันให้ลุกจากที่นอนไปเปลี่ยนชุด ฉันมองเธอด้วยความไม่เข้าใจในสถานการณ์แต่ก็ยอมทำตามที่เธอบอก ผลก็คือ

​           “เอ๊ะ… เหมือนจะคับไปนิดแฮะ แต่ก็ใส่ได้อยู่”

​           ฉันที่อยู่ในชุดว่ายน้ำแบบวันพีชมีระบายที่เอวคล้ายกระโปรงกับระบายพลิ้วๆ ตรงอกมองดูตัวเองในกระจกแล้วก็รู้สึกว่าไม่แตกต่างจากตอน ม.ต้น สักเท่าไร แค่รู้สึกว่าไซซ์จะเล็กไปนิดสำหรับร่างกายตอนนี้

​           “เซริ…??”

​           หันมาหาเซริก็เห็นเธอยืนมองฉันแบบอึ้งๆ พอเรียกเธอเบาๆ ก็เหมือนจะเพิ่งได้สติกลับมา

​           “อามายะ เธอเนี่ย… ซ่อนรูปเยอะเลยนะ”

​           “เอ๊ะ?”

​           “ไม่ต้องมาเอ๊ะเลย หุ่นแบบนี้แต่ยังจะใส่ชุดตอน ม.ต้น อีก ไม่เห็นหรือไงว่ามันจะล้นออกมาแล้วเนี่ย”

​           ไม่พูดเปล่า เซริเอานิ้วมาจิ้มหน้าอกกับก้นฉันแบบไม่ทันตั้งตัว

​           “อะไรเนี่ย เนียนนุ่มสุดๆ ไปเลยไม่ใช่หรอ? ไหนๆ มาให้จับหน่อยซิน้องสาว”

​           “ยัยบ้า เล่นอะไรเนี่ย… หยุด… อ๊ะ… อย่า… มันจักจี้… บอกว่าอย่… อ๊าา…”

​           กว่าจะหลุดจากมือหนวดปลาหมึกของเซริมาได้ก็เล่นเอาเหนื่อย ฉันขึงตามองเซริที่ยืนยิ้มตาหยีพลางเปลี่ยนเสื้อผ้าไปด้วย

​           “อ่อใช่… เปลี่ยนเป็นชุดออกไปข้างนอกเลย”

​           “ไปไหน?”

​           “ไปซื้อชุดว่ายน้ำ”

​           …ซื้อชุดว่ายน้ำ? ของใคร?

​           เซริน่าจะเดาได้ว่าฉันคิดอะไร เธอเลยตอบคำถามที่อยู่ในใจฉัน

​           “ของเธอนั่นแหละ ชุดนี้ไม่ไหวหรอก เธอไม่เห็นหรือไงว่ามันเล็กเกินไปแล้ว”

​           ฉันเงียบ มองชุดว่ายน้ำที่ถืออยู่

​           “อีกอย่างนั่นมันชุด ม.ต้นนะ ตอนนี้เธออยู่ ม.ปลายแล้ว แถมคนอื่นๆ ที่ไปด้วยยังจัดเต็มกันขนาดนั้น ถ้าเธอใส่ตัวนี้ไปละก็มีหวังโดนยัยพวกนั้นดูถูกแน่ๆ”

​           แบบนั้นยอมไม่ได้…

​           เซริพูดแบบนั้นด้วยท่าทางเหมือนกับพวกโค้ชชมรมกีฬาที่กระตุ้นปลุกไฟลูกทีมตัวเองก่อนการแข่งขัน แล้วก็จัดแจงลากฉันไปซื้อชุดว่ายน้ำ

​           อ่า… คอยก่อนนะ การบ้านที่เหลือของฉัน

​           ​           ​           ​           ​           ​           —

​           แล้ววันนัดหมายก็มาถึง

​           จุดรวมพลคือหน้าสถานีรถไฟ G ของเมือง T สายที่มุ่งหน้าสู่ภาคตะวันออก

​           ฉันต้องออกจากบ้านตั้งแต่ 7 โมงเช้าเพื่อให้ทันเวลานัดหมายตอน 8 โมง และในตอนที่มาถึงสถานีก็พบว่ามีคนมาถึงก่อนฉันแล้วประมาณครึ่งหนึ่ง

​           ทันทีที่เข้าไปรวมกลุ่มพวกผู้ชายก็ทักทายฉันกันอย่างเป็นกันเอง คงเป็นเพราะค่อนข้างจะคุยกันบ่อยล่ะมั้ง พวกเขาเลยเป็นกันเองกับฉันมากกว่าพวกผู้หญิงคนอื่น

​           แล้วก็ไม่ใช่ว่าฉันเข้ากับผู้หญิงในกลุ่มนี้ไม่ได้หรอกนะ เพียงแต่สนิทน้อยกว่านิโนะมิยะกับพวกเฉยๆ เราเลยแค่ทักทายกันธรรมดา

​           พอเวลาใกล้จะแปดโมงทุกคนก็มากันครบ กลุ่มของพวกเราจึงเคลื่อนตัวเข้าไปในสถานีโดยใช้วิธีการเข้าแถวเรียงเดี่ยว 2 แถว แถวละ 7 คน ให้ความรู้สึกคล้ายกับตอนไปทัศนศึกษาสมัย ม.ต้น อยู่ไม่น้อย

​           ข้างๆ กันเป็นนิโนะมิยะที่มาเดินอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เขาทักทายฉันอีกครั้ง เราคุยกันเรื่อยเปื่อยระหว่างที่เดินเข้าช่องตรวจตั๋วแล้วก็ไปยืนรอเที่ยวรถกัน

​           ระหว่างรอกลุ่มเราก็พูดคุยเล่นกันฆ่าเวลาแต่เพราะกลุ่มมีขนาดใหญ่ พวกเราเลยยืนกันกระจายๆ เพื่อไม่ให้ไปเกะกะคนอื่น

​           “จริงซิ คุณโอโตเมะ คะแนนสอบครั้งนี้เป็นไงบ้าง”

​           อาซาวะ อาซาซึกิ หนึ่งในกลุ่มเพื่อนผู้ชายของนิโนะมิยะที่เห็นอยู่ด้วยกันตลอดถามฉันในตอนที่กำลังคุยเรื่องการบ้านกัน

​           “ก็ไม่แย่นะ ถือว่าทำได้ตามเป้าแหละ อาซาวะคุงเองหนนี้ก็ดูตั้งใจกว่าทุกทีหรือเปล่า ลำดับขึ้นมาอยู่ที่ 6 เลยนิ”

​           “ยังห่างจากเป้าหมายอีกเยอะน่ะ ฮ่าๆ”

​           “งั้นหรอ…”

​           ฉันตอบเขาแล้วเราก็หัวเราะกัน แล้วเพื่อนของอาซาวะก็โผล่หน้ามาจากข้างหลังเขา

​           “นี่ๆๆ โอโตเมะจังรู้หรือเปล่าว่าเป้าหมายของอาซาซึกิคืออะไร? คิกๆๆ”

​           คนที่โผล่มาคนนี้คือยามาโมโต้ ไทจิ หนุ่มบ้านรวยเจ้าของสถานที่จัดติวทั้งสองครั้งที่ผ่านมา แถมครั้งนี้เขายังให้ไปพักที่บังกะโลเขาได้แบบฟรีๆ อีกต่างหาก ป๋าชะมัดเลย

​           “นายน่ะเงียบไปน่า…”

​           อาซาวะดันหัวเพื่อนตัวเองออกจากไหล่พร้อมด้วยเสียงไล่แบบเหนื่อยหน่าย แต่ยามาโมโต้ไม่ได้สะทกสะท้านเลย

​           “หมอนี่น่ะจะเอาชนะคุณทาเคโนะอุจิให้ได้แหละ แล้วจะปะ…”

​           “พูดมากไปแล้ว”

​           อาซาวะเอามือนึงปิดปากเพื่อน แขนอีกข้างก็ล็อกคอไว้ไม่ให้หนีไปไหน

​           “ขอโทษทีนะคุณโอโตเมะ ฉันขอตัวแปบนะ”

​           “อ๊ะ… อ่อ ตามสบาย”

​           แล้วยามาโมโต้ถูกลากออกไปในสภาพนั้น วงสนทนาเลยเหลือแค่ฉันกับอุริว อิชิอิ ที่ไม่ค่อยได้พูดอะไร ความเงียบเลยเข้ามาปกคลุมทันที

​           หันไปมองอีกทางก็เห็นกลุ่มคนที่มาด้วยกันยืนเป็นกลุ่มๆ อยู่ ต่างพูดคุยทำความสนิทสนมกัน โดยเฉพาะนิโนะมิยะดูเหมือนจะถูกล้อมมากเป็นพิเศษ

​           ดูจากท่าทางของเขาแล้วก็คงไม่ได้รู้สึกแย่อะไร เพราะยังคงแจกรอยยิ้มสดใสให้ทุกคนได้อย่างทั่วถึง จังหวะหนึ่งเขาหันมามองทางฉันแล้วยิ้มให้ฉันด้วยรอยยิ้มที่ต่างจากรอยยิ้มมาตรฐานปกติของเขา ทำเอาฉันรู้สึกไปถึงสายตาทิ่มแทงมาจากกลุ่มนั้น

​           แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่จะส่งสายตาไม่เป็นมิตรมาให้ฉัน เพื่อนผู้หญิงบางคนก็ยังคุยรู้เรื่อง และเข้ามาคุยกับฉันได้เป็นปกติ ดังนั้นแล้วการเดินทางไปทะเลครั้งนี้สำหรับฉันแล้วก็คงไม่น่าเบื่อสักเท่าไรนัก

ที่หนึ่งอันยอดเยี่ยมนั่น จะไปถึงมันอีกครั้งได้ไหมนะ

ที่หนึ่งอันยอดเยี่ยมนั่น จะไปถึงมันอีกครั้งได้ไหมนะ

Status: Ongoing
อาคิยามะ เออิชิ เด็กหนุ่มที่เคยมีชีวิตที่ยอดเยี่ยม… วันแรกของชีวิต ม.ปลาย เขาถูกรุ่นพี่ลากไปพัวพันกับการมีเรื่องทะเลาะวิวาทและจบลงด้วยการพาไปเลี้ยงอาหารขอโทษ ที่นั่นเขาได้เจอกับเด็กสาวผู้มีนัยน์ตางดงาม โอโตเมะ อามายะ แต่เธอกลับมองเขาด้วยสายตาไม่เป็นมิตร “นี่ นายน่ะ เป็นเด็กเกเรใช่ไหม?” ประโยคเปิดตัวที่ไม่ธรรมดา จะนำพาความสัมพันธ์ของพวกเขาไปในทิศทางใด…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท