อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต – ตอนที่ 24 ทิศทางที่เคลื่อนไป

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

ทิศทางที่เคลื่อนไป

(มุมฮาคัว)

 

คัตซึนกับฉันตกอยู่ในสถานการวุ่ยว่ายที่พวกต่างดาวมารุกราน

 

พวกเราทั้งสองถูกแยกออกจากกันด้วยฝูงชนที่หนีตาย จากนั้นไม่นานก็มีเสียงของผู้คนพูดกันขึ้นมาว่า อัศวินขาวได้ปรากฏตัวขึ้น

 

 

 

 

「ไม่จริงน่า โผล่มาด้วยเหรอ!?」

 

「มันก็ต้องแน่อยู่แล้ว เพราะเมื่อวานเองก็เหมือนกันนี่นา!」

 

「ทำไมพวกเอ็งเรียกอัศวินขาวกันฟะ ดูยังไงมันก็อัศวินดำคุง!」

 

 

หากในแง่ของการกู้โลกดูเหมือนอัศวินดำจะมีชื่อเสียงมากกว่าเหล่าจัสติสครูเซเดอร์

 

หลายคนอยากจะรู้จักเขาให้มากขึ้น ทั้งรูปร่างหน้าตาวิถีชีวิต แต่ก็ไม่มีใครข้ามเส้นที่เหมือนเขาจะขีดเอาไว้มาก่อน

 

 

ความวุ่ยวายได้จบลงก่อนที่พวกจัสติสครูเซเดอร์จะมาถึง และอัศวินขาวได้วิ่งหนีฝูงชนกับเหล่าสาวๆที่ไล่ล่าอย่างสุดชีวิต

 

 

 

คัตซึนทำไมยังไม่มาอีกนะ

 

บางส่วนในใจของฉันยังแอบหวังว่า นั่นจะไม่ใช่เขา

 

คนที่ถูกเรียกอัศวินขาวต้องไม่ใช่คัตซึน

 

 

……ไม่ชอบใจเอาเสียเลย

 

นั่นคือสิ่งที่ฉันคิด

 

ฉันไม่อยากให้เขาต่อสู้อีก

 

จะดีกว่าไหมหากเขาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขห่างไกลจากการต่อสู้เหมือน 3 เดือนที่ผ่านมา

 

 

……ไม่ชอบเลยสักนิด

 

 

ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว

 

ฉันไม่อยากหลอกลวงเขา

 

เขาจะได้รับความทรงจำกลับมาไหมนะ

 

หากเขาฟื้นความทรงจำได้ เขาจะยังเขากับฉันหรือเปล่า

 

หรือเขาจะเลือกต่อสู้แม้จะไม่เหลือความทรงจำเก่า

 

ฉันไม่รู้เลย

 

ความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นมากมาย ทำฉันกลัวเหลือเกิน

 

 

 

「พี่ฮาคัว」

 

「หือ……」

 

ฉันหันไปหาเสียงของใครบางคนที่เรียกชื่อของฉัน 

 

 

ในมือของเขามีชามกับตะเกียบ แสดงให้เห็นว่าพวกเรากำลังทานข้าวเย็นกันอยู่

 

มาโบโทฟุสีแดงฉานราดบนข้าวขาว บ่งบอกได้ว่ารสชาติของเต้าหู้นี้เข้ากับข้าวได้ดีขนาดไหน

 

ฉันนำมันเข้าปากไปเรื่อยๆ โดยที่ใจก็ล่องลอยไปไหนต่อไหน คัตซึนที่เห็นฉันเป็นแบบนั้นจึงแสดงท่าทางกังวลออกมา

 

 

「พี่ไม่สบายหรือเปล่า? ปกติจะกิน 3 ชามเลยแท้ๆ แต่นี่ยังแค่ครึ่งเดียวเองนะ หรือกลิ่นไม่ก็ความเผ็ดมันแรงไป?  ก็จริงนะว่ารอบนี่มันปรุงค่อนข้างจะหนักไปหน่อย…แต่ก็…」

 

 

ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ว่าทำไมเขาถึงพูดเหมือนฉันเป็นคนกินจุ

 

ทารกอย่างฉันกำลังอยู่ในวัยเติบโตแท้ๆ

 

ว่าแล้วฉันก็ยื่นชามให้กับเขา

 

 

 

「ขอเพิ่ม」

 

「โอ้ส……!」

 

เขานำชามไปตักข้าวใส่อย่างมีความสุข

 

เพราะฉันทำอาหารไม่ได้เลย ดังนั้นคัตซึนจึงได้พัฒนาฝีมือในการทำอาหารตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาเพื่อดูแลฉัน 

 

 

ฉันรับชามที่เต็มไปด้วยข้าวมา ก่อนจะดื่มน้ำนิดหน่อย

 

 

 

「……พี่ อันที่จริงแล้ว ผมแปลงร่างได้….」

 

「อื้อ」

 

 

 

 ……。

 

 ……、……!?

 

 

 

「พร๊วดดด!?」

 

 

ฉันตกใจมากจนพ่นน้ำออกมาจากปาก

 

 

แรงพ่นนั้นมันพุ่งไปยังหน้าของคัตซึนทันที หยดน้ำจำนวนมากได้หยดลงมาผ่านใบหน้าของเขา

 

 

 

「……พะพะพะพี่ขอโทษ!」

 

「เอ่อ ไม่เป็นไรครับ เข้าใจดีว่าพี่ต้องตกใจ ผ้าเช็ดหน้า….」

 

「อะ อื้ม! รับไปสิ!」

 

 

ฉันยื่นผ้าเช็ดหน้าที่อยู่ใกล้ๆให้เข้า

 

 

 

 

「ที่บอกว่าแปลงร่างได้…หรือว่าเรื่องเมื่อวานกับวันนี้ก็…」

 

「อื้อ ผมคิดว่าจะไว้เป็นความลับกับพี่ก็คงไม่ดี ผมเลยตัดสินใจว่าบอกไปดีกว่า」

 

ดาเมจที่ได้รับมันมากกว่าที่ฉันคิดอีก

 

พอโดนบอกตรงๆแล้วมันทำให้ฉันรู้สึกผิดแปลกๆ เพราะคัตซึนในอดีตไม่มีทางจะซื่อตรงและใจดีขนาดนี้หรอก 

 

ตามที่คัตซึนบอก เหมือนว่าเมื่อวานเขาจะถูกสัตว์ประหลาดที่ไหนไม่รู้มาโจมตี

 

ชุดที่มันสวมเป็นสีทองคล้ายกับพวกเซนไต ฉันเลยมองว่ามันน่าจะเป็นตัวที่คัตซึนเอาชนะได้เมื่อ 3 เดือนก่อน….แปลว่าตัวที่รอดไปคิดมาแก้แค้นสินะ….

 

 

 

「แย่จริงๆ……」

 

「อื้อ แต่ต้องขอบคุณชิโระที่ทำให้ผมรอดมาได้ จังหวะนั้นอยู่ดีๆก็มีเข็มขัดพันรอบตัวแล้วชิโระก็แปลงร่างเป็นหัวเข็มขัดน่ะ」

 

 

ไม่รู้ทำไมแต่ฉันดันรู้สึกดีใจที่ความทรงจำของเขาไม่กลับมา

 

ทว่าเรื่องที่เขาต้องถูกบังคับให้ต่อสู้เพราะไม่มีทางเลือกมันก็น่าเจ็บปวด

 

ดีใจจริงๆที่เขายังปลอดภัย 

 

 

 

「ดังนั้น หากมีพวกมันปรากฏตัวขึ้นมาอีก ผมตัดสินใจว่าจะต่อสู้กับพวกมัน」

 

「ไม่ได้เด็ดขาด!!」

 

 

ฉันยืนขึ้นพูดทันที

 

เขาถึงกับสะดุ้งและมองมาทางฉันด้วยความประหลาดใจ

 

พอฉันได้สติ ฉันก็กลับมานั่งที่เก้าอี้แล้วพูดต่อ

 

 

 

「พี่ไม่อยากให้นายต้องไปเจอเรื่องอันตราย….」

 

「น-นั่นสิ ขอโทษครับ ผมพูดอะไรไร้ความรับผิดชอบไปจริงๆด้วย….…」

 

 

ทำไมต้องเป็นคัตซึนที่เข้าต่อสู้เสมอล่ะ

 

ทั้งเมื่อวาน วันนี้ก็ด้วย

 

ทำไมกัน…

 

 

 

「…พี่ฮาคัว เดี๋ยวผมขอยืมใช้คอมหลังข้าวเย็นได้ไหม?」

 

「อื้อ แต่จะเอาไปทำอะไรเหรอ?」

 

 

ฉันถามเป้าหมายของเขา เขาจึงกอดอกคิดก่อนจะพูดออกมาด้วยสีหน้าที่จริงจัง

 

 

 

「ผมอยากจะลองหาข้อมูลเกี่ยวกับอัศวินดำน่ะ」

 

 

คำพูดดังกล่าวเป็นเหมือนมีดเข้ามากรีดแทงใจของฉัน

 

เขาอยากจะรู้ถึงตัวตนของอัศวินดำที่เป็นอดีตของเขา

 

ฉันมองว่ามันจะกลายเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นฟูความทรงจำของเขาอย่างแน่นอน

 

 

 

 

『เห้ย ไอ้สารเลวนี่!! อย่ามาล้อกันเล่นนะเว้ย!!』

 

 

อัศวินดำต่อยพวกสัตว์ประหลาดด้วยความโกรธแค้น

 

 

 

『หุบปาก!!』

 

 

อัศวินดำกระโดดเตะหน้าของโลกา

 

 

 

『คุคุคุ แกมาได้แค่นี้แหละโว้ย!!!』

 

 

อัศวินดำหัวเราะขณะเอาหัวเขกอัดสัตว์ประหลาด

 

 

 

『ถ้าเอ็งยิ้มไม่ออก เดี๋ยวฉันช่วยยิ้มให้เอง!!』

 

 

อัศวินดำใช้มือแทงทะลุร่างของเจ้าตัวยิ้ม

 

 

『ฮ่าๆๆ ! ฉันว่าแกไม่ต้องใช้แขนพวกนี้แล้วแหละ!』

 

 

อัศวินดำกระชากแขนของสัตว์ประหลาดมือจับ

 

 

 

『เลเซอร์เชี่ยไรเนี้ย เอาคืนไป๊!!』

 

 

อัศวินดำจัดการเลเซอร์ที่พุ่งมาก่อนจะสะท้อนมันกลับไป

 

 

 

「……」

 

 

เขากำลังนั่งดูวิดีโอที่หน้าคอม

 

มันเป็นวิดีโอที่รวมมิตรฉากอัศวินดำกระทืบสัตว์ประหลาดอย่างโหดร้าย

 

นั่นคือสิ่งที่อัศวินดำหรือเขาทำในอดีต

 

เมื่อเขาได้มาเห็นอะไรแบบนี้ความทรงจำของเขาก็คง―――

 

 

 

 

「หื้ม…นี่นะเหรอคนที่พวกนั้นพูดถึงกัน….」

 

「ค-คัตซึน?」

 

 

เขาละสายตาจากจอแล้วถอนหายใจอย่างเซ็งๆ

 

 

「ผมจะไปเป็นเจ้าหมอนี่ได้ยังไงกัน」

 

 

หะ นั่นนายนะ ทำไมถึงบอกแบบนั้นล่ะ

 

ฉันเริ่มสับสนกับท่าทีของเขา

 

 

 

「จะบอกว่าผมเป็นพวกป่าเถื่อนพูดจารุนแรงขนาดนั้นเหรอ? เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว」

 

「อ่ะ เอ่อ……」

 

「ดูวิธีการต่อสู้ของเขาสิพี่ มันป่าเถื่อนเกินไปหรือเปล่า ทำไมถึงต้องพยายามเอาชนะศัตรูด้วยหมัดเพียวๆกันล่ะ ….คือก็เข้าใจนะว่าเขาช่วยเหลือผู้คน แต่มันก็แบบว่า….」

 

 

มันเหมือนเป็นความย้อนแย้งในตัวเองแปลกๆ

 

พอฉันเห็นว่าเขาต่อว่าตัวเองในอดีตแบบดูถูกหน่อย ฉันก็ไม่รู้จะทำหน้ายังไง

 

 

 

「น้ำเสียงก็ไม่เห็นจะเหมือนผมเลยเนอะพี่?」

 

「เอ่อ ฉันก็..ว่างั้นแหละ……」

 

「ใช่ไหมล่ะ」

 

「……อะ อื้อ」

 

 

ฉันแพ้ให้กับความต้องการของตัวเองอย่างเลี่ยงไม่ได้!!

 

คือไม่ว่าจะฟังจากดาวอังคารฉันก็รู้ว่าเป็นเสียงของเขาอ่ะ แล้วทำไมเขาถึงฟังเสียงตัวเองไม่ออกกันล่ะ แปลกเกินไปไหม?!

 

 

「ไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมผมถึงได้ถูกเอาไปเทียบกับอัศวินดำคนนี้ แต่คราวหน้านี่แหละผมจะ――」

 

「คัตซึน」

 

「จริงสิ ขอโทษด้วยครับ……」

 

 

เขาไม่ควรจะต่อสู้อีก

 

เขาสู้มามากพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องเอาตัวเองไปเสี่ยง

 

แค่เอเลี่ยนพวกนั้น ยังไงจัสติสครูเซเดอร์ก็รับมือได้

 

 

「อื้ม……」

 

 

และเหตุผลที่ใหญ่ที่สุดก็คือ

 

ฉันไม่อยากจะอยู่คนเดียวอีก

 

แม้จะเป็นเพียงความสัมพันธ์อันจอมปลอม แต่สำหรับฉันมันมีค่ามากกว่าสิ่งอื่นใด

 

 

(มุมเรด)

 

ฮีโร่คนใหม่ปรากฏตัว อัศวินขาว

 

ตัวตนของเขาได้สร้างความตกใจให้กับพวกเราเหล่าจัสติสครูเซเดอร์

 

ครั้งแรกที่ปรากฏตัวเขาได้จัดการเอเลี่ยนสวมชุดสีทอง โดยการเตะทะลุร่างผ่านแสงจันทรา

 

จากนั้นเขาก็ปรากฏตัวในเมืองแล้วเอาชนะเอเลี่ยนที่บุกมา

 

 

ฉันรู้ได้ทันทีว่าเขาคือใคร

 

แม้สไตลน์การต่อสู้และรูปลักษณ์ของสูทจะต่างกันมาก แต่ท่าทางที่ไม่ลังเลและใช้ร่างของตัวเองเข้าปกป้องเด็กชายที่หนีไปไม่ทัน ไม่มีทางจะเป็นใครไปได้นอกจากคัตสึมิคุง

 

 

 

「เราได้ทำการยืนยันถึงตัวตนของอัศวินขาวผู้ลึกลับนั่นแล้ว สูทของเขาถูกสร้างมาจากองค์กรแน่นอน นอกจากนี้โครงสร้างแกนพลังงานภายในยังคล้ายกับแกนพลังงานของโปรโตสูทอีกด้วย」

 

 

ที่สำนักงานใหญ่ของจัสติสครูเซเดอร์ พวกเรานั่งอยู่ในห้องประชุม

 

ตรงหน้าของเรามีเหล่าเจ้าหน้าที่มากมายนั่งอยู่ โดยตรงกลางมีประธานกำลังชี้ไปยังอัศวินขาวที่ฉายบนโปรเจ็กเตอร์ด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

 

ภาพต่อมาเป็นภาพที่เขาใช้มีดในมือผ่าเอเลี่ยนออกเป็นสองส่วน

 

 

 

「ความสามารถของเขาจัดว่าสูงมาก เขาสามารถจัดการอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดายราวกับปลอกกล้วย 」

 

「「「……」」」

 

 

ทุกคนนิ่งเงียบไป

 

รูปร่างของเขาหลังแปลงร่างนั้นคือ มีเขาอยู่บนหัวด้วยกัน 3 เขา เข็มขัดก็ต่างออกไปจากเดิม แถบ 3 สีที่อยู่บนร่างเหมือนกับการต่อสู้ชี้ขาดคราวก่อนก็หายไป ราวกับถูกลบออก

 

 

 

 

「ดังนั้นไม่ว่าจะมองยังไง ไอ้หมอนี่มันก็คัตสึมิคุงชัดๆ!!」

 

 

ผ่ามผ๊ามมม ประธานพูดออกมาขณะบ่นถึงสิ่งที่ปรากฏตรงหน้า

 

ก็จริง ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนนั่นก็คือคัตสึมิคุง

 

จะมีใครนอกจากเขาไปได้อีกล่ะ

 

 

 

 

「แค่เสียงก็ชัดแล้วไหมคะ?」

 

「รูปร่างท่าทางของเขาก็ด้วย」

 

「สัมผัสที่6 บอกว่าเป็นเขา」

 

 

 

「บอกตามตรงนะ บางครั้งฉันก็แอบเสียวสันหลังเพราะนิสัยของพวกเธอจริงๆ」

 

 

ประธานพูดต่อโดยแสดงท่าทีหวาดกลัวหน่อยๆออกมา

 

 

「แล้วทำไมเขาถึงไม่กลับมาหาพวกเราล่ะคะ?」

 

「ในเวลาแบบนี้ หรือเขาอยากจะเคลื่อนไหวอย่างอิสระไปอีกสักพัก?」

 

 

 

「….ไม่นะ ถึงแม้เขาจะเป็นพวกสมองกล้าม แต่ก็ยังมีหัวคิดพอที่จะรู้ว่าการกระทำของตัวเองมันไม่ได้ช่วยปกปิดอะไรได้เลย สำหรับเหล่าผู้คนที่รู้อยู่แล้วว่าตัวตนจริงๆของเขาคือใคร」

 

 

 

ประธานส่ายหน้าไปมา

 

นั่นคือเขาจริงๆ ดังนั้นเขาก็ควรจะกลับมาได้แล้วสิ

 

แต่นี่มัน3เดือน…..ตั้ง3เดือนแล้วนะ ทำไมเขาถึงยังเอาแต่ไปไหนมาไหนมากลับมาสักทีล่ะ

 

 

 

 

「มาฟังคำพูดสุดท้ายของเขาสิ」

 

 

 

「เอ่อ คือผมไม่ใช่ได้อัศวินดำนะครับ พวกคุณสับสนกับใครหรือเปล่า?!」

 

 

 

ภาพกับเสียงได้ฉายขึ้น

 

เป็นคำพูดของเขาที่บอกกับคนที่เข้ามาทัก

 

 

「หากเขาปฏิเสธมันด้วยน้ำเสียงเคียดแค้นสักหน่อยก็น่าจะพอพูดถึงเรื่องว่าเป็นร่างโคลนอะไรทำนองนั้นได้อยู่หรอก แต่ดันไม่ใช่นี่สิ」

 

「ดูยังไงนั่นก็คือคัตสึมิคุงค่ะ……」

 

 

แค่เสียงมันก็ชัดมาพอแล้วว่านั่นคือเขา

 

 

 

「การจากตรวจด้วยเครื่องคำนวณ รูปร่าง น้ำเสียง และท่าทางที่แสดงออกมา ระบุได้ว่า 93% คือเขาแน่นอน」

 

「……แต่ถึงแบบนั้นเขาก็ไม่กลับมา」

 

「อย่างที่เธอพูด ดังนั้นความเป็นไปได้ที่เลวร้ายที่สุดก็น่าจะ….」

 

 

ประธานแสดงสีหน้าปั้นยากออกมา

 

 

「เขาสูญเสียความทรงจำไปเรียบร้อยแล้ว」

 

「「「……คึก」」」

 

「นอกจากวิธีการต่อสู้ที่เปลี่ยนไปแล้ว ประสิทธิภาพของสูทที่แสดงออกมาได้ก็ลดลงไปด้วย นั่นก็หมายความว่าปัจจัยต่างๆในตัวเขาไม่ได้เป็นดั่งเดิม เพราะพลังของสูทพวกนี้จะเปลี่ยนพลังภายในให้ออกมาเป็นรูปร่างที่ชัดเจนตามเจตจำนงด้วยสิ」

 

 

เขาลืมเรื่องของพวกเราไปแล้ว

 

นั่นคือความเป็นจริงที่เกิดขึ้น

 

เจ็บปวดเหลือเกิน

 

เขาลืมเรื่องในวันวานของพวกเราจนสิ้น….

 

 

「หัวหน้า! ฉันว่าแล้วเชียวเขาน่ะแค่สูญเสียความทรงจำ แต่เดี๋ยวอีกไม่นานตัวเขาก็จะตื่นขึ้นอีกครั้ง ด้วยพลังที่มากกว่า――」

 

「เจ้าหน้าที่! รีบพาโอโมริคุงที่คลั่งออกไปก่อน!」

 

「ไม่นะ! ปล่อยฉัน! ปล่อยฉันปายยยยย!」

 

 

….คุณโอโมริดิ้นไปมาเหมือนกับปลาขาดน้ำเลย

 

ก็เข้าใจได้แหละว่าเธอคือคนที่ชอบเอาขนมไปให้คัตซึมิคุงบ่อยๆ ดังนั้นจึงทำใจไม่ค่อยได้ที่ต้องมาสูญเสียเขาไป 

 

……แต่ว่า….ใช่แล้วยังไงคัตสึมิคุงก็ยังมีชีวิตอยู่

 

แค่นั้นมันก็เพียงพอให้พวกเราก้าวต่อไปแล้วไม่ใช่เหรอ

 

 

「อัลฟ่าเป็นยังไงบ้าง?」

 

「เธอมีอาการซึมๆไปบ้างค่ะ แต่พอได้ข่าวของเขา เธอก็กลับมาดีขึ้น」

 

「หากเป็นเธอ อาจจะใช้พลังเปลี่ยนการรับรู้แล้วแอบหนีออกไปข้างนอกก็ได้ แต่ถ้าทำแบบนั้นพวกผู้รุกรานก็คง….」

 

 

ฉันส่ายหัวให้กับคำพูดของประธาน

 

 

 

「ก็จริงค่ะ แต่ก่อนที่เธอจะทำแบบนั้นได้ฉันได้ใช้สันมือฟาดคอของเธอจนสลบไปแล้ว」

 

「นี่หล่อนเป็นตัวอะไรกันแน่เนี่ย……?」

 

 

ไม่ใช่แค่ประธานแต่สายตาของพวกเจ้าหน้าที่ก็ไม่ต่างกัน

 

 

「การรับรู้ของฉันเปลี่ยนไปชั่วขณะหนึ่งค่ะ จนฉันลืมไปเลยว่าอัลฟ่าจังเป็นใคร แต่เพราะจังหวะนั้นฉันเชื่อสัญชาตญาณตัวเองก็เลย…」

 

「ถามจริง……?」

 

 

จากนั้นการรับรู้ของฉันก็กลับมา จนฉันตกใจกับสิ่งที่ทำลงไป

 

ไม่รู้ว่าเพราะผลของการบิดเบือนมันยังอยู่หรือเปล่า

 

เพราะถ้าอาโออิกับคิราระไม่ตามเข้ามาทีหลัง ฉันลืมไปแล้วว่าตัวเองทำอัลฟ่าหมดสติไปแล้วออกมาจากห้องทั้งอย่างนั้น

 

 

 

「ตอนนี้เซนเซอร์ตรวจการมาของผู้รุกรานยังไม่สมบูรณ์คงต้องรีบหาทางรับมือเอาหน้างานแทนล่ะนะ…เพราะยังไงพวกมันก็ต้องมาอีกแน่นอน」

 

「การต่อสู้ครั้งใหม่สินะคะ?」

 

「อ้า ตอนแรกฉันก็ไม่แน่ใจหรอกว่าพวกมันต้องการอัลฟ่าอยู่หรือยังไง แต่พอลองถอดรหัสแปลภาษาที่ผู้บุกรุกคนนี้พูด ก็พบกับเรื่องน่าสนใจเข้า」

 

「เรื่องน่าสนใจ?」

 

 

ฉันเอียงหัวสงสัย จากนั้นประธานก็เปิดเทอมินัลในมือมาให้ฉันดู

 

เอเลี่ยนที่รูปร่างคล้ายไซบอร์กกำลังพูดกับคัตสึมิคุงในร่างอัศวินขาว

 

 

 

「ลำดับแห่งดวงดารา 458 อากอส ซาคัล」(ผ่านเครื่องแปล)

 

 

 

「ลำดับแห่งดวงดารา?」

 

「มันคือลำดับความแข็งแกร่งขององค์กรที่ฉันเคยอยู่นะ องค์กรบ้านั่นมันไม่มีชื่อเรียกจริงๆ แต่มันก็เป็นองค์กรที่รวบรวมเอานักรบสุดแกร่งจากทุกเผ่าในอวกาศมารวมกันไว้ ไอ้หมอนี่มันบอกว่าตัวเองอยู่ลำดับที่ 458 บางทีเวก้าที่บุกพวกเราคราวก่อนอาจจะเป็นหนึ่งในพวกมันด้วยก็ได้ห」

 

 

 

องค์กรที่ประธานเคยอยู่……。

 

 

คู่ต่อสู้ของพวกเราคราวนี้สินะ?

 

 

「ปัญหามันอยู่ต่อจากนี้นี่แหละ」

 

 

 

「หากฆ่าแกได้ลำดับของข้าก็จะสูงขึ้น」(ผ่านเครื่องแปล)

 

 

 

ถ้าเขาฆ่าคัตสึมิคุงได้ ลำดับจะสูงขึ้นงั้นเหรอ?!

 

หมายความว่ายังไงกัน?! หากเป็นการแก้แค้นก็พอเข้าใจหรอก แต่นี่เพื่อลำดับที่สูงขึ้น!!

 

 

 

「บอกตามตรง ฉันเองก็สับสนเหมือนกัน ในองค์กร มีเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถเลื่อนลำดับให้กับคนในองค์กรได้」

 

「เป็นหัวหน้าของคนพวกนี้ทั้งหมดเหรอคะ?」

 

「จะบอกว่าเป็นหัวหน้าก็ยังไงอยู่ เอาเป็นว่าคนคนนั้นเป็นผู้ที่อยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง สิ่งที่สร้างความสิ้นหวังให้กับทุกชีวิตเป็นไปได้ก็อย่าคิดเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายเลย เพราะตรงปลายทางมีแค่ความตายเท่านั้นแหละ」

 

 

น้ำเสียงของประธานบอกได้เลยว่าเขากลัวขนาดไหน

 

อีกฝ่ายเป็นใครกันนะถึงทำให้เขากลัวขั้นสุดได้

 

 

 

「อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ก็บอกได้แล้วว่าโลกกลายเป็นเป้าหมายของพวกมันที่จะเข้ามารุกรานนับจากนี้」

 

 

ฉันเริ่มรู้สึกแล้วว่าบางอย่างที่ยิ่งใหญ่กำลังค่อยๆเคลื่อนไหว

 

แต่นั่นมันก็เป็นเส้นทางที่เราต้องเข้าไปเผชิญ

 

 

 

「ไม่เป็นไร พวกเรายังมีหวัง สูทเวอร์ชั่นปรับปรุงของพวกเธอกำลังจะเสร็จในไม่ช้านี้!!」

 

「!」

 

「ฉันจะไม่ยอมให้สูทของฉันต้องแปดเปื้อนอีก ใช่..ฉันจะไม่แพ้อีกแล้ว!!」

 

 

ดูเหมือนการถูกปลดการแปลงร่างออกไปในคราวก่อนจะสร้างแผลใจให้ประธานมากทีเดียว

 

หลังจากนั้นเขาจึงเค้นพลังสร้างสูทใหม่แบบเอาเป็นเอาตาย

 

 

「นีโอจัสติสเชนเจอร์ ที่ฉันจะมอบให้กับพวกเธอมันต่างจากของเก่าที่แบ่งพลังหนึ่งส่วนให้ออกเป็นสามส่วน ตอนนี้พวกเธอทุกคนจะถือคอร์พลังงานกันคนละชิ้นไปเลย แน่นอนว่ามันสามารถนำมารวมกันเป็นหนึ่งได้ ดังนั้นประสิทธิภาพที่พวกเธอจะนำพลังออกมาใช้ก็จะมากกว่าโปรโตสูท 3 เท่า」

 

「คงไม่ได้มีปัญหาอะไรแปลกๆตามมาใช่ไหมคะ」

 

「แน่นอนสิ นอกจากนี้หากได้อาวุธเสริมเข้าไปอีก พวกเธอก็ไร้พ่าย」

 

เขากล่าวออกมาอย่างมั่นใจ

 

แต่ไม่นานนักเขาก็กลับมาทำหน้าเศร้าอีกครั้ง

 

 

 

 

「…ทั้งหมดก็เพราะข้อมูลที่ได้จากโปรโตเชนเจอร์….」

 

「ประธาน……」

 

「ไม่ว่ายังไงฉันก็อยากให้เขากลับมาโดยเราที่สุด สหายของฉัน ชายที่ทำให้ภาพในอุดมคติของฉันเป็นจริงขึ้นมาได้」

 

「……นั่นสินะคะ」

 

 

เพื่อจะทำแบบนั้นได้จำเป็นต้องหาตัวเขาให้พบ

 

แม้จะต้องใช้วิธีที่รุนแรงหากจำเป็นก็ตาม

 

….เหมือนฉันได้กลับไปอยู่ในยุคที่อัศวินดำต้องต่อสู้เพียงลำพังเลย

 

—————

Note 1 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ  และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

Status: Ongoing
คัตสึมิ โฮมุระ วายร้ายที่รู้จักกันในนาม อัศวินดำ ชายผู้คิดว่าตัวเองคือวายร้ายแสนโฉดชั่ว เมื่อพ่ายแพ้ให้กับฝั่งฮีโร่เขาก็ถูกจับตัวไป ทว่าสิ่งที่รอเขาอยู่กลับไม่ใช่คุกหรือพวกตำรวจ แต่กลับเป็นขุมนรกที่ตัวเขาเกินจะคาดฝันแทนซะอย่างงั้น โลกที่ขบวนการเซ็นไตมีอยู่จริง เรื่องราวของอัศวินดำจอมวายร้ายที่มีสามัญสำนึกผิดแปกและถูกคนธรรมดาเข้าใจผิดมาโดยเสมอ บัดนี้เขากำลังจะถูกลากเข้าขบวนการเซ็นไตเสียแล้ว ※ผลงานชิ้นนี้กาวล้วนๆไม่มีเกลือผสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท