ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 – ตอนที่ 414 เฉินเจียซิ่งมีความรักอีกครั้ง

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ตอนที่ 414 เฉินเจียซิ่งมีความรักอีกครั้ง

ตอนที่ 414 เฉินเจียซิ่งมีความรักอีกครั้ง

หัวใจของโจวหลี่หรงพลันสั่นไหว ขณะมองเฉินเจียซิ่งและเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง “เจียซิ่ง มีเรื่องอะไร?”

เฉินเจียซิ่งเม้มริมฝีปาก ใบหน้าปรากฏความขวยเขินและเอ่ยปาก “ผม……ผมมีแฟนแล้ว”

“มีแฟนแล้วเหรอ?”

เมื่อเขากล่าวคำพูดนี้ ผู้คนภายในครอบครัวจ้องมองเขาอีกครั้งด้วยสีหน้ายากจะเชื่อ

คุณย่าเฉินรีบเอ่ยถาม “ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกัน?”

มีแฟนนับว่าเป็นเรื่องดี แต่ก็ต้องดูว่าอีกฝ่ายเป็นใคร!

หากแฟนคนใหม่ของเขาเหมือนกับเสิ่นเสี่ยวเหมยอีกก็จะทำให้ครอบครัวอลหม่าน พวกเขาแทบจะรับมือไม่ไหวแล้ว

เฉินเจียซิ่งกล่าว “เป็นเพื่อนร่วมงานของผมครับ”

เขามองเห็นความกังวลและความเป็นห่วงของเหล่าผู้อาวุโส จากนั้นก็มองพวกเขาด้วยสีหน้าจริงใจพลางกล่าว “พวกคุณสบายใจได้ หล่อนเป็นผู้หญิงซื่อสัตย์และน่าเชื่อถือ ไม่มีทางเป็นเหมือนผู้หญิงก่อนหน้านี้อีกแล้ว”

เฉินเจิ้นเจียงเอ่ยถาม “พวกแกคบกันมานานเท่าไรแล้ว”

“เพิ่งจะคบกันครับ เดิมทีคิดว่าผ่านไปสักพักแล้วค่อยบอกกับทุกคน แต่ผมคิดดูแล้วผมบอกทุกคนก่อนดีกว่า”

เฉินเจียซิ่งสละโสดถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ผู้อาวุโสภายในครอบครัวกลับค่อนข้างเป็นกังวลกับเขา โดยสายตาของเขา

โจวลี่หรงเงียบไปชั่วขณะ จากนั้นเอ่ยแนะนำ

“เจียซิ่ง วันหลังแกพาแฟนสาวแกของมากินข้าวที่บ้านของพวกเราและให้พวกเราพบเจอหล่อนสักหน่อยดีไหม?”

เฉินเจียซิ่งกล่าว

“แม่ครับ รอให้ผ่านไปสักระยะหนึ่งก่อน รอให้ความสัมพันธ์มั่นคงแล้วค่อยพาหล่อนมาที่บ้าน”

เขามองทุกคนและกล่าว “เมื่อไม่กี่วันก่อนผมพบกันเสิ่นเสี่ยวเหมย หล่อนยังไม่ยอมแพ้ อยากคืนดีกับผม แต่ผมไม่ตอบตกลง!

หากว่ามีใครพบเห็นหล่อนและหล่อนเข้ามาข้องเกี่ยว ทุกคนอย่าสนใจหล่อน วันนี้ที่ผมเล่าว่าผมมีแฟนให้ทุกคนทราบก็เพื่อให้ทุกคนรู้ถึงทัศนคติของผม ผมไม่มีทางกลับไปคบหากับเสิ่นเสี่ยวเหมยเด็ดขาด”

เฉินเจียซิ่งมีท่าทางมั่นคงมาก เมื่อเอ่ยถึงเสิ่นเสี่ยวเหมยก็ไม่มีอารมณ์ตื่นเต้นเหมือนเมื่อก่อน เพียงต้องการขีดเส้นแบ่งแยกจากหล่อนอย่างชัดเจน

เมื่อได้ยินว่าเสิ่นเสี่ยวเหมยยังต้องการข้องเกี่ยวกับเฉินเจียซิ่ง คุณย่าเฉินพลันตื่นตระหนกและรีบตอบ

“ใช่ๆๆ พวกเราไม่สามารถกลับมาดีกันได้อีกแล้ว หล่อนไม่ใช่ผู้หญิงเพียงคนเดียวบนโลกนี้ ไม่อาจกลับไปคืนดีได้อีกแล้ว”

ข่าวที่เฉินเจียซิ่งนำมาแจ้งต่อครอบครัวทำให้ทุกคนรู้สึกไม่ยินดียินร้าย ก่อนที่จะพบกับหญิงสาวคนนั้น หัวใจของพวกเขายังคงเป็นกังวล

กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิม

ทุกคนกินข้าวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา เฉินเจียเหอและหลินเซี่ยปล่อยให้หู่จืออยู่ที่บ้านตระกูลเฉิน จากนั้นพวกเขากลับมายังบ้านพัก

เมื่อเข้ามาภายในบ้าน หลินเซี่ยทอดถอนหายใจอย่างอดไม่ได้

“เฉินเจียซิ่งสละโสดอย่างรวดเร็วอีกครั้ง เขาช่างมีความสามารถจริงๆ”

สิ่งนี้สามารถกล่าวได้อย่างชัดเจนว่าความรักที่เขามีต่อเสิ่นเสี่ยวเหมยนั้นไม่ได้ลึกซึ้งขนาดนั้น

เมื่อเฉินเจียเหอเข้ามาจากด้านนอก เขาก็ถอดเสื้อผ้าออกเพราะความร้อน “เขามีพรสวรรค์ด้านนี้มาก ก่อนหน้านี้เคยคบกับผู้หญิงหลายคน เริ่มตั้งแต่สมัยมัธยม ข้างกายเขานั้นมีผู้หญิงไม่ขาดมือ”

หลังจากเขาเป็นทหาร เขาส่งชุดทหารกลับมาที่บ้าน ได้ยินว่าไอ้เด็กคนนี้สวมชุดทหารของเขาและขี่จักรยานวนไปมาหน้าประตูโรงเรียนเพื่อล่อลวงเด็กผู้หญิง

หลินเซี่ยได้ยินเช่นนี้พลันส่งเสียงเหอะสองครั้ง จากนั้นมองสำรวจเฉินเจียเหอและหยอกเย้า “พวกคุณสมแล้วที่เป็นพี่น้องกัน ดูเขาสิ”

เฉินเจียเหอท่อนบนเปลือยเปล่าและขยับเข้าใกล้หล่อนพลางเอ่ยด้วยเสียงคลุมเครือ “ดูอะไร? เรื่องนี้มีอะไรให้น่าอิจฉา เขาถือปืนกลกราดยิงไปทั่ว ส่วนผมเพ่งเล็งเพียงคนเดียวอย่างแม่นยำต่างหาก”

กลิ่นความเป็นชายกำลังทับถมเธอ ชั่วขณะนั้นริมฝีปากพลันแห้งผาก พลางกลืนน้ำลายและผลักเขา “คุณเองก็เรียนรู้ความกะล่อนมาไม่เบานะ”

เธอผลักเขาออกและเดินเข้าไปภายในห้องน้ำด้วยใบหน้าแดงก่ำ

เมื่อหลินเซี่ยกลับมายังห้องนอนหลังจากอาบน้ำเสร็จ เฉินเจียเหอกำลังนับเงินอยู่

มองสำรวจด้วยสายตา เงินปึกนั้นน่าจะมีจำนวนมากกว่าหนึ่งพันหยวน

หลินเซี่ยเช็ดผมพลางเอ่ยถามด้วยความสงสัย “เฉินเจียเหอ คุณเอาเงินมากมายขนาดนี้มาจากไหนคะ?”

เฉินเจียเหอนับเงินเสร็จก็นำไปวางลงบนโต๊ะ “เมื่อกี้ตอนกลับมา ปู่เรียกให้ผมไปที่ห้องและมอบให้ผม กล่าวว่ามอบให้คุณเป็นเงินสนับสนุนจำนวนหนึ่งพันหยวน”

หลินเซี่ยคาดไม่ถึงเลยว่าปู่จะแอบให้เงินเธอเพื่อซื้อสิ่งของ ภายในหัวใจรู้สึกประทับใจมาก เธอโบกมือไปมา “ฉันมีเงินอยู่ ไม่ต้องหรอก”

“รับไว้เถอะ เป็นน้ำใจตนแก่ เขาเห็นว่าภรรยาของหลานชายมีความสามารถขนาดนี้แล้วภูมิใจมาก”

เฉินเจียเหอหยิบกุญแจออกมาจากลิ้นชักข้างเตียง จากนั้นเปิดลิ้นชักที่ล็อกไว้ “แล้วก็เอาสมุดบัญชีเงินเดือนของผมไปด้วย พรุ่งนี้ถอนเงินในนั้นออกมา”

เฉินเจียเหอนับเงินภายในมือและเอ่ยถาม “เซี่ยเซี่ย ซื้อสิ่งของพวกนั้นต้องใช้เงินเท่าไรเหรอ? ถ้าเงินทุนไม่พอ ผมจะคิดหาทางให้อีก”

“พอแล้วค่ะ ฉันก็หาเงินจากร้านตัดผมได้เหมือนกัน”

และรายได้ของร้านตัดผมก็เป็นที่น่าพอใจมาก

มูลค่ากำไรในแต่ละเดือนอยู่ที่ประมาณห้าถึงหกร้อยหยวน ครึ่งปีที่ผ่านมาเธอหาเงินได้เกือบสี่พันหยวน ไม่อย่างนั้นจะกล้าเปิดร้านตัดผมใหม่ได้อย่างไร?

หลินเซี่ยกลัวว่าเฉินเจียเหอจะไม่เชื่อ เธอจึงหยิบเงินทั้งหมดที่หามาได้ออกมาจากลิ้นชักและวางลงตรงหน้าเฉินเจียเหอ

“เป็นยังไงคะ? ฉันก็มีเงินใช่ไหม? ฉันถอนออกมาจากธนาคารหมดแล้ว”

เฉินเจียเหอมองดูเงินสองปึกที่ภรรยาหยิบออกมาจากซองจดหมาย จากนั้นยกนิ้วโป้งให้อย่างเงียบๆ “ภรรยายอดเยี่ยมจริงๆ”

เขานำเงินที่ปู่มอบให้ใส่ลงไปภายในซองจดหมายเช่นกัน

“เก็บไว้ทั้งหมด พรุ่งนี้ให้เหล่าเซี่ยนำไปจะปลอดภัยมากกว่า”

เมื่อครุ่นคิดว่าภรรยาจะไม่อยู่หลายวัน เขาจะต้องอยู่อย่างลำพังภายในห้องว่างเปล่า เฉินเจียเหอก็กอดเธอราวกับเด็กน้อยพลางออดอ้อน

“ภรรยา จะทำอย่างไรหากคุณไม่อยู่แล้วผมนอนไม่หลับ?”

“มีเรื่องอะไรให้นอนไม่หลับคะ ทำงานล่วงเวลาเหนื่อยขนาดนั้น กลับบ้านมาหัวถึงหมอนจะต้องหลับอย่างแน่นอน ไม่ว่าคุณจะเหนื่อยแค่ไหนก็ต้องกินข้าวให้ตรงเวลา เข้าใจไหม?”

“จำได้แล้วครับ คุณก็เหมือนกัน”

ครั้นเซี่ยเหลยและหลิวกุ้ยอิงได้ยินว่าลูกสาวกำลังจะไปซื้อของที่เมืองเชินเฉิง พวกเขาอยู่ภายในร้านอาหารและทำอาหารเลี้ยงส่งเต็มโต๊ะ

นอกจากเซี่ยอวี่ที่กำลังยุ่งอยู่กับงาน คนอื่นต่างก็ถูกเรียกตัวมา

หลินจินซานและหลินเยี่ยนก็ถูกหลิวกุ้ยอิงเรียกตัวมา ทุกคนกินข้าวอยู่ภายในร้านอาหารด้วยกัน

ตอนเที่ยงมีลูกค้าค่อนข้างมาก พวกเขาจึงจงใจมาก่อนหนึ่งชั่วโมงและรวมตัวกันที่ร้านอาหารตอนสิบโมง

ระหว่างกินอาหาร เซี่ยเหลยและหลิวกุ้ยอิงนำเงินยอดขายของร้านอาหารออกมาและมอบให้หลินเซี่ยเพื่อไปซื้อของ

“พ่อคะ แม่คะ หนูมีเงินอยู่ หนูรับเงินที่พวกคุณหามาไม่ได้หรอกค่ะ”

เซี่ยเหลยยืนกรานจะมอบซองจดหมายที่บรรจุเงินให้กับเธอ “พวกพ่อหาเงินก็เพื่อให้ลูกใช้จ่าย ซื้อสิ่งของต้องใช้เงินทุน ออกเดินทางแล้วก็ต้องมีเงินติดไม้ติดมือไว้บ้าง อยากซื้ออะไรจะได้ซื้อได้เลย”

เซี่ยไห่อยู่ด้านข้างพลันเอ่ย “เซี่ยเซี่ย เธอรับไว้เถอะ หากเอาเงินไปไม่พอ ฉันไม่มีเงินสำรองให้เธอหรอกนะ”

หลินเซี่ยชำเลืองมองเขาและยิ้ม “ฉันมีงบของตัวเองอยู่ค่ะ อาเห็นแล้วจะตกใจ”

“รับไว้เถอะ สิ่งนี้คือน้ำใจจากพ่อและแม่ที่มีต่อเธอ หากเธอไม่รับไว้พวกเขาคงจะเสียใจแย่” คุณแม่เซี่ยกลัวว่าหลินจินซานและหลินเยี่ยนจะเข้าใจผิด นางยิ้มพลางกล่าว “พ่อแม่ของเธอหาเงินก็เพื่อให้ลูกๆ อย่างพวกเธอได้ใช้จ่าย เธอไม่ต้องกังวลหรอก เงินตบแต่งภรรยาของพี่ชายเธอแล้วก็เงินติดตัวของเสี่ยวเยี่ยน เดี๋ยวพวกเขาก็ค่อยๆเก็บสะสม เมื่อถึงเวลานั้นพวกเราทุกคนค่อยจ่ายเงินพร้อมกัน”

หลินเซี่ยทำได้เพียงแค่รับซองจดหมายนั้นจากเซี่ยเหลยและเก็บใส่กระเป๋า

จากนั้นคุณแม่เซี่ยก็ยัดเงินปึกหนึ่งใส่มือของเธอ

หลินเซี่ยไม่มีช่องว่างสำหรับการปฏิเสธและหลบเลี่ยงเลย

เซี่ยเหลยทำเกี๊ยวชามหนึ่งให้กับลูกสาวด้วยตัวเอง

เมื่อวานนี้เขาได้ยินหลิวกุ้ยอิงกล่าวว่าที่บ้านเก่ามีธรรมเนียมทำเกี๊ยวส่งแขกและต้อนรับแขกด้วยบะหมี่ ดังนั้นวันนี้เขาจึงตื่นลุกขึ้นมาทำตั้งแต่เช้าตรู่

เมื่อเห็นว่าลูกสาวกินหมด เซี่ยเหลยพลันมองเซี่ยไห่ด้วยสีหน้าจริงจังและเอ่ยกำชับ “เสี่ยวไห่ ฝากดูแลเซี่ยเซี่ยด้วย ออกเดินทางแล้วจะต้องดูแลหล่อนให้ดี”

“พี่ใหญ่ พี่วางใจเถอะ ที่นั่นคืออาณาเขตของผม ไม่มีทางเกิดปัญหาอะไรแน่นอน ซื้อสิ่งของเสร็จแล้วพวกเราจะกลับมาทันที”

……………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

อยากรู้เลยว่าแฟนใหม่เจียซิ่งนิสัยเป็นแบบไหน อย่าเหมือนยัยเสี่ยวเหมยก็พอ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

Status: Ongoing
เมื่อสวรรค์ได้ให้โอกาสเธอย้อนกลับมาแก้ขในสิ่งที่ผิดพลาด เธอจะใช้โอกาสนี้เป็นช่างเสริมสวยยอดฝีมือให้ได้ตามฝันอย่างไรกันนะ?เรื่องย่อ : ในชาติก่อน หลินเ เป็นสไตสต์คนโง่ผู้ร้ความคิดป็นของตัวเอง จึงถูกดาราดาวรุ่งผู้เป็นเพื่อนสนิทวางแผนทำลายชีวิตจนพังพินาศ ไร้ซึ่งเครดิต ไร้ซึ่งอำนาจ และหน้ามืดตามัวทิ้งสามีพ่อม่ายลูกติดที่คอยสนับสนุนมาตลอดได้ลงค แต่เหมือนสวรรค์ยังคงเห็นใจต่ชะตาชีวิตอันรันทดของเธอ จึงทำให้เธอได้ย้อนกลับมาเกิดใหม่ในปี 1988 อันเป็นปีที่ทุกอย่างยังไม่สายเกินกว่าแก้ หลินเชี่ยจะใช้โอกาสที่ได้มีชีวิตครั้งที่สองเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตัวเองอย่างไรบ้าง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท