ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 – ตอนที่ 415 ผู้อาวุโสควรจัดการกับปัญหาทางอารมณ์ของตนเองให้ดีเสียก่อน

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ตอนที่ 415 ผู้อาวุโสควรจัดการกับปัญหาทางอารมณ์ของตนเองให้ดีเสียก่อน

ตอนที่ 415 ผู้อาวุโสควรจัดการกับปัญหาทางอารมณ์ของตนเองให้ดีเสียก่อน

หลินเซี่ยกินอาหารเสร็จก็เตรียมตัวออกเดินทางไปยังสถานีรถไฟกับเซี่ยไห่ เมื่อเฉินเจียเหอได้เวลาพักกลางวันแล้วก็รีบมาหาพวกเขาและพาไปส่งยังสถานีรถไฟ

นอกจากกระเป๋าหนังใบเล็ก เซี่ยไห่ก็ไม่มีกระเป๋าเดินทางใบอื่นอีก ส่วนหลินเซี่ยเองก็กลัวเหนื่อย เธอจึงมีเพียงกระเป๋าเป้สะพายหลังและเตรียมเสื้อผ้าอาบน้ำเพียงชุดเดียวเท่านั้น

เดิมทีเธอต้องการจะถือกระเป๋าเดินทาง หลังจากเซี่ยไห่ได้ยินว่าภายในกระเป๋าเดินทางนั้นบรรจุด้วยเสื้อผ้าและของใช้ เขาก็เอ่ยห้ามปรามเรื่องกระเป๋าเดินทางของเธอ

เขากล่าวว่าเธอไม่จำเป็นต้องเอาสิ่งของอะไรไป เมื่อถึงเมืองเชินเฉิงแล้วเขาจะพาหล่อนไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าและซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นตามเทรนด์

หลังจากเฉินเจียเหอมาส่งพวกเขาที่สถานีรถไฟแล้วก็เอ่ยกำชับเรื่องต่างๆ กับหลินเซี่ และเอ่ยฝากฝังเรื่องต่างๆ กับเซี่ยไห่

เฉินเจียเหอพูดซ้ำประโยคเดิมแปดครั้งแล้ว ทำให้เซี่ยไห่หงุดหงิด “พอได้แล้ว นายรีบกลับไปเถอะ อืดอาดยืดยาดอยู่นั่นแหละ นายกับพ่อตาของนายนี่จู้จี้จุกจิกไม่เหมือนชายชาตรีแม้แต่น้อย”

เซี่ยไห่ดึงหลินเซี่ยเข้ามาด้านในสถานีและขึ้นรถไฟ ไม่ง่ายเลยกว่าจะกว่าจะหาที่นั่งพบและเบียดเข้ามานั่งได้ เมื่อเงยหน้าขึ้น เฉินเจียเหอกลับยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา

“ทำไมคุณขึ้นมาด้วยล่ะ? คุณจะไปกับฉันด้วยเหรอ?”

“ผมซื้อของกินมานิดหน่อย รถคันนี้ใช้เวลาสิบสองชั่วโมงจากเมืองไห่เฉิงไปยังเมืองเชินเฉิง หากรู้สึกหิวก็กินอะไรสักหน่อย ตอนเข้าห้องน้ำก็ระวังประตูห้องน้ำหนีบนิ้วมือด้วยนะ”

“ฉันจำได้แล้วน่า”

หลินเซี่ยได้ยินคำพูดกำชับของเฉินเจียเหอ หัวใจของเธอพลันรู้สึกอบอุ่นและประทับใจมาก รู้สึกอาลัยอาวรณ์มากจนไม่สนใจผู้คนรอบข้าง ทันใดนั้นก็โอบกอดเขาไว้

“ว้าว พลอดรักกันเหรอเนี่ย”

เป็นเพราะการกระทำที่กล้าหาญและเปิดกว้างของเขา เหล่าผู้โดยสารภายในรถเริ่มส่งเสียงโห่ฮา

หลินเซี่ยไม่สนใจพวกเขา อย่างไรก็ไม่มีใครรู้จักเธออยู่แล้ว

เธอกอดเฉินเจียเหอและปล่อยเขาด้วยท่าทางอาลัยอาวรณ์ “พวกเราไม่ได้อยู่ด้วยกันเพียงแค่ไม่กี่วัน คุณไม่ต้องคิดถึงฉันมากเกินไปนะ”

เซี่ยไห่ไม่อยากดูคนพลอดรักกัน เขานั่งลงบนตำแหน่งที่นั่งของเขาและหลับตาเพื่อผ่อนคลาย

เฉินเจียเหอออกจากสถานีรถไฟและเดินผ่านสถานีตำรวจ เดิมทีต้องการเข้าไปทักทายถังจวิ้นเฟิง สุดท้ายก็ยังไม่ได้เข้าไปด้านใน กลับเห็นถังจวิ้นเฟิงขี่มอเตอร์ไซค์โดยมีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งซ้อนด้านหลังและขับผ่านไปในระยะไกล

เฉินเจียเหอมองทิศทางของรถมอเตอร์ไซค์คันนั้นจากระยะไกลอยู่เนิ่นนาน

ถังจวิ้นเฟิงกำลังมีความรักจริงๆเหรอ?

………

………

หลังจากหลินเซี่ยและเซี่ยไห่ออกเดินทาง แม่เฒ่าเซี่ยก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อย เมื่อกลับบ้านไปก็อยู่เพียงลำพัง ดังนั้นนางจึงอยู่ที่ร้านอาหารและคอยช่วยทำความสะอาดจานชามและเช็ดโต๊ะ

หลินจินซานและหลินเยี่ยนเองก็ไม่มีอะไรทำ ทุกคนต่างก็คอยช่วยงานอยู่ที่ร้านอาหาร

หลังจากช่วงเวลาเร่งด่วนของการกินอาหารกลางวันผ่านพ้นไป ร้านอาหารพลันเงียบลง แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยเรียกเซี่ยเหลยและหลิวกุ้ยอิงมาด้วยกันเพราะต้องการพูดคุยกับพวกเขา

“กุ้ยอิง ช่วงนี้ยุ่งหรือเปล่า? พวกเธอสองคนอยู่ด้วยกันเป็นอย่างไรบ้าง?”

เมื่อเอ่ยถามถึงความรู้สึกของทั้งสองคน หลิวกุ้ยอิงแสดงสีหน้าอึดอัดอย่างเห็นได้ชัด “ยุ่งมากค่ะ ช่วงนี้ธุรกิจก็ดีมาก”

แม่เฒ่าเซี่ยมองพวกเขาและเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “วันนี้ฉันจะเอ่ยเข้าประเด็นเลยก็แล้วกัน กุ้ยอิง เธอก็เห็นว่าความทรงจำของเสี่ยวเหลยนั้นกลับมาแล้ว พวกเธอเองก็เปิดร้านทำธุรกิจด้วยกัน ไม่คิดจะพัฒนาไปอีกขั้นบ้างเลยเหรอ?”

หลิวกุ้ยอิงก้มศีรษะและนิ่งเงียบ

เซี่ยเหลยกล่าว “แม่ ผมคิดว่าเป็นแบบตอนนี้ก็ดีมากแล้วครับ”

แม่เฒ่าคาดไม่ถึงว่าทัศนคติของลูกชายจะแย่ขนาดนี้ นางขมวดคิ้ว “ดีอะไรกัน พวกเธอจำเป็นต้องมีสถานะชัดเจนนะ”

ทั้งสองคนไม่ตอบรับบทสนทนา นอกจากทอดถอนหายใจ แม่เฒ่าเซี่ยเองก็ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร

“พวกเธอใช้ชีวิตมาเกินกว่าครึ่งค่อนชีวิตแล้ว ตอนนี้ยังจะกระมิดกระเมี้ยนอะไรกันอยู่อีก?? ตอนนี้พวกเธอสองคนนับว่าเป็นอะไรกัน? คนนอกมองว่าพวกเธอเป็นคนรักกัน แต่พวกเธอสองคนไม่มีแม้กระทั่งทะเบียนสมรสและไม่ได้อยู่ด้วยกัน ไม่เข้าท่าเลยจริงๆ”

สีหน้าของหลิวกุ้ยอิงมืดมนก่อนเดินเข้าไปยังห้องครัวด้านหลัง

เมื่อหลิวกุ้ยอิงเข้าไปด้านใน แม่เฒ่าเซี่ยก็โมโหจนทุบตีลูกชาย

“เสี่ยวเหลย แกคิดอย่างไรกันแน่? ฉันคิดว่ากุ้ยอิงนั้นมีความคิดแบบนั้น ทำไมแกไม่รู้จักเข้าหาก่อนสักหน่อย? รีบพาหล่อนไปจดทะเบียนและแต่งงานพาหล่อนเข้าบ้านเถอะ แกนี่ช่างดื้อรั้นเสียจริง ทำไมจนถึงตอนนี้แกก็ยังโง่แบบนี้? ลูกสาวของแกโตขนาดนั้นแล้ว แกคิดเพียงอยากจะเปิดร้านร่วมกับหล่อนอย่างสับสนเช่นนี้จริงหรือ แกนี่ไร้ความรับผิดชอบจริงๆ”

“แม่ ผม……..”

แม่เฒ่าเซี่ยกล่าวอย่างรังเกียจ “อะไรของแกเนี่ย จะบุกไปก็ไม่กล้าจะถอยหลังก็กลัว ไม่เหมือนกับคนที่เคยผ่านชีวิตภายในสนามรบเลยแม้แต่น้อย”

“แม่ ไม่ใช่ว่าผมขาดความรับผิดชอบเสียหน่อย” เซี่ยเหลยกล่าว “ให้เวลากุ้ยอิงอีกสักหน่อยเถอะครับ จินซานแต่งงานมีครอบครัวแล้วเมื่อไหร่ค่อยพูดคุยเรื่องของพวกผม”

เมื่อเซี่ยเหลยกล่าวเช่นนี้ แม่เฒ่าเซี่ยพลันเข้าใจความหมายของเขา

หลิวกุ้ยอิงไม่สามารถปล่อยวางเรื่องลูกชายได้ เกรงว่าหลังจากตนเองแต่งงาน ตระกูลเซี่ยของพวกเขาจะไม่สามารถยอมรับลูกชายของอดีตสามีของหล่อนได้และไม่มีใครให้ความสนใจเรื่องการแต่งงานของหลินจินซาน

แม่เฒ่าเซี่ยเข้าใจความคิดของพวกเขา นางครุ่นคิดตลอดทั้งบ่าย กระทั่งพวกเขาเสร็จงานก็เริ่มจัดการความคิดของพวกเขาทั้งสองคนอีกครั้ง

“กุ้ยอิง ฉันเข้าใจดีว่าเธอกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ ฉันรู้ว่าเธอมีความรับผิดชอบต่อเด็กๆ เธอไม่กล้าก้าวออกมาเพราะเกรงว่าเด็กๆ จะคัดค้านเธอและกลัวว่าหลังจากนี้ตระกูลเซี่ยของพวกเราจะเข้มงวดต่อจินซานและเสี่ยวเยี่ยนใช่ไหม”

แม่เฒ่าเซี่ยแสดงท่าทางจริงจัง “เธอวางใจเถอะ หากเธอกับเสี่ยวเหลยแต่งงานกันแล้ว จินซานและเสี่ยวเยี่ยนก็จะเป็นเด็กของตระกูลเซี่ยของพวกเรา พวกเราจะปฏิบัติต่อพวกเขาเช่นเดียวกับที่เราปฏิบัติกับเซี่ยเซี่ย”

นางมองเซี่ยเหลยและหลิวกุ้ยอิงพร้อมกับเอ่ยอย่างจริงจัง “พวกเธอคิดว่าการไม่แต่งงานกันนั้นคือความรับผิดชอบต่อเด็กๆ สินะ อันที่จริงแล้วไม่ใช่เลย เพื่อนบ้านที่อยู่ภายนอกรวมถึงลูกค้าที่มากินอาหารต่างก็คิดว่าพวกเธอเป็นสามีภรรยากัน สุดท้ายแล้วพวกเธอกลับไม่มีแม้แต่ทะเบียนสมรส คนอื่นจะมองพวกเธอยังไง?”

“อันที่จริงแล้วพวกเธอควรคิดกลับกัน รีบแต่งงานกันและจัดการกับปัญหาทางอารมณ์ของผู้อาวุโสอย่างพวกเธอให้ดีเสียก่อน จากนั้นค่อยหาแฟนให้กับจินซาน เวลาเด็กสาวมองหาแฟนก็ล้วนชอบหาแฟนที่มีพ่อมีแม่และครอบครัวอบอุ่น

แต่สิ่งที่พวกแกกำลังทำอยู่ตอนนี้มันไม่มีอะไรชัดเจน ต่อให้หลินจินซานกำลังคบหาอยู่กับแฟน แต่ถ้าครอบครัวของฝ่ายหญิงทำการสืบประวัติและพบว่าพวกเธอไม่ใช่สามีภรรยากัน คนอื่นอาจจะเข้าใจผิดได้นะ”

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

แม่เซี่ยมาจัดการเรื่องชีวิตคู่เองเลย คู่สามีภรรยาวัยกลางคนนี้จะทำยังไงต่อน้อ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

Status: Ongoing
เมื่อสวรรค์ได้ให้โอกาสเธอย้อนกลับมาแก้ขในสิ่งที่ผิดพลาด เธอจะใช้โอกาสนี้เป็นช่างเสริมสวยยอดฝีมือให้ได้ตามฝันอย่างไรกันนะ?เรื่องย่อ : ในชาติก่อน หลินเ เป็นสไตสต์คนโง่ผู้ร้ความคิดป็นของตัวเอง จึงถูกดาราดาวรุ่งผู้เป็นเพื่อนสนิทวางแผนทำลายชีวิตจนพังพินาศ ไร้ซึ่งเครดิต ไร้ซึ่งอำนาจ และหน้ามืดตามัวทิ้งสามีพ่อม่ายลูกติดที่คอยสนับสนุนมาตลอดได้ลงค แต่เหมือนสวรรค์ยังคงเห็นใจต่ชะตาชีวิตอันรันทดของเธอ จึงทำให้เธอได้ย้อนกลับมาเกิดใหม่ในปี 1988 อันเป็นปีที่ทุกอย่างยังไม่สายเกินกว่าแก้ หลินเชี่ยจะใช้โอกาสที่ได้มีชีวิตครั้งที่สองเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตัวเองอย่างไรบ้าง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน