ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 – ตอนที่ 416 หล่อนน้อยใจเป็นอย่างมาก

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ตอนที่ 416 หล่อนน้อยใจเป็นอย่างมาก

ตอนที่ 416 หล่อนน้อยใจเป็นอย่างมาก

แม่เฒ่าเซี่ยดึงมือของหลิวกุ้ยอิงและกล่าวอย่างจริงใจแฝงด้วยความหมาย “กุ้ยอิง พ่อของจินซานจากโลกนี้ไปสามปีแล้ว เธอเองก็ควรปล่อยวางได้แล้ว การที่เธอกับเซี่ยเหลยแต่งงานกันและใช้ชีวิตให้ดีก็ไม่ได้รบกวนเวลาที่เธอระลึกถึงเขาสักนิด แม้พวกเราจะไม่เคยพบกับพ่อของจินซาน แต่ก็รู้ว่าเขาเป็นผู้ชายที่มีความรับผิดชอบมาก พวกเราเองก็ขอบคุณเขามากสำหรับการดูแลและการเอาใจใส่เธอ หลังจากนี้ตระกูลเซี่ยของพวกเราจะปฏิบัติต่อจินซานที่เป็นลูกชายของเขาเหมือนกับลูกของพวกเราเอง”

ต้องบอกว่าคำพูดนี้ของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้หลิวกุ้ยอิงประทับใจมาก

หล่อนเองก็มองเห็นความจริงใจและความพยายามของเซี่ยเหลย เซี่ยเหลยใช้วิธีการของตนเองในการเข้าหาหล่อนอย่างเงียบๆ ทั้งยังพยายามเติมเต็มความรู้สึกของหลินจินซานและหลินเยี่ยน

แต่ช่วงระยะเวลานี้ เซี่ยเหลยกลับไม่เคยเอ่ยถึงสิ่งใดเกี่ยวกับการทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง

แม่เฒ่าเซี่ยมองดูพวกเขา วางแผนจะขจัดความยุ่งเหยิงและผลักดันให้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง

“เอาแบบนี้แล้วกัน เมื่อพวกเธอกลับไปแล้วก็หาเวลากลับไปบ้านเก่าสักครั้งและเผากระดาษแผ่นหนึ่งให้กับพ่อของจินซาน บอกกล่าวต่อหน้าหลุมศพของเขา เสี่ยวเหลยแกไปขอบคุณพี่ใหญ่หลินสักหน่อยและควรขอบคุณต่อหน้าหลุมศพเขาด้วย เขาเป็นคนดี จะได้อวยพรให้พวกเธอบนสวรรค์”

นางเข้าใจว่าในใจของหลิวกุ้ยอิงยังมีความกังวล

หากต้องการให้หลิวกุ้ยอิงเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง จะต้องให้คำอธิบายต่อคนในอดีตก่อน

“พวกเธอคิดว่าไง?” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องมองพวกเขาและเอ่ยถาม

หลิวกุ้ยอิงส่งเสียงตอบรับ “ค่ะ”

หลิวกุ้ยอิงส่งเสียงตอบรับให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เซี่ยเหลยเงยหน้าขึ้นมองหล่อนด้วยความประหลาดใจ

หลิวกุ้ยเฟยสบสายตากับเซี่ยเหลยและกล่าว “ฟังคุณป้าเถอะค่ะ”

เซี่ยเหลยทั้งตื่นตกใจและปีติยินดี จากนั้นสบสายตากับหล่อนและเอ่ยยืนยัน “อิงจื่อ คุณยอมแต่งงานกับผมจริงเหรอ?”

หลิวกุ้ยอิงแสดงสีหน้าอ่อนโยนและเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “เมื่อเสร็จธุระช่วงนี้แล้วพวกเราไปเผากระดาษให้กับเหล่าหลินกัน แม้พวกคุณจะไม่เคยพบหน้ากัน แต่เขาก็เคารพคุณเป็นอย่างมาก คุณไปพบเขาที่หน้าหลุมศพของเขา เขาคงจะมีความสุขมาก”

ปีนั้นหลินต้าฝูรับรู้ว่าคนรักของหล่อนคือทหารที่สละชีวิตเพื่อปกป้องครอบครัวและประเทศของตน ดังนั้นเขาจึงยืนหยัดออกมาเพื่อปกป้องหล่อนภายใต้แรงกดดันมหาศาล

เหตุผลส่วนใหญ่ที่เขาอุ้มเด็กข้ามภูเขาหิมะเพื่อตามหาแพทย์แผนจีนเย่และขอร้องให้เขาช่วยเหลือลูก ก็เพราะว่าพ่อของเด็กเป็นวีรบุรุษผู้เสียสละ เขาเคยกล่าวว่าไม่ว่าจะพยายามด้วยวิธีการใดก็ตาม เขาก็ต้องการให้เซี่ยเหลยเก็บเด็กคนนี้ไว้ ไม่สามารถปล่อยให้วีรบุรุษไร้ซึ่งลูกหลานได้

เขาไม่เพียงแต่จะเป็นคนดี ยังเป็นคนดีผู้ยิ่งใหญ่อีกด้วย

“ตกลง ได้เลย” ใบหน้าเยือกเย็นของเซี่ยเหลยอ่อนโยนลงเล็กน้อย ความสุขปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน สุขล้นจนทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย

แม่เฒ่าเซี่ยเองก็ปลื้มใจมาก ในเมื่อหลิวกุ้ยอิงสามารถปล่อยวางได้ ในที่สุดปัญหาความรู้สึกของลูกชายคนโตก็คลี่คลายลงแล้ว

ในที่สุดจิตใจส่วนลึกของนางก็หายใจได้อย่างโล่งอกเสียที

ยี่สิบปีแล้ว ในที่สุดลูกชายและหญิงสาวที่เขารักใคร่นั้นก็เดินไปด้วยกันได้แล้ว

แม้พวกเขาจะสูญเสียช่วงเวลาวัยหนุ่มสาวและมีรอยแผลเป็นมากมาย แต่ก็ถือว่าต้นร้ายปลายดีและมีผลลัพธ์ที่ดี

แม่เฒ่าเซี่ยมีความสุขมากจนน้ำตารินไหลและกลัวว่าพวกเขาจะเห็น จากนั้นหาข้ออ้างออกไปด้านนอกร้านอาหาร

คนผู้หนึ่งเช็ดน้ำตาและสงบสติอารมณ์

หลังจากเข้ามาทำงานภายในห้องครัว เซี่ยเหลยก็ยังคงไม่อยากเชื่อว่าหลิวกุ้ยอิงจะยินยอมพัฒนาความสัมพันธ์และเริ่มต้นใหม่กับเขา

หลิวกุ้ยอิงกำลังทำงานอยู่ ร่างกายสูงใหญ่ของเขายืนอยู่ด้านหลังของเขาและคอยมองดูหล่อน

หลิวกุ้ยอิงหันศีรษะกลับมาขณะถือชามบะหมี่ ชามนั้นเกือบชนแขนของเขา

เมื่อหลิวกุ้ยอิงกำลังจะทำเส้นบะหมี่ เซี่ยเหลยมองหล่อนและเอ่ยอย่างอดไม่ได้

“อิงจื่อ คุณคิดดีแล้วจริงๆใช่ไหม? ผมหวังว่าคุณจะยอมรับผมจากก้นบึ้งของหัวใจ ไม่ใช่เพราะความลำบากใจจากการถูกกดดัน”

“คุณคิดว่าฉันไม่ได้รับความเป็นธรรมเหรอ?”

หลิวกุ้ยอิงมองเขาและเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง “ถ้าคุณคิดว่าฉันไม่ได้รับความเป็นธรรมจริงๆ งั้นคุณก็ต้องชดใช้ให้ตลอดชีวิต”

หล่อนไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างมาก

เวลาหลายสิบปีของหล่อนล้วนอยู่ภายใต้ความน้อยอกน้อยใจ

ปีนั้นหล่อนกำลังตั้งท้องลูกของเขา แต่เขากลับ“สละชีพ”อยู่ในสนามรบ หล่อนกลายเป็นผู้หญิงเลวที่ขัดต่อศีลธรรม คนภายในครอบครัวดูถูกและก่นด่าหล่อนด้วยถ้อยคำหยาบคายทุกรูปแบบ กักขังหล่อนไว้ภายในบ้านและพยายามกำจัดลูกภายในท้องของหล่อน เรื่องนี้ทำให้หล่อนรู้สึกน้อยใจเป็นอย่างมาก

จากนั้นก็ได้แต่งงานกับหลินต้าฝู กลายเป็นแม่เลี้ยงของหลินจินซาน แม่เฒ่าหลินรวมถึงเหล่าผู้หญิงภายในหมู่บ้านต่างก็จับจ้องหล่อน แม้ว่าหลินจินซานจะทำผิดพลาดจนโดนหล่อนตำหนิไปเพียงสองประโยค แต่หล่อนก็ถูกคนเหล่านั้นตราหน้าว่าเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจมาก

หลังจากหลินต้าฝูเสียชีวิต หลินเอ้อร์ฝูและแม่เฒ่าหลินกลายเป็นเจ้าบ้าน เงินทั้งหมดที่หล่อนได้รับจากการทำงานเสริมถูกมอบให้เสิ่นอวี้อิ๋งใช้เป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน หล่อนยังรู้สึกว่าเงินที่ให้หล่อนนั้นน้อยไป หล่อนคับข้องใจเป็นอย่างมาก

เรื่องที่หล่อนรู้สึกคับข้องใจนั้นมีมากมายเกินไป!

บางครั้งหล่อนก็คิดขึ้นได้ว่าครั้งแรกที่ได้พบกับเซี่ยเหลย ตนเองก็เป็นสาวน้อยคนหนึ่งที่สดใส ร่าเริงและมีความยโสโอหัง

ตลอดระยะเวลายี่สิบปีนี้ โชคชะตาและความเป็นจริงค่อยๆ เจียระไนขอบมุมทุกด้านของหล่อน หล่อนใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังและยินยอมต่อทุกเรื่อง ทุกย่างก้าวราวกำลังเหยียบอยู่บนแผ่นน้ำแข็งบางๆ

สิ่งที่โชคดีเพียงอย่างเดียวคือการได้พบกับผู้ชายที่ดีอย่างหลินต้าฝู เพราะมีเขาคอยปกป้อง หล่อนถึงไม่ตกระกำลำบากมากถึงขนาดนั้น

หลิวกุ้ยอิงพลันนึกถึงความยากลำบากและความคับข้องใจที่ตนเองต้องเผชิญมาตลอดหลายปี หยดน้ำตาภายในดวงตาพลันรินไหลลงมา

หล่อนขอให้เขาใช้เวลาทั้งชีวิตของเขาเพื่อชดเชยความคับข้องใจของหล่อน……. ประโยคนี้ทำให้หัวใจของเซี่ยเหลยสั่นสะท้านอย่างหนักหน่วง เขาเหยียดมือออกมาและดึงหล่อนเข้าสู่อ้อมแขนอย่างแผ่วเบา “ขอบคุณนะ อิงจื่อ ขอบคุณที่คุณยอมให้โอกาสผม”

หลิวกุ้งอิงเอนซบไหล่ของเขา หยาดน้ำตาเปรอะเปื้อนเสื้อผ้าของเขาจนเปียกชุ่ม

นัยน์ตาของเขาเองก็เปียกชื้นเช่นกัน เขาลูบแผ่นหลังของหล่อนอย่างเบามือและกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบา “หลังจากนี้ผมจะใช้ชีวิตของผมดูแลคุณเป็นอย่างดี และจะชดเชยให้กับคุณนะ”

“อิงจื้อ ได้โปรดให้โอกาสผมสักครั้ง ให้ผมได้ชดเชยให้กับคุณ”

เซี่ยเหลยมองหล่อน นัยน์ตาเต็มไปด้วยความรักและความจริงใจ “เหมือนกับที่แม่ของผมกล่าว พ่อของจินซานจะอยู่ภายในใจของคุณตลอดไปและมีชีวิตอยู่ภายในหัวใจของพวกเราทุกคนด้วย ผมจะไม่ขอให้คุณลืมเขาอย่างเห็นแก่ตัว หลังจากวันนี้ผมจะรักจินซานและเสี่ยวเยี่ยนเหมือนกับลูกของผมเอง”

หลิวกุ้ยอิงน้ำตารินไหล “ขอบคุณค่ะ”

แม่เฒ่าเซี่ยอยู่ภายในร้านอาหารและคอยช่วยเก็บจานและเช็ดโต๊ะ ส่วนหลินจินซานยังไม่ถึงเวลาเข้างาน ทั้งสองคนจึงนั่งอยู่ตรงประตูร้านอาหาร จากนั้นแม่เฒ่าก็มองหลินจินซานพร้อมรอยยิ้มและเอ่ยถาม

“จินซาน เธอเองก็โตแล้ว มีคนที่ชอบหรือยัง? หากว่ามีแล้วก็บอกพวกย่าได้นะ หลังจากนี้พวกย่าจะเป็นญาติผู้ใหญ่ของเธอ ย่าจะไปสู่ขอแต่งงานให้กับเธอเอง”

หลินจินซานยิ้มและส่ายศีรษะ “คุณย่าครับ ยังไม่มีหรอกครับ”

แม่เฒ่าเซี่ยได้ยินเช่นนั้น สีหน้าก็พลันกังวล “จะไม่มีได้อย่างไรกัน? ห้องเต้นรำของพวกเธอ…….. ช่างเถอะ อย่าหาคนที่อยู่ภายในห้องเต้นรำเลย”

ครั้นแม่เฒ่าเซี่ยเห็นชุนฟางที่ออกมาจากร้านตัดผมตรงข้ามเพื่อมาตากผ้าเช็ดผม นัยน์ตาพลันส่องประกาย

นางมองไปทางหลินจินซานและเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม

“เด็กสาวชุนฟางนั้นที่อยู่ภายในร้านตัดผมของเซี่ยเซี่ย ดูเหมือนว่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธอนะ เธอคิดว่าหล่อนเป็นอย่างไรบ้าง?”

หลินจินซานชำเลืองมองชุนฟางที่กำลังตากผ้าขนหนูด้วยความคล่องแคล่ว จากนั้นก็คลี่ยิ้ม “ก็ใช้ได้ครับ”

ก่อนหน้านี้เขาเข้ามาภายในเมืองครั้งแรก เขามักจะชอบผู้หญิงแต่งหน้าจัดและสวมเสื้อผ้าแฟชั่นทันสมัย ผู้หญิงแต่งตัวเฉิ่มเชยและไม่โดดเด่นแบบชุนฟางนั้นเขาไม่เคยเหลียวมองเลยด้วยซ้ำ

ตั้งแต่รู้ว่าสาวสวยภายในตรอกซอยนั้นแท้จริงแล้วเป็นช่างทำผมแถมยังต้องการทำให้เขากลายเป็นลูกค้าประจำ หาเงินจากเขา ภายในหัวใจของเขาก็รู้สึกเจ็บปวด

ด้วยอิทธิพลอันละเอียดอ่อนของคนรอบข้าง ตอนนี้การมองผู้หญิงของเขาเองก็เปลี่ยนไปแล้ว

นิยามความงามก็เปลี่ยนไปเช่นกัน

ผู้หญิงที่ดูสะอาดตาและเรียบร้อยนั้นก็ยังพอมองได้อยู่

เมื่อมองหาแฟนก็ควรหาผู้หญิงที่เรียบง่าย สะอาด อยู่ด้วยแล้วไม่กังวลและภายในหัวใจนั้นก็ต้องงดงามด้วย

ก่อนหน้านี้เขาลุ่มหลงไปกับแสงสีเสียงภายในเมือง ทุกอย่างดูฉาบฉวยผิวเผินเกินไป!

………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

คุณแม่เซี่ยนี่นักจับคู่มืออาชีพมาก พูดประโยคเดียวแทงใจดำตรงจุดเป๊ะ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

Status: Ongoing
เมื่อสวรรค์ได้ให้โอกาสเธอย้อนกลับมาแก้ขในสิ่งที่ผิดพลาด เธอจะใช้โอกาสนี้เป็นช่างเสริมสวยยอดฝีมือให้ได้ตามฝันอย่างไรกันนะ?เรื่องย่อ : ในชาติก่อน หลินเ เป็นสไตสต์คนโง่ผู้ร้ความคิดป็นของตัวเอง จึงถูกดาราดาวรุ่งผู้เป็นเพื่อนสนิทวางแผนทำลายชีวิตจนพังพินาศ ไร้ซึ่งเครดิต ไร้ซึ่งอำนาจ และหน้ามืดตามัวทิ้งสามีพ่อม่ายลูกติดที่คอยสนับสนุนมาตลอดได้ลงค แต่เหมือนสวรรค์ยังคงเห็นใจต่ชะตาชีวิตอันรันทดของเธอ จึงทำให้เธอได้ย้อนกลับมาเกิดใหม่ในปี 1988 อันเป็นปีที่ทุกอย่างยังไม่สายเกินกว่าแก้ หลินเชี่ยจะใช้โอกาสที่ได้มีชีวิตครั้งที่สองเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตัวเองอย่างไรบ้าง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท