ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 – ตอนที่ 417 จัดการเรื่องงานแต่ง

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ตอนที่ 417 จัดการเรื่องงานแต่ง

ตอนที่ 417 จัดการเรื่องงานแต่ง

หลินจินซานมองไปทางร้านตัดผม ใบหน้าพลันปรากฏความเบิกบาน แม่เฒ่าเซี่ยยิ้มพลางกล่าว “ดูสีหน้าของเธอสิ แบบนั้นคือชอบหล่อนแล้วล่ะสิ”

“แหะๆ”

เห็นหลินจินซานให้ผลตอบรับเชิงบวก แม่เฒ่าเซี่ยก็ยิ้มแย้มในทันใดและให้คำแนะนำแก่เขา “ชอบก็จีบเลย พวกเธออยู่ห่างกันเพียงกำแพงคั่นกลาง จีบได้สบายมาก คนใกล้ชิดยิ่งได้เปรียบรู้หรือเปล่า? เธอควรกระตือรือร้นกับหล่อนให้มากขึ้นอีกสักหน่อย เลิกงานแล้วก็นัดหล่อนไปดูหนังหรืออะไรก็ได้ คนวัยหนุ่มสาวอย่างพวกเธอควรออกไปเที่ยวพัฒนาความสัมพันธ์ให้ดียิ่งขึ้น ไม่แน่ว่าอาจมีความเคลื่อนไหว ฉันว่าแม่หนูคนนั้นดูดีเลยทีเดียว”

นางเห็นว่าชุนฟางเป็นเด็กสาวผู้เรียบง่ายคนหนึ่ง หล่อนทำงานอย่างขยันขันแข็งภายในร้านตัดผมและผ่านการฝึกงานมาแล้ว ตอนนี้หลินเซี่ยไม่อยู่ หล่อนกับอาจารย์หวังทั้งสองคนต่างก็ไม่แอบอู้งาน ทำงานทุกอย่างที่ควรทำ เมื่อเห็นก็รู้ว่าสามารถเชื่อถือได้

หลินจินซานชำเลืองมองฝั่งตรงข้ามและทอดถอนหายใจอย่างลำบากใจ “ย่าครับ สิ่งสำคัญคือเวลาการทำงานของผมที่สลับกับเวลาของหล่อน พอหล่อนเลิกงานผมก็ทำงาน ไม่มีโอกาสเลยครับ”

แม่เฒ่าเซี่ยทำการตัดสินใจทันที “รอให้อารองของเธอกลับมาก่อน แล้วให้อารองเปลี่ยนเวลาทำงานให้กับเธอสิ”

ได้ยินคำพูดของแม่เฒ่าเซี่ย หลินจินซานแสดงสีหน้าอึดอัด “ย่าครับ สิ่งสำคัญคือห้องเต้นรำนั้นตอนเช้าไม่มีคน ไม่สามารถเปลี่ยนเวลาทำงานได้หรอกครับ”

แม่เฒ่าเซี่ยได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มและเอ่ย “ก็จริงนะ หากเปลี่ยนกะก็ไม่ต่างจากว่างงาน”

นางหรี่ตาลงอย่างครุ่นคิด จากนั้นเสนอความคิดให้กับหลินจินซาน “เอาแบบนี้ หลังจากเธอเลิกงานแล้วก็รีบนอน ตอนกลางวันก็รีบตื่นให้เร็ว เอาใจหล่อนให้มากขึ้นสักหน่อย ส่งอาหารซื้อขนมให้อะไรแบบนี้ ทำให้หล่อนรู้สึกว่าเธอมีความคิดแบบนั้นกับหล่อน จากนั้นรอดูว่าหล่อนจะมีปฏิกิริยายังไง”

“ถ้าหล่อนไม่มีความคิดแบบนั้นเลยแม้แต่น้อย หรือแม้กระทั่งปฏิเสธเธอ งั้นก็อย่าดันทุรัง ถ้าอีกฝ่ายให้สัญญาณเชิงบวกกับเธอ เธอก็ต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ ไม่ต้องกังวลเรื่องของหมั้นเรื่องงานแต่งไป พวกย่าเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ให้เธอได้”

“ย่าครับ ขอบคุณนะครับ คาดไม่ถึงเลยว่าย่าจะมีประสบการณ์ด้านนี้ขนาดนี้”

แม่เฒ่าเซี่ยมีความเมตตากรุณา คำพูดทุกคำนั้นล้วนจริงใจ เป็นกังวลเรื่องสำคัญภายในชีวิตของเขาด้วยเจตนาดีและปฏิบัติต่อเขาเสมือนเป็นหลานชายแท้ๆของตนเอง

หลินจินซานประทับใจมาก เขาเอียงศีรษะซบลงบนร่างกายของแม่เฒ่าเซี่ยและออดอ้อน “ย่าครับ ย่าดีมากเลยจริงๆ”

สิ่งนี้คือสิ่งที่ผู้อาวุโสควรจะมี ไม่เหมือนกับย่าแท้ๆคนนั้นของเขาในสมัยยังเด็ก เป็นเพราะว่าเขาเป็นเด็กผู้ชายก็มักจะลำเอียงต่อเขาเสมอ

นางไม่แยกแยะถูกผิด มักจะเห็นแก่ตัว ไม่มีท่าทางเหมือนผู้อาวุโสเลยแม้แต่น้อย

มีเด็กหนุ่มอย่างหลินจินซานทำตัวออดอ้อน ใบหน้าของแม่เฒ่าเซี่ยพลันปรากฏสีหน้ารักใคร่และเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ฉันอาบน้ำร้อนมาก่อนเธอ หลังจากนี้มีเรื่องอะไรย่าจะคอยช่วยตัดสินใจให้กับเธอเอง”

“ขอบคุณครับย่า”

หลินจินซานปากหวานเป็นอย่างมาก คำก็เรียกย่าสองคำก็เรียกย่า แม่เฒ่าเซี่ยมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่เอ็นดูและรู้สึกมีความสุขมาก

ภายในระยะเวลาไม่กี่เดือน นางเป็นหญิงชราผู้โดดเดี่ยวคอยดูแลลูกชายความจำเสื่อมคนหนึ่งและไร้ซึ่งอารมณ์ต่อโลกความเป็นจริง จนกระทั่งตอนนี้ได้เห็นลูกชายและลูกสาวค้นพบความสุข อีกทั้งยังมีหลานชายหลานสาวของตนเอง แถมยังมีหลานชายคนโตที่ยินยอมเรียกนางว่าย่า

ทายาทมากมายรายล้อมรอบตัวนาง ความสุขเกิดขึ้นภายในครอบครัว ความขื่นขมตลอดหลายปีที่ผ่านมานั้นทุกอย่างคุ้มค่าแล้ว

แม่เฒ่าเซี่ยยิ้มพลางเอ่ยกับหลินจินซาน “จินซาน ฉันกับลุงเซี่ยแล้วก็แม่ของเธอพูดคุยกันเรียบร้อยแล้วและต้องการให้พวกเขาแต่งงานกันโดยเร็ว อันดับแรกจัดงานแต่งของผู้อาวุโสให้เรียบร้อยก่อนเข้าใจไหม? จากนั้นก็ค่อยจัดให้กับทายาทรุ่นหลังอย่างพวกเธอ พวกเราจัดการกันทีละคน เมื่อเป็นเช่นนี้ภายในอนาคตหากเธอและเสี่ยวเยี่ยนมีแฟนที่ชื่นชอบและพูดถึงการแต่งงานเมื่อไหร่ ลุงเซี่ยกับแม่เธอ รวมถึงพวกฉันก็จะออกหน้าให้อย่างถูกทำนองคลองธรรม”

“ย่าครับ ย่าเป็นคนสำคัญของพวกเราทุกคนจริงๆครับ ผมเชื่อฟังย่าครับ”

แม่เฒ่าเซี่ยถอนหายใจ “พวกเขาทั้งสองคนกังวลมากเกินไป อายุขนาดนั้นแล้วก็ยังกระมิดกระเมี้ยนกันอยู่ คนหนุ่มสาวอย่างพวกเธออย่าเอาอย่างพวกเขานะ หากมีคนที่ชอบแล้วก็เปิดใจเลย ไม่อย่างนั้นต่อให้วาสนาดีขนาดไหนก็อาจจะพลาดโอกาสได้”

หลินจินซานเอ่ยกับแม่เฒ่า “อันที่จริงลุงเซี่ยของผมเองก็เคยลงมือทำบางอย่างเหมือนกันครับ ก่อนหน้านี้เพื่อที่เขาจะได้สนิทกับผมมากยิ่งขึ้น เขาส่งอาหารให้ผมอยู่หลายครั้งและพูดคุยเรื่องแม่ของผมตั้งมากมาย ผมเองก็มองออกว่าเขากังวลมากและอยากแต่งงานกับแม่ของผมมาก แต่แม่ของผมผ่านประสบการณ์มามากมายและยังเป็นคนคิดมากด้วย หล่อนกลัวว่าตัวเองจะทำผิดต่อพ่อของผมและกลัวว่าผมกับเสี่ยวเยี่ยนจะต่อต้าน หล่อนใช้ชีวิตเพื่อคนอื่นมาโดยตลอด มักจะคิดถึงความรู้สึกของคนอื่นเสมอและไม่เคยคิดเพื่อตัวเอง หล่อนทำให้ตัวเองรู้สึกคับข้องใจเกินไป”

แม่เฒ่าเซี่ยถอนหายใจ “เด็กน้อย แม่ของเธอน่ะเป็นคนดีมีคุณธรรม ภายในหัวใจของหล่อนนั้นมีเพียงพวกเธอเท่านั้นแหละ”

หลิวกุ้ยอิงยอมทำให้ตนเองคับข้องใจและต้องดูแลความรู้สึกของลูกๆ ด้วย คนเสียสละเช่นหล่อน ถูกกำหนดให้ต้องทนทุกข์กับความรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม

“ใช่แล้ว ความสัมพันธ์ของเครือญาติทางนั้นของพวกเธอเป็นอย่างไรบ้าง? ต้องบอกพวกเขาในเรื่องของแม่เธอสักหน่อยไหม?” แม่เฒ่าเซี่ยมองหลินจินซานและเอ่ยถามเขา

เนื่องจากความสัมพันธ์แม่ลูกของหลิวกุ้ยอิงและหลินจินซานนั้นลึกซึ้งมาก เช่นนั้นหลิวกุ้ยอิงก็น่าจะเข้ากับคนอื่นภายในตระกูลหลินได้เป็นอย่างดี

ได้ยินว่าภายในตระกูลยังมีผู้อาวุโสอยู่ เช่นนั้นหากหลิวกุ้ยอิงแต่งงานอีกครั้ง ก็ต้องบอกกล่าวแม่ของหลินต้าฝู

ได้ยินคำพูดของแม่เฒ่าเซี่ย สีหน้าของหลินจินซานพลันตกตะลึงและรีบเอ่ย

“ย่าครับ อย่าบอกคนภายในบ้านเก่าของพวกเราเลย ย่าของผมอายุเท่ากับย่า แต่หล่อนไม่ได้มีความคิดที่ดีเหมือนกับย่า หล่อนเห็นแก่ตัว ก่อนหน้านี้มักจะรังแกแม่ของผมอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งยังมีลุงรองของผมอีกด้วย แต่ละวันไม่เคยทำอะไร ตอนพ่อของผมยังมีชีวิตอยู่ก็มาขอความช่วยเหลือจากพ่อของผมอยู่บ่อยครั้ง

หลังจากพ่อของผมเสียชีวิต เขาก็ย้ายมาอยู่บ้านของผม ทุกคนอาศัยอยู่ร่วมกันและให้แม่ของผมคอยดูแลพวกเขา กว่าพวกเราจะออกมาจากบ้านเก่านั้นไม่ง่ายดายเลย พวกเราไม่อยากเข้าไปข้องเกี่ยวกับพวกเขาอีกแล้วครับ”

หากคนเหล่านั้นภายในบ้านเก่ารู้เรื่องชีวิตของเซี่ยเซี่ยและรู้ว่าหลิวกุ้ยอิงกำลังจะแต่งงานใหม่ พวกเขาจะไม่ใช้โอกาสนี้ข่มขู่หรอกเหรอ?

“อะไรนะ? พวกย่าของเธอเคยรังแกแม่เธอเหรอ? แล้วคนในตระกูลนั้นก็ให้แม่ของเธอคอยดูแลรับใช้พวกเขา?”

แม่เฒ่าเซี่ยจ้องมองหลินจินซานด้วยความไม่เชื่อและเอ่ยถาม

หลินจินซานตอบ “ตอนพ่อผมอยู่มันไม่ได้เป็นแบบนี้ แต่หลังจากพ่อของผมเสียชีวิต ภายในบ้านก็ไม่มีเสาหลัก อีกทั้งเสิ่นอวี้อิ๋งคนนั้นยังเข้ามาก่อกวน ภายในบ้านวุ่นวายมาก แม่ของผม ผมและเสี่ยวเยี่ยนต่างก็ไม่ได้รับความเป็นธรรม กล่าวว่าเมื่อคนเราต้องห่างไกลบ้านเกิดก็จะต้องคิดถึงบ้านเกิดและเครือญาติ แต่ผมไม่คิดถึงพวกเขาแม้แต่น้อยและอยากตัดขาดความสัมพันธ์กับพวกเขาด้วยซ้ำ”

หลินจินซานเห็นแม่เฒ่าเซี่ยเป็นญาติของตนเอง เขาจึงเล่าว่าทำไมตนเองถึงหนีออกจากบ้านในตอนนั้นให้กับแม่เฒ่าเซี่ยรับฟัง ผู้อาวุโสรับฟังพลางขมวดคิ้ว

ด้วยกลัวว่าเงินค่าทำขวัญของหลินต้าฝูนั้นจะมอบให้กับภรรยาของเขา เสิ่นอวี้อิ๋งจึงกล่าวหาเขาอย่างไร้เหตุผลและทำลายชื่อเสียงของเขาจนป่นปี้

ชั่วร้ายจริงๆ

หลินจินซานย้อนความทรงจำสมัยเด็กและถอนหายใจ “ผมจำได้ว่าเมื่อตอนผมได้พบเจอกับแม่ครั้งแรก อันที่จริงตอนนั้นหล่อนแข็งแกร่งและหยิ่งทะนงมาก ตอนผมยังเด็กผมถูกเพื่อนภายในหมู่บ้านเดียวกันรังแก หล่อนจูงมือผมไปหาเด็กคนนั้นที่บ้านด้วยท่าทางโกรธเกรี้ยวและทะเลาะกับพ่อแม่ของเด็กคนนั้น หลังจากนั้นย่าก็มักจะสร้างความขัดแย้ง หล่อนไม่ต้องการให้พ่อของผมต้องลำบาก ดังนั้นจึงเลือกเก็บความคับข้องใจทั้งหมดไว้ภายในใจและยอมจำนนต่อย่าของพวกผม หลังจากนั้นหล่อนก็ยอมอดทนอย่างไร้เงื่อนไขและไม่โกรธเคืองเลยแม้แต่น้อย

ก่อนหน้านี้ผมไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว หล่อนรู้สึกผิดที่แต่งงานกับพ่อของผมตอนตนเองตั้งครรภ์ หล่อนเห็นว่าตนเองต่ำต้อยและค่อยๆลืมเลือนว่าเมื่อก่อนตนเองเคยเป็นอย่างไร”

หลินจินซานหวนนึกถึงเรื่องภายในอดีต ภายในหัวใจรู้สึกย่ำแย่เป็นอย่างมาก

ผู้หญิงคนหนึ่งผ่านความยากลำบากมามากมาย ทำได้เพียงแค่ซ่อนทุกอย่างไว้ภายในหัวใจและยอมรับ

กระทั่งตอนนี้ยังต้องคิดถึงความรู้สึกของลูกเลี้ยงอย่างเขา

ในเมื่อตอนนี้หล่อนสามารถยอมรับเซี่ยเหลยและยินยอมเริ่มต้นใหม่กับเขาอีกครั้ง เขาก็มีความสุขมากจริงๆ

แม่เฒ่าเซี่ยได้ยินคำพูดของหลินจินซาน นางเริ่มเช็ดน้ำตาอีกครั้ง

“เด็กน้อย ตอนนี้พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว พวกเธอเริ่มต้นชีวิตใหม่แล้ว ทุกวันก็จะดีมากยิ่งขึ้น”

ทุกคนล้วนผ่านการใช้ชีวิตมาอย่างขื่นขม แม่เฒ่าเซี่ยรู้สึกเห็นอกเห็นใจและเสียใจต่อแม่ลูกคู่นี้ รู้สึกผิดต่อหลิวกุ้ยอิงอย่างสุดซึ้ง

เหตุผลที่หลิวกุ้ยอิงยอมรับความทุกข์ทรมานขนาดนั้น โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นเพราะเด็กภายในท้อง

หล่อนผ่านความยากลำบากมากเพิ่มขึ้นอีกเท่าหนึ่งเพื่อเก็บทายาทของตระกูลเซี่ยของพวกเขา

หล่อนเป็นคนดีและมีเมตตาธรรม สมควรได้รับความเคารพและความรักจากตระกูลเซี่ยของพวกเขา

นางเช็ดน้ำตาพลางมองไปยังร้านตัดผมตรงข้ามและเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เธอดูสิว่าชุนฟางคนนั้นสวยและมีความสามารถมากขนาดไหน เหมาะสมกับเธอมาก จะต้องคว้าโอกาสให้ได้นะ หลังจากพวกเราจัดการเรื่องของแม่เธอและลุงเซี่ยเสร็จแล้วก็จะจัดการเรื่องงานแต่งของเธอต่อเลย”

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

คารวะคุณย่าเซี่ยเลยค่ะ พูดไม่กี่ประโยค จากเรื่องยากกลายเป็นเรื่องง่ายทันที

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

Status: Ongoing
เมื่อสวรรค์ได้ให้โอกาสเธอย้อนกลับมาแก้ขในสิ่งที่ผิดพลาด เธอจะใช้โอกาสนี้เป็นช่างเสริมสวยยอดฝีมือให้ได้ตามฝันอย่างไรกันนะ?เรื่องย่อ : ในชาติก่อน หลินเ เป็นสไตสต์คนโง่ผู้ร้ความคิดป็นของตัวเอง จึงถูกดาราดาวรุ่งผู้เป็นเพื่อนสนิทวางแผนทำลายชีวิตจนพังพินาศ ไร้ซึ่งเครดิต ไร้ซึ่งอำนาจ และหน้ามืดตามัวทิ้งสามีพ่อม่ายลูกติดที่คอยสนับสนุนมาตลอดได้ลงค แต่เหมือนสวรรค์ยังคงเห็นใจต่ชะตาชีวิตอันรันทดของเธอ จึงทำให้เธอได้ย้อนกลับมาเกิดใหม่ในปี 1988 อันเป็นปีที่ทุกอย่างยังไม่สายเกินกว่าแก้ หลินเชี่ยจะใช้โอกาสที่ได้มีชีวิตครั้งที่สองเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตัวเองอย่างไรบ้าง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท