ตอนที่ 419 คว้าโอกาสและสร้างรายได้จากมัน
ตอนที่ 419 คว้าโอกาสและสร้างรายได้จากมัน
หลินเซี่ยกล่าว “ถ้าคุณขายให้นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ขายแล้วก็คงได้เงินไม่มากหรอก สถานะของคุณในตอนนี้ก็ไม่ได้ร้อนเงิน พวกเราควรจะปรึกษากันในระยะยาวนะคะ”
เซี่ยไห่จ้องมองเธอและเอ่ย “ไหนเธอลองพูดมาสิ”
หลินเซี่ยมองเขาและเอ่ยอย่างจริงจังมาก “อารอง อีกไม่นานสถานที่แห่งนี้จะได้รับการพัฒนา หลังจากนี้จะมีการสร้างถนนหนทาง อาคารสำนักงานและห้างสรรพสินค้าระดับไฮเอนด์ที่สุดแห่งเมืองเชินเฉิง ในเมื่อพวกเรามีที่ดินแล้วก็ต้องคว้าโอกาสนี้ไว้และสร้างรายได้มหาศาลจากมันนะคะ”
เซี่ยไห่มองหลินเซี่ยพลางเอ่ยด้วยสีหน้าอ่อนโยนและถาม “เธอกำลังฝันอะไรอยู่? ใครจะมาสร้างถนนหนทาง อาคารสำนักงานและห้างสรรพสินค้าภายในสถานที่แห่งนี้กับเธอกัน? สถานที่แห่งนี้ห่างไกลเกินไป เป็นไปไม่ได้เลยที่จะสร้างอาคารภายในสถานที่แห่งนี้ เธอเป็นคนเมืองไห่เฉิง จะรู้เรื่องของเมืองเชินเฉิงได้ยังไง?”
หลินเซี่ยเอ่ยตอบ “เขตเมืองและโรงงานเจริญรุ่งเรืองเหล่านั้นของเมืองเชินเฉิง ไม่ใช่ว่าเพิ่งสร้างในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาหรอกเหรอคะ? ตอนนี้เถ้าแก่ที่ค่อนข้างมีเงินกำลังจับจ้องที่ดินของเมืองเชินเฉิงอยู่ ไม่มีเรื่องอะไรที่เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ”
เซี่ยไห่ตอบ “เธอบอกมาก่อนว่าเธอได้ยินเรื่องนี้มาจากไหน”
หลินเซี่ยกลอกตาและครุ่นคิดคำตอบ “ฉันเห็นจากโทรทัศน์ สถานที่แห่งนี้อยู่ภายในพิมพ์เขียวการวางแผนของเมืองเชินเฉิง”
“เรื่องเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น เธอดูสิ สถานที่แห่งนี้อยู่ห่างไกลจากตัวเมืองที่รุ่งเรืองมากขนาดไหน?”
เซี่ยไห่ไม่ได้สนใจในเรื่องการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เลย แน่นอนว่าเขาก็ไม่เข้าใจเช่นกัน “อีกอย่างเรื่องนั้นก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกเรา หลังจากนี้ฉันต้องการพัฒนาเมืองไห่เฉิง ฉันเปิดร้านเต้นรำร้านหนึ่ง ทำไมจะต้องสนใจเรื่องการพัฒนาเมืองเชินเฉิงด้วย? เธอไม่ให้ฉันขายที่ดินผืนนี้ แถมยังต้องการให้ฉันพัฒนาที่ดินด้วยตัวเองอีกเหรอ? ฉันไม่มีความสามารถขนาดนั้นหรอก”
“ไปเถอะ พวกเราออกไปสอบถามว่าจะขายได้ราคาเท่าไรกันแน่ จะได้รีบไปจัดการ พวกเรายังมีธุระต้องจัดการอีก”
หลินเซี่ยเดินตามเซี่ยไห่ออกไปด้านนอกลานบ้าน ร้านค้าทรุดโทรมสองข้างทางช่างดูเงียบเหงามาก มีผู้สูงอายุและเด็กน้อยเดินผ่านเป็นครั้งคราว เซี่ยไห่ทอดถอนหายใจพลางหวนระลึกถึง “ตอนฉันเพิ่งย้ายมาที่นี่ บริเวณโดยรอบนั้นคึกคักมาก ผู้คนตั้งแผงขายอาหารทะเลมากมาย สองสามปีนี้นักธุรกิจจากไต้หวันและฮ่องกงจำนวนมากมาเปิดโรงงานที่นี่ ผู้คนวัยหนุ่มสาวต่างก็ไปทำงานโรงงานกันหมด บางส่วนก็ย้ายออกจากที่นี่ ตลาดอาหารทะเลก็ปิดตัวลง ทำให้ตอนนี้ไม่มีผู้คนอยู่ที่นี่เลย”
บริเวณโดยรอบนั้นมีหน้าร้านปิดตัวลงเป็นจำนวนมาก น่าจะถูกขายไปแล้ว
ทั้งสองคนก้าวเท้าไปด้านหน้าสองสามก้าว และบังเอิญพบเห็นหญิงชราคนหนึ่งนั่งอยู่บนพื้น ด้านหน้าวางถาดอาหารทะเลขนาดใหญ่
ทันทีที่เซี่ยไห่เห็นผู้อาวุโสคนนั้น นัยน์ตาพลันส่องประกายและเดินเข้าไปหา เขาก้มตัวลงและเอ่ยทักทาย “คุณยาย คุณยังจำผมได้ไหมครับ?”
คุณยายจ้องมองเขาอยู่ชั่วขณะและจำเขาได้ “ไห่จื่อเหรอ?”
เซี่ยไห่นั่งยองตรงหน้านางพลางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ผมเองครับ คุณยาย สบายดีหรือเปล่าครับ?”
“สบายดี สุขภาพร่างกายยังแข็งแรงดี”
“คุณยาย ผมได้ยินมาว่าพวกเราขายที่ดินกันไปแล้วเหรอ?”
คุณยายมองเซี่ยไห่และเอ่ย “ใช่แล้ว ที่ดินแถวนี้ไม่มีใครอาศัยอยู่แล้ว คนวัยหนุ่มสาวต่างก็ไปทำงานโรงงานกันหมด ไม่มีใครขายอาหารทะเลที่นี่อีกแล้ว เมื่อไม่กี่วันก่อนมีเถ้าแก่คนหนึ่งกล่าวว่าต้องการซื้อที่ดินนี้ คนมากมายต่างก็เซ็นสัญญาและนำเงินไปกันหมดแล้ว พวกเขาต่างบอกว่าติดต่อเธอไม่ได้
ใช่แล้ว ครอบครัวของอ้ายเจินที่ก่อนหน้านี้ชื่นชอบเธอก็ย้ายออกไปแล้ว อ้ายเจินแต่งงานกับเถ้าแก่คนหนึ่งและพาพ่อแม่ของหล่อนย้ายเข้าไปอาศัยอยู่หอพักภายในตัวเมือง”
เซี่ยไห่ได้ยินคำพูดของคุณยาย ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มอ่อนโยน “อ้ายเจินแต่งงานกับเถ้าแก่? ดีเลย”
“ไห่จื่อ เธอไปที่หน้าร้านขายของชำของตระกูลซ่งและถามเบอร์โทรของเถ้าแก่เถอะ พวกเขากล่าวว่าเถ้าแก่ทิ้งเบอร์โทรให้กับเสี่ยวซ่ง แถมเมื่อวานยังถามว่าใครติดต่อเธอได้บ้าง ให้เธอรีบโทรหาเถ้าแก่คนนั้นทันที”
“ครับ ขอบคุณครับคุณยาย”
เซี่ยไห่และหลินเซี่ยตรงไปตามหาเสี่ยวซ่งยังร้านขายของชำและขอเบอร์เถ้าแก่ จากนั้นเซี่ยไห่ก็โทรหาและเอ่ยถามสถานการณ์
เมื่อคนฝ่ายตรงข้ามได้ยินว่าเป็นเรื่องที่ดิน จากนั้นก็กล่าวว่าเดี๋ยวจะเข้ามาด้วยน้ำเสียงสุภาพเป็นอย่างมาก
“ครับ ผมจะรอข่าวจากคุณ”
เซี่ยไห่วางสายโทรศัพท์และเอ่ยกับหลินเซี่ย “มีเถ้าแก่ต้องการซื้อที่ดินจริงๆ แถมยังบอกด้วยว่าคนของพวกเขากำลังจะมา”
หลินเซี่ยมองเซี่ยไห่ด้วยสีหน้าจริงจังและเอ่ย “อารอง อย่าขายที่ดินผืนนี้นะคะ”
เซี่ยไห่ได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะเล็กน้อย “ไม่ขายเหรอ? จะเป็นบ้านตะปูยืนกรานไม่ยอมย้ายออกเหรอ?”
“ไม่ใช่ค่ะ อาลองดูสิ ลานบ้านนี้ของคุณตั้งอยู่ตรงกลางและเป็นพื้นที่สี่เหลี่ยมจตุรัส ด้านหน้ายังมีพื้นที่โล่งกว้าง พื้นที่ก็ใหญ่กว่าผู้ขายคนอื่นเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้ผืนดินบริเวณนี้ยังไร้ค่า ขายแล้วก็ได้เงินไม่มากนัก คุณเองก็ไม่ได้ร้อนเงิน หากคุณรับฟังฉัน เมื่อเถ้าแก่มาแล้วก็เจรจาเงื่อนไขกับพวกเขาได้ ลองดูว่าสามารถเปลี่ยนเงินเป็นหุ้นได้หรือเปล่า แล้วใช้ที่ดินเพื่อลงทุนหุ้นแทน”
“หุ้นเหรอ?” เซี่ยไห่มองดูหลินเซี่ยด้วยท่าทางไม่อยากเชื่อ
ใบหน้าขาวนวลของหลินเซี่ยเต็มไปด้วยความมั่นใจ “ค่ะ ใช้พื้นที่ของคุณลงทุนในหุ้น ถึงได้ผลตอบแทนเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ แต่หลังจากนี้ก็กลายเป็นเสือนอนกิน”
“นี่เป็นความคิดที่ดี” เซี่ยไห่ลังเล “ในเมื่อเป็นความคิดที่ดีขนาดนี้ เถ้าแก่จะยอมเหรอ?”
“หากพวกเขาไม่ยอม งั้นพวกเราก็ไม่ขายค่ะ”
มุมปากของเซี่ยไห่กระตุกเล็กน้อย
ท่าทางเช่นนี้ของหลานสาว ช่างมีมาดของนักธุรกิจหญิงผู้แข็งแกร่งเหลือเกิน
เขาเองก็เพิ่งเคยได้ยินเรื่องการร่วมหุ้นของบริษัทเมื่อไม่นานมานี้และเพิ่งเข้าใจช่องทางนี้
ใช้ผืนดินแห่งนี้เข้าร่วมลงทุนหุ้น เกรงว่าเถ้าแก่นั้นอาจจะไม่ยินยอม
แต่ในเมื่อหลินเซี่ยเสนอแนวความคิดใหม่เช่นนี้ เขาเองก็รู้สึกสนใจมาก
สำเร็จหรือไม่นั้นก็ต้องสัมผัสความรู้สึกตอนเจรจากับเถ้าแก่ในอนาคต
เขาโบกฝ่ามือใหญ่และเอ่ยมอบอำนาจ “ได้ เช่นนั้นเดี๋ยวเธอเป็นผู้ช่วยของฉัน เธอไปพูดคุยกับพวกเราได้”
ใบหน้าของหลินเซี่ยเต็มไปด้วยความมั่นใจ “ไม่มีปัญหาค่ะ”
หากเธอจำไม่ผิด ผืนดินบริเวณนี้เป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกของอู๋เซิ่งหงแห่งเมืองเชินเฉิง
เป็นเพราะความสำเร็จของโครงการนี้ทำให้อสังหาริมทรัพย์เซิ่งรุ่ยตั้งรากฐานได้อย่างมั่นคงภายในเมืองเชินเฉิง
ภายในระยะเวลาสิบปี เขาเปลี่ยนสถานะจากช่างก่ออิฐกลายมาเป็นมหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์มูลค่าหลายร้อยล้าน บริษัทเซิ่งหงกลายเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่แข็งแกร่งมากที่สุดภายในประเทศ
ตอนนี้เขาเป็นเพียงเถ้าแก่ตัวเล็กที่เพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจและมายังเมืองเชินเฉิงเพื่อหาขุมสมบัติ
เธอจำได้ว่าเมื่อชาติก่อนนั้นเคยอ่านประวัติของเขา แถมยังเคยให้สัมภาษณ์ทางรายการโทรทัศน์ด้วย เมื่อปีนั้นที่เขาได้ทำการพัฒนาเขตหมู่บ้านถวนเจี๋ย เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากเป็นอย่างมาก
แรกเริ่มนั้นมีเงินทุนไม่เพียงพอ เพียงแค่การซื้อที่ดินก็ใช้เงินที่มีอยู่จนเกือบหมด ตอนนั้นเกือบยอมแพ้และกลับบ้านเกิด
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เซี่ยเซี่ยเริ่มคิดการใหญ่แล้ว ได้ออกมาท่องโลกกว้างแล้วพบโอกาสมันดีแบบนี้นี่เอง
ไหหม่า(海馬)