เกิดใหม่เป็นขุนนางสารชั่ว แต่ดันเป็นที่หมายปองของเหล่าสตรีสูงศักดิ์ซะงั้น? – ตอนที่ 18 ช่วงเวลาหลังเลิกเรียนกับเชีย

เกิดใหม่เป็นขุนนางสารชั่ว แต่ดันเป็นที่หมายปองของเหล่าสตรีสูงศักดิ์ซะงั้น?

 

เมื่อคาบเรียนสุดท้ายจบลง ผมก็ได้ออกจากโรงเรียนพร้อมกับเชียเพื่อเดินทางกลับบ้าน

 

“ฮื้ม~ ฮืม ฮื่มม~”

 

เชียฮัมเพลงพร้อมกับกระโดดก้าวเท้าเหยงๆน้อยๆ เป็นภาพที่ผมไม่ค่อยคุ้นตาสักเท่าไหร่

 

“….เชีย มีอะไรงั้นเหรอ? ดูเธอจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษเลยนะ”

 

ขณะที่เดินข้างเธอผมก็เอ่ยถามออกไป

 

“อ๊ะ รู้ได้เลยเหรอคะ!?”

 

“อื้ม….”

 

นักเรียนรอบตัวมองเราสองคนด้วยสายตาอบอุ่นและพูดกันเบาๆว่า ‘คงเจอเรื่องอะไรดีๆมาสิน้าเด็กคนนั้น’

 

เมื่อผมรู้สึกตัวว่ากำลังถูกมองด้วยสายตาแบบไหน ผมก็รู้สึกประหลาดใจมากจริงๆ

 

บางทีที่เชียฮัมเพลงไปแบบนั้นอาจจะทำโดยที่ไม่รู้ตัวเลยด้วยซํ้า

 

“แล้ว..มีเรื่องอะไรดีๆเกิดขึ้นงั้นเหรอ?”

 

“ฉันได้รับจดหมาย ‘ขอบคุณ’ สำหรับท่านเบเรต์ด้วยล่ะค่ะ!”

 

“จดหมายขอบคุณ?”

 

“ค่ะ!! ”

 

เธอยื่นหน้าเล็กๆของเธอเข้ามาใกล้ มองหน้าผมด้วยดวงตากลมโตสีฟ้าคราม และพูดด้วยความตื่นเต้นพร้อมกับหัวเราะคิกคักไปด้วย

 

“อะ เอ่อ…แต่ฉันก็เห็นแค่จ่าหน้าซองนะคะ มันเขียนว่า ‘ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงอีกครั้ง สำหรับคำปรึกษาของคุณ’ แล้วเขาก็บอกว่า ‘ช่วยฝากเอาไปให้ทีนะครับ’ แบบนี้น่ะค่ะ! ”

 

“อะ อ๋าา~”

 

“ฉันรู้สึกภูมิใจมากเลยล่ะค่ะ เอะเฮะเฮะ~”

 

“ง..งั้นเหรอ….”

 

เมื่อผมเห็นเธอทำหน้าประหลาดๆเพื่อที่จะหุบยิ้มของตัวเอง ผมกลับรู้สึกว่ามันน่ากลัวมากกว่าอีกนะ ขอร้องล่ะถ้าจะยิ้มก็ช่วยยิ้มแบบปกติทีเถอะ!

 

มีคนเดียวที่ผมนึกออกที่จะฝากจดหมายแบบนี้มาให้

 

เชียพูดเหมือนว่าเธอรู้จักเขา แต่ผมกลับไม่รู้ชื่อของเขานี่สิ

 

ถึงแม้ว่าขุนนางระดับเอิร์ลจะทรงอำนาจมาก แต่สำหรับตระกูลของเขามันยิ่งกว่านั้นอีกตามที่ลูน่าบอก ไม่น่าแปลกที่เชียจะรู้จักเขา

 

ขนาดสาวใช้ก็ยังรู้เรื่องนี้เลย ผมได้ตระหนักถึงคำพูดของลูน่าเมื่อวานอีกครั้ง

 

เพื่อที่จะล้วงข้อมูลจากเชียทีละนิด ผมแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องและเอ่ยถามเชียไป

 

“แล้วไปได้จดหมายนั่นมาจากใครเหรอ?”

 

“จากท่านอลันค่ะ”

 

“อ๋าานั่นคือเขางั้นเหรอ! คนที่มีผมสีแดงๆปะ?”

 

“ค่ะ! ”

 

“แล้วก็มีดวงตาม่วงด้วยปะ! ”

 

“ค่ะ!! เขายังเป็นน้องชายของท่านเอเลน่าด้วยนะคะ! ”

 

“อื้อออมอมออมมอึม!?”     //TN: WTF?

 

เมื่อผมได้รับข้อมูลจากเชียทีละเล็กละน้อย ชิ้นส่วนต่างๆก็เริ่มปะติดปะต่อกัน หัวใจของผมเริ่มเต้นโครมคราม ขาของผมราวกับถูกพันธนาการจนก้าวไม่ออก

 

คำพูดสุดท้ายของเชียทำให้ผมเหงื่อแตกพลั่ก

 

(อะ..เอาจริงดิ!? ก็ว่าดูคล้ายๆเอเลน่า ที่แท้ก็เป็นน้องชายของเธอเองหรอกเรอะ……)

 

หรือก็คือ ตอนพักกลางวันฟังเรื่องปัญหาของน้องชายของเอเลน่า และหลังจากนั้นผมก็เข้าไปให้คำปรึกษาเขาทันที

 

ถึงจะบังเอิญแค่ไหนแต่นี่มันก็เกินไปมั้ง

 

“หืม? ท..ทำไมท่านเบเรต์ถึงดูประหลาดใจแบบนั้นล่ะคะ? หรือว่าจะไม่รู้เหรอคะ?”

 

“ป-เปล่านะ แน่นอนว่ารู้อยู่แล้ว…”

 

“น..นั่นสินะคะ! เรื่องแค่นี้ท่านเบเรต์ก็ต้องรู้อยู่แล้วสินะคะ! ขอโทษที่พูดอะไรแปลกๆค่ะ”

 

“อะ อือ…”

 

นี่คือผลจากการโกหกสินะ เหมือนโดนเชียพูดประชดประชันแบบใสซื่อเลยแหะ

 

พอโดนคนที่ปกติจะไม่พูดจาประชดประชันแบบเชีย พูดใส่เข้าแบบนี้ก็ทำเอาผมเจ็บจี๊ดเลยล่ะ

 

หากสถานการณ์แบบนี้ยังดำเนินต่อไปหัวใจดวงน้อยๆของผมได้แหลกสลายเป็นเม็ดทรายแน่

 

เพื่อป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นผมจึงรีบเปลี่ยนเรื่องคุย

 

“จ จะว่าไปฉันวางแผนจะไปเที่ยวเล่นแถวๆนี้น่ะ เชียมีที่ไหนแนะนำบ้างมั้ย? ฉันไม่ค่อยรู้จักพวกที่เที่ยวแถวนี้สักเท่าไหร่เลย..”

 

“ที่เที่ยวเล่นเหรอคะ? ก็มีอยู่หลายที่เลยนะคะ ว่าแต่จะไปกันกี่คนเหรอคะ”

 

“ไปกันสองคน กับเด็กผู้หญิงที่ชื่อลูน่าน่ะ”‘

 

“เอ๊ะ……”

 

ทันทีที่ผมเอ่ยชื่อนั้น เชียก็หยุดเดินและมองมาที่ผมด้วยสีหน้าไม่สบายใจอย่างชัดเจน

 

“อะ..ท ท่านลูน่าน่ะเหรอคะ? ที่เป็นบุตรสาวคนที่สามของตระกูลบารอนและเป็นเดียวในโรงเรียนที่เรียนในห้องสมุด…”

 

“ใช่ๆ”

 

(แค่บอกชื่อไปเฉยๆก็รู้ได้ในทันทีเลยเหรอ…สมแล้วล่ะนะ)

 

ในขณะที่ผมกำลังรู้สึกประทับใจ เชียก็ก้มหน้ามองตํ่าและผมก็ได้ยินสิ่งที่ไม่คาดคิด

 

“น่าเสียดายนะคะ แต่ว่าท่านลูน่าคงไม่ยอมมาเที่ยวด้วยหรอกค่ะ”

 

“เอ๊ะ? ทำไมล่ะ?”

 

“ถ้าให้อธิบายสั้นๆ ก็เพราะท่านลูน่าชอบอ่านหนังสือมากกว่าที่จะออกมาเที่ยวเล่นน่ะค่ะ”

 

“อะ ก็นะ..นั่นก็เป็นไปได้…”

 

ถ้าเป็นคนปกติมันก็คงจะดูไม่สมเหตุสมผล แต่เพราะเป็นลูน่ามันจึงดูสมเหตุสมผลขึ้นมาทันที

 

“แต่ว่า ถ้าฉันเป็นคนชวนเธอก็คงจะไม่ปฏิเสธหรอกมั้ง? ใช่มั้ยนะ…”

 

“ความจริงคือ เธอปฏิเสธคำเชิญของทุกคนเลยล่ะค่ะ เธอมักจะพูดว่า ‘อ่านหนังสือมันสนุกกว่า’ น่ะค่ะ”

 

“จริงเหรอ!?”

 

“ค่ะ เธอมีแนวโน้มจะพูดว่า ‘ฉันไม่อยากเจียดเวลาว่างไปเล่นกับคุณหรอกนะ มันเสียเวลาเปล่า’ ยิ่งถ้าเป็นผู้ชายเธอจะพูดด้วยสีหน้าเย็นชาเป็นพิเศษเลยล่ะค่ะ…. ฉันคิดว่าเธอน่าจะรำคาญเพราะได้รับคำเชิญมาไม่หวาดไม่ไหว ”

 

เชียขมวดคิ้วมุ่นสีหน้าดูลำบากใจ

 

“แล้วท่านลูน่ายังเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับเวลาว่างของเธอเป็นอันดับแรกเสมอ ถึงจะเป็นอย่างนั้น แต่ท่านเบเรต์เป็นคนเอ่ยปากชวนเธอเองใช่มั้ยคะ? ใช่ใช่มั้ยคะ!! ”

 

ไม่รู้ว่าทำไมเชียถึงเน้นคำว่า ผมเป็นคนชวนเธอเองจริงๆใช่มั้ย ราวกับว่าเธอจะขอคำยืนยันว่า ‘ลูน่าไม่ได้เป็นคนเอ่ยชวนผม’  

 

เชียเร่งเร้าให้ผมรีบตอบ

 

“อะ..อือ เพราะฉันติดหนี้บุญคุณเธออยู่น่ะ”

 

“ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็เถอะ…เอ่อคือ…..”

 

อย่างนี้นี่เอง คงเพราะกลัวผมจะเสียความรู้สึกสินะ

 

เอาล่ะเชีย ผมเข้าใจสิ่งที่เธอจะสื่อแล้วล่ะ     //TN: ไม่ได้เข้าใจอะไรเล๊ยยยยย

 

“เอาล่ะ! เชียเรามาลืมเรื่องที่พูดไปเมื่อกี้กันเถอะเน๊อะ ตกลงไหม?”

 

“อะ ค่ะ!!? ”

 

“ถ้างั้นก็กลับบ้านกันเถอะ! ”

 

เป็นเด็กที่อ่อนโยนอะไรแบบนี้เชียน้อยของเรา

 

ถึงผมจะโดนปฏิเสธก็ไม่เป็นไรหรอกนะเชีย ฮึกก~ รู้สึกเหมือนอกหักชอบกลแหะ แต่ก็ช่างเถอะชีวิตต้องเดินหน้าต่อไปนี่นะ…  

 

 

******

 

 

—หลังจากนั้น ทั้งเบเรต์และเชียก็อาจจะต้องตะลึงงันทั้งคู่

 

เพราะเขาก็ดันได้รับคำตอบจากลูน่าว่า ‘ตกลง’ เสียอย่างนั้น

 

และหลังจากนั้นก็ทำให้อารมณ์ของเชียดูหม่นหมองลง ทว่านั่นเป็นเรื่องราวในอนาคตอันใกล้นี้….

 

 

เกิดใหม่เป็นขุนนางสารชั่ว แต่ดันเป็นที่หมายปองของเหล่าสตรีสูงศักดิ์ซะงั้น?

เกิดใหม่เป็นขุนนางสารชั่ว แต่ดันเป็นที่หมายปองของเหล่าสตรีสูงศักดิ์ซะงั้น?

Status: Ongoing
ชายผู้เกิดใหม่ในร่างบุตรชายเพียงคนเดียวของมาควิส ที่ทั้งก้าวร้าว และหยิ่งผยอง ตัวผมก็แค่อยากจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขไปวันๆ แต่เหล่าสตรีสูงศักดิ์กลับจ้องจะเล่นผมเสียอย่างนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท