ทุกคนในที่เกิดเหตุสูดหายใจเข้าลึกๆ ต่างก็คาดไม่ถึงว่าราชันต์รถแห่งหนานยู่ในตำนานจะปรากฏตัวอยู่ในคลับ ถ้าหากข่าวนี้แพร่ออกไป ก็เพียงพอที่จะทำให้เกิดพายุคลื่นได้
สีหน้าของคางเหวินซิงเคร่งขรึมขึ้นมา สำหรับชื่อเสียงของราชันต์รถแห่งหนานยู่ เขาก็เคยได้ยินมาบ้าง อีกฝ่ายอยู่ที่หนานยู่เกือบจะเป็นเทพเจ้าที่มีอยู่ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เคยพบกับคู่ต่อสู้มาก่อน
“อาจารย์ คุณมาแล้วทำไมไม่บอกกล่าวกับผมสักคำ”อู่จื้อหย่งทักทายด้วยใบหน้าทะเล้น
“ฉันเห็นว่าเมืองฮ่านเปิดราซิ่งคลับใหม่แห่งหนึ่ง ตั้งใจมาเล่นสักหน่อย”ราชันต์รถแห่งหนานยู่ไม่ได้มองอู่จื้อหย่งด้วยซ้ำ และน้ำเสียงเต็มไปด้วยความรังเกียจ
ถ้าหากอู่จื้อหย่งเอาชนะคางเหวินซิงได้ บางทียังสามารถที่จะเชิดหน้าชูตาให้กับเขาได้ แต่ในเวลานี้ ลูกศิษย์ของเขากลับพ่ายแพ้ให้กับคางเหวินซิง สิ่งนี้ทำให้เขาไม่รู้จะเอาชื่อเสียงไปไว้ที่ไหน?
คางเหวินซิงก็พอฟังความหมายของราชันต์รถแห่งหนานยู่ออก นี่เป็นจังหวะมาท้าประลองอย่างชัดเจน
“ฉันได้ยินมาว่าราชันต์รถแห่งหนานยู่มาถึงที่เมืองฮ่านอยากจะตามหาคู่ต่อสู้ เทวดาแห่งรถหลายคนของเมืองฮ่านพ่ายแพ้ให้กับเขา”
“นั่นนะสิ คลับมากมายก็ให้ราชันต์รถแห่งหนานยู่มาโฆษณา”
“ดูเหมือนว่าการท้าประลองครั้งนี้จะคงที่”
“……”
ทุกคนต่างหวาดกลัวชื่อเสียงของราชันต์รถแห่งหนานยู่ วิพากษ์วิจารณ์เสียงเบากันขึ้นมา แม้ว่าทักษะการขับรถของคางเหวินซิงจะดีมาก แต่ในการรับรู้ของพวกเขา ก็ยังไม่ดีเท่ากับราชันต์รถแห่งหนานยู่
เมื่ออู่จื้อหย่งได้ยินแบบนี้ ในใจก็ดีใจมาก เขารู้ว่าอาจารย์พยายามกอบกู้หน้าให้กับเขา
ราชันต์รถแห่งหนานยู่ชูคอ กล่าววาจาเย่อหยิ่งด้วยท่าทีที่ใจชื้นมากว่า: “ทักษะการขับรถของนายไม่เลวนะ พวกเรามาแข่งกันหน่อยมั้ย ถ้าหากแข่งชนะ ฉันสามารถที่จะโฆษณาให้ราซิ่งคลับของนายได้”
เขาเชื่อว่ายื่นความไยดีออกไปแบบนี้ คางเหวินซิงคงจะตกลงอย่างแน่นอน ต้องรู้ว่าอยู่ในเมืองฮ่านไม่รู้คนตั้งเท่าไหร่ที่อยากจะเชิญให้เขาไปโฆษณา เขาเชื่อว่าครั้งนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้น
“ขอโทษด้วย ผมหาพรีเซนเตอร์คนใหม่ไว้เรียบร้อยแล้ว”แม้ว่านี่จะเป็นเรื่องที่ดี แต่คางเหวินซิงเก็บตำแหน่งนี้ไว้ให้หลี่โม่ ก็ย่อมไม่สามารถหลีกทางให้ราชันต์รถแห่งหนานยู่ได้เป็นธรรมดา
ในสายตาของเขา อาจารย์ต่างหากที่เป็นภาพลักษณ์ที่ใหญ่ที่สุดของคลับของเขา
หลี่โม่ที่กำลังขับรถอยู่ก็จาม: “ไม่รู้ว่าใครนินทาฉันอยู่ลับหลัง”
เขารู้ที่ไหนกันว่า คางเหวินซิงโอ้อวดเขาไปถึงไปบนฟ้าแล้ว
ราชันต์รถแห่งหนานยู่มองดูคางเหวินซิงด้วยความสงสัยเล็กน้อย เขาราชันต์รถแห่งหนานยู่อย่างสง่าผ่าเผย ไม่นึกเลยว่าจะถูกคนปฏิเสธโฆษณา เรื่องราวแบบนี้ เขาเพิ่งเจอเป็นครั้งแรก
ทุกคนก็อึ้งเหมือนกัน เชิญราชันต์รถแห่งหนานยู่มาโฆษณา สามารถที่จะเพิ่มชื่อเสียงให้กับราซิ่งคลับได้ เปลี่ยนเป็นคนอื่น คงจะตกลงอย่างแน่นอน
“เฮ้ย นายไม่ได้ล้อเล่นใช่มั้ย นี่เป็นโอกาสดีที่หาแทบไม่ได้”เพื่อนทายามหาเศรษฐีของคางเหวินซิงอดไม่ได้ที่จะโน้มน้าว
คางเหวินซิงกลับไม่ได้ปิดบัง และพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า: “โฆษณาในครั้งนี้ของราซิ่งคลับ เป็นของอาจารย์ฉัน”
“ต่อให้อาจารย์ของนายจะมีชื่อเสียงโด่งดังมากแค่ไหน ก็สู้ความดังของอาจารย์ฉันไม่ได้”อู่จื้อหย่งไม่ลืมที่จะประจบประแจงอาจารย์
ราชันต์รถแห่งหนานยู่ได้ยินแล้วก็สบายใจมาก และพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ: “โอกาสดีขนาดนี้ ไม่มีครั้งที่สองแล้ว หวังว่านายจะไม่เสียใจภายหลัง”
เขาจงใจให้เวลาที่เหลืออยู่กับคางเหวินซิง ให้อีกฝ่ายรู้ถึงความล้ำค่าของเขา
คางเหวินซิงไม่ได้พูดอะไร เขาให้อาจารย์โฆษณาโดยปริยายแล้ว ประกอบกับว่าราชันต์รถแห่งหนานยู่ก็มาท้าประลอง เขาก็ยิ่งไม่สามารถที่จะตกลงได้
ราชันต์รถแห่งหนานยู่หรี่ตาลง พลาดโอกาสดีขนาดนี้ไป สิ่งนี้ทำให้เขาประหลาดใจอย่างมาก
“อาจารย์ ไม่งั้นคุณแสดงทักษะการขับรถที่น่าตื่นตาตื่นใจหน่อย แบบนี้เขาก็จะคุกเข่าลงขอร้องให้คุณโฆษณาให้”อู่จื้อหย่งเริ่มพูดให้เรื่องขยายใหญ่โตลุกลามออกไป
ราชันต์รถแห่งหนานยู่ยิ้มเล็กน้อย: “นายเป็นเจ้านายของที่นี่ เมื่อกี้นี้ฉันเห็นทักษะการขับรถของนายไม่เลว พวกเราแข่งกันหน่อยดีกว่า”
คางเหวินซิงรู้ว่ามีช่องว่างขนาดใหญ่มากระหว่างตัวเองกับราชันต์รถแห่งหนานยู่ แต่เขายังจะเผชิญหน้ากับช่องว่างของอีกฝ่ายว่าใหญ่มากแค่ไหน
หลังจากที่อู่จื้อหย่งเห็นคางเหวินซิงรับปาก ก็ยิ้มในทันที อาจารย์ของเขาเป็นราชันต์รถแห่งหนานยู่ และชื่อนี้ก็เป็นที่รู้จักกันดีในเมืองฮ่าน
ไม่นึกเลยว่าคางเหวินซิงจะยอมรับคำท้า เห็นได้ชัดว่าต้องแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย
“ฉันชื่นชมความกล้าหาญของนายมาก” ราชันต์รถแห่งหนานยู่ไม่พอใจกับผลลัพธ์แบบนี้มาก เขาหวังว่าอีกฝ่ายจะยอมรับว่าสู้เขาไม่ได้เขา
ราชันต์รถแห่งหนานยู่และคางเหวินซิงมาถึงที่สนามพร้อมกัน ตามกฎหนึ่งรอบตัดสินชนะหรือแพ้
แม้ว่าคางเหวินซิงอยู่ในเมืองฮ่านจะมีชื่อเสียงเล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่ต่างก็สนับสนุนราชันต์รถแห่งหนานยู่ แม้ว่าราชันต์รถแห่งหนานยู่จะชนะแล้ว แต่ไม่ง่ายเลยที่จะชนะ
เขาเหมือนราวกับค้นพบต้นกล้าที่ดี ตัดสินใจจะรับคางเหวินซิงเป็นลูกศิษย์ของตัวเอง
ประจวบเหมาะกับในเวลานี้ หลี่โม่ก็ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของนอกคลับขวางไว้
หลังจากที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหนุ่มของคลับมองดูเสื้อผ้าของหลี่โม่ตั้งแต่หัวจรดเท้า จากนั้นก็เผยให้เห็นสีหน้าท่าทางที่ดูถูกเหยียดหยาม: “คนจนมาจากไหน ไสหัวออกไปซะ แกสามารถเล่นที่นี่ได้เหรอ?”
“ทำไมฉันจะเล่นที่นี่ไม่ได้?”หลี่โม่ไม่คิดว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคลับของลูกศิษย์จะดูถูกคนอื่น และอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหนุ่มคนนั้นเยาะเย้ย: “วันนี้เป็นวันเปิดงานคลับ ตั๋วถูกขายหมดไปนานแล้ว สถานที่แบบนี้ ล้วนเป็นคนที่มีฐานะมีตำแหน่งถึงจะสามารถมาได้ แกก็ไม่ดูว่าตัวเองเป็นใคร”
ในสายตาของเขา หลี่โม่ก็ไม่ได้แตกต่างจากขอทาน ตรงกันข้ามหลังจากที่เข้าไป จะส่งผลต่อภาพลักษณ์คลับของพวกเขาได้
ในเวลานี้ หัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ จึงพูดอย่างราบเรียบว่า: “นี่เกิดอะไรขึ้น?”
“ไอ้ยากจนคนนี้อยากจะเข้าไป เขามีสิทธิ์มั้ย?”เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยิ้มอย่าดูถูก และเริ่มที่จะร้องเรียนขึ้นมา
หัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมองดูรถสปอร์ตที่หลี่โม่ขับ แม้ว่ารถสปอร์ตนั้นจะมีรอยเปื้อนโคลนเล็กน้อย และดูเหมือนว่ารถจะธรรมดามาก
เขาเคยต้อนรับคนคนใหญ่คนโตมามากมาย และก็เคยเห็นโลกกว้างมามากมาย ดังนั้นจึงมีสายตาการมองเล็กน้อย เขามองแวบเดียวก็มองว่ารถสปอร์ตคันนี้ราคาไม่ธรรมดา
เขาก็เปลี่ยนความคิด คนรวยหลายคนแกล้งทำเป็นคนธรรมดามาเข้าร่วมการแข่งขัน สถานการณ์แบบนี้ เรียกได้ว่าพบเห็นได้บ่อยมาก ไม่แน่หลี่โม่ก็อาจจะเป็นคนรวยแบบนั้น
“คุณผู้ชายท่านนี้ ข้างในมีที่ว่างอยู่พอดี คุณสามารถเข้าไปได้ครับ” หัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่กลัวเรื่องที่แน่นอน ก็กลัวเหตุไม่คาดฝัน ถ้าทำให้ทายาทมหาเศรษฐีขุ่นเคืองใจจริงๆ หน้าที่การงานนี้ก็รักษาไว้ไม่ได้
“หัวหน้า ต่อให้ว่างอยู่ ก็ไม่สามารถปล่อยให้เขาเข้าไปได้นะ”เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหนุ่มดูถูกหลี่โม่มาก และไม่ได้กดปุ่มของไม้กั้นรถ
หลี่โม่ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขากับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนี้ไม่มีความคับแค้นกัน อีกฝ่ายกับมุ่งเป้ามาที่เขา แน่นอนว่าบนโลกใบนี้ สิ่งที่ไม่ขาดมากที่สุดก็คือคนที่ดูถูกคนอื่น
“ยังไม่ไสหัวไปอีก ฉันจะเรียกคนแล้ว” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหนุ่มคนนั้นหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมาอย่างหงุดหงิด และสาเหตุหลักมาจากที่เขาเห็นรถคันข้างหลังของหลี่โม่
รถคันนั้นเป็นรถLamborghini หลี่โม่กำลังขวางทางอยู่ที่นี่ ถ้าเขาต้อนรับไม่ทั่วถึง ถึงเวลานั้นเจ้าของรถLamborghiniต่อว่ามา เขายังต้องมารับผิดชอบ
