ตอนที่ 338 จะชนะคนต้องชนะใจคนก่อน (2)
“นายเป็นประธานแบบนี้เนี่ยนะ?” ฟางผิงแค่นเสียง “ช่างเถอะ ฉันคิดว่าประธานสมาคมผู้ฝึกยุทธ์อย่างนายจะเห็นแก่ส่วนรวมมากกว่านี้ ตอนนี้ดูแล้วคงไม่เท่าไหร่! แค่เรื่องเล็กๆ ยังไม่มีอำนาจตัดสินใจ ตำแหน่งของนายมีไว้แค่โชว์เท่านั้น? พลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งของคนๆ เดียว? นายคิดจริงๆ เหรอว่านายแข็งแกร่งกว่าฉัน? นอกจากพลังต่อสู้ นายยังมีอะไรอีก? แลกเปลี่ยนเคล็ดวิชาต่อสู้ แลกเปลี่ยนอาจารย์ มหาวิทยาลัยชื่อดังทางใต้และทางเหนือแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน หรือมีแค่เซี่ยงไฮ้ของฉันที่ได้ผลประโยชน์?”
“ฉันถึงกระทั่งแนะนำให้แลกเปลี่ยนปรมาจารย์ด้วยซ้ำ ไม่ใช่ปักหลักอยู่แค่ที่ใดที่หนึ่ง นายมองเซี่ยงไฮ้เป็นรังโจร ฉันมองปักกิ่งเป็นรังโจร ทางนายเกิดเรื่องมีคนตาย ฉันเฉยเมยไม่สนใจ ดีใจที่คนอื่นเป็นทุกข์ นี่คือท่าทีของผู้แข็งแกร่งอย่างนั้นเหรอ? พวกเรากำลังทำสงครามกับถ้ำใต้ดิน ทำสงครามกับผู้ที่แข็งแกร่งกว่ามนุษย์หลายเท่า! สิ่งที่น่าอดสูก็คือมนุษยชาติทำร้ายกันเอง ตอนนี้นึกไม่ถึงว่านายจะพูดว่านายตัดสินใจเองไม่ได้ หลี่หานซง ถ้าฉันเป็นนายคงลาออกไปแล้ว เรื่องนี้จางอวี่ทำได้ดีกว่านายซะอีก!”
หลี่หานซงใบหน้าขึ้นสีอยู่บ้าง หานซวี่ที่อยู่ด้านข้างเอ่ยแทรกว่า “ฟางผิง สถานการณ์ของเซี่ยงไฮ้และปักกิ่งไม่เหมือนกัน…”
“ความสำเร็จขึ้นอยู่ที่คน! พูดแค่ว่ายาก กลายเป็นปรมาจารย์ยากหรือเปล่าล่ะ? ถ้ากลัวแล้วจะฝึกวิชาไปเพื่ออะไร? ทีแรกมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ผลิตยาบำรุงและอาวุธกันภายในด้วยสายพานผลิตขนาดเล็กๆ เป็นเรื่องยากหรือเปล่าล่ะ? ยากก็ต้องเอาชนะ! อธิการของพวกเรารบตายในถ้ำใต้ดิน อาจารย์จำนวนมากเสียชีวิตในสงคราม เซี่ยงไฮ้ตกทุกข์ได้ยากหรือเปล่าล่ะ? ยากลำบากอย่างมาก!”
“อาจารย์ของพวกเรายังไม่พอใช้ด้วยซ้ำ ลูกศิษย์ต้องเป็นฝ่ายออกมายืนให้อาจารย์คนเก่าเลือกเป็นศิษย์ใหม่! ฉันเห็นอะไรมามายมายที่เซี่ยงไฮ้ แต่กลับไม่เห็นจากปักกิ่ง เห็นแค่ความดื้อรั้น ผลักภาระ ไม่มีความรับผิดชอบและขาดแคลนแรงกระตุ้น! ช่างเถอะ คิดว่าวันนี้ฉันพูดไร้สาระไปละกัน หลังจากนี้มหาวิทยาลัยปักกิ่งจะไม่ใช่เป้าหมายที่ฉันไล่ตามอีกแล้ว…”
สีหน้าของหลี่หานซงค่อยๆ เปลี่ยนไป ผ่านไปสักพักก็เอ่ยว่า “การแลกเปลี่ยนอาจารย์และเคล็ดวิชา ฉันสามารถช่วงชิงได้!”
“แพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์ล่ะ?”
“ประโยชน์ของแพลตฟอร์มไม่เยอะเท่าไหร่…”
“ผิดแล้ว เยอะมากต่างหาก หลังจากนี้ฉันคิดจะหลอมรวมเข้าด้วยกัน เชื่อมต่อภารกิจ รวมถึงใช้ระบบคะแนนเดียวกัน ให้โอกาสกับมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ทั่วไป! พวกเขาไม่มีภารกิจให้ทำ ได้รับคะแนนค่อนข้างยาก มูลค่าคะแนนก็ไม่สูงมาก ภารกิจเดียวกัน พวกเราได้สามสิบคะแนนสามารถแลกยาบำรุงธรรมดาสิบเม็ด พวกเขาแลกได้แค่หกเม็ดเท่านั้น รอจนสถานการณ์เลวร้าย จะไม่ใช่เรื่องของมหาวิทยาลัยใดมหาวิทยาลัยหนึ่งอีกแล้ว ตอนนี้พวกเราต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเพื่ออะไรกัน? เพื่อทรัพยากรเล็กน้อยแค่นี้! ได้เพิ่มมาสี่ห้าหมื่นล้านแล้วจะยังไงอีก? รอทุกคนมีโอกาสก้าวหน้าแล้ว พวกเราก็สามารถช่วงชิงเองได้!”
หลิงอีอีขมวดคิ้วว่า “ง่ายขนาดนั้นที่ไหนกัน ยิ่งไปกว่านั้นทรัพยากรยังมีอย่างจำกัด…”
“ฉันบอกแล้วว่าพวกเราต้องช่วงชิง!” ฟางผิงกล่าวเสริม “แลกเปลี่ยนอาจารย์ แลกเปลี่ยนเคล็ดวิชาต่อสู้ ฝีมือของพวกเราก็จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แข็งแกร่งนั่นถึงจะเป็นรากฐาน พวกเราก็จะมีอำนาจไปช่วงชิงทรัพยากรที่มากกว่าเดิม! รอแลกเปลี่ยนภารกิจ ใช้ระบบคะแนนเดียวกัน ช่วงแรกอาจต้องฝืนยืดหยัด ชักหน้าไม่ถึงหลัง แต่รอทุกคนมีฝีมือก้าวหน้าแล้ว สถานการณ์แบบนี้ก็จะได้รับการเปลี่ยนแปลง ในอนาคตไม่กี่ปีข้างหน้าพวกเราจะมีโอกาสลงถ้ำใต้ดินมากขึ้น มนุษย์จะมีมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน ไม่ว่าถ้ำใต้ดินหนานเจียงจะอุบัติ หรือถ้ำใต้ดินเทียนหนานเปิดขึ้นอีกครั้ง รวมถึงถ้ำใต้ดินปรากฏตัวขึ้นใหม่ก็จะเป็นโอกาสของพวกเราทั้งหมด”
พูดมาถึงตรงนี้ ฟางผิงก็ครุ่นคิดเล็กน้อย “ถ้ำใต้ดินหนานเจียงกำลังจะอุบัติขึ้น ทางมหาวิทยาลัยปักกิ่งวางแผนยังไงบ้าง?”
หลี่หานซงส่ายหัวว่า “มหาวิทยาลัยปักกิ่งยังมีถ้ำใต้ดินปักกิ่งให้คุ้มครอง…”
“คุ้มครองเมืองแห่งแรกของมนุษย์ในถ้ำใต้ดินเพื่อดูความครึกครื้นหรือไง? หลี่หานซง ฉันหมดคำพูดกับตำแน่งประธานของนายแล้วจริงๆ โอกาสแบบนี้ ทำไมต้องทิ้งไปด้วย? นึกไม่ถึงว่านายจะไม่เคยคิดไปช่วงชิง? ผู้แข็งแกร่งต้องแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ! ไม่มีโอกาส ไม่มีโชค จะแข็งแกร่งขึ้นได้ยังไง? คนอื่นไม่พูดถึง ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามขั้นสี่อย่างพวกนาย อยู่ที่ปักกิ่งมีโอกาสหรือไง? รวมทีมขึ้นมา จำนวนคนไม่ต้องเยอะมาก สี่สิบห้าสิบคน รวมกับอาจารย์อีกบางส่วน ไปช่วงชิงโอกาสที่หนานเจียง นี่ถึงเป็นสิ่งที่พวกนายควรทำ!”
“ฉันก็บอกแล้ว!”
ครั้งนี้หลิงอีอีกล่าวสนับสนุน “พวกเราควรจะไปกัน ยอดฝีมือปักกิ่งมีเยอะขนาดนี้ ทั้งถูกกวาดล้างไปปนับไม่ถ้วนแล้ว พวกเราแทบไม่มีโอกาส ฉันบอกว่าให้ไป ให้ตายยังไงพวกเขาก็ไม่เห็นด้วย! ผู้ฝึกยุทธ์ควรจะเผชิญหน้ากับความลำบาก ฟางผิง ครั้งนี้ฉันเห็นด้วยกับนาย!”
ฟางผิงเผยรอยยิ้มอ่อนโยนให้เธอ สหายอกเล็กช่วงเวลาสำคัญยังพอเชื่อถือได้จริงๆ
หลี่หานซงตกสู่ความลำบากใจอีกครั้ง
ฟางผิงเอ่ยอย่างไม่พอใจ “ลังเลสองจิตสองใจ นี่ก็คือนายเหรอหลี่หานซง? ถ้าเป็นแบบนี้ ภายในอีกสามปี นายต้องถูกหวังจินหยางและเหยาเฉิงจวินทิ้งห่างไปอยู่ข้างหลังแน่!”
หลี่หานซงถอนหายใจเบาๆ “นายไม่จำเป็นต้องกระตุ้นฉัน…”
“น่าขำ!”
ฟางผิงแค่นยิ้ม “นายคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งมากใช่หรือเปล่า? หลี่หานซง ครั้งนี้พวกเราพนันกันหน่อยเป็นไง ถ้านายตัวต่อตัวกับฉัน ไม่ใช่คู่ต่อสู้ฉันหรอก ทั้งนายก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหวังจินหยาง รวมถึงเหยาเฉิงจวินด้วยเหมือนกัน! ในกลุ่มคนพวกนี้ กะโหลกของนายกลายพันธุ์ อันที่จริงมีความได้เปรียบมากที่สุด แต่ฝีมือกลับอ่อนด้อยที่สุด!”
หลี่หานซงสีหน้าดูไม่ได้อยู่บ้าง เอ่ยเสียงเบาว่า “รุ่นน้องฟางมั่นใจเกินไปแล้ว ทั้งประเมินฉันต่ำไปด้วยเหมือนกัน!”
“งั้นก็พนันกันสักหน่อย ครั้งนี้ถ้ามหาวิทยาลัยปักกิ่งแพ้ นายก็รวบรวมกำลังคน เข้าร่วมสงครามถ้ำใต้ดินหนานเจียง! แน่นอน นายจะเข้าใจว่าฉันกำลังกระตุ้นนายอยู่ก็ได้ แต่เสียตำแหน่งมหาวิทยาลัยชื่อดังอันดับหนึ่งแล้ว พวกนายยังไม่พยายามอีก จะรอนั่งกินนอนกิน?”
“แล้วถ้าฉันชนะล่ะ?”
“ชนะ?” ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ชนะก็ง่ายๆ หากมหาวิทยาลัยปักกิ่งชนะ ฉันจะตัดสินใจเอง ทุกปีมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้จะจัดสรรทรัพยากรให้มหาวิทยาลัยปักกิ่งหนึ่งพันล้านจวบจนถึงวันที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้กลับมายืนขึ้นได้อีกครั้ง!”
ทั้งสามคนสีหน้าเปลี่ยนทันที
หนึ่งพันล้านไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เลย
ทั้งยังไม่ใช่ปีเดียว แต่เป็นทุกปี ส่วนฟางผิงกลับมายืนขึ้นได้อีกครั้ง หากหลี่หานซงมั่นใจในตัวเองหน่อย ก็หวังอย่าให้เขากลับมายืนได้อีกตลอดไป!
ฟางผิงพูดออกมาอย่างเด็ดเดี่ยว คิดว่าตัวเองเป็นอธิการบดีของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้หรือไง?
“ทำไม? ไม่เชื่อ? ฉันพูดคำไหนคำนั้น มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ไม่ออกเงินก้อนนี้ให้ ต่อให้ฉันสิ้นเนื้อประดาตัวก็จะควักออกมาให้อยู่ดี!”
ตอนนี้หลี่หานซงรับรู้ถึงความแตกต่างของพวกเขาแล้วจริงๆ
เป็นประธานสมาคมผู้ฝึกยุทธ์เหมือนกัน ฟางผิงกลับทำหน้าที่ได้อย่างมีชีวิตชีวายิ่งกว่า
หลี่หานซงสูดลมหายใจเข้าลึก เอ่ยว่า “แพลตฟอร์มออนไลน์สามารถเชื่อมต่อกันได้ แลกเปลี่ยนอาจารย์ แลกเปลี่ยนเคล็ดวิชา ฉันจะพยายามช่วงชิงสุดความสามารถ! ส่วนเข้าร่วมสงครามถ้ำใต้ดินหนานเจียง ขอแค่มีคนเต็มใจ ฉันจะออกหน้ารวบรวมทีมเข้าร่วมอย่างแน่นอน! อันดับแรกนั้นนายต้องเอาชนะฉันให้ได้ก่อน! อีกอย่างการแลกเปลี่ยนปรมาจารย์ที่นายพูดถึง…เรื่องนี้ฉันไม่สามารถตัดสินใจได้จริงๆ แต่ฉันพอจะเกริ่นกับอธิการบดีได้”
“นี่ค่อยพอใช้ได้หน่อย”
ฟางผิงนับว่าพอใจ หัวเราะว่า “อันที่จริงสิ่งที่ฉันต้องทำยังมีอีกเยอะ แต่ที่ทำได้ในตอนนี้มีแค่เรื่องพวกนี้ ผู้ฝึกยุทธ์รุ่นของพวกเราไม่ควรจะถูกจำกัดวิสัยทัศน์ กลับไปฉันจะหาคนมาให้คำปรึกษาสักหน่อย ผู้ฝึกยุทธ์รุ่นเก่าสมองทึ่มทื่อไปหมดแล้ว แม้จะเป็นปรมาจารย์ ฉันก็ต้องพูดแบบนี้เช่นกัน แก่นแท้ของการแข่งขันแลกเปลี่ยนก็เพื่อแข็งแกร่งขึ้นไปด้วยกัน ตอนนี้กลับแล้วใหญ่ กลายเป็นการแข่งขันของคนใดคนหนึ่งไปแล้ว! ฉันไม่ค่อยพอใจกับเรื่องนี้เท่าไหร่ น่าเสียดายที่ไม่อาจทำตามความคิดของฉันได้ แน่นอนว่าหากทำตามความคิดของฉันจริงๆ ตอนนี้ความสามารถของทุกคนยังไม่เพียงพอ”
หลี่หานซงกลับไม่พูดอะไร ครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยว่า “นายพูดเกลี้ยกล่อมปรมาจารย์พวกนั้นได้ยังไง?”
ฟางผิงแปลกใจอยู่บ้าง
“ฉันหมายถึงปรมาจารย์ของเซี่ยงไฮ้ นายทำการปฏิรูป พวกเขาไม่เห็นต่างบ้างเลยเหรอไง?”
ฟางผิงยิ้มแผ่วเบา “ง่ายๆ ตอนนี้นายไปบอกอธิการของพวกนายว่าไม่ปฏิรูป งั้นจะบากหน้าไปมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ พร้อมทั้งพาคนกลุ่มหนึ่งไปด้วย ดูสิว่าอธิการของพวกนายจะตัดสินใจยังไง มหาวิทยาลัยเป็นของพวกเขา ทั้งเป็นของพวกเราด้วยเช่นกัน! พวกเราเรียกร้องอย่างยุติธรรม มีอะไรไม่สมควรกัน? ถ้ามหาวิทยาลัยปักกิ่งไม่ใจกว้างกับเรื่องแค่นี้ กระทั่งพวกปรมาจารย์ยังไม่ใจกว้างพอ งั้นก็ไม่สมควรให้เรียกปรมาจารย์แล้ว! มหาวิทยาลัยเช่นนี้ควรค่าให้นายรั้งอยู่ต่อ? ควรค่าให้นายต่อสู้ฝ่าฟัน? ปรมาจารย์ของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ไม่ใช่ครอบครัวเดียวกับฉัน ฉันเองก็ไม่มีตระกูลคอยสนับสนุน แต่ฉันตั้งใจทุ่มเทเพื่อเซี่ยงไฮ้ ดังนั้นจึงได้รับความเชื่อมั่นและเข้าใจจากพวกเขา!”
“หลี่หานซงนายจะไม่มีความมั่นใจสักนิดเลยหรือไง? หากคิดว่าไม่สามารถพูดเกลี้ยกล่อมได้จริง งั้นก็มาที่เซี่ยงไฮ้ ประตูของเซี่ยงไฮ้เปิดต้อนรับพวกนายตลอดเวลาอยู่แล้ว! ที่เซี่ยงไฮ้ นายไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องพวกนี้ ขอแค่นายมีความทุ่มเทให้เซี่ยงไฮ้ มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ก็เป็นของพวกเรา เป็นของพวกนาย ทั้งเป็นของทุกคน! ผสานกลมกลืนกัน นี่เป็นวิถีของพวกเรา ทั้งเป็นสาเหตุที่หลายปีมานี้พวกเราแข็งแกร่งอย่างไม่หยุดหย่อนเช่นกัน พูดให้ระคายหูหน่อย มหาวิทยาลัยปักกิ่งไม่ได้เปิดกว้างเท่าพวกเรา ทั้งไม่ได้ยำเกรงเท่าพวกเรา พูดระคายหูกว่านี้อีก ถ้าอธิการของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง…เกรงว่าปักกิ่งคงจะตกสู่ความโกลาหลในชั่วพริบตา! ฉันไม่กลัวว่าจะล่วงเกินใคร ถ้าแค่ความกล้าเรื่องนี้ยังไม่มี คงไม่ต้องพูดถึงการทำลายล้างถ้ำใต้ดิน!”
หลี่หานซงราวกับคล้อยตามอยู่บ้าง หลิงอีอีเผยสีหน้าขัดแย้งในใจ พึมพำว่า “พูดซะจนฉันยังอยากไปเซี่ยงไฮ้…”
หานซวี่ใบหน้าซีดเผือด แข็งแกร่งจริงๆ ฝีมือหลอกล่อแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
หากถูกหลอกล่อแบบนี้ต่อไป อาจจะเกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่จริงๆ แล้ว!
ประเด็นอยู่ที่ไม่ใช่หลอกล่อมั่วซั่ว แต่สมเหตุสมผล อย่าพูดถึงหลี่หานซงเลย ขนาดเขายังหวั่นไหวเช่นกัน
หากมหาวิทยาลัยปักกิ่งไม่ปฏิรูปอีก คนรุ่นเก่าหัวแข็งอยู่แบบนี้ บางที…บางทีมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมจริงๆ!
เห็นทุกคนมีท่าทีสับสน ฟางผิงก็ลอบถอนหายใจ คนหนุ่มสาวนี้มันยังเด็กกันจริงๆ!
ฉันแค่พูดไปเท่านั้น ยังคิดเป็นจริงเป็นจังซะได้ หากไปมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ นั่นเป็นถิ่นของฉัน จะเป็นของทุกคนจริงๆ ได้ยังไงกัน
—————————