ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 353-2 มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้พบกับมหาวิทยาลัยหนานเจียง (2)

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ตอนที่ 353 มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้พบกับมหาวิทยาลัยหนานเจียง (2)

เมื่อคำพูดนี้ออกมา ทุกคนคล้ายอยากพูดอะไรสักอย่าง ผ่านไปสักพักจางอวี่จึงถอนหายใจว่า “พวกเราเข้าใจแล้ว วางใจเถอะ ถึงนายจะยอมแพ้ พวกเราก็ไม่อาจพ่ายให้มหาวิทยาลัยหนานเจียง!”

“งั้นก็ดี แน่นอนฉันแค่พูดถึงในกรณีพิเศษเท่านั้น หากระดับของหวังจินหยางยังเหมือนก่อนหน้านี้คงไม่ใช่คู่ต่อสู้ฉัน แค่อยากให้ทุกคนเตรียมพร้อมล่วงหน้าเท่านั้น”

ฟางผิงหัวเราะ ไม่ได้ยอมรับว่าต้านอีกฝ่ายไม่ไหว เพียงแค่เดินเส้นทางสุดโต่งมาจนถึงตอนนี้ จู่ๆ แพ้แล้ว เขากลัวว่าพรุ่งนี้ทุกคนจะยอมรับความเป็นจริงไม่ได้ จิตใจถูกกระทบกระเทือนอาจจะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น

เกริ่นไว้ล่วงหน้าก่อน ยังไงทุกคนก็จะได้รู้ไว้ แม้เขาจะแพ้ก็ยังอยู่ในแผนการของตัวเอง

เป็นแบบนี้แล้วมหาวิทยาลัยหนานเจียงอย่าคิดจะเอาชนะเซี่ยงไฮ้เลย

เวลานี้ฉินเฟิ่งชิงที่เพิ่งหมกมุ่นกับเรื่องตบทรัพย์ของเฉินเฮ่าหรานก็ดึงสติกลับมา มองดาบพกของฟางผิงไปแวบหนึ่ง เอ่ยอย่างสงสัยว่า “ท่าไม้ตายของนายก็คือดาบเล่มนี้?”

“ทำไม นายคิดจะขโมย?”

“ไอ้เวร ฉันเป็นคนแบบนั้นหรือไง?”

ฉินเฟิ่งชิงเผยสีหน้าดูแคลน ถ้าฉันจะขโมยดาบของนาย…นั่นก็ต้องรอให้ฉันแข็งแกร่งกว่านายซะก่อน

ในเวลาเดียวกัน

โรงแรมรับรองของมหาวิทยาลัยหนานเจียง

อธิการมหาวิทยาลัยหนานเจียงมองหวังจินหยาง เอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “ไม่เลือกทะลวงด่านอย่างนั้นเหรอ?”

หวังจินหยางแค่นยิ้มว่า “อธิการ ให้ผมทำตามใจสักครั้งเถอะครับ สู้กับเขาในระดับเดียวกัน วันนี้ผมรอมาเกือบสองปีแล้ว รอมานานแล้วเหมือนกัน ทั้งแม้ผมจะทะลวงด่านแล้ว…อาจจะเอาชนะมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ไม่ได้เสมอไป ครั้งนี้เป้าหมายของมหาวิทยาลัยหนานเจียงคือคว้าอันดับสามให้ได้”

อธิการมหาวิทยาลัยหนานเจียงพยักหน้าเล็กน้อย อันดับสามหรืออันดับสี่ถือว่าเกินกว่าที่คาดไว้แล้ว อย่างน้อยจะได้เงินจัดสรรมากถึงสองหมื่นล้าน!

เทียบกับหลายปีก่อน ทุกปีได้งบประมาณไม่กี่พันล้านเท่านั้น ไม่ว่าจะยังไงครั้งนี้มหาวิทยาลัยหนานเจียงก็ต้องกอบโกยให้ได้

ในเมื่อหวังจินหยางไม่เลือกทะลวงด่าน เขาก็ไม่เกลี้ยกล่อมอะไร โลภมากไม่รู้จักพออยากคว้าอันดับหนึ่ง มหาวิทยาลัยหนานเจียงก็ควรต้องนั่งให้มั่นคงก่อน สวยงามแค่ช่วงเวลาสั้นๆ หากเมล็ดพันธุ์ที่ดีที่สุดของหนานเจียงบาดเจ็บถึงรากฐานกลับจะเป็นเรื่องได้ไม่คุ้มเสีย

พูดเรื่องการแข่งขันอยู่พักหนึ่งก่อนอธิการหนานเจียงจะถอนหายใจ “ถ้ำใต้ดิน…เกรงว่าจะใกล้อุบัติแล้ว”

หวังจินหยางหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย กดเสียงว่า “ยังเหลือเวลาอีกเท่าไหร่ครับ?”

“อาจเกิดได้ทุกเมื่อ”

อธิการมหาวิทยาลัยหนานเจียงเอ่ยทุ้มลึกว่า “ทางรุ่ยอัน อนุภาคพลังงานเริ่มกระจัดกระจายเป็นวงกว้าง นี่เป็นสัญญาณว่าทางเดินมีความเสถียรขึ้น อาจเป็นการระเบิดครั้งสุดท้าย ตอนนี้จางติ้งหนานส่งหน่วยทหารไปประจำการณ์ที่รุ่ยอันแล้ว ส่วนฉัน…ดูว่าจะรอถึงการแข่งขันแลกเปลี่ยนจบก่อนได้หรือเปล่า ถ้าไม่ได้ ฉันจะล่วงหน้าไปก่อน เธอไม่จำเป็นต้องรีบ ช่วงแรกพวกเธอไม่จำเป็นต้องเข้าไป รอพวกฉันเก็บกวาดศัตรูอีกฝ่ายในทางเดินแล้ว พวกเธอค่อยตามเข้ามาอีกที”

หวังจินหยางขมวดคิ้วแน่น ผ่านไปสักพักจึงเอ่ยว่า “ครั้งนี้คุณกับผู้ว่าจางจะเข้าไปเป็นกลุ่มแรก…อธิการ ต้องระวังให้มาก”

ถ้าทั้งสองคนสูญเสียในถ้ำ เกรงว่าหนานเจียงจะเกิดความวุ่นวายแล้ว

แต่ถ้ำใต้ดินหนานเจียงอุบัติ หากปรมาจารย์ของหนานเจียงไม่เป็นผู้บุกเบิก หรือจะให้พวกปรมาจารย์จากภายนอกเป็นผู้เริ่มก่อน?

ทุกครั้งที่ถ้ำใต้ดินอุบัติ ปรมาจารย์ในพื้นที่จะเป็นผู้นำคนกลุ่มแรกเข้าไปก่อน และทุกครั้ง…ล้วนจะเกิดการสูญเสียของปรมาจารย์

หวังจินหยางลอบถอนหายใจ ไม่ได้พูดอะไรอีก

อธิการมหาวิทยาลัยหนานเจียงไม่พูดมากเช่นกัน มองเขาอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “หลังเรียนจบแล้วไม่จำเป็นต้องรั้งตัวอยู่มหาวิทยาลัยเสมอไป รับตำแหน่งผู้ว่าการมณฑลจะเกิดประโยชน์กว่าเป็นอธิการหนานเจียงซะอีก”

หวังจินหยางคลี่ยิ้มบางๆ “อธิการประเมินผมสูงเกินไปแล้ว ผมดูแลตัวเองยังพอได้ ให้ควบคุมทั้งหนานเจียง…ไม่ใช่ทางผมเท่าไหร่ เทียบกับผู้ว่าจาง ผมยังด้อยไปอยู่มาก เกือบทุกด้านเลยด้วยซ้ำ”

“คนต้องเติบโตกันทั้งนั้น”

อธิการมหาวิทยาลัยหนานเจียงหัวเราะ หยัดกายขึ้นว่า “การแข่งขันแลกเปลี่ยนสู้มาจนถึงตอนนี้ไม่จำเป็นต้องดันทุรันมากเกินไป แม้จะแพ้ให้โรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่งก็ไม่เป็นไร ปีนี้ไม่ไหว ปีหน้ามาใหม่ ปีหน้าไม่ไหว พวกเราก็ค่อยมาทีหลัง…”

“ผมเข้าใจแล้ว”

วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม

คล้อยตามเวลาที่หมุนเวียน อากาศของปักกิ่งนั้นเริ่มหนาวเย็นขึ้นมาแล้ว

ตอนที่เริ่มการแข่งขันแลกเปลี่ยน ทุกคนยังสวมเสื้อเพียงตัวเดียว

ตอนนี้ผ่านไปไม่ถึงยี่สิบวัน พวกผู้ชมกลับมีคนสวมเสื้อกันหนาวขึ้นมาแล้ว

พวกผู้ฝึกยุทธ์ยังคงเหมือนเช่นเคย ราวกับทั้งปีมีแค่ฤดูเดียว ชุดค่อนข้างเบาบาง ขับเน้นพวกผู้ฝึกยุทธ์ให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้นอีก

สนามกีฬา

ตอนที่ทีมของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้และมหาวิทยาลัยหนานเจียงเข้ามาในสนามก็ดึงดูดเสียงเชียร์ขึ้นทันที

ต่อสู้กันจนมาถึงวันนี้ แต่ละทีมต่างมีแฟนคลับเป็นของตัวเอง

ข้างแท่นประธาน พิธีกรพูดเสียงดังว่า “การแข่งขันของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้และมหาวิทยาลัยหนานเจียงในครั้งนี้ ผมตั้งตารอคอยเป็นพิเศษ ถึงกระทั่งรอคอยกว่ารอบชิงชนะเลิศด้วยซ้ำไป! ทุกคนน่าจะรู้แล้วว่าฟางผิงจากมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้และหวังจินหยางจากมหาวิทยาลัยหนานเจียงมาจากเมืองหยางเฉิงของหนานเจียงเหมือนกัน ถึงขั้นจบโรงเรียนมัธยมเดียวกันด้วย! จากที่ผมทราบมา ฟางผิงและหวังจินหยางยังมีความเกี่ยวข้องที่ลึกล้ำกว่านั้นด้วย”

“ฟางผิงเรียนศิลปะการต่อสู้อย่างเป็นทางการก่อนการสอบเกาเข่าปี 2008 ฟางผิงเกิดในครอบครัวธรรมดา ไม่ได้สมัครคลาสติวของผู้ฝึกยุทธ์ พื้นฐานศิลปะการต่อสู้ จวงกง เคล็ดวิชาหลอมกระดูก รวมถึงเคล็ดวิชาต่อสู้พื้นฐานล้วนมาจากหวังจินหยาง แน่นอนว่าภายในเหมือนจะมีอีกหนึ่งเรื่องราว ตอนแรกทั้งสองคน คนหนึ่งเป็นคนธรรมดา อีกคนเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสอง จากข้อมูลที่ผมทราบมา ทั้งสองคนสนิทกันไม่ใช่เพราะว่าเป็นคนบ้านเดียวกัน แต่ฟางผิงที่เป็นคนธรรมดาได้แสดงพรสวรรค์โดยการร่วมมือกับหวังจินหยางจับกุมผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองคนหนึ่ง ผมคิดว่านี่น่าจะเป็นสาเหตุที่ทั้งสองคนผูกสัมพันธ์กันในภายหลังมากกว่า คงต้องพูดว่าเด็กหนุ่มอย่างฟางผิงมีความกล้าหาญอันแรงกล้า เกรงว่านี่จะเป็นเหตุผลสำคัญที่หวังจินหยางซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังจากมหาวิทยาลัยหนานเจียงประทับใจต่อเขา”

พิธีกรชายพูดจบ พิธีกรหญิงก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “สาเหตุที่อัจฉริยะเป็นอัจฉริยะ เพราะว่าพวกเขาไม่เหมือนกับคนอื่น ทุกคนอย่าได้เลียนแบบฟางผิงเด็ดขาด คนทั่วไปปะทะกับผู้ฝึกยุทธ์มีอันตรายถึงชีวิต เวลานั้นสิ่งแรกที่พวกเราต้องใคร่ครวญคือหลบหลีกจากการปะทะของผู้ฝึกยุทธ์ จากการแข่งขันแต่ละรายการ ฉันคิดว่าทุกคนคงจะเห็นถึงความแตกต่างระหว่างคนธรรมดาและผู้ฝึกยุทธ์แล้ว แน่นอน จากสาเหตุนี้อาจมองได้ว่าฟางผิงสามารถต่อกรกับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองสูงสุดในช่วงที่เป็นคนธรรมดาได้ ช่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน!”

“ตอนนี้ทั้งสองคนอยู่ระดับเดียวกันแล้ว ฟางผิงเอาชนะเหยาเฉิงจวิน หวังจินหยางเอาชนะหลี่หานซง ต่างเป็นอัจฉริยะอันดับต้นๆ ของคนรุ่นใหม่ทั้งสิ้น ทั้งยังถือกำเนิดในครอบครัวธรรมดา ยิ่งทำให้ทุกคนให้ความสำคัญมากขึ้นอีก”

“พวกเราล้วนตั้งตารอคอยผลลัพธ์ของการแข่งขันครั้งนี้? จะเป็นฟางผิงที่เก่งล้ำหน้าอาจารย์ หรือหวังจินหยางที่ก้าวนำไปข้างหน้าต่อเนื่อง?”

“…”

คล้อยหลังจากเสียงพูดของพิธีกร บนจอขนาดใหญ่ก็ประกาศลำดับการลงสนามของทั้งสองฝ่าย

ไม่ต่างจากที่คาดไว้ ฟางผิงและหวังจินหยางลงสนามเป็นคนแรก

ทั้งสองคนต่างใช้ดาบเป็นอาวุธ รูปแบบของดาบไม่แตกต่างกันมาก ฟางผิงยืมดาบยาวของฉินเฟิ่งชิงมาใช้อีกครั้ง

แต่ครั้งนี้หวังจินหยางพกอาวุธมาเพิ่มอีกอย่าง คันธนูยาวและลูกธนู!

นี่ยังเป็นครั้งแรกที่มีอาวุธระยะไกลปรากฏขึ้นในการแข่งขันแลกเปลี่ยน!

ทุกคนต่างตกตะลึงอยู่บ้าง พิธีกรแปลกใจเช่นกัน รีบเอ่ยว่า “หวังจินหยางเหมือนจะแตกต่างจากก่อนหน้านี้อยู่บ้าง ตอนนี้พกคันธนูยาวมาด้วย หวังจินหยางชำนาญธนูยาว นี่เพิ่งจะเคยได้ยินเป็นครั้งแรก มาถึงช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ หากไม่จำเป็นผู้ฝึกยุทธ์คงไม่พกอาวุธที่ไร้ประโยชน์มาอยู่แล้ว”

“นี่คือท่าไม้ตายของหวังจินหยาง? ก่อนหน้านี้หลายครั้งที่ลงสนาม เขาไม่เคยพกธนูมาเลย”

“อาจจะเพราะต้องการลบล้างข้อได้เปรียบของฟางผิง ฟางผิงชำนาญการใช้พลังจิตใจ ทั้งพื้นฐานของปราณยังแข็งแกร่งอย่างยิ่ง ต่อสู้ประชิดตัว หวังจินหยางอาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเสมอไป”

“แต่ว่า…สำหรับฟางผิง การโจมตีทั่วไปอาจไม่ได้ประสิทธิภาพนัก”

“…”

พิธีกรหญิงคาดคะเนความตั้งใจของหวังจินหยางออกมาอย่างรวดเร็ว ฟางผิงที่อยู่ด้านล่าง เดินขึ้นมาบนเวทีก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มไปพลาง “พี่หวัง อย่าลืมใช้ลูกธนูโลหะผสมระดับ A ล่ะ ไม่งั้นอาจไม่ทะลุการป้องกันของผมเสมอไป”

หวังจินหยางพยักหน้าเล็กน้อย เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ตามที่นายต้องการ แม้มหาวิทยาลัยหนานเจียงจะขาดแคลนไปบ้าง แต่โลหะผสมระดับ A ยังพอหาได้อยู่แล้ว”

สีหน้าฟางผิงชะงักไปเล็กน้อย เอาสิ ให้ความสำคัญฉันจริงๆ ยังใช้ลูกธนูโลหะผสมระดับ A ด้วย

ฟางผิงถอนหายใจเบาๆ ไม่พูดไร้สาระอีก กระโดดขึ้นไปบนเวทีตรงๆ

อีกฟากหนึ่ง หวังจินหยางนั้นสาวเท้าขึ้นไปบนเวทีอย่างไม่รีบร้อน

——————–

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน ฟางผิงกลับมาเกิดใหม่ในวัย 18 ปีในโลกที่ไม่เหมือนเดิมพร้อมระบบประหลาด และที่นี่เองที่เขาได้ก้าวเข้าสู่โลกของการฝึกยุทธ์ รายละเอียด อีกหนึ่งผลงานแฟนตาซี-กำลังภายในที่มาพร้อมระบบสุดโกง จากนักเขียนเดียวกับ STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา ฟางผิงย้อนเวลามาอยู่ในร่างของตัวเองในวัย 18 ปี ผู้คนรอบข้างยังคงเป็นเหมือนเดิม แต่ที่โลกนี้กลับยังมีการฝึกยุทธ์ และให้ความสำคัญกับผู้ฝึกยุทธ์ ช่วงเวลาสั้นๆ ฟางผิงก็สัมผัสได้ถึงสิ่งหนึ่ง นั่นก็คือสังคมนี้โหดร้ายกับเขาเป็นอย่างยิ่ง! หากไม่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ ไม่เป็นผู้ที่แข็งแกร่ง แม้ว่าตัวเองจะกลับมาเกิดใหม่ เกรงว่าคงทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาเป็นคนชนชั้นล่างเท่านั้น ด้วยเหตุนั้นเขาจึงสอบเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ และกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ เพื่อให้ตนและครอบครัวสามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมแห่งนี้ แต่แน่นอนว่าเส้นทางของการเป็นผู้แข็งแกร่งย่อมไม่ง่ายดายขนาดนั้น แม้เขาจะมีระบบประหลาดคอยช่วยเหลืออยู่ก็ตาม เรื่อง : ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน ผู้เขียน : เหล่าอิงชือเสี่ยวจี (老鹰吃小鸡)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท