ถ้าให้คุณสวี่รู้เรื่องนี้ล่ะก็ เธอกับสวี่รั่วยีคงมีจุดจบน่าอนาถว่าแอนนานั่นเป็นไหนๆ
คุณนายสวี่คิดมาถึงตรงนี้ ดวงตาก็ฉายแววร้ายกาจ
“แม่คะ อย่าบอกนะว่าเรื่องนี้แม่จะให้เขาช่วย!”
เหมือนสวี่รั่วยีจะพอเดาได้ว่าคุณนายสวี่คิดจะขอให้พ่อแท้ๆของตัวเองช่วย เธอรีบพูดอย่างไม่พอใจว่า “แม่ห้ามไปหาเขานะ!หนูไม่ยอมรับเขาเด็ดขาด!”
“ฉันบอกแล้วไง ว่าเรื่องนี้แกไม่ต้องยุ่ง ฉันจะหาทางจัดการเอง” พูดจบคุณนายสวี่ก็เอ่ยเตือนสวี่รั่วยีว่า “แกอยู่บ้านดีๆแกล้งเป็นคนท้องให้มันเนียนๆ เรื่องนี้เลี่ยงได้ก็เลี่ยงเข้าใจไหม!อย่าให้ลี่ถิงเซิ่งกับคุณนายลี่สงสัยเด็ดขาด!”
นัยน์ตาของสวี่รั่วยีฉายแววไม่ยินยอม
เอ่ยถามว่า “ถึงแอนนาจะท้องไม่ได้ แต่ถ้าเธอยังทำให้ลี่ถิงเซิ่งหลงจนหัวปักหัวปำจะทำยังไง!”
คุณนายสวี่เหลือบตามองสวี่รั่วยีอย่างเยือกเย็น “ตราบใดที่เธอไม่ได้เข้าตระกูลลี่ ก็แค่ผู้หญิงไร้ฐานะ แกจะไปกลัวอะไร? ยังจะให้ฉันบอกแกซ้ำๆอีกเหรอว่าผู้หญิงแบบนั้นอยู่ในแวดวงสังคมไฮโซได้ไม่นาน?”
ผู้หญิงที่ไม่มีฐานะ คนในแวดวงไฮโซ ต่างมองข้ามคนแบบนี้กันทั้งนั้นแหละ
สุดท้าย แม้แต่ผู้ชายที่เธอรักก็ต้องเสียไป
อยู่ไปก็เหมือนตายทั้งเป็น
นี่คือจุดจบของผู้หญิงที่เป็นได้แค่คนรักแต่แต่งเข้าตระกูลไม่ได้
……
ในตอนที่ซูจิ่วเอ๋อร์มาถึงโรงพยาบาลก็เป็นเวลาดึกแล้ว ท้องฟ้ามืดสนิท บริเวณทางเข้าโรงพยาบาลเงียบจนน่ากลัว
ทั้งๆที่บริเวณนั้น ยังคงห้อมล้อมไปด้วยนักข่าวก็อสซิป
พวกเขายังคงแบกกล้องเฝ้าถ่าย
บางคนก็บุกเข้าไป แต่ก็ถูกบอดี้การ์ดของโรงพยาบาลจับโยนออกมาข้างนอก
บอดี้การ์ดยืนยันกับนักข่าวว่าเข้าไปในโรงพยาบาลไม่ได้เด็ดขาด “พวกคุณไม่ต้องเสียเวลาแล้ว!วันนี้ไม่ว่าใครก็เข้าไปในโรงพยาบาลไม่ได้ทั้งนั้น!”
นักข่าวพร้อมใจกันเอ่ยขู่ “ถ้าไม่ให้พวกเราเข้าไป นั่นก็แปลว่าแอนนาประสบอุบัติเหตุจริงๆ!ใช่ไหม! ถ้าเราป่าวประกาศเรื่องนี้ออกไป ประธานลี่คงจะโกรธมากๆใช่ไหมล่ะ!”
บอดี้การ์ด “บอกไม่ได้!”
ซูจิ่วเอ๋อร์เห็นแบบนั้น ก็บอกให้คนขับรถขับไปยังประตูด้านข้าง
ประตูด้านข้างมีคนมารอซูจิ่วเอ๋อร์อยู่ก่อนแล้ว
ก่อนหน้านี้ ผู้ช่วยส่วนตัวของลี่ถิงเซิ่งกำชับเขาเอาไว้แล้ว ว่าอีกสักพักคุณหนูแห่งซูซื่อกรุ๊ปจะมาที่นี่ ให้พาเธอเข้ามาที่หน้าห้องผ่าตัดได้เลย
คนของทางโรงพยาบาลอดที่จะแปลกใจไม่ได้ ว่าคนที่เกิดอุบัติเหตุเป็นใครกัน? ลี่ถิงเซิ่งถึงขั้นมารอที่หน้าห้องผ่าตัดเอง ถ้าเป็นคนรักกันก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ความสัมพันธ์ของทั้งสองยังไม่ชัดเจนเลย
นี่ยังมีคุณหนูตระกูลซูมาเยี่ยมถึงที่อีก นั่นมันคุณหนูแห่งซูซื่อกรุ๊ปที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติเลยนะ!
คนของทางโรงพยาบาลเอ่ยพูดอย่างสุภาพว่า “คุณหนูตระกูลซูใช่ไหมครับ? ประธานลี่สั่งไว้ ว่าถ้าคุณมาให้พาคุณเข้ามาทางนี้”
ซูจิ่วเอ๋อร์ผงกหัวเล็กน้อย เธอเอ่ยถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “อาการของแอนนาเป็นยังไงบ้าง?”
“ตอนนี้ยังไม่ทราบครับ คุณแอนยังอยู่ในห้องผ่าตัด คุณซูตามผมมาเลยครับ”
คนของโรงพยาบาลพาซูจิ่วเอ๋อร์มาที่หน้าห้องผ่าตัดที่สวี่รั่วฉิงอยู่
ประตูห้องผ่าตัดปิดสนิท ไฟสีแดงยังคงสว่างบ่งบอกว่าการผ่าตัดข้างในยังคงไม่เสร็จสิ้น
“ประธานลี่ ซูจิ่วเอ๋อร์มาแล้วครับ” หลี่อานจำซูจิ่วเอ๋อร์ได้ เขาเดินเข้ามาหาลี่ถิงเซิ่ง แล้วพูดเสียงเบาว่า “ความสัมพันธ์ของซูจิ่วเอ๋อร์กับแอนนาดีมากๆ ผมว่าคุณควรคุยกับเธอดีๆนะครับ ดูเหมือนเธอจะโกรธมากที่แอนนาประสบอุบัติเหตุ ไม่แน่เธออาจจะโยงมาที่คุณก็ได้นะครับ”
หลี่อานไม่กล้าพูดออกมา ได้แต่พูดในใจว่า “ถ้าคุณกวนโมโหเพื่อนรักของแอนนา ตอนที่คบกับแอนนาในอนาคต ระวังคุณหนูซูจะลอบกัดเอานะครับ!”
ลี่ถิงเซิ่งช้อนเปลือกตาเหนื่อยล้ากวาดมองซูจิ่วเอ๋อร์ที่อยู่ไม่ไกล
ซูจิ่วเอ๋อร์แทบจะไม่มีเวลาจัดการตัวเองให้เรียบร้อย ร่างกายสวมใส่ชุดลำลองสบายๆ แต่มือกลับถือกระเป๋าปราดารุ่นใหม่ล่าสุด
ลี่ถิงเซิ่งกับซูจิ่วเอ๋อร์เคยเจอกันแค่ครั้งเดียวตอนงานเลี้ยง มีปฏิสัมพันธ์กันแค่ผงกหัวให้กันเท่านั้น
ด้านซูจิ่วเอ๋อร์เองก็สังเกตเห็นลี่ถิงเซิ่ง
บนร่างกายของชายหนุ่มยังสวมใส่ชุดเดียวกับตอนงานเลี้ยง แต่กระนั้นเสื้อผ้าก็ยังเรียบกริบ
หน้าตาแน่นอนว่าหล่อเหลามากๆ บนใบหน้าสุขุมดุดัน แทบจะเกาะกันเป็นน้ำแข็ง
มิน่าล่ะทำไมสวี่รั่วฉิงอยากนอนกับเขา ซูจิ่วเอ๋อร์แอบแขวะในใจเงียบๆ มีดีแค่หน้าตาหล่อ ขนาดตัวเองมีลูกแล้วยังไม่รู้เลย ไม่เอาไหน!
ซูจิ่วเอ๋อร์คิดอะไรอยู่สักพัก ก็พารองเท้าส้นสูงมาหยุดยืนตรงหน้าลี่ถิงเซิง
“ประธานลี่ ฉันคิดว่าคุณควรมีคำอธิบายให้ตระกูลซูนะ ว่าทำไมแอนนาถึงประสบอุบัติเหตุ”
ซูจิ่วเอ๋อร์พูดอย่างตรงไปตรงมา เพราะขี้เกียจจะอ้อมค้อม
เธอพูดออกมาอย่างตรงประเด็น ไม่ปิดบังความสัมพันธ์ของเธอกับสวี่รั่วฉิงเลยแม้แต่น้อย
บอกลี่ถิงเซิ่งอย่างตรงไปตรงมา ว่าสวี่รั่วฉิงคือเพื่อนสนิทของเธอ เรื่องของสวี่รั่วฉิงก็เหมือนเรื่องของเธอ เรื่องของเธอก็เหมือนเรื่องของตระกูล
ดวงตาดำขลับเยือกเย็นของลี่ถิงเซิ่ง ฉายแววเหนื่อยล้า
ซูจิ่วเอ๋อร์ตรงหน้า พกพาความรู้สึกเป็นศัตรูมาเต็ม ราวกับกำลังบอกว่าสวี่รั่วฉิงคือทุกสิ่งทุกอย่างของเธออย่างไรอย่างนั้น
ท่าทีของคนตรงหน้า ทำให้ลี่ถิงเซิ่งไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก แต่เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าสวี่รั่วฉิงยังอยู่ในห้องผ่าตัด อารมณ์หงุดหงิดก็พลันหายไป เปิดเปลือกตาออกช้าๆ
ลี่ถิงเซิ่งกดเสียงหนัก เอ่ยปากพูดช้าๆว่า “คดียังอยู่ในขั้นตรวจสอบ”
“ยังอยู่ในขั้นตรวจสอบ?” ซูจิ่วเอ๋อร์ขึ้นเสียงอย่างไม่พอใจ
ตำรวจในเมืองหลินชวนทำอะไรกันอยู่!อุบัติเหตุต้องตรวจสอบนานขนาดนี้เลยเหรอ!
ซูจิ่วเอ๋อร์เอ่ยพูดอย่างไม่สบายใจ “ตอนนี้อาการของแอนนาเป็นยังไงบ้าง?”
คนคนหนึ่งที่อยู่ดีๆมาตลอดแต่กลับต้องมาเจอเรื่องราวมากมายตั้งแต่ที่มาเมืองหลินชวน ตอนนี้จะเป็นหรือตายก็ยังไม่รู้ ยิ่งคิดซูจิ่วเอ๋อร์ก็ยิ่งรู้สึกไม่คุ้มค่าแทนสวี่รั่วฉิง
เธอถึงขั้นอยากบอกคุณพ่อออกไปตรงๆ ว่าให้ทางบริษัทฮุบตระกูลสวี่ซะ สวี่รั่วฉิงจะได้ไม่ต้องอยู่ในสถานที่ที่มีอันตรายรายล้อมไปทุกที่อย่างเมืองหลินชวน
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ซูจิ่วเอ๋อร์ก็ละสายตาหนี หันไปถามผอ.โรงพยาบาลว่า “ผอ.คะ ตอนนี้แอนนาเป็นยังไงบ้าง? พ้นขีดอันตรายหรือยัง? ถ้าตอนนี้เสี่ยงมาก ฉันจะส่งทีมรักษาใต้เครือตระกูลซูมาช่วยเดี๋ยวนี้”
ซูจิ่วเอ๋อร์พูดพร้อมกับเตรียมหยิบโทรศัพท์ออกมา
ลี่ถิงเซิ่งพูดเสียงเย็นว่า “หมอที่ผ่าตัดให้แอนนาคือหมอที่ฝีมือดีที่สุดแล้ว”
ถ้าไม่ใช่หมอที่มีฝีมือดีที่สุด เขาก็คงไม่ยินยอมให้มาเป็นหมอผ่าตัดในครั้งนี้หรอก
ผอ.อธิบายอย่างใจเย็นว่า “คุณซู ใจเย็นๆก่อนนะครับ อาการของคุณแอนตอนนี้ค่อนข้างอธิบายยาก ทางโรงพยาบาลได้มีการส่งหมอที่ดีที่สุดทำการรักษาอยู่ครับ”
ซูจิ่วเอ๋อร์สูดหายใจเข้าลึกๆ เธอถลึงตาใส่ลี่ถิงเซิ่ง
รั่วฉิงเป็นถึงขนาดนี้แล้ว เขายังใจเย็นอยู่อีกเหรอ!
รอให้รั่วฉิงผ่านด่านนี้ได้ไปก่อนเถอะ เธอจะต้องพูดกับรั่วฉิงให้รู้เรื่อง ว่าห้ามหลงกลลี่ถิงเซิ่งเด็ดขาด!
ถ้าไม่ใช่เพราะผู้ชายคนนี้สวี่รั่วฉิงก็คงไม่ต้องมาเจออะไรแบบนี้หรอก!
ลี่ถิงเซิ่งคือตัวหายนะของสวี่รั่วฉิง ตั้งแต่ที่เธอรู้จักลี่ถิงเซิ่ง ก็ถูกสวี่รั่วยีวางแผนทำร้าย ทั้งยังตั้งท้องลูกของเขา
ตอนนี้ยังจะมาประสบอุบัติเหตุอีก!