ลี่ถิงเซิ่งนิ่งเงียบ เขาไม่สามารถที่จะบอกเสิ่นเชียนได้ว่าเขาสงสัยเรื่องยาที่สวี่รั่วยีให้เขาใช้
เสิ่นเชียนเห็นลี่ถิงเซิ่งไม่ได้ตอบอะไร สมองก็นึกแวบขึ้นมา : เดาว่าพี่ลี่คงจะไม่อยากพูด
“งั้นเรื่องนี้ผมจะช่วยพี่ตรวจสอบเอง พี่ลี่ พี่รีบกลับไปที่ฝั่งห้องผ่าตัดเถอะครับ ถ้าเกิดพี่สะใภ้ตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอพี่ ในใจจะต้องรู้สึกโดดเดี่ยวแน่ๆ” เสิ่นเชียนพูดจบ ก็โบกมือให้ลี่ถิงเซิ่ง
ลี่ถิงเซิ่งมองแผ่นหลังของเสิ่นเชียน พร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เขาตัดสินใจกดโทรหานักสืบส่วนตัวของตัวเองทันที “ตรวจสอบตระกูลสวี่”
เขาพูดเพียงประโยคเดียว ก็กดวางสายทันที พร้อมเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงแล้วเดินกลับไปที่ห้องผ่าตัด
…
“หัวหน้าเฉิน รถที่ก่อเหตุของหวังซานเมื่อวานหาเจอแล้วครับ” ลูกน้องของหัวหน้าเฉิน หยิบเอาเอกสารวินิจฉัยรีบวิ่งมารายงานข้างๆหัวหน้าเฉิน พร้อมพูดไปหอบไป “วันนี้มีคนมาแจ้งความที่สถานีตำรวจ บอกว่ารถเก๋งสีดำของตัวเองนั้นถูกขโมยไป ตอนนี้รถที่ถูกขโมยไปถูกหาเจอใกล้ๆบริเวณเกิดเหตุ จากการตรวจสอบรอยล้อรถกับรอยล้อรถที่ทิ้งไว้ที่จุดเกิดเหตุนั้นตรงกันทุกอย่างครับ!”
หัวหน้าเฉินรีบรับผลการรายงานจากลูกน้องมาทันที รายงานนั้นมีผลวินิจฉัยอย่างชัดเจนแล้วว่ารอยล้อรถของสองคันนี้คือคันเดียวกันแน่นอน!
นี่คือรถคันที่ใช้ก่อเหตุ!
และเป็นรถคันที่หวังซานขโมยไปก่อนแล้วเมื่อวานนี้ จากนั้นก็นำรถที่ขโมยมาไปใช้ขับพุ่งชนรถสปอร์ตสีแดงของสวี่รั่วฉิง
“แล้วตัวหวังซานล่ะ? สรุปได้ว่ายังไง?” หัวหน้าเฉินคืนผลการรายงานคืนให้ลูกน้อง พร้อมกับถาม
ลูกน้องส่ายหน้า ผ่านไปแล้วสองชั่วโมง ตำรวจทั้งหมดของเมืองหลินชวนกำลังระดมกำลังตรวจสอบวิดีโอกล้องวงจรปิดอยู่ แต่ตอนนี้ก็ยังไม่เจอวิดีโอที่ถ่ายติดตัวหวังซานเลย
ตอนที่หัวหน้าเฉินกำลังกระวนกระวายร้อนใจและไม่รู้ว่าจะชี้แจงกับลี่ถิงเซิ่งยังไง จากนั้นโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น
“ผมหัวหน้าเฉินครับ” หัวหน้าเฉินพูดอย่างใจเย็น
“หัวหน้าเฉิน จัดการตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้งหมดเสร็จแล้ว พบว่าสถานที่สุดท้ายที่พบเห็นหวังซานนั้นคือทางทิศใต้ของปากทางเก็บค่าผ่านทางด่วน”
หัวหน้าเฉินขมวดคิ้ว พร้อมตัดสินใจอย่างรวดเร็ว “รีบรวบรวมกำลังคนให้ไปตรวจสอบบริเวณทางทิศใต้ของปากทางเก็บค่าผ่านทางด่วนเดี๋ยวนี้”
พูดจบ เขาก็ขึ้นรถตำรวจของตัวเอง คาดเข็มขัดนิรภัยแล้วก็ขับรถไปยังทางทิศใต้ด้วยตัวเองอย่างรวดเร็ว
พระอาทิตย์ค่อยๆจะลาลับยอดเขา ตำรวจที่รับผิดชอบคดีนี้ก็ค้นหาตรวจสอบรอบๆบริเวณทางทิศใต้ของปากทางเก็บค่าผ่านทางด่วนอย่างละเอียด
ทันใดนั้น ตอนที่ตำรวจคนหนึ่งที่กำลังตรวจสอบที่ริมแม่น้ำ จู่ๆก็พบสิ่งผิดปกติอยู่ริมแม่น้ำ เขานั่งยองๆลงดู ก็พบว่าแท้จริงมันคือรอยเลือด
เขารีบรายงานให้หัวหน้าเฉินทราบ “หัวหน้าเฉิน คล้ายกับว่าจะพบรอยเลือดอยู่ที่ริมแม่น้ำครับ”
เวลาเดียวกันนั้น ก็มีตำรวจอีกคนหนึ่งมารายงานข้อมูลกับหัวหน้าเฉิน “หัวหน้าเฉินครับ บนทางด่วนก็พบรอยเลือดเช่นเดียวกัน”
หัวหน้าเฉินขมวดคิ้ว : หรือว่ามีคนลงมือกับหวังซานที่บนสะพานนั้น หลังจากนั้นก็จัดการโยนศพลงไปในแม่น้ำ?
เขาแทบจะไม่ได้คิดไตร่ตรอง “รีบงมหาศพที่ริมแม่น้ำทันที ดูว่าจะสามารถกอบกู้หาอะไรเจอได้บ้างไหม”
ความพยายามไม่สูญเปล่าสำหรับคนที่ตั้งใจ สุดท้ายตำรวจก็งมหาศพของหวังซานเจอจากก้นแม่น้ำ
ตรงหัวใจนั้นมีรอยยิง ที่ขาก็มีร่องรอยของการถูกยิงเช่นกัน
หลังจากตรวจสอบ ศพนั้นคือร่างของหวังซานจริงๆ
ทันใดนั้นหัวหน้าเฉินก็คิดถึงคำแนะนำของลี่ถิงเซิ่งเมื่อก่อนหน้านี้
คนที่สามารถมีปืนในครอบครองได้ในเมืองหลินชวน คือคนรวยและคนมีหน้ามีตาในสังคม หรือว่าคนเบื้องหลังที่สั่งให้หวังซานไปขับรถชนรถสปอร์ตสีแดงนั้น เป็นคนที่มีอิทธิพลคนหนึ่ง?
เมื่อคิดได้ถึงตรงนี้ เขาก็เพ่งมองไปที่ศพของหวังซาน หัวหน้าเฉินก็เหงื่อออกเย็นไปทั้งตัว
เขาสั่งให้ลูกน้องของตัวเองน้ำศพของหวังซานนั้นกลับไปที่สถานีตำรวจเพื่อทำการชันสูตรศพ
“หัวหน้าเฉินครับ บนตัวหวังซานมีบัตรธนาคารอยู่ใบหนึ่งครับ จากการตรวจสอบพบว่าในบัตรของเขามีเงินฝากอยู่สิบล้าน”
หัวหน้าเฉินประหลาดใจ “สิบล้านเหรอ?”
“ครับ อีกทั้งยังแบ่งเป็นการโอนเข้าเป็นสองรายการ แต่ข้อมูลบัญชีของคนที่โอนเข้ามา พวกเราตรวจสอบไม่พบ และธนาคารยังปฏิเสธการให้ข้อมูลในการสืบสวนกับพวกเราอีกด้วย เกรงว่า…”
“ที่ลี่ถิงเซิ่งพูดก่อนหน้านี้ไม่มีผิด พวกเรารีบจัดการรวบรวมข้อมูลให้เรียบร้อยก่อนแล้วบอกข้อมูลพวกนี้กับเขา เรื่องหลังจากนี้ ถ้าพวกเราเข้าไปเกี่ยวข้องพัวพัน เกรงว่าคงจะเป็นการรนหาที่ตายแน่ๆ”
ผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมง ในสถานีตำรวจ ตำรวจที่รับผิดชอบคดีนี้ก็เดินมาข้างๆหัวหน้าเฉิน สีหน้าดูไม่ดีเอามากๆ “ผลชันสูตรศพออกมาแล้ว เขาถูกยิงจนตายอย่างแน่นอน สภาพศพน่าจะตายวันนี้เวลาประมาณตีสอง จากนั้นก็ถูกโยนทิ้งลงไปในแม่น้ำ จนกระทั่งถึงบ่ายวันนี้พวกเราลงไปงมศพ สุดท้ายจึงได้พบ จากการตรวจสอบในวิดีโอ พวกเราก็ตรวจสอบแล้วว่าเป็นความจริง ยามที่ดูแลรถคันก่อเหตุ ก็มั่นใจว่าเป็นหวังซานที่ขโมยรถไปจริงๆ จากนั้นตามเบาะแสพวกนี้ พวกเราก็ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดของถนนแต่ละสาย ก็พบว่าเขานั้นขับรถตามรถสปอร์ตของแอนนาไป”
“มีพยานบุคคลไหม?” หัวหน้าเฉินถาม
ตำรวจคนนั้นส่ายหน้า “ตอนนี้กำลังตรวจสอบน้องของผู้ตายอยู่ครับ รอดูว่าจะได้ข้อมูลอะไรใหม่ๆเพิ่มหรือเปล่า”
หลังจากตำรวจคนนั้นพูดจบก็หยิบรูปภาพใบหนึ่งส่งให้หัวหน้าเฉิน “จุดที่แปลกที่สุดคือก่อนที่หวังซานจะตาย มีเงินจำนวนสิบล้านหยวนที่ถูกโอนเข้าบัญชีของเขาและแบ่งโอนเป็นสองครั้ง แต่ข้อมูลบัญชีของคนที่โอนเข้ามานั้น ธนาคารยังคงปฏิเสธการตรวจสอบของพวกเรา หลังจากยื่นคำร้องขอตรวจสอบไปแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับอะไรตอบกลับมา มันปกปิดข้อมูลบัญชีเกินไปแล้ว หาไม่เจอว่าคนเปิดบัญชีนั้นคือใคร คาดว่าคงจะมีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะเป็นบัญชีลับของบุคคลสำคัญคนใดคนหนึ่ง”
หัวหน้าเฉินเหลือบมองไปยังแสงดวงจันทร์นอกหน้าต่าง ตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มแล้ว
สายตาแววตาของเขาค่อยๆอึมครึมขึ้นมา “ฉันรู้แล้วล่ะ พวกเราจัดการรับผิดชอบการไต่สวนน้องชายของหวังซานต่อไป ถ้าสามารถถามไปจนถึงว่าคนที่โอนเงินเข้ามาให้หวังซานคือใครได้จะดีที่สุด ตอนนี้ฉันจะไปที่โรงพยาบาลเอกชนอันดับหนึ่งก่อนสักหน่อย”
“ครับ!”
หัวหน้าเฉินตอบ”อือ”ออกมาหนึ่งคำ พร้อมพยักหน้ารับรูปภาพใบนั้นมา ไม่ทันได้หยุดพักก็รีบขับรถไปที่โรงพยาบาลเอกชนอันดับหนึ่งทันที
ณ ในโรงพยาบาลเอกชนอันดับหนึ่ง การผ่าตัดก็ยังคงไม่เสร็จสิ้น
ผ่านไปแล้วสิบกว่าชั่วโมง หลี่อานเห็นสีหน้าของลี่ถิงเซิ่งทั้งอ่อนเพลียและง่วงนอน จึงอดไม่ได้ที่จะพูด “ประธานลี่ ถ้าไม่เช่นนั้นให้ฉันสั่งคนให้จัดเอาอาหารเย็นมาให้ดีไหม? หรือไม่ก็ทำอย่างคุณซูสักหน่อย อย่างน้อยๆก็ทานโจ๊กสักหน่อยไหม?”
“ไม่ต้อง” ลี่ถิงเซิ่งพูดอย่างเย็นชา
เขาเงยหน้าขึ้นมองไปทางซูจิ่วเอ๋อร์ที่มุ่งมั่นยืนหยัดที่จะรอการผ่าตัดของสวี่รั่วฉิงอย่างแข็งแกร่งเช่นเดียวกันกับเขา เขาพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ “ฉันจะไปงานประชุมของวันพรุ่งนี้”
หลี่อานตะลึงไปสักพัก
ประธานลี่พูดเช่นนี้หมายความว่า ถ้าวันนี้การผ่าตัดของแอนนายังไม่เสร็จสิ้น เขาก็จะรออยู่ที่นี่ไม่ไปไหน
อีกทั้งประธานลี่ยังไม่ยอมพักผ่อน และทนมาตลอดคืนแล้ว พรุ่งนี้ยังจะไปที่บริษัทอีก
เขาไม่ใช่เทวดา ร่างกายจะทนความเจ็บปวดทรมานไปได้อย่างไร?
หลี่อานกังวลเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้คนที่จะสามารถพูดจูงใจลี่ถิงเซิ่งได้ไม่อยู่แล้ว
แต่จะบอกว่าไม่อยู่แล้วก็ไม่ได้ ถ้าแอนนาอยู่ล่ะก็ คาดว่าคงจะพูดโน้มน้าวประธานลี่ได้แน่ๆ
แต่ตอนนี้แอนนายังอยู่ในห้องผ่าตัดอยู่
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หลี่อานก็ถอนหายใจหนักๆออกมา
แอนนาก็โชคร้ายเสียจริงๆ ไม่รู้ว่าไปผิดใจกับใครเข้า คาดไม่ถึงว่าจะมาเจออุบัติเหตุรถยนต์ที่หนักหนาสาหัสขนาดนี้ ยี่สิบชั่วโมงผ่านไป การผ่าตัดก็ยังไม่เสร็จสิ้น เธอนั้นไม่กล้าจะคิดจินตนาการเลยจริงๆว่าผู้หญิงที่อยู่ในห้องนั้นจะต้องพบเจอกับความเจ็บปวดมากมายขนาดไหน
ซูจิ่วเอ๋อร์ง่วงจนหาวนอนออกมา ความแดงของเส้นเลือดในดวงตานั้นยิ่งเข้มขึ้นเรื่อยๆ
เธอก้มหน้าส่งข้อความผ่านทางวีแชทไปหาเลขาของเธอ “เตรียมอาหารเย็นให้สวี่อี้ฝานและสวี่อี้หานเสร็จหรือยัง?”