การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย – บทที่ 518 สายเลือดตระกูลถัง

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

บทที่ 518 สายเลือดตระกูลถัง

บทที่ 518 สายเลือดตระกูลถัง

ทันทีที่ได้ยินผู้เฒ่าตระกูลพูดอย่างนั้นแล้ว ทั้งหมดหันมองเขาด้วยความสงสัย

แม้แต่ผู้เฒ่าถังเองก็ยังประหลาดใจ “ท่านผู้เฒ่า พวกเราตระกูลถังมีวิธีพิสูจน์นี้ด้วยหรือ? ทำไมผมไม่เห็นเคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อน”

ถังคุนเฉินที่ยืนอยู่ด้านข้างเองก็ขมวดคิ้วสงสัยด้วยเช่นกัน

เขาเองก็ไม่รู้ว่ามีวิธีพิสูจน์ทายาทตระกูลถังเช่นกัน ถ้าหากมันเป็นไปได้ ทุกคำพูดก่อนหน้าทั้งหมดของเขาจะกลายเป็นสิ่งไร้ประโยชน์ทันที และเมื่อคิดไตร่ตรองสักครู่ เขาอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นว่า “ผู้เฒ่าตระกูล วิธีการที่คุณพูดเชื่อถือได้จริงหรือครับ?”

ผู้เฒ่าตระกูลหันมองถังคุนเฉินด้วยสายตาสงบ “นี่นาย… กล้าที่จะสงสัยในตัวฉันตั้งแต่เมื่อไหร่?”

ได้ยินอีกฝ่ายพูดออกมาอย่างนั้น ถังคุนเฉินส่ายศีรษะก่อนจะพูดต่อว่า “ท่านผู้เฒ่า ผมไม่ได้สงสัยในตัวท่าน แต่ว่า…”

เขาพูดแค่เพียงเท่านั้น แล้วก็ถูกผู้เฒ่าตระกูลกล่าวแทรกเสียก่อน

“พอได้แล้ว คิดว่าวิธีการของฉันจะเป็นเรื่องหลอกลวงงั้นหรือ? ในเมื่อฉันบอกว่ามันสามารถทำได้ มันก็ย่อมพิสูจน์ได้แน่นอน”

“ครับ ทั้งหมดเป็นความผิดของผมเอง”

ถังคุนเฉินยอมรับความผิดพลาดและกล่าวขอโทษอย่างเชื่อฟัง

แม้ว่าผู้นำตระกูลถังคนปัจจุบันคือผู้เฒ่าถัง แต่สถานะของผู้เฒ่าตระกูลก็ไม่ใช่ต่ำต้อย บางครั้งคำพูดของเขาน่าเชื่อถือยิ่งกว่าผู้เฒ่าถังด้วยซ้ำ ดังนั้นแล้วเขาจึงไม่คิดจะลองดีกับอีกฝ่าย

ยิ่งไปกว่านั้น เขาได้ทราบข่าวก่อนหน้านี้ว่าผู้เฒ่าตระกูลสามารถกลั่นยาอายุวัฒนะที่หายสาบสูญไปนานได้อีกครั้ง เขาจึงไม่กล้าที่จะสร้างความขุ่นเคืองให้อีกฝ่าย

เมื่อเห็นถังคุนเฉินยอมกล่าวขอโทษแล้ว ผู้เฒ่าตระกูลไม่พูดอะไรต่อ ก่อนจะหันมองเฮ่อหลานด้วยรอยยิ้ม “เธอจะต้องเป็นลูกสาวของคุนหาวแน่นอน หน้าตาของเธอคล้ายเขามากจริง ๆ”

ขณะพูดอย่างนั้น เขาหันมองถังซวงและถังเซวี่ย

และหันไปหาแม่เฒ่าถัง “สองพี่น้องที่เป็นเหลนของพวกเรา หน้าตาเหมือนกับคุณตอนสาว ๆ มากเลยทีเดียว โดยเฉพาะคนที่อยู่ข้าง ๆ คุณ… มองครั้งแรกก็รู้ได้เลยว่าเธอคือทายาทของคุณ”

“แค่มองจากหน้าตาก็ทราบได้ทันทีว่าทั้งหมดคือสายเลือดตระกูลถัง แต่เพราะคุนเฉินยืนยันที่จะตรวจสอบเรื่องนี้ อย่างนั้นเรามาพิสูจน์กันเถอะ” ในตอนท้าย ผู้เฒ่าตระกูลหันมองถังคุนเฉินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหมายลึกซึ้ง

สุดท้ายแล้วรูปลักษณ์ภายนอกเป็นสิ่งที่ไม่สามารถปลอมแปลงได้ แต่ถังคุนเฉินก็ยังยืนกรานที่จะปฏิเสธ พฤติกรรมนี้เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้คนรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

ถังคุนเฉินรู้สึกสั่นสะท้านเมื่อถูกผู้เฒ่าตระกูลจับจ้อง แต่ไม่นานเขาก็หัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “ท่านผู้เฒ่าตระกูล การพิสูจน์ทายาททางสายเลือดนับว่าเป็นเรื่องใหญ่ เราควรจะเรียกคนอื่น ๆ ในครอบครัวมาด้วย”

ผู้เฒ่าตระกูลกล่าวอย่างสบาย ๆ “อยากจะเรียกใครก็เรียกเถอะ เป็นเรื่องดีที่เราจะบอกทุกคนว่าพบเจอลูกสาวของคุนหาวแล้ว”

เห็นผู้เฒ่าตระกูลกล่าวว่าเฮ่อหลานคือบุตรสาวแท้จริงของถังคุนหาว ใบหน้าของถังคุนเฉินถึงกับบิดเบี้ยวอย่างไม่พอใจ แต่เขาก็ไม่ได้โต้ตอบอะไร เพียงแต่เรียกสมาชิกทั้งหมดในตระกูล รวมไปถึงผู้เฒ่าคนอื่น ๆ มาเท่านั้น

ตระกูลถังสืบทอดกันมาหลายปีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตระกูลหลัก หรือตระกูลรอง ลูกหลานของพวกเขาเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นตระกูลถังจึงนับว่ามีสมาชิกจำนวนมาก และมีผู้อาวุโสถึงแปดคน

หลังจากถังซวงและคนอื่น ๆ มาถึงสถานที่ที่ผู้เฒ่าตระกูลบอกกล่าว หลานอี้ไป๋ ภรรยาของถังคุนเฉินก็เดินเข้ามาพร้อมกับลูกสาว ลูกเขย และหลานสาว ถังอวี้สือ

เหวินเจ๋อหลิ่วก็มาด้วยเช่นกัน

ทันทีที่ได้พบเจอกับถังซวง ใบหน้าของเธอกลายเป็นมืดมน อยากจะพูดบางอย่างแต่ว่าเห็นคนมากมายอยู่ในลานแห่งนี้ จึงทำใจกลืนทุกสิ่งอย่างลงท้องไป

ที่นี่ไม่มีโอกาสให้เธอได้พูด

ถังอวี้สือเพียงเหลือบมองถังซวงก่อนจะละสายตาไป

นับตั้งแต่ที่ล้มเหลวในวันนั้น พวกเขาก็คิดไว้แล้วว่าจุดจบเช่นนี้จะเกิดขึ้น คุณตาคิดจัดการเรื่องนี้ไว้แล้ว แต่สิ่งต่าง ๆ กลับพลิกผันจนไม่สามารถควบคุม แล้วตอนนี้ยังมีผู้เฒ่าตระกูลเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย พวกเขาจึงไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้เลย

หลานอี้ไป๋เหลือบมองหัวเฟยเฟิ่ง ก่อนจะเหลือบมองเฮ่อหลาน ถังซวงและถังเซวี่ยที่อยู่ข้าง ๆ กับหัวเฟยเฟิ่งตามลำดับ

เมื่อเห็นหน้าค่าตาของทั้งสาม แววตาของหลานอี้ไป๋เกิดประกายวูบไหว

ส่วนคนอื่น ๆ เมื่อเห็นหลานอี้ไป๋หันมองถังซวง ทั้งหมดก็หันกลับมองด้วยเช่นกัน

ส่วนพวกถังซวงเพิ่งได้ยินจากหัวเฟยเฟิ่งว่าผู้หญิงคนนั้นคือหลานอี้ไป๋ซึ่งเป็นภรรยาของถังคุนเฉิน หล่อนค่อนข้างสวยและดูอ่อนเยาว์เลย แต่หน้าตาของหล่อนก็ยังตามหลังหัวเฟยเฟิ่งอยู่มาก

แม้หัวเฟยเฟิ่งจะมีเส้นผมสีขาว แต่ใบหน้ากลับงดงามไร้ที่ติ ซึ่งหลานอี้ไป๋ไม่สามารถเทียบได้เลย

หลานอี้ไป๋เหลือบมองพวกเธอก่อนจะหันไปทางอื่น ยังไม่คิดจะพูดอะไร แต่ถังหวยรุ่ยผู้เป็นลูกสาวกล่าวขึ้น “คุณป้าคะ ผู้หญิงด้านข้างคุณคือลูกสาวของคุณจริง ๆ หรือคะ? ฉันได้ยินว่าลูกสาวของหล่อนเป็นเพื่อนร่วมชั้นของอวี้สือ บังเอิญจังเลยนะคะที่ลูกสาวของหล่อนอยู่ชั้นเรียนเดียวกันกับอวี้สือ แบบนี้คุณไม่คิดว่ามันบังเอิญไปหน่อยหรือคะ?”

ถังหวยรุ่ยเหลือบมองเฮ่อหลานด้วยแววตาเกรี้ยวกราด และแสดงความไม่เป็นมิตรชัดเจน

จู่ ๆ ผู้หญิงคนนี้ก็มาปรากฏตัวขึ้นในครอบครัวของเธอ และยังมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องอีกด้วย เธอไม่สามารถยอมรับมันได้ เธอคือหลานสาวเพียงคนเดียวของผู้เฒ่าถัง และควรจะได้รับมรดกทั้งหมดของตระกูลถัง อีกทั้งถังอวี้สือซึ่งเป็นลูกสาวของเธอก็สมควรได้เป็นผู้สืบทอดตระกูลถังในอนาคต ถ้าหากว่าเฮ่อหลานเป็นลูกสาวของถังคุนหาวจริง ๆ ก็ไม่มีใครรู้ว่าในอนาคตจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง

ผู้เฒ่าตระกูลหันมองถังหวยรุ่ยด้วยสายตาเย็นชาก่อนจะพูดขึ้นว่า “เธอมาที่นี่เพื่อรับชมว่าเฮ่อหลานเป็นลูกสาวของคุนหาวไม่ใช่หรือ? ฉันจะเป็นคนพิสูจน์มันเอง เพราะฉะนั้นเธอไม่ต้องพูดอะไร”

เห็นว่าผู้เฒ่าตระกูลต่อว่าตนอย่างไม่เกรงใจ สีหน้าของถังหวยรุ่ยกลายเป็นอับอาย เงียบปากลงและไม่พูดอะไรต่อ

หลังจากนั้น ผู้เฒ่าคนอื่น ๆ ก็มาถึง

เมื่อเห็นคนมาครบแล้ว ผู้เฒ่าตระกูลจึงกล่าวขึ้นว่า “เอาละ งั้นเรามาเริ่มกันเลย”

“พี่ใหญ่ พวกเรามีวิธีการอย่างนี้ด้วยหรือครับ? รีบแสดงมันเร็ว ๆ เถอะ พวกเราอยากเห็น” ผู้เฒ่าตระกูลที่สองมองพี่ใหญ่ของพวกเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็น และยิ่งกระตุ้นให้อีกฝ่ายรีบดำเนินการ

คนอื่น ๆ เองก็อยากรู้เช่นกัน สายตาของพวกเขาจับจ้องผู้เฒ่าตระกูลอย่างคาดหวัง

ผู้เฒ่าตระกูลโบกมือเรียกเฮ่อหลาน และสองพี่น้องถังซวงกับถังเซวี่ย “อาหลาน เธอกับลูกสาวมานี่หน่อย”

เฮ่อหลานและลูกสาวถูกเรียกตัวไป พวกเขาก้าวเข้าหาอีกฝ่ายช้า ๆ

ซึ่งจิงเจ้อหรงและคนอื่น ๆ รู้สึกไม่ค่อยวางใจ จึงเดินตามหลังไปด้วย

ผู้เฒ่าตระกูลหยิบกล่องใบหนึ่งออกมาแล้วหยิบสมุดตำรับสีเหลืองออกสู่สายตาทุกคน

“พี่ใหญ่ นี่คือ… ตำรับยา”

ตำรับยาเล่มนี้ถูกเก็บไว้โดยผู้เฒ่าตระกูล ยาทุกตัวที่ถูกบันทึกไว้ในนี้คือยาวิเศษ แต่ความจริงคือไม่มียาใดสามารถกลั่นออกมาได้ จึงไม่มีใครรู้เกี่ยวกับตำรับยาเล่มนี้ เมื่อเห็นว่าผู้เฒ่าตระกูลหยิบมันออกมา พวกเขาทั้งหมดรู้สึกสับสนขึ้นทันที

ผู้เฒ่าตระกูลพยักหน้าก่อนจะพูดต่อว่า “ใช่ นี่คือตำรับยา” เขาหันมองเฮ่อหลาน และเหลนทั้งสองคนของตัวเอง “ลองเข้ามาทีละคน มาดูกันว่าพวกเธอจะเปิดหนังสือเล่มนี้ได้ไหม”

ก่อนที่เฮ่อหลานจะได้เคลื่อนไหว ผู้เฒ่าตระกูลที่สองและสามเอ่ยปากอย่างสงสัย “พี่ใหญ่ ตำรับเล่มนี้จะเปิดไม่ออกได้ยังไง?”

ผู้เฒ่าตระกูลถึงกับหัวเราะออกมา

“ฉันเองก็ไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนเหมือนกัน เพราะตระกูลถังมีสายเลือดเข้มข้น แต่ว่าสิ่งที่เกี่ยวกับทักษะการแพทย์ของตระกูลถังจะเป็นเพียงทายาททางสายเลือดของตระกูลถังเท่านั้นที่เข้าถึงได้ ฉันค้นพบเรื่องนี้โดยบังเอิญว่าคนนอกไม่สามารถเปิดตำรับยาเล่มนี้ได้เลย มีแค่สายเลือดของตระกูลถังเท่านั้น”

หลังได้ยินแล้ว ทุกคนรู้สึกว่ามันน่าประหลาดใจเกินไป

แต่ผู้เฒ่าตระกูลไม่ได้พูดอะไรมากนัก เขาหันมองจิงเจ้อหรงก่อนจะพูดขึ้นว่า “เธอลองดูสิ”

กล่าวตามตรง จิงเจ้อหรงเองก็ไม่เชื่อเหมือนกัน เขาก้าวไปด้านหน้าก่อนจะเปิดหนังสือยาอย่างมั่นใจ แต่ว่า… เขาเปิดไม่ออก

“เอ่อ… แปลกจัง ทำไมเปิดไม่ได้”

สีหน้าของโม่เจ๋อหยวนเองก็เต็มไปด้วยความสงสัยเช่นกัน เขาจึงก้าวไปด้านหน้าเพื่อลองดู แต่ก็พบว่าเขาเองก็ไม่สามารถเปิดได้

ผู้เฒ่าถัง ถังคุนหาว และคนอื่น ๆ เผยสีหน้าประหลาดใจออกมา

ถังหวยรุ่ยเหลือบมองสามีของตัวเองก่อนจะกล่าวกับเนี่ยหลางว่า “ไปลองซิ”

เนี่ยหลางไม่ตอบกลับ เพียงก้าวไปด้านหน้า

เขาคิดว่าทุกคนคงเล่นตลกกัน แต่เมื่อเขาลองบ้าง เขากระชากมันอย่างแรงแต่ก็ไม่สามารถเปิดออกได้

“อะไรกัน… นี่เป็นไปได้ยังไง…”

เนี่ยหลางยิ่งไม่เข้าใจ หนังสือเล่มนี้อยู่ตรงหน้า แต่เขาไม่สามารถเปิดมันได้

หลังจากนั้นผู้เฒ่าตระกูลหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะก้าวไปด้านหน้าแล้วเปิดตำรับยาเล่มนี้อย่างง่ายดาย

“เอาละ อาหลาน พวกเธอก็ควรจะลองเปิดมันดู”

เฮ่อหลานเดินเข้าไปก่อน และเธอสามารถเปิดตำรับยาเล่มนี้ได้อย่างง่ายดาย

ถังซวงกับถังเซวี่ยเองก็เช่นกัน

เห็นอย่างนั้นแล้ว ผู้เฒ่าตระกูลจึงประกาศว่า “เฮ่อหลานคือบุตรสาวในสายเลือดของถังคุนหาว ถังซวงและถังเซวี่ยถือว่าเป็นหลานสาวในสายเลือดของถังคุนหาวด้วยเช่นกัน ทั้งสามคนคือทายาททางสายเลือดของตระกูลถังของพวกเรา”

เมื่อหลานอี้ไป๋ได้ยินอย่างนั้น มันก็เกิดแสงวูบวาบในแววตาของเธอ เธอเดินตรงไปด้านหน้าด้วยความไม่เชื่อถือ “ผู้เฒ่าตระกูล นี่มันคือหนังสืออะไรกัน ทำไมถึงไม่ให้ฉันลองบ้าง”

“ก็ลองดูสิ”

ผู้เฒ่าตระกูลเหลือบมองหลานอี้ไป๋ก่อนจะให้เธอลอง

ถ้าไม่ได้ลองด้วยตัวเอง เธอคงไม่เชื่อ เวลานี้หลานอี้ไป๋ก้าวไปด้านหน้าและพยายามเปิดมันอย่างเต็มที่

แต่ผลลัพธ์คือ เธอไม่สามารถเปิดมันได้

ผู้เฒ่าตระกูลที่สองและผู้เฒ่าคนอื่น ๆ มองดูตำรับยาเล่มนี้ด้วยความประหลาดใจก่อนจะพูดขึ้นว่า “พี่ใหญ่ ตำรับเล่มนี้ผู้ที่มีสายเลือดตระกูลถังเท่านั้นที่สามารถเปิดได้ หนังสือที่ยอดเยี่ยมอย่างนี้ เราควรจะศึกษามันให้ดีหรือเปล่า?”

ตามที่ผู้เฒ่าตระกูลที่สองกล่าว เขาหยิบตำรับออกจากมือของหลานอี้ไป๋และตรวจสอบมันด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตามเขาเคยอ่านเนื้อหาเหล่านี้ทั้งหมดแล้ว และพบว่ามันไม่มีอะไร

หลังจากอ่านไปสักครู่ ผู้เฒ่าที่สองก็หมดความสนใจในเนื้อหา ก่อนจะส่งมันคืนให้กับผู้เฒ่าตระกูล

คนอื่น ๆ อ่านมันเช่นกัน และรู้สึกเหมือนกับผู้เฒ่าตระกูลที่สอง ทุกคนคืนมันให้กับผู้เฒ่าตระกูลด้วยสีหน้าว่างเปล่า

หลังจากผู้เฒ่าตระกูลได้รับตำรับยากลับคืนมา เขากล่าวขึ้นเสียงดัง “เอาละ นับว่าเป็นเรื่องน่ายินดีที่พวกเราได้พบเจอกับลูกสาวของคุนหาวอีกครั้ง คืนนี้มาจัดงานเลี้ยงฉลองกันเถอะ!”

“อื้ม”

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

Status: Ongoing
การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนี่ผู้มั่งคั่งร่ำรวย เธอตื่นขึ้นมาในร่าง ‘ถังชวง’ เด็กสาวในยุค 70 ที่มีชีวิตแสนลำบากในตระกูลที่กขี่ทั้งเธอ แม่กับน้องสาว… แต่จากนี้เธอจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ เธอจะเป็นเศรษฐีนี่ให้ได้เลย! นิยายแปลเรื่อง การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนี่ผู้มั่งคั่งร่ำรวย [重返七零之空间小辣] ผู้แต่ง:钰儿 เรื่องย่อ: เธอเกิดใหม่มาในร่งของ ถังซวง’ เด็กสาวที่ถูกกใน ยุค 70!! แถมยังต้องมาเจอกับพ่อใจร้ายที่วัน ๆ เาแต่ทุบตี เธอเลยต้องวางแผนให้แม่หย่ากับพ่อเฮงซวยแบบนี้แล้วพาแม่กับน้องสาว ออกไปจากตระกูลปรสิตนี่ และหลังออกจากระกูล เธอก็มุ่งมั่นตั้งใจพาครอบครัวไปสู่เส้นทางเศรษฐีนี่ให้ได้ในสักวัน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท