ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 – ตอนที่ 465 แฟนฉันก็นั่งอยู่ข้างล่างนั่นด้วย

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ตอนที่ 465 แฟนฉันก็นั่งอยู่ข้างล่างนั่นด้วย

ตอนที่ 465 แฟนฉันก็นั่งอยู่ข้างล่างนั่นด้วย

เซี่ยอวี่กำลังจะก้าวลงจากเวที แต่แล้วประโยคดังกล่าวก็ดังขึ้นจากด้านล่าง ทำให้หล่อนต้องหยุดชะงักอยู่กับที่

ในห้องส่งยังเหลือผู้ชมที่ยังไม่ออกจากสถานที่ รวมถึงบรรดาพี่เลี้ยงที่ผู้เข้าประกวดแต่ละคนพามาด้วย รวมถึงคนที่ทำงานในส่วนอื่น ๆ อีกทั้งครอบครัวเย่ไป๋ก็ยังอยู่ที่นั่น ทำให้สถานการณ์เวลานี้เริ่มสับสนวุ่นวายยามเสียงของผู้ชายคนนั้นดังลั่นขึ้นมาจนทุกคนได้ยินชัดเจน

เซี่ยอวี่มองไปตามทิศทางของเสียง แล้วก็เห็นชายคนหนึ่งสวมหมวกแก็ป สวมเสื้อกั๊กลายพรางยืนอยู่ตรงหน้าเก้าอี้โซนผู้ชม ปีกหมวกของชายคนนั้นถูกดึงลงต่ำปิดหน้า จนไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของเขาได้ชัดเจน

หล่อนหัวเราะเบา ๆ “เลี้ยงดูเหรอ? คุณคิดว่าฉันไม่มีปัญญาขนาดนั้นเชียว?”

เสียงของชายคนนั้นฟังดูน่ากลัว “คุณเซี่ย ควันจะไม่เกิดเลยถ้าไม่มีไฟ คุณเองก็ยังไม่ยอมแต่งงานเสียที ดังนั้นคุณต้องมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่แน่ ๆ”

เซี่ยอวี่ยืนอยู่ที่นั่นอย่างสง่างามเฉิดฉาย ใบหน้าอันละเอียดอ่อนของหล่อนไม่แสดงอาการโกรธเคืองหรือไม่พอใจแต่อย่างใด หล่อนมองดูอีกฝ่ายและตอบกลับด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย “ประการแรก ฉันยังไม่แต่งงานเพราะฉันไม่อยากแต่งงาน ประการที่สอง ฉันอยู่ในวงการมาสิบหกปีแล้ว แสดงในภาพยนตร์หกเรื่อง ละครโทรทัศน์สี่เรื่อง ซึ่งทั้งสองเรื่องล้วนเป็นฉันที่ได้รับบทนำ และฉันยังเป็นนักแสดงอายุน้อยที่สุดที่ได้รับรางวัลดอกไม้ทองคำด้วย

การแสดงทั้งหมดของฉันถือเป็นการทำงานแลกค่าตัว ไม่ใช่เพื่อการกุศล ถ้าอย่างนั้นคุณช่วยคำนวณให้หน่อยได้ไหมคะว่าฉันได้รับเงินทั้งหมดเท่าไหร่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา? อีกอย่าง พี่ชายฉันก็เป็นทหารผ่านศึกที่ได้รับเหรียญตราเกียรติยศ น้องชายฉันก็เป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่หลายสาขา ฉันรวย สวย และมีชื่อเสียงโด่งดัง จินตนาการไม่ออกจริง ๆ ค่ะว่าฉันจะหาเสี่ยมาเลี้ยงดูตัวเองทำไม? ด้วยเงื่อนไขทั้งหมดที่กล่าวมา ไม่ทราบว่ามีเศรษฐีนักธุรกิจคนไหนหรือคะที่สามารถสนับสนุนฉันได้?

ประการสุดท้าย ฉันชอบผู้ชายที่ยังหนุ่มแน่น หล่อเหลา และมีความสามารถ ไม่ใช่ตาแก่หัวล้านมันเลื่อมพวกนั้น”

ชายสวมหมวกแก็ปไม่ยอมแพ้ ราวกับต้องการจะสร้างปัญหาให้หล่อนอย่างไม่รู้จบ “แต่เรายังได้ยินมาอีกว่า…”

เซี่ยอวี่ขัดจังหวะเขา “ใครเป็นคนพูดแบบนั้นคะ? กรุณาโทรหาบุคคลที่คุณแอบอ้างแล้วถามเขาต่อหน้าฉันที หรือไม่ก็เปิดเผยชื่อของนักธุรกิจที่เลี้ยงดูฉันมาตรง ๆ เลย อย่าเอาแต่ปั้นน้ำเป็นตัวและพยายามใส่ร้ายฉัน”

“คุณเซี่ย คุณไม่จำเป็นต้องรีบชี้แจงหรอก ผมมีเพื่อนสองสามคนที่อยู่ในฮ่องกง พวกเขาตรวจสอบความจริงเรื่องนี้ชัดเจนแล้ว ข่าวลือไม่แพร่ถ้าไม่มีมูลแน่นอน”

เสียงของชายคนนั้นดูจงใจแปลก ๆ ทั้งยังดังฟังชัดเพราะกลัวว่าคนอื่นจะไม่ได้ยิน น้ำเสียงเต็มไปด้วยเลศนัยและมั่นอกมั่นใจเต็มประดา ทำให้คนที่ได้ยินอดสงสัยไม่ได้

ลินดาขมวดคิ้วอยู่ด้านหลัง ตระหนักว่าชายคนนี้ที่จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นดูเหมือนไม่ใช่คนที่จะรับมือได้ง่าย ๆ

ขณะที่หล่อนกำลังจะเข้าไปช่วยเหลือ ก็ได้ยินเซี่ยอวี่พูดขึ้นก่อนว่า

“ในเมื่อคุณรู้ความลับของฉันมากขนาดนั้น แล้วรู้หรือเปล่าคะว่าวันนี้แฟนของฉันก็นั่งอยู่ข้างล่างนั่นด้วยเหมือนกัน?”

ทันทีที่เซี่ยอวี่พูดคำเหล่านี้ ผู้ชมทั้งหลายก็ตกตะลึง

ผู้ชมที่ถูกเจ้าหน้าที่เชิญออกไปยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติง ยังไม่อยากออกไปทั้งแบบนี้ พวกเขาซุบซิบกัน เงี่ยหูฟังสิ่งที่พวกเขาตอบโต้กันไปมาอย่างจดจ่อ

การตอบคำถามของเซี่ยอวี่ทำให้ทางสถานีโทรทัศน์อดประหลาดใจไม่ได้ พวกเขาไม่เข้าใจเลย ดาราทุกคนที่มาจากฮ่องกงมักจะตรงไปตรงมาแบบนี้เสมอเลยเหรอ?

ไม่ว่าอีกฝ่ายจะถามคำถามที่ชวนให้เสื่อมเสียอย่างไร หล่อนก็สามารถหักล้างและอธิบายเพื่อคืนความบริสุทธิ์ให้ตัวเองได้

นอกจากนี้ ตอนที่พวกเขาส่งจดหมายเชิญเซี่ยอวี่ ข้อมูลที่ผู้จัดการมอบให้พวกเขาก็คือสถานะของเซี่ยอวี่ยังโสด ทำไมจู่ ๆ หล่อนถึงประกาศออกสื่อว่าตนมีแฟนแล้ว?

ชายที่สวมหมวกแก็ปรู้สึกประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด ยกปีกหมวกขึ้นแล้วถามต่อ

“ถ้าสิ่งที่คุณพูดเป็นความจริง ไม่ทราบว่าคุณเซี่ยสะดวกไหมที่จะแนะนำแฟนหนุ่มของคุณให้ทุกคนรู้จัก?”

เซี่ยอวี่ปฏิเสธโดยตรง “ไม่สะดวกค่ะ เขาเป็นหมอที่อายุยังน้อย มีโปรไฟล์และอนาคตที่ดี แล้วเขาก็หล่อมากด้วย จริงสิ เขากำลังศึกษาอยู่ที่ภาควิชาประสาทวิทยาด้วยนะคะ ถ้าคุณต้องการ ฉันอาจจะแนะนำพวกคุณให้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว ถ้าลงทะเบียนล่วงหน้า ฉันอาจจะมอบส่วนลดให้เป็นกรณีพิเศษ”

คำพูดสุดท้ายของเซี่ยอวี่ ทำให้ทุกคนในกลุ่มผู้ชมหัวเราะร่วน

ชายสวมหมวกแก็ปลดปีกหมวกลงตามเดิมด้วยความอับอาย น้ำเสียงของเขาดูหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด “คุณเซี่ย คุณเป็นนักแสดง แน่นอนว่าต้องมีวาทศิลป์เป็นเลิศ เรื่องนี้ผมเทียบกับคุณไม่ได้ อย่างนั้นก็เถอะ ผมคิดว่าในเมื่อแฟนของคุณอยู่ในกลุ่มผู้ชมตรงนี้จริง เวลานี้เขาก็ควรแสดงตัว เพื่อให้เราทำความรู้จักกับเขา แทนที่จะฟังคุณพูดพล่ามเหมือนอ่านบทภาพยนตร์อยู่ฝ่ายเดียวอย่างนี้”

หลังจากที่ชายคนนั้นพูดจบ เขาก็มองไปยังหญิงสาวบนเวทีอย่างยั่วยุ

ลินดามั่นใจมากยิ่งขึ้นว่าคนคนนี้ไม่ใช่ผู้ชมธรรมดา และเขาก็ดูไม่เหมือนนักข่าวด้วย

เนื่องจากเขามีจุดมุ่งหมายที่จะทำลายหล่อน แถมทัศนคติยังก้าวร้าวมาก เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายจงใจเล่นงานหล่อน

ลินดาขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้านายของหล่อนที่ปกติมักจะแยกแยะเรื่องจริงกับเรื่องหลอกได้เสมอ ถึงจงใจประกาศความสัมพันธ์ของพวกเขาโดยตรง

หล่อนกับเย่ไป๋ไม่ได้คบกันเพื่อแสดงละครเท่านั้นเองเหรอ?

หรือว่าพวกเขาจะคบกันจริง ๆ?

เซี่ยอวี่กวาดสายตามองไปในกลุ่มฝูงชน เห็นผู้ชมจำนวนมากกำลังทยอยเดินออกจากห้องส่ง บางคนก็ยืนคอแข็งรอฟังข่าวซุบซิบ พร้อมกันนั้นเจ้าหน้าที่ของสถานีโทรทัศน์ก็กำลังเชิญพวกเขาออกไป

หล่อนมองไม่เห็นว่าแฟนที่ตัวเองเพิ่งจะปากลั่นอยู่ที่ไหน หรือว่าเขาจากไปแล้ว

ลำพังถ้ามีแค่ชายแปลกหน้าคนนี้ หล่อนย่อมไม่สนใจต่อปากต่อคำกับเขาเป็นธรรมดา ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่หล่อนจะทำตามคำขอเมื่อเขาท้าให้เธอเรียกแฟนขึ้นเวที

แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้น เพราะหล่อนรู้ว่าผู้กำกับเหยียนยังนั่งสังเกตการณ์อยู่ด้านล่าง

นอกจากนี้ยังมีสื่อมวลชนจากหนังสือพิมพ์และนิตยสารมากมายที่มาทำข่าวในห้องส่งด้วย

ถ้าแฟนตามคำบอกเล่าของหล่อนไม่ปรากฏตัวในวันนี้ ข่าวลือที่ว่าหล่อนมีเสี่ยเลี้ยงก็จะถือเป็นจริงจนหมดคำโต้แย้ง

นอกจากจะพลาดบทนางเอกแล้ว ชื่อเสียงของหล่อนในไห่เฉิงอาจจะลดฮวบอย่างไม่น่าให้อภัย

หล่อนอาจจะต้องเก็บกระเป๋ากลับบ้าน

เซี่ยอวี่เสียใจกับคำพูดพล่อย ๆ ที่ตนเพิ่งพูด มุมปากกระตุกเพราะเริ่มร้อนใจ

ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงกล้าพูดว่าแฟนของหล่อนก็อยู่ในกลุ่มผู้ชมวันนี้

ดูเหมือนว่า… หล่อนแค่พูดมันออกไปโดยไม่รู้ตัว ไม่มีการคิดไตร่ตรองผ่านสมองแต่อย่างใด

ตั้งแต่ได้เจอเขา สมองที่เคยปราดเปรื่องของหล่อนกลับปั่นป่วน

ลินดายังไม่ทันก้าวขาออกไปช่วยหล่อน ทันใดนั้นร่างสูงโปร่งก็เดินอย่างรวดเร็วไปทางเวที

เขาสวมกางเกงขายาวสีดำ เสื้อเชิ้ตสีขาว ผูกเน็คไท องค์รวมสะอาดสะอ้าน เต็มไปด้วยพลัง ทั้งยังหล่อเหลาและสง่างาม

ภายใต้การจ้องมองของทุกคน เขาเดินตรงไปหาเซี่ยอวี่และยืนอยู่เคียงข้างหล่อน

เขาไม่ได้แนะนำตัวตนของเขาโดยตรง แต่เอื้อมมือไปจับมือของเซี่ยอวี่ไว้

“สหายครับ แฟนผมสวมรองเท้าส้นสูงอยู่ การยืนนานเกินไปอาจส่งผลให้กล้ามเนื้อขาของหล่อนเมื่อยล้าโดยไม่จำเป็น พวกเราขอตัวลงไปพักผ่อนก่อน ถ้าคุณต้องการ สามารถไปที่โรงพยาบาลไห่เฉิงเพื่อตรวจสอบตัวตนของผมภายหลังได้”

หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็โอบประคองเซี่ยอวี่ กลับไปยังเลานจ์รับรองด้านหลัง

เมื่อเห็นร่างของชายหญิงที่สวยหล่อเหมาะสมกันราวสวรรค์สร้าง เสียงโห่ร้องก็ดังขึ้นจากฝั่งผู้ชม

“ว้าว คุณเซี่ยมีแฟนแล้วจริงด้วย”

“ฝ่ายชายก็เก่ง ฝ่ายหญิงก็สวยโลกตะลึง คุณเซี่ยนี่รสนิยมดีมากเลย”

“เขายังดูหนุ่มแน่นอยู่เลยนะ ฟังจากสำเนียงของเขาเหมือนจะเป็นชาวไห่เฉิงใช่ไหม?”

ผู้สื่อข่าวที่สะพายกล้องอยู่ท่ามกลางกลุ่มผู้ชม พยายามยกกล้องขึ้นถ่ายเพื่อเก็บภาพเหตุการณ์ดังกล่าว

เมื่อพวกเขาเดินมาถึงด้านหลังเวที ลินดาและหลินเซี่ยกำลังจะทักทายเขา แต่เมื่อเห็นว่าเย่ไป๋โอบหล่อนไว้อย่างแข็งแกร่ง พวกเธอก็มีไหวพริบมากพอ ไม่ทำตัวเป็นก้างในเวลาที่ไม่ถูกไม่ควร ยืนนิ่งอยู่ที่นั่นโดยไม่ขยับตัว

เย่ไป๋พาเซี่ยอวี่เดินหลบนักข่าวมาถึงบริเวณเลานจ์รับรอง ก่อนที่เขาจะพูดอะไร จู่ ๆ โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น

เขาปล่อยมือจากเซี่ยอวี่ แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาจากเอว

ไม่แน่ใจว่าปลายสายพูดอะไร แต่ใบหน้าหล่อเหลาของเขากลับเปลี่ยนสีเล็กน้อย “ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้”

เขาวางโทรศัพท์แล้วมองไปที่เซี่ยอวี่ “มีเรื่องด่วนที่โรงพยาบาล ผมขอตัวก่อน”

หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็รีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วก่อนที่เซี่ยอวี่จะพูดอะไร

เซี่ยอวี่มองตามชายที่เข้าหาตนและจากไปอย่างกะทันหันราวสายลมพัดผ่าน จากนั้นเหลือบมองแขนข้างที่เคยถูกเขาพยุงไว้ สีหน้าเปลี่ยนจากสับสนเป็นสูญเสีย

เขารีบไปไหนกัน?

เมื่อกี้นี้เขาเพิ่งจะมาช่วยหล่อนแก้ไขสถานการณ์เองไม่ใช่เหรอ?

อีกอย่าง เมื่อคืนหล่อนเพิ่งจะปฏิเสธเขาอย่างเด็ดเดี่ยว นับว่าเขายังมีน้ำใจที่เข้ามาช่วยเหลือหล่อนจากสถานการณ์คับขันไว้อีกครั้ง

ลินดาและหลินเซี่ยหลบอยู่ข้างหลังอย่างเงียบ ๆ ต้องการให้โอกาสพวกเขาได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง จนกระทั่งพวกเธอเห็นเย่ไป๋รีบเดินพรวดพราดจากไป จึงไม่มีทางเลือกนอกจากเดินกลับเข้าไปในห้อง

เซี่ยอวี่เดินไปมาอยู่หลังเวทีด้วยใบหน้าบูดบึ้ง เต็มไปด้วยความสับสน

ลินดาลากเก้าอี้ออกมาให้หล่อนนั่ง แล้วพูดอย่างจริงจัง

“ผู้ชายไร้มารยาทเมื่อกี้นี้อาจเป็นคนที่คู่แข่งของคุณส่งมาเพื่อทำลายชื่อเสียงของคุณ”

เซี่ยอวี่ถอดต่างหูคู่ใหญ่ออกจากใบหู มองตัวเองในกระจก พูดด้วยท่าทางสงบ “ไม่เป็นไร ฉันเคยเจอเรื่องประเภทนี้มาบ่อยแล้ว”

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

หมอเย่มากู้สถานการณ์ได้ทันเวลาพอดีเลยค่ะ จังหวะมันเป็นใจมากๆ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

Status: Ongoing
เมื่อสวรรค์ได้ให้โอกาสเธอย้อนกลับมาแก้ขในสิ่งที่ผิดพลาด เธอจะใช้โอกาสนี้เป็นช่างเสริมสวยยอดฝีมือให้ได้ตามฝันอย่างไรกันนะ?เรื่องย่อ : ในชาติก่อน หลินเ เป็นสไตสต์คนโง่ผู้ร้ความคิดป็นของตัวเอง จึงถูกดาราดาวรุ่งผู้เป็นเพื่อนสนิทวางแผนทำลายชีวิตจนพังพินาศ ไร้ซึ่งเครดิต ไร้ซึ่งอำนาจ และหน้ามืดตามัวทิ้งสามีพ่อม่ายลูกติดที่คอยสนับสนุนมาตลอดได้ลงค แต่เหมือนสวรรค์ยังคงเห็นใจต่ชะตาชีวิตอันรันทดของเธอ จึงทำให้เธอได้ย้อนกลับมาเกิดใหม่ในปี 1988 อันเป็นปีที่ทุกอย่างยังไม่สายเกินกว่าแก้ หลินเชี่ยจะใช้โอกาสที่ได้มีชีวิตครั้งที่สองเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตัวเองอย่างไรบ้าง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท