บทที่ 601 งานแรก
บทที่ 601 งานแรก
ทันทีที่ถังซวงและพานลี่ฮวามาถึงร้าน พวกเขามองดูสภาพแวดล้อมตรงหน้า ขณะเดียวกันถังซวงก็เริ่มพูดถึงสิ่งที่เธอคิดไว้ว่าจะตกแต่งมันอย่างไร และสภาพแวดล้อมที่นี่ควรจะเป็นอย่างไร
พานลี่ฮวาตั้งใจฟังก่อนจะกล่าวขึ้นอย่างเสียดาย “ถ้าป้ารู้ตั้งแต่แรก จะพาลูกพี่ลูกน้องของเธอมาด้วย เราคงจะให้เขาช่วยออกแบบได้”
ถังซวงยิ้มก่อนจะหยิบพิมพ์เขียวออกมา “คุณป้าคะ เรามีพิมพ์เขียวของที่นี่แล้วค่ะ คุณลองดูก่อนสิ”
หลังจากพานลี่ฮวาเห็นแล้วเธอเผยสีหน้าประหลาดใจ
“มีพิมพ์เขียวแล้วหรือ? ซวงเอ๋อร์ เธอไปเตรียมมันตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
ถังซวงไม่ได้อธิบายอะไรมาก เพียงส่งภาพให้กับพานลี่ฮวาแล้วถามว่า “คุณป้าลองดูก่อนค่ะว่ามันดีไหม”
พานลี่ฮวารับพิมพ์เขียวไปดูโดยตรง
แม้เธอจะไม่ค่อยสันทัดในเรื่องนี้มากนัก แต่ลูกชายของเธอเป็นสถาปนิก เพราะเหตุผลนี้เธอเลยพอจะมีความรู้อยู่บ้าง เมื่อเห็นการออกแบบที่เรียบง่ายและดูดีบนพิมพ์เขียวนี้ เธอพยักหน้ารับด้วยความพอใจ “ซวงเอ๋อร์ มันดีมากเลย ป้าชอบมันมาก”
ในตอนท้ายเธออดไม่ได้ที่จะถามขึ้นว่า “ซวงเอ๋อร์ ใครเป็นคนออกแบบสิ่งนี้หรือ?”
ถังซวงมองพานลี่ฮวาด้วยรอยยิ้ม “คุณป้าคะ คุณไม่ลองเดา ๆ ดูล่ะ เป็นคนที่คุณป้ารู้จักดีค่ะ”
ได้ยินถังซวงพูดอย่างนั้นแล้ว พานลี่ฮวานึกครุ่นคิดอยู่ในใจ
คราวแรกเธอคิดถึงลูกชาย แต่ก็รีบสลัดเขาออกไปจากสมองอย่างรวดเร็ว
ถ้าลูกชายของเธอเป็นคนออกแบบ เขาจะต้องบอกเธอแล้ว “อืม ป้ารู้จักเขาด้วยหรือ?” พานลี่ฮวาคิดไม่ตก แต่ไม่นานนักเธอก็นึกได้ว่าลูกชายของเธอเคยมอบหนังสือให้กับถังเซวี่ยมากมาย เวลานี้เธอหันมองถังซวงด้วยความประหลาดใจ “ซวงเอ๋อร์ หรือว่าจะเป็น… เสี่ยวเซวี่ย?”
“ใช่ค่ะ เป็นเสี่ยวเซวี่ย”
ถังซวงยิ้มพร้อมกับพยักหน้า แววตาของเธอเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ คราวแรกเธอบอกให้ถังเซวี่ยทราบถึงสิ่งต่าง ๆ และอยากจะลองจินตนาการร่วมกัน ทันทีที่เธอบอกกล่าวกับถังเซวี่ยว่าเธออยากได้แบบไหน และต้องการอะไร ถังเซวี่ยก็เริ่มลงมือวาด ตัวเธอเองก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าถังเซวี่ยจะวาดภาพได้ดีขนาดนี้
เห็นถังซวงยอมรับอย่างนั้น พานลี่ฮวาเองก็ยิ้มกว้างอย่างปลาบปลื้มใจ
“เสี่ยวเซวี่ยของเราเก่งมากจริง ๆ เธอฝึกฝนนานแค่ไหนกันถึงจะวาดภาพได้ดีขนาดนี้ ตอนเจียรุ่ยอายุเท่าเสี่ยวเซวี่ย เขายังไม่เก่งมากขนาดนี้เลย”
ถังซวงได้ยินแล้วรีบโต้แย้ง “ลูกพี่ลูกน้องของหนูก็เก่งมากค่ะคุณป้า หลังจากที่เสี่ยวเซวี่ยวาดภาพนี้แล้ว หนูก็ให้เขาช่วยปรับแต่งหลายอย่าง ช่วยแก้ไขจุดบกพร่องให้ทั้งหมดเลยค่ะ”
“ไม่หรอก สุดท้ายภาพนี้ถูกสร้างขึ้นจากเสี่ยวเซวี่ย เพราะฉะนั้นเสี่ยวเซวี่ยจึงเก่งมาก”
พานลี่ฮวารู้สึกได้ว่าหลานสาวทั้งสองคนนี้น่าทึ่งจริง ๆ
เพราะภาพวาดทำให้เรื่องการตกแต่งถูกตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ถังซวงจึงคิดจะให้ซุนเฉียนซีเป็นผู้จัดการร้านแห่งนี้ในอนาคต เพราะฉะนั้นเธอจึงยกทุกอย่างให้ซุนเฉียนซีเป็นคนจัดการ
ส่วนพานลี่ฮวาไม่ได้คัดค้านใด ๆ ก่อนจะพยักหน้ารับ “จ้ะ ป้าจะให้เฉียนซีจัดการ เดี๋ยวป้าคุยกับเธอเอง”
หลังจากซุนเฉียนซีได้ทราบเรื่องทั้งหมดแล้ว ก็พยักหน้ารับโดยไม่ลังเล “ได้ค่ะคุณถัง คุณพาน ช่วงนี้ฉันจะอยู่ที่เมืองเผิงและดูแลทุกอย่างจนกว่าจะเรียบร้อย”
ได้ยินซุนเฉียนซีพูดอย่างนั้น พานลี่ฮวาตบบ่าของเธอเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “ดีมาก ฉันบอกกล่าวกับทีมก่อสร้างแล้วว่าคุณจะเป็นคนดูแลที่นี่”
“ค่ะ”
ซุนเฉียนซีพยักหน้ารับจริงจัง
เวลานี้ถังซวงคิดว่าซุนเฉียนซีเป็นผู้หญิง และทีมงานก่อสร้างทั้งหมดเป็นผู้ชาย เธอจึงรู้สึกว่ามันไม่ค่อยเหมาะสมนักหากจะให้ซุนเฉียนซีอยู่คนเดียว
พานลี่ฮวาเองก็คิดแบบนั้น เธอหันมองถังซวงด้วยดวงตาเปล่งประกายก่อนจะพูดว่า “ซวงเอ๋อร์ เธอก็มีคนเตรียมพร้อมอยู่แล้วไม่ใช่หรือ ป้าคิดว่าคนที่เธอพามาด้วยคราวนี้ไม่เลวเลย ป้าคิดว่าควรแบ่งคนมาอยู่กับซุนเฉียนซีเพื่อความปลอดภัยนะ แล้วไม่ต้องห่วง ป้าจะจ่ายตามราคาที่เธอตั้งไว้โดยไม่ขอส่วนลดเลย”
ถังซวงตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยินอย่างนั้น ความจริงแล้วเธอไม่ได้คิดไว้แบบนี้
พานลี่ฮวาไม่ให้โอกาสถังซวงตอบอะไรเลย เธอตัดสินใจเรื่องนี้โดยตรง “เอาละ ซวงเอ๋อร์… ไม่ต้องพูดอะไรหรอก เดี๋ยวเธอจัดคนให้กับเฉียนซีได้เลย แล้วป้าจะจ่ายเงินให้”
“คุณป้าคะ ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินให้หรอกค่ะ เราคือเจ้าของร้านร่วมกัน และหนูเองก็เป็นเจ้าของบริษัทใหม่นี้ด้วย”
พานลี่ฮวาส่ายศีรษะ “ไม่ได้ พวกเรากำลังทำธุรกิจอยู่”
ถังซวงปฏิเสธอีกครั้ง แต่พานลี่ฮวายังคงไม่ยอมแพ้และต้องการจัดการตามกระบวนการ สุดท้ายถังซวงจึงไม่ได้เอ่ยอะไรอีก และหันไปหาฉีเสียนว่าใครยินดีอยู่ที่นี่บ้าง
“นี่เป็นงานแรกของบริษัทรักษาความปลอดภัยจงเฉิงของพวกเรา แม้ว่าจะเป็นงานเล็ก ๆ แต่ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี คุณควรจะคุยกันว่าใครจะอยู่รักษาความปลอดภัยให้กับซุนเฉียนซี”
ฉีเสียนหันมองถังซวงก่อนจะถามขึ้นว่า “เถ้าแก่ ใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะได้กลับเมืองหลวงหรือครับ?” แน่นอนว่าถ้าหากใช้เวลานานเกินไปเขาคงไม่ยินดีนัก เพราะเขาคิดถึงเหยาหงและฉีซีลูกชายของตนมาก แต่นี่ก็เป็นงานของเขาด้วย หากมันจำเป็นเขาก็จะต้องอยู่ที่นี่
ถังซวงพยักหน้าก่อนจะตอบว่า “อื้ม จะไม่ได้กลับเมืองหลวงจนกว่าการตกแต่งจะเสร็จสิ้น น่าจะใช้เวลานานพอสมควร”
ก่อนฉีเสียนจะพูดต่อ ลู่ต้าหู่ยกมือขึ้น “เถ้าแก่ ให้ผมอยู่ที่นี่เถอะครับ ผมจะปกป้องสหายเฉียนซีเอง” แน่นอนว่าเขาทราบถึงความกังวลในใจของพี่ชาย และสำหรับเขามันแตกต่างออกไป เขายังไม่มีครอบครัว ไม่มีอะไรต้องกังวล
เห็นว่าลู่ต้าหู่ยินดีรับงาน ถังซวงพยักหน้า “เอาละ อย่างนั้นฝากคุณด้วย นับตั้งแต่พรุ่งนี้คุณเริ่มติดตามซุนเฉียนซีได้เลย”
“ครับ”
ลู่ต้าหู่ไม่คัดค้านก่อนจะตอบรับโดยตรง
หลังจากนั้นถังซวงก็พูดขึ้นว่า “งานของลู่ต้าหู่เรียบร้อยแล้ว ส่วนคนอื่น ๆ ไปพบคุณเฟ่ยกับฉันพรุ่งนี้เช้า”
“ครับ”
หลังจากถังซวงจากไปแล้ว ทุกคนเข้าล้อมลู่ต้าหู่
“ต้าหู่ กว่าจะตกแต่งร้านเสร็จคงใช้เวลาเป็นเดือน คุณต้องอยู่ที่นี่คนเดียวนะ”
ลู่ต้าหู่กล่าวออกมาอย่างไม่แยแส “อะไรกัน? ต่อให้อยู่หนึ่งปีก็ไม่เป็นไร ที่นี่มีอาหาร และที่พัก อีกอย่างหน้าที่ของฉันคือการปกป้องสาวงาม งานนี้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว”
“ฮ่าฮ่าฮ่า…”
คนอื่น ๆ เองหัวเราะออกมาหลังได้ยินคำพูดนั้น
ฉีเสียนตบบ่าของลู่ต้าหู่ “ต้าหู่ ขอบคุณที่ตั้งใจทำงาน” ถ้าหากลู่ต้าหู่ไม่ยินดีรับงานไว้ ตนเองก็คงจะต้องรับงานนี้เพราะเขาคือหัวหน้างาน ส่วนตัวแล้วเขาก็ไม่คิดว่าลู่ต้าหู่จะตอบรับอย่างรวดเร็วด้วย
“พี่ใหญ่ จะคิดอะไรมากมายล่ะ? พรุ่งนี้ผมจะปกป้องสหายซุนเอง ส่วนคุณติดตามเถ้าแก่ไปเถอะ”
วันรุ่งขึ้น ถังซวงพาฉีเสียนและคนอื่น ๆ ไปพบเฟ่ยไห่ชางที่เดินทางมาจากเมืองก่างเฉิง
“ผู้นำโถง คุณมาได้เวลาพอดีเลย มีงานเข้ามาพอดี”