Invincible โลกอมตะ – ตอนที่ 196

ตอนที่ 196

ตอนที่ 196 โลกเทวะ

“ได้ข่าวของนักรบแห่งพระเจ้าแล้วงั้นหรอ?”แทนที่จะมีความสุขหวงเสี่ยวหลงกับประหลาดใจออกมาแทน

 

จ้าวชูก็พยักหน้าในขณะที่พูดออกมาว่า “ตามที่ต้วนเริ่นได้บอกมา นักรบแห่งพระเจ้านี้ได้ปรากฏขึ้นมาเมื่อ 100 ปีก่อน แต่พวกมันกลับทำตัวลึกลับ แม้กระทั่งต้วนเริ่นก็ยังไม่รู้ว่าฐานบัญชาการของพวกมันอยู่ที่ใหนกัน ทั้งหมดที่ต้วนเริ่นรู้ก็คืออาจารย์ของพวกนักรบแห่งพระเจ้านั้นเป็นผู้หญิงที่มีความแข็งแกร่งที่ยากจะหยั่งถึง ทุกๆ 10 ปี  นักรบแห่งพระเจ้าพวกนี้ก็จะเลือกรับศิษย์ทั้งหมด 10 คนจากทวีปหิมะโปรยปราย สิ่งที่พวกมันกล่าวไว้ก็คือ ผู้ที่ถูกเลือกให้กลายเป็นศิษย์กลุ่มนักรบแห่งพระเจ้านั้นจะได้รับโอกาสในการบ่มเพาะในเทวะ!”

 

เพราะหวงเสี่ยวหลงทนฟังชื่อสัตว์เลี่ยงว่าลิงเหลืองไม่ได้ เขาก็เลยให้จ้าวชูเปลี่ยนไปเรียกจักรพรรดิต้วนเริ่น

 

“อะไรนะ?!โลกเทวะ?!”หวงเสี่ยวหลงก็ตื่นตระหนกจนดวงตาเบิกกว้างราวกับดวงจันทร์

 

โลกใบนี้มีมิติอื่นที่เรียกว่าโลกเทวะด้วยงั้นหรอ?

 

ในชีวิตที่แล้วบนโลกของเขา  ในนิยายแฟนตาซีหลายเรื่องมักจะกล่าวงถึงโลกหลายประเภทที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่น ดินแดนเทวะ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่พวกนั้นมันก็แค่นิทานปรัมปรา

 

จ้าวชูก็พยักหน้ายืนยันแล้วพูดเพิ่ม “ที่จริงแล้ว โลกจิตวิญญาณต่อสู้ที่เราอาศัยอยู่ในตอนนี้ก็เป็นเพียงมิติระดับต่ำ มีมีมิติมากมายที่สามาอาศัยอยู่ได้ซึ่งมิติพวกนี้เป็นมิติที่มีระดับสูงกว่าโลกจิตวิญญาณต่อสู้ของพวกเราซะอีก และหนึ่งในนั้นก็คือโลกเทวะ แต่การเดินทางไปโลกเทวะได้นั้น คนๆนั้นจะต้องเปิดอุโมงค์มิติเชื่อชมต่อกับโลกเทวะซะก่อน  ข้าไม่คิดเลยว่านักรบพระเจ้าพวกนี้จะสามารถเปิดอุโมงค์มิติเชื่อมต่อได้!”

 

ท่าทางของจ่าวชูก็ดูจริงจังขึ้นในขณะที่เขาพูดต่อ “อย่างไรก็ตาม การจะเปิดอุโมงค์มิติเชื่อมต่อกับโลกเทวะนั้นไม่ใช่สิ่งที่ผู้ฝึกตนขั้นเทวะธรรมดาๆจะสามารถทำได้ แม้ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นเทวะระดับ 10 สูงสุดก็ยังต้องใช้ความพยายามอย่างมาก นอกจากผู้เชี่ยวชาญขั้นเทวะระดับ 10 สูงสุดหลายคนช่วยกัน หรือใช้ค่ายอาคมโบราณ มันก็ยังมีโอกาสจะเปิดอุโมงค์มิติไปยังโลกเทวะ! นอกจากนั้นแล้ว ก็มีเพียงผู้ฝึกตนระดับพระเจ้าเท่านั้นที่สามารถทำเรื่องแบบนี้ได้!”

 

หวงเสี่ยวหลงก็รู้สึกประหลาดใจมากหลังจากที่ฟังคำอธิบายจากจ้าวชู จากที่กล่าวมความแข็งแกร่งของนักรบพระเจ้าก็คงจะมากล้นแน่นอน

 

“แล้วเมื่อไหร่นักรบพระเจ้าจะทำการคัดเลือกศิษย์หล่ะ?”ในจังหวะนั้น หวงเสี่ยวหลงก็ถามขึ้น

 

จ้าวชูก็ประหลาดใจแต่ก็รีบสำรวมกิริยาอย่างรวดเร็ว “ประมาณ 6ปีหลังจากนี้ จากสิ่งที่ต้วนเริ่นพูด เงื่อนไขนึงในการจะเป็นศิษย์ที่ได้รับก็เลือกจะต้องเป็นคนที่เป็นเจ้าของจิตวิญญาณต่อสู้ที่มีพรสวรรค์อันดีเลิศ และอีกเงื่อนไขก็คือผู้สมัครจะต้องมีความแข็งแกร่งอยู่ในขั้นนักรบเหนือธรรมชิตระดับ 10 หรือสูงกว่า”

 

นักรบเหนือธรรมชาติระดับ 10หรือสูงกว่า!

 

หวงเสี่ยวหลงก็ขมวดคิ้วแน่น

 

อย่างไรก็ตาม มันเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะทะลวงเข้าสู่ขั้นนักรบเหนือธรรมชาติระดับ 10 ในเวลา 6ปี  หากนับรวมกับโอกาสที่เขาจะได้รับไข่มุกวิญญาณมาด้วยแล้วเพิ่มความเร็วในการบ่มเพาะในเร็วมากขึ้น มันก็ยังห่างไกลจากเงื่อนไขอยู่ดี!

 

การต้องการเข้าไปในกลุ่มนักรบพระเจ้านี่แน่น่อว่าไม่ใช่เพื่อการบ่มเพาะ แต่เพื่อหลี่ลู่ต่างหาก!

 

พอปล่อยวางอารมณ์ออกไป หวงเสี่ยวหลงก็สอบถามข้อมูลของนักรบพระเจ้าจากจ้าวชู

 

จ้าวชูตอบคำถามออกมาที่ละคำ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่เขาได้จากต้วนเริ่นนั้นมันก็ไม่ได้มากมายอะไร ดังนั้น สิ่งที่จ้าวชูสามารถตอบคำถามของหวงเสี่ยวหลงได้ก็ยังมีขีดจำกัดอยู่ดี

 

ผ่านไปไม่นาน จ้าวชูก็ออกไป

 

ความมือค่อยๆคลืบคลานไปทั่วท้องฟ้า

 

คืนนี้เป็นคืนที่ไร้ดวงจันทร์ ท้องฟ้าด้านบนดูราวกับไม่มีสิ่งใดยิ่งกว่ามหาสมุทรที่ไม่มีจุดสิ้นสุด

 

หวงเสี่ยวหลงยืนอยู่ด้านนอกสวนหญ้าและจ้องมองความมืดมิด

 

ภาพของหลี่ลู่ก็ปรากฏขึ้นในจิตใจของหวงเสี่ยวหลงที่ละภาพ เมื่อเธอได้ยิ้มก็มีลักยิ้มอันน่ารักปรากฏขึ้นบนแก้มของเธอซึ่งเป็นรอยยิ้มที่อ่อนหวานและงดงาม และดวงตาอันน่าหลงไหลที่ทำให้ไม่สามารถเหล่ตาออกไปใหนได้เลย

 

3ปีผ่านไปตั่งแต่หวงหมินได้อธิบายว่าหลี่ลู่ได้ถูกหญิงงามคนนึงอุ้มไป ใน3ปีนี้ไม่ว่าเขาจะพักผ่อนหลังจากบ่มเพาะหรือการนอนในเวลากลางคืน เขาก็ยังคงคิดถึงหลี่ลู่

 

ผ่านไป3 ปี  แต่ใบหน้าของหลี่ลู่ก็ยังไม่จางไปหายไปจากความทรงจำ แต่มันกลับปรากฏขึ้นมาภายในใจของเขาอย่างชัดเจน ในตอนนี้ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าในจิตใจของเขามีให้แต่หลี่ลู่

 

“หลี่ลู่”หวงเสี่ยวหลงขานชื่อเธอออกมาอย่างอ่อนโยน

 

จู่ๆความเจ็บปวดก็ถามโถมเข้าใส่จิตใจของเขา เขาไม่ควรจะให้ยัยผู้หญิงคนนั้นเอาหลี่ลู่ไปเลย  แม้ว่าจะคิดอย่างนั้นแต่เขาก็ไม่สามารถหยุดได้ตามที่เขาต้องการ ไม่ต้องกล่าวถึงตอนนั้น แม้แต่ตอนนี้เขาก็ยังเป็นคนที่ไร้พลัง ยัยผู้หญิงคนนั้นอย่างน้อยก็คงจะเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นเทวะ ด้วยการที่มีนักรบแห่งพระเจ้าหนุนหลังหากเธอต้องการเอาใครกลับไป  จักรวรรดิทั้งหมดในทวีปหิมะโปรยปรายก็ไม่มีพลังพอจะหยุดเธออยู่ดี

 

พลัง!

 

ความแข็งแกร่ง!

 

สุดท้ายแล้วพลังและความแข็งแกร่งก็เป็นสิ่งที่กำหนดทุกสิ่ง

 

แรงกดดันอันยิ่งใหญ่ของเทพอสูรก็ปะทุออกมจากร่างกายของหวงเสี่ยวหลง ทำให้สนามหญ้าในคืนที่ไร้ดวงจันทร์นี้อบอวลไปด้วยกลิ่นอายสังหาร

 

ครู่ต่อมา ก็มีแสงสว่างกระพริบขึ้น แล้วเหรียญสีทองก็ได้ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือ

 

เหรียญสีทองนี้เป็นสิ่งที่จ้าวชูได้รับมาจากต้วนเริ่น ด้วยสิ่งนี้ หวงเสี่ยวหลงก็จะเข้าแล้วออกในเขตในของสถาบันต้วนเริ่นได้อย่างง่ายดาย

 

ไข้มุกวิญญาณ!

 

ไม่ว่าจะมีสิ่งใดขัดขวางทางของเขา เขาก็จะต้องหาไข่มุกวิญญาณให้เจอและหยิบยืมพลังจากสมบัติสวรรค์ระดับที่ 3 เพื่อเพิ่มความเร็วในการบ่มเพาะแล้ความแข็งแกร่งให้ได้

 

แสงยามเช้าได้สาดส่องมาทำให้ผิวรู้สึกอบอุ่น

 

หวงเสี่ยวหลงได้เดินออกมาจากคฤหาสน์เนินเขาทิศใต้และมุ่งหน้าไปสถาบันต้วนเริ่น

 

พอมาถึงสถาบันต้วนเริ่น หวงเสี่ยวหลงก็เดินตรงเข้าไปในพื้นที่เขตใน พื้นที่เขตในนั้นแตกต่างออกไปเมื่อทเยบกับเขตนอกซึ่งมันมียามเฝ้าอยู่ทางเข้า

 

เมื่อหวงเสี่ยวหลงจะเข้าไป ยามที่เฝ้าอยู่ก็มาขวางทางเขาไว้ทันที

 

กลุ่มยามพวกนี้มีทั้งหมด 11 คนซึ่งคนที่อยู่ด้านหน้าของพวกนี้ก็คือผู้เชี่ยวชาญที่เป็นชายวัยกลางคนอายุประมาณ 40 กว่าซึ่งไว้เคราแพะ

 

ชายเคราแพะวัยกลางคนก็มองตรวจสอบหวงเสี่ยวหลงอย่างเย็นชา “ใอ้หนู ในฐานะที่แกเป็นนักศึกษาฝ่ายนอก แกคงไม่รู้หรอกว่านักศึกษาฝ่ายน้อกไม่ได้รับอนุญาติให้เข้าไปในพื้นที่ฝ่ายใน? ผู้บุกรุกจะถูกลงโทษโดยการถูกมีดแทง 10คร้ง!”

 

มีดแทง10ครั้ง!

 

นั่นหมายความว่าผู้บุกรุกที่ก้าวเข้าไปจะถูกลงโทษโดยการฟันโดยใช้มีด สิ่งที่ต้องโดนก็คือการถูกปลายมีดทิ่มแทงตามร่างกายที่ละอันนั่นก็ถือว่าลงโทษเสร็จแล้ว

 

“ไปถอดชุดของใอ้เด็กคนนี้ออกซะแล้วให้มันได้ลิ้มรสการลงโทษด้วยมีดทั้ง 10!”ชายเคราแพะวัยกลางคนก็หันไปมองด้านหลังแล้วสั่งหนึ่งในยามที่อยู่ด้านหลัง

 

“ได้ขอรับ หัวหน้าหยาง!”

 

เมื่อยามคนนั้นจะก้าวออกมา หวงเสี่ยวหลงก็ชูมือขึ้นโชว์เหรียญทองอันเปร่งประกาย การกระทำของหวงเสี่ยวหลงนั้นได้บดบังการมองเห็นของยามทั้งหมด ซึ่งมันเลยทำให้เขาก้าวถอยหลังไป

 

ยามที่เหลือก็ต่างตื่นตระหนกในขณะที่พวกเขาจ้องมองเหรียญตราสีทองในมือของหวงเสี่ยวหลง

 

“เหรียญตราของท่านจักรพรรดิ!”

 

“นี่คือเหรียญตราของท่านจักรพรรดิไม่ผิดแน่นอน”

 

ชายเคราแพะวัยกลางคนก็มึนงงในขณะที่เขามองไปที่เหรียญตราที่เปร่งประกายแสงสีทอง

 

“ยินดีที่ได้รู้จักนายท่านผู้ถือครองเหรียญตรา!”

 

ก่อนที่เขาจะรู้สึกตัว ทหารยามที่เหลือก็คุกเข่าทำความเคารพ

 

ไม่ว่าจะเป็นใครตราบที่เห็นคนที่ถือเหรียญตราอันนี้ ทุกคนจะต้องคุกเข่าทำความเคารพแล้วเรียกคนๆนั้นว่านายท่านผู้ถือครองเหรียญตรา นี่คือกฎที่ต้วนเริ่นเป็นคนตั้งขึ้น

 

พอตื่นจากภวังค์ ชายเคราแพะก็คุกเข่าอย่างรวดเร็ว “ยินดีที่ได้พบนายท่านผู้ถือครองเหรียญตรา!”

 

หวงเสี่ยวหลงก็พยักหน้าแล้วก้าวเดินเข้าไปฝ่ายใน อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาผ่านชายเคราแพะวัยกลางคนไป เขาก็ได้พูดออกมาว่า “เคราแพะของเจ้านี้ดูดีเหมือนกันนะ หัวหน้าหยาง  มันเข้ากับชื่อเจ้าดีเหมือนกัน!”

 

ชายเคราแพะวัยกลางคนก็มึนงงก่อนที่ใบหน้าของเขาจะเปลี่ยนเป็นหน้าเกลียดและอึดอัด และไม่กล้าปฏิเสธคำพูดของหวงเสี่ยวหลงในขณะที่ลูกน้องของเขาหัวเราะอยู่ข้างหลังเขาอย่างลับๆ

 

พอร่างของหวงเสี่ยวหลงหายไปไม่นาน พวกยามต่างๆก็ลุกขึ้น ดวงตาชายเคราแพะวัยกลางคนก็ส่องประกายออกมาอย่างเย็นชาในขณะที่เขาจ้องมองแผ่นหลังของชายหนุ่ม––นั่นก็คือหวงเสี่ยวหลง!”

 

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ชายเคราแพะก็ปรากฏขึ้นในลานส่วนตัวแห่งหนึ่ง

 

“เจ้ามั่นใจว่ามันคือหวงเสี่ยวหลง?”เหยาเฟยก็ถามออกมาในขณะที่ยืนหันหลั่งให้ชายเคราแพะวัยกลางคน

 

“ใช่ขอรับ นายน้อยไร้หัวใจ ข้าน้อยมั่นใจเลยว่ามันเป็นหวงเสี่ยวหลง!”ชายเคราแพะวัยกลางคนก็ตอบออกมาอย่างเคารพ

 

ดวงตาของเหยาเฟยก็ปรากฏความเย็นชาขึ้น “เหรียญตราในมือมัน? มันมาเป็นเจ้าของเหรียญตราของต้วนเริ่นได้อย่างไร? บางทีมันเป็นเพราะต้วนหวูเหินใช้เพื่อดึงดูดใอ้เด็กนั่นก็ได้ ดังนั้นเขาเลยเอาเหรียญทองให้เขา?”

 

ในจักรวรรดิต้วนเริ่นมีเหรียญตราอยู่แค่เพียง 2ชิ้นเท่านั้น อันนึงอยู่ในมือต้วนเริ่น อีกอันอยู่กับต้วนหวูเหิน

 

“เจ้าทำงานได้ดีมาก งั้นไปรับโอสถพลังวิญญาณจากห้องโถงไร้หัวใจซะ”

 

โอสถเพิ่มพลังวิญญาณ คือ โอสถระดับ 5 ขั้นกลาง

 

“ต้องขอบพระคุณนายน้อยไร้หัวใจมากจริงๆเลยขอรับ”ชายเคราแพะวัยกลางคนก็รู้สึกดีใจอย่างมาก  พอแสดงความขอบคุณ เขาก็หันหน้าเดินออกไป

Invincible โลกอมตะ

Invincible โลกอมตะ

จากลูกศิษย์ของวัดเส้าหลินบนแผ่นดินใหญ่ หวงเสี่ยวหลงกลับคืนสู่โลกแห่งการต่อสู้โดยได้อาศัยความรู้จากความลับของหัวเซี่ย ซึ่งเป็นวิชาลับจากคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น ในโลกของจิตวิญญาณการต่อสู้โดยเฉพาะผู้ที่มีจิตวิญญาณการต่อสู้เท่านั้นที่จะสามารถฝึกในปราณฉีและกลายเป็นนักรบได้ หวงเสี่ยวหลงเกิดมาพร้อมกับวิญญาณการต่อสู้ที่หายากจากภายในสวรรค์แห่งนี้ได้ถูกปลุกจิตวิญญาณการต่อสู้ ในช่วงพิธีปลุกเสกโดยคนของโลกแห่งนี้ อย่างไรก็ตามหวงเสี่ยวหลง กับ “ตัวแปร” จิตวิญญาณการต่อสู้ต้องลุกขึ้นต่อสู้อีกครั้งและแสดงความสามารถพิเศษอื่น ๆ เพื่อเอาชนะเหล่าอัจฉริยะสร้างความตกตะลึงให้กับตระกูลและเหล่าผู้คนของโลกจิตวิญญาณการต่อสู้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท