Invincible โลกอมตะ – ตอนที่ 240

ตอนที่ 240

2 วันผ่านไปในการเตรียมงานแต่งงานอย่างว้าวุ่น

 

ในวันนี้ หวงเสี่ยวหลงได้ออกมาจากเจดีย์หลิงหลงซึ่งเป็นที่ที่เขาใช้เวลา 2 วัน ในการฝึกเคล็ดวิชาฝ่ามือพุทธปฐพีที่เขาสร้างขึ้น

 

ฝ่ามือพุทธปฐพีนของหวงเสี่ยวหลงนั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากพระพุทธรูปล้านองค์ที่อยู่ในถ้ำพุทธะที่ปล่อยแรงกดที่มองไม่เห็นมาจากพระพุทธรูปแต่ละองค์เป็นคลื่นที่ส่งผลต่อจิตวิญญาณ  ในขณะเดียวกันเคล็ดวิชาหุ่นเชิดโบราณก็เป็นเคล็ดวิชาบ่มเพาะที่หากยากอันนึงที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้พลังจิตของเขา ดังนั้น การบ่มเพาะเคล็ดวชาเชิดหุ่นโบราณนั้นจะช่วยเพิ่มพลังโมตีในฝ่ามือพุทธปฐพีของเขาด้วย

 

หลังจากฝึกฝนได้ 2 วัน หวงเสี่ยวหลงก็ได้เห็นการพัฒนาของฝ่ามือพุทธปฐพีได้อย่างชัดเจน แต่แล้ว หวงเสี่ยวหลงก็ไม่ได้ละเลิกการฝึกเคล็ดวิชาซูมี่เทวะ เคล็ดวิชาเทพอสูร และพระคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น   เขานั้นได้แข็งแกร่งขึ้นทุกๆวัน

 

เมื่อหวงเสี่ยวหลงปรากฏขึ้น จ้าวชูและจางฟูก็สัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในกลิ่นอายของหวงเสี่ยวหลง มันพอจะทำให้ผู้เชี่ยวชาญระดับเทวะชั้นสูงสองคนต่างคร่ำครวญไปด้วยความชื่นชม

 

“สถานการณ์ช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”หวงเสี่ยวก็ถามจ้าวชูเมื่อเขาพบพวกเขาทั้งหลาย

 

“ตอบท่านจักรพรรดิ  ทุกอย่างปกติดี”จ้าวชูก็ตอบออกมาอย่างฉับพลัน

 

หวงเสี่ยวหลงก็ตัดสินใจเดินไปห้องโถงและในขณะที่เขากำลังเดินทางไปนั้น เขาก็ได้พูดเตือนพวกเขาไปว่า “เพิ่มมาตรการป้องกันในวันนี้ด้วย และสั่งทุกคนให้ตื่นตัวไว้!”

 

วันนี้เป็นวันแต่งงานของน้องสาวเราหวงเสี่ยวหลงมีความรู้สึกอย่างแรงกล้าว่า นายน้อยไร้หัวใจนั้นจะต้องลงมือในงานแต่งของน้องสาวเขาแน่!

 

ครู่ต่อมา หวงเสี่ยวหลงก็ได้เดินมาถึงห้องโถงหลักซึ่งหวงเผิง ซูหยาน และหวงเสี่ยวไห่ได้รอเขาอยู่ก่อนแล้ว

 

พอเห็นหวงเสี่ยวหลงเดินเข้ามา ทั้งสามคนก็ยืนขึ้นล้อมเขา

 

“ท่านพ่อ ท่านแม่”หวงเสี่ยวหงก็ทักทาย

 

“หลงเอ๋อ เจ้ามาแล้ว”ซูหยานก็ยิ้มในขณะที่เธอดึงหวงเสี่ยวหลงให้มานั่งข้างๆเธอ

 

“แล้วหมินเอ๋อหล่ะ?”หวงเสี่ยวหลงก็มองรอบข้างแล้วถามขึ้นเมื่อเขาไม่เห็นน้องสาวของเขา

 

“พอเธอแต่งหน้าเสร็จ เธอก็น่าจะออกมาทันที ตระกูลกั่วนั้นจะมาถึงในไม่กี่ชั่วโมง”ซูหยานก็ตอบออกมาด้วยรอยยิ้ม เห็นได้ชัดว่าเธอมีความสุขมาก

 

หวงเสี่ยวหลงก็พยักหน้า  เขานั้นได้ถอนหายใจภายในใจเล็กน้อย และไม่ถึงชั่วโมงขบวนแห่ตระกูลกั่วก็ได้มารับน้องสาวเขา หวงหมิน แม้ว่าระยะทางระหว่างคฤหาสน์เนินเขาใต้และตระกูลกั่วจะไม่ห่างกันมากนัก แต่หลังจากวันนี้ไป น้องสาวของเขาจะกลายเป็นสมาชิกตระกูลกั่ว

 

และหวงเสี่ยวหงก็รู้สึกมีความสุขกับหวงหมิน ซึ่งเธอนั้นได้พบคนที่เธอรักละต้องการอยู่ด้วยกัน

 

หวงเสี่ยวหลงนั้นกำลังอยู่ในห้องโถงหลักและใช้เวลาว่างไปพร้อมกับพ่อแม่และน้องชาย ครึ่งชั่วโมงต่อมา หวงเสี่ยวหลงก็พูดขึ้น “พวกเขาใกล้มาแล้ว เราไปดูกันสักหน่อยใหม?”

 

หวงเผิง ซูหยาน และหวงเสี่ยวไห่ก็พยักหน้าอย่างมีความสุข ดังนั้นทั้งสี่คนจึงยืนขึ้นและเดินทมุ่งหน้าไปที่ที่พักของหวหมิน

 

“นายท่าน คุณหญิง คุณท่าน และนายน้อยสาม!”เมื่อพวกเดินทางไปถึงที่พักของหวงหมิน  ข้ารับใช้และผู้คุ้มกันก็คุกเข่าทักทาย

 

“คุณหนูสองอยู่ใหน?”หวงเผิงก็ได้ถามออกมา

 

“ตอบนายท่าน คุณหนูสองกำลังแต่งจะเสร็จแล้ว อีกไม่นานคุณก็จะพร้อม”หนึ่งในข้ารับใช้ก็ตอบ

 

“ท่านพ่อ ท่านแม่ พี่ใหญ่ น้องเล็ก!”หวงหมินพึ่งจะแต่งหน้าเสร็จ เมื่อเธอมองเห็นคนทั้ง 4 เข้ามา เธอจึงได้ตะโกนเรียกอย่างกระตือรือร้นในขณะที่ยืนขึ้น

 

ทุกคนก็หัวเราะและพยักหน้า ชื่นชนภาพลักษณ์ของหวงหมิน “วันนี้เป็นวันที่น้องสาวของข้าสวยที่สุด” หวงเสี่ยวหลงเอ่ยชมเชย

 

หวงเสี่ยวหลงนั้นพูดความจริง นั่นเพราะการแต่งหน้าบางๆนั้นทำให้ขับเน้นความเยาว์วัยของหวงหมินที่กำลังบานสะพรั่งและความงดงามอันน่าหลงไหล

 

หวงหมินก็หน้าแดงอย่างเขินอาย “พี่ใหญ่ ท่านนี้ก็รู้แต่การแกล้งข้าจังเลย”

 

“พี่สาว มันเป็นความจริง! วันนี้ท่านดูสวยงามมากจริงๆ!”

หวงเสี่ยวไห่ก็ยิ้มออกมาจนเห็นฟัน

 

หวงหมินก็ยิ้มหวาน “จริงหรือ?”

 

พอแสดงหน้าตาเคร่งขรึม หวงเสี่ยไวห่ก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง

 

การปฏิสัมพันธ์เล็กน้อยระหว่างกันทำให้คนอื่นที่อยู่ในห้องระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ทันทีซูหยานก็ก้าวออกมาดึงหวงหมินเข้าไปในอ้อมกอด ดวงตาของเธอก็แดงเล็กน้อยพร้อมกับมีน้ำตาไหลออกมา

 

“ท่านแม่”หวงหมินก็ร้องไห้ออกมา ซึ่งเธอร้องออกมาเพราะน้ำตาของซูหยาน

 

“เจ้า อ่า  เจ้าจะร้องไห้เพื่ออะไร  ตอนนี้เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของเจ้า นอกจากนี้ มันไม่ใช่ว่าหมินเอ๋อจะไม่ได้กลับมาที่นี่สักหน่อย”หวงเผิงก็ปลอยโยนภรรยาของเขา

 

หวงหมินก็พยักหน้าอย่างหนักแน่น “ท่านแม่ ข้าจะกลับเจอทุกคนบ่อยๆ”

 

ซูหยานก็เช็ดน้ำตาและยิ้มพร้อมกับพยักหน้า  ลูกสาวตัวน้อยของเธอนั้นกำลังจะแต่งงาน! ซูหยานรู้สึกมีความสุขแต่มากกว่านั้นก็คือ เธอไม่อยากแยกจากลูกสาวของเธอ

 

หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีเสียงอึกทึกกึกก้องดังขึ้นจากฆ้องและกลองที่อยู่ด้านนอก  สัญญาบ่งบอกว่าขบวนแห่ตระกูลกั่วได้มารับเจ้าสาวแล้ว

 

“ออกไปกันเถอะ”หวงเสี่ยวหลงก็พูดขึ้น

 

ทุกๆคนก็เห็นด้วย ดังนั้น ซูหยานก็จูงมือหวงหมินเดินออกไปจากที่พักของหวงหมินแล้วมุ่งหน้าไปที่ทางเข้าคฤหาสน์ ทางเข้าหลักนั้นดูมีชีวิตชีวามากเมื่อพวกเขาไปถึงที่นั่น นอกจากผู้คุ้มกันเจ้าสาวของขบวนแห่จากตระกูลกั่วแล้ว ก็มีศิษย์ที่มาเฝ้าดูจากขุมกำลังอื่นที่ยืนมุงดูอยู่ข้างถนน

 

ตระกูลกั่วนั้นได้ออกมาพร้อมกับขบวนแห่เจ้าสาวทุกคน ซึ่งพวกเขามีคนถึง 400 คนซึ่งพอจะเรียงแถวจากทางเข้าคฤหาสน์ไปจนถึงสุดสายของถนน พอเห็นหวงหมินและคนอื่นๆที่กำลังออกมาจากคฤหาสน์ กั่วไท่ที่ยืนอยู่ด้านหน้าแถวก็รีบเดินเข้ามาพบ

 

เขาก็ได้เริ่มทักทายหวงเผิงและซูหยาน “ท่านลุง ท่านป้า” จากนั้นเขาก็หันไปหาหวงเสี่ยวหลงอย่างเคารพ “พี่ใหญ่”

 

แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันแต่งงานของพวกเขา กั่วไท่และหวงหมินก็จะต้องทำพิธีให้เสร็จก่อนที่เขาจะสามารถเปลี่ยนวิธีการเรียกหวงเผิงและซูหยานได้ ซูหยานก็พยักหน้าและเดินไปหากั่วไท่  และเธอได้เอานำมือของหวงหมินไปจับมือกั่วไท่ ซึ่งนี่เป็นสัญญาลักษณ์ที่หมายความว่าเธได้ยกลูกสาวให้กั่วไท่ ในขณะที่ทำนั้น หยูหยานก็ทนไม่ไหวจนต้องน้ำตาไหลออกมาที่หางตา

 

“กั่วไท่” หวงเสี่ยวหลงก็พูดเตือน เจ้าต้องดูแลน้องสาวข้าให้ดีด้วยหล่ะ หากเจ้ากล้าทำร้ายเธอหรือทำให้เธอต้องเจ็บปวด ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่!”

 

กั่วไท่ก็หวาดกลัวเล็กน้อยแต่เขาก็สัญญาไป “อย่างกังวลไป พี่ใหญ่ ข้าจะต้องดูและหมินเอ๋ออย่างดี ข้าจะไม่ให้เธอต้องเจ็บปวด!”

 

หวงเสี่ยวหลงก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ

 

ทันที  ขบวนแห่เจ้าสาวตระกูลก่าวก็ยกเกี้ยวแต่งงานสีแดงขึ้นไปพร้อมกับหวงหมินที่นั่งอยู่ข้างในจากนั้นขบวนจึงได้เริ่มมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ตระกูลกั่ว

 

หยดน้ำตาของซูหยานก็ไหลลงบนแก้มในขณะที่เธอมองขบวนแห่เจ้าสาวตระกูลกั่วออกไปและค่อยๆห่างไกลออกไป หวงเผิงก็อ้าปากแต่ไม่รู้จะพูดปลอบโยนอย่างไรดี

 

“ท่านพ่อ ท่านแม่ กลับไปก่อนเถอะ”หวงเสี่ยวหลงก็พูดชักชวน ตามธรรมเนียมในโลกจิตวิญญาณต่อสู้นี้ ตระกูลของเจ้าสาวจะต้องรอจนกระทั่งขบวนแห่เจ้าสาวไปถึงเขตแดนของตระกูลเจ้าบ่าวก่อน และจากนั้นพวกเขาถึงจะสามารถไปร่วมพิธีต่อไปได้

 

พอพยักหน้า พวกเขาทั้งหมดก็เข้าไปในคฤหาสน์

 

อย่างไรก็ตามในขณะที่ทุกคนหันหน้า จู่ๆหวงเสี่ยวหลงกหันหน้ากลับมา และสายตาของเขาก็จ้องมองไปที่สุดเส้นถนนอย่างหวาดระแวง

 

“หลงเอ๋อ เป็นอะไรไป?”

 

หวงเสี่ยวหลงก็ตอบออกไป “ไม่มีอะไร”แต่ลึกในสายตาเขากลับแสดงความหมายอีกอย่างออกมาในขณะที่เขามองไปที่จ้าวชูและจางฟู จากนัน้ทั้งสองก็พยักหน้าเล็กน้อยและหายตัวโดยไม่มีคนสังเกต

 

หวงเสี่ยวหลงก็ยังคงยืนรออยู่ตรงนั้นหลังจากเขาบอกให้หวงเผิง ซูหยาน และน้องชายของเขาเข้าไปก่อน ไม่นานนัก จ้าวชูและจางฟูก็กลับมา

 

“แล้ว?”หวงเสี่ยวหลงก็ถามออกมา

 

ทั้งสองคนก็ส่ายหัว “ตอบท่านจักรพรรดิ พวกเราไม่พบสิ่งใด”

 

หวงเสี่ยวหลงก็ขมวดคิ้ว เขาแน่ใจว่าเขาสัมผัสได้ถึงจิตสังหาร แม้ว่ามันจะเป็นสั้นๆก็ตาม จากนั้นหวงเสี่ยวหลงก็รู้สึกใจหาย ขบวนแห่เจ้าสาวตระกูลกั่ว!

 

“จ้าวชู จางฟู พวกเจ้าทั้งสามรีบตามขบวนแห่เจ้าสาวไปทันที!”หวงเสี่ยวหลงก็พูดออกมาอย่างหงุดหงิด

 

จ้าวชูและจางฟุก็มองกันและกันซึ่งพวกเขาเข้าใจว่าหวงเสี่ยวหลงหมายถึงอะไร หวงเสี่ยวหลงนั้นกลัวว่าเหยาเฟยจะลงมือกับขบวนแห่เจ้าสาว!

 

“ได้ขอรับ ท่านจักรพรรดิ!”ทั้งสองคนก็หายไปก่อนที่จะพูดเสร็จ

 

หวงเสี่ยวหลงก็รู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อยหลังจากส่งจ้าวชูและจางฟูไป อย่างไรก็ตามหลังจากจ้าวชูและจางฟูไปไม่นาน ก็มีคลื่นปราณกระจายออกมาจากระยะไกลซึ่งมันอยู่ใกล้กับคฤหาสน์เนินเขาใต้ หวงเสี่ยวหลงก็ใบหน้าบึ้งตึง พวกมันเล็งขบวนแห่เจ้าสาวจริงๆด้วย!

 

น้องสาวข้า! หวงเสี่ยวหลงก็หายตัวไปราวกับภาพเบลอจากนั้นเขาก็วิ่งมุ่งหน้าไปที่แหล่งกำเนิดคลื่นปราณที่เกิดขึ้น

Invincible โลกอมตะ

Invincible โลกอมตะ

จากลูกศิษย์ของวัดเส้าหลินบนแผ่นดินใหญ่ หวงเสี่ยวหลงกลับคืนสู่โลกแห่งการต่อสู้โดยได้อาศัยความรู้จากความลับของหัวเซี่ย ซึ่งเป็นวิชาลับจากคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น ในโลกของจิตวิญญาณการต่อสู้โดยเฉพาะผู้ที่มีจิตวิญญาณการต่อสู้เท่านั้นที่จะสามารถฝึกในปราณฉีและกลายเป็นนักรบได้ หวงเสี่ยวหลงเกิดมาพร้อมกับวิญญาณการต่อสู้ที่หายากจากภายในสวรรค์แห่งนี้ได้ถูกปลุกจิตวิญญาณการต่อสู้ ในช่วงพิธีปลุกเสกโดยคนของโลกแห่งนี้ อย่างไรก็ตามหวงเสี่ยวหลง กับ “ตัวแปร” จิตวิญญาณการต่อสู้ต้องลุกขึ้นต่อสู้อีกครั้งและแสดงความสามารถพิเศษอื่น ๆ เพื่อเอาชนะเหล่าอัจฉริยะสร้างความตกตะลึงให้กับตระกูลและเหล่าผู้คนของโลกจิตวิญญาณการต่อสู้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท