2 วันผ่านไปในการเตรียมงานแต่งงานอย่างว้าวุ่น
ในวันนี้ หวงเสี่ยวหลงได้ออกมาจากเจดีย์หลิงหลงซึ่งเป็นที่ที่เขาใช้เวลา 2 วัน ในการฝึกเคล็ดวิชาฝ่ามือพุทธปฐพีที่เขาสร้างขึ้น
ฝ่ามือพุทธปฐพีนของหวงเสี่ยวหลงนั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากพระพุทธรูปล้านองค์ที่อยู่ในถ้ำพุทธะที่ปล่อยแรงกดที่มองไม่เห็นมาจากพระพุทธรูปแต่ละองค์เป็นคลื่นที่ส่งผลต่อจิตวิญญาณ ในขณะเดียวกันเคล็ดวิชาหุ่นเชิดโบราณก็เป็นเคล็ดวิชาบ่มเพาะที่หากยากอันนึงที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้พลังจิตของเขา ดังนั้น การบ่มเพาะเคล็ดวชาเชิดหุ่นโบราณนั้นจะช่วยเพิ่มพลังโมตีในฝ่ามือพุทธปฐพีของเขาด้วย
หลังจากฝึกฝนได้ 2 วัน หวงเสี่ยวหลงก็ได้เห็นการพัฒนาของฝ่ามือพุทธปฐพีได้อย่างชัดเจน แต่แล้ว หวงเสี่ยวหลงก็ไม่ได้ละเลิกการฝึกเคล็ดวิชาซูมี่เทวะ เคล็ดวิชาเทพอสูร และพระคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น เขานั้นได้แข็งแกร่งขึ้นทุกๆวัน
เมื่อหวงเสี่ยวหลงปรากฏขึ้น จ้าวชูและจางฟูก็สัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในกลิ่นอายของหวงเสี่ยวหลง มันพอจะทำให้ผู้เชี่ยวชาญระดับเทวะชั้นสูงสองคนต่างคร่ำครวญไปด้วยความชื่นชม
“สถานการณ์ช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”หวงเสี่ยวก็ถามจ้าวชูเมื่อเขาพบพวกเขาทั้งหลาย
“ตอบท่านจักรพรรดิ ทุกอย่างปกติดี”จ้าวชูก็ตอบออกมาอย่างฉับพลัน
หวงเสี่ยวหลงก็ตัดสินใจเดินไปห้องโถงและในขณะที่เขากำลังเดินทางไปนั้น เขาก็ได้พูดเตือนพวกเขาไปว่า “เพิ่มมาตรการป้องกันในวันนี้ด้วย และสั่งทุกคนให้ตื่นตัวไว้!”
วันนี้เป็นวันแต่งงานของน้องสาวเรา! หวงเสี่ยวหลงมีความรู้สึกอย่างแรงกล้าว่า นายน้อยไร้หัวใจนั้นจะต้องลงมือในงานแต่งของน้องสาวเขาแน่!
ครู่ต่อมา หวงเสี่ยวหลงก็ได้เดินมาถึงห้องโถงหลักซึ่งหวงเผิง ซูหยาน และหวงเสี่ยวไห่ได้รอเขาอยู่ก่อนแล้ว
พอเห็นหวงเสี่ยวหลงเดินเข้ามา ทั้งสามคนก็ยืนขึ้นล้อมเขา
“ท่านพ่อ ท่านแม่”หวงเสี่ยวหงก็ทักทาย
“หลงเอ๋อ เจ้ามาแล้ว”ซูหยานก็ยิ้มในขณะที่เธอดึงหวงเสี่ยวหลงให้มานั่งข้างๆเธอ
“แล้วหมินเอ๋อหล่ะ?”หวงเสี่ยวหลงก็มองรอบข้างแล้วถามขึ้นเมื่อเขาไม่เห็นน้องสาวของเขา
“พอเธอแต่งหน้าเสร็จ เธอก็น่าจะออกมาทันที ตระกูลกั่วนั้นจะมาถึงในไม่กี่ชั่วโมง”ซูหยานก็ตอบออกมาด้วยรอยยิ้ม เห็นได้ชัดว่าเธอมีความสุขมาก
หวงเสี่ยวหลงก็พยักหน้า เขานั้นได้ถอนหายใจภายในใจเล็กน้อย และไม่ถึงชั่วโมงขบวนแห่ตระกูลกั่วก็ได้มารับน้องสาวเขา หวงหมิน แม้ว่าระยะทางระหว่างคฤหาสน์เนินเขาใต้และตระกูลกั่วจะไม่ห่างกันมากนัก แต่หลังจากวันนี้ไป น้องสาวของเขาจะกลายเป็นสมาชิกตระกูลกั่ว
และหวงเสี่ยวหงก็รู้สึกมีความสุขกับหวงหมิน ซึ่งเธอนั้นได้พบคนที่เธอรักละต้องการอยู่ด้วยกัน
หวงเสี่ยวหลงนั้นกำลังอยู่ในห้องโถงหลักและใช้เวลาว่างไปพร้อมกับพ่อแม่และน้องชาย ครึ่งชั่วโมงต่อมา หวงเสี่ยวหลงก็พูดขึ้น “พวกเขาใกล้มาแล้ว เราไปดูกันสักหน่อยใหม?”
หวงเผิง ซูหยาน และหวงเสี่ยวไห่ก็พยักหน้าอย่างมีความสุข ดังนั้นทั้งสี่คนจึงยืนขึ้นและเดินทมุ่งหน้าไปที่ที่พักของหวหมิน
“นายท่าน คุณหญิง คุณท่าน และนายน้อยสาม!”เมื่อพวกเดินทางไปถึงที่พักของหวงหมิน ข้ารับใช้และผู้คุ้มกันก็คุกเข่าทักทาย
“คุณหนูสองอยู่ใหน?”หวงเผิงก็ได้ถามออกมา
“ตอบนายท่าน คุณหนูสองกำลังแต่งจะเสร็จแล้ว อีกไม่นานคุณก็จะพร้อม”หนึ่งในข้ารับใช้ก็ตอบ
“ท่านพ่อ ท่านแม่ พี่ใหญ่ น้องเล็ก!”หวงหมินพึ่งจะแต่งหน้าเสร็จ เมื่อเธอมองเห็นคนทั้ง 4 เข้ามา เธอจึงได้ตะโกนเรียกอย่างกระตือรือร้นในขณะที่ยืนขึ้น
ทุกคนก็หัวเราะและพยักหน้า ชื่นชนภาพลักษณ์ของหวงหมิน “วันนี้เป็นวันที่น้องสาวของข้าสวยที่สุด” หวงเสี่ยวหลงเอ่ยชมเชย
หวงเสี่ยวหลงนั้นพูดความจริง นั่นเพราะการแต่งหน้าบางๆนั้นทำให้ขับเน้นความเยาว์วัยของหวงหมินที่กำลังบานสะพรั่งและความงดงามอันน่าหลงไหล
หวงหมินก็หน้าแดงอย่างเขินอาย “พี่ใหญ่ ท่านนี้ก็รู้แต่การแกล้งข้าจังเลย”
“พี่สาว มันเป็นความจริง! วันนี้ท่านดูสวยงามมากจริงๆ!”
หวงเสี่ยวไห่ก็ยิ้มออกมาจนเห็นฟัน
หวงหมินก็ยิ้มหวาน “จริงหรือ?”
พอแสดงหน้าตาเคร่งขรึม หวงเสี่ยไวห่ก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
การปฏิสัมพันธ์เล็กน้อยระหว่างกันทำให้คนอื่นที่อยู่ในห้องระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ทันทีซูหยานก็ก้าวออกมาดึงหวงหมินเข้าไปในอ้อมกอด ดวงตาของเธอก็แดงเล็กน้อยพร้อมกับมีน้ำตาไหลออกมา
“ท่านแม่”หวงหมินก็ร้องไห้ออกมา ซึ่งเธอร้องออกมาเพราะน้ำตาของซูหยาน
“เจ้า อ่า เจ้าจะร้องไห้เพื่ออะไร ตอนนี้เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของเจ้า นอกจากนี้ มันไม่ใช่ว่าหมินเอ๋อจะไม่ได้กลับมาที่นี่สักหน่อย”หวงเผิงก็ปลอยโยนภรรยาของเขา
หวงหมินก็พยักหน้าอย่างหนักแน่น “ท่านแม่ ข้าจะกลับเจอทุกคนบ่อยๆ”
ซูหยานก็เช็ดน้ำตาและยิ้มพร้อมกับพยักหน้า ลูกสาวตัวน้อยของเธอนั้นกำลังจะแต่งงาน! ซูหยานรู้สึกมีความสุขแต่มากกว่านั้นก็คือ เธอไม่อยากแยกจากลูกสาวของเธอ
หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีเสียงอึกทึกกึกก้องดังขึ้นจากฆ้องและกลองที่อยู่ด้านนอก สัญญาบ่งบอกว่าขบวนแห่ตระกูลกั่วได้มารับเจ้าสาวแล้ว
“ออกไปกันเถอะ”หวงเสี่ยวหลงก็พูดขึ้น
ทุกๆคนก็เห็นด้วย ดังนั้น ซูหยานก็จูงมือหวงหมินเดินออกไปจากที่พักของหวงหมินแล้วมุ่งหน้าไปที่ทางเข้าคฤหาสน์ ทางเข้าหลักนั้นดูมีชีวิตชีวามากเมื่อพวกเขาไปถึงที่นั่น นอกจากผู้คุ้มกันเจ้าสาวของขบวนแห่จากตระกูลกั่วแล้ว ก็มีศิษย์ที่มาเฝ้าดูจากขุมกำลังอื่นที่ยืนมุงดูอยู่ข้างถนน
ตระกูลกั่วนั้นได้ออกมาพร้อมกับขบวนแห่เจ้าสาวทุกคน ซึ่งพวกเขามีคนถึง 400 คนซึ่งพอจะเรียงแถวจากทางเข้าคฤหาสน์ไปจนถึงสุดสายของถนน พอเห็นหวงหมินและคนอื่นๆที่กำลังออกมาจากคฤหาสน์ กั่วไท่ที่ยืนอยู่ด้านหน้าแถวก็รีบเดินเข้ามาพบ
เขาก็ได้เริ่มทักทายหวงเผิงและซูหยาน “ท่านลุง ท่านป้า” จากนั้นเขาก็หันไปหาหวงเสี่ยวหลงอย่างเคารพ “พี่ใหญ่”
แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันแต่งงานของพวกเขา กั่วไท่และหวงหมินก็จะต้องทำพิธีให้เสร็จก่อนที่เขาจะสามารถเปลี่ยนวิธีการเรียกหวงเผิงและซูหยานได้ ซูหยานก็พยักหน้าและเดินไปหากั่วไท่ และเธอได้เอานำมือของหวงหมินไปจับมือกั่วไท่ ซึ่งนี่เป็นสัญญาลักษณ์ที่หมายความว่าเธได้ยกลูกสาวให้กั่วไท่ ในขณะที่ทำนั้น หยูหยานก็ทนไม่ไหวจนต้องน้ำตาไหลออกมาที่หางตา
“กั่วไท่” หวงเสี่ยวหลงก็พูดเตือน เจ้าต้องดูแลน้องสาวข้าให้ดีด้วยหล่ะ หากเจ้ากล้าทำร้ายเธอหรือทำให้เธอต้องเจ็บปวด ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่!”
กั่วไท่ก็หวาดกลัวเล็กน้อยแต่เขาก็สัญญาไป “อย่างกังวลไป พี่ใหญ่ ข้าจะต้องดูและหมินเอ๋ออย่างดี ข้าจะไม่ให้เธอต้องเจ็บปวด!”
หวงเสี่ยวหลงก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ
ทันที ขบวนแห่เจ้าสาวตระกูลก่าวก็ยกเกี้ยวแต่งงานสีแดงขึ้นไปพร้อมกับหวงหมินที่นั่งอยู่ข้างในจากนั้นขบวนจึงได้เริ่มมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ตระกูลกั่ว
หยดน้ำตาของซูหยานก็ไหลลงบนแก้มในขณะที่เธอมองขบวนแห่เจ้าสาวตระกูลกั่วออกไปและค่อยๆห่างไกลออกไป หวงเผิงก็อ้าปากแต่ไม่รู้จะพูดปลอบโยนอย่างไรดี
“ท่านพ่อ ท่านแม่ กลับไปก่อนเถอะ”หวงเสี่ยวหลงก็พูดชักชวน ตามธรรมเนียมในโลกจิตวิญญาณต่อสู้นี้ ตระกูลของเจ้าสาวจะต้องรอจนกระทั่งขบวนแห่เจ้าสาวไปถึงเขตแดนของตระกูลเจ้าบ่าวก่อน และจากนั้นพวกเขาถึงจะสามารถไปร่วมพิธีต่อไปได้
พอพยักหน้า พวกเขาทั้งหมดก็เข้าไปในคฤหาสน์
อย่างไรก็ตามในขณะที่ทุกคนหันหน้า จู่ๆหวงเสี่ยวหลงกหันหน้ากลับมา และสายตาของเขาก็จ้องมองไปที่สุดเส้นถนนอย่างหวาดระแวง
“หลงเอ๋อ เป็นอะไรไป?”
หวงเสี่ยวหลงก็ตอบออกไป “ไม่มีอะไร”แต่ลึกในสายตาเขากลับแสดงความหมายอีกอย่างออกมาในขณะที่เขามองไปที่จ้าวชูและจางฟู จากนัน้ทั้งสองก็พยักหน้าเล็กน้อยและหายตัวโดยไม่มีคนสังเกต
หวงเสี่ยวหลงก็ยังคงยืนรออยู่ตรงนั้นหลังจากเขาบอกให้หวงเผิง ซูหยาน และน้องชายของเขาเข้าไปก่อน ไม่นานนัก จ้าวชูและจางฟูก็กลับมา
“แล้ว?”หวงเสี่ยวหลงก็ถามออกมา
ทั้งสองคนก็ส่ายหัว “ตอบท่านจักรพรรดิ พวกเราไม่พบสิ่งใด”
หวงเสี่ยวหลงก็ขมวดคิ้ว เขาแน่ใจว่าเขาสัมผัสได้ถึงจิตสังหาร แม้ว่ามันจะเป็นสั้นๆก็ตาม จากนั้นหวงเสี่ยวหลงก็รู้สึกใจหาย ขบวนแห่เจ้าสาวตระกูลกั่ว!
“จ้าวชู จางฟู พวกเจ้าทั้งสามรีบตามขบวนแห่เจ้าสาวไปทันที!”หวงเสี่ยวหลงก็พูดออกมาอย่างหงุดหงิด
จ้าวชูและจางฟุก็มองกันและกันซึ่งพวกเขาเข้าใจว่าหวงเสี่ยวหลงหมายถึงอะไร หวงเสี่ยวหลงนั้นกลัวว่าเหยาเฟยจะลงมือกับขบวนแห่เจ้าสาว!
“ได้ขอรับ ท่านจักรพรรดิ!”ทั้งสองคนก็หายไปก่อนที่จะพูดเสร็จ
หวงเสี่ยวหลงก็รู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อยหลังจากส่งจ้าวชูและจางฟูไป อย่างไรก็ตามหลังจากจ้าวชูและจางฟูไปไม่นาน ก็มีคลื่นปราณกระจายออกมาจากระยะไกลซึ่งมันอยู่ใกล้กับคฤหาสน์เนินเขาใต้ หวงเสี่ยวหลงก็ใบหน้าบึ้งตึง พวกมันเล็งขบวนแห่เจ้าสาวจริงๆด้วย!
น้องสาวข้า! หวงเสี่ยวหลงก็หายตัวไปราวกับภาพเบลอจากนั้นเขาก็วิ่งมุ่งหน้าไปที่แหล่งกำเนิดคลื่นปราณที่เกิดขึ้น