ตอนที่ 533 ตั้งครรภ์
ตอนที่ 533 ตั้งครรภ์
เมื่อหลินเซี่ยเห็นเอ้อร์เลิ่งสวมผ้ากันเปื้อน เธอจึงถามด้วยรอยยิ้มว่า “เอ้อร์เลิ่งกำลังทำอาหารอยู่เหรอ?”
“เพิ่งกินข้าวเสร็จ และผมกำลังล้างจานอยู่ครับ”
เอ้อร์เลิ่งรู้สึกตื่นเต้นมากๆ ที่ได้เห็นทั้งสอง เขารีบพูดด้วยรอยยิ้ม “พวกพี่ไปนั่งที่ห้องโถงก่อนเถอะ ผมจะรีบล้างจานให้เสร็จ”
เมื่อพูดจบแล้วเขาก็วิ่งเข้าไปในครัวอีกรอบ
เทียบกับครั้งล่าสุดที่มาเยี่ยม เอ้อร์เลิ่งตอนนี้ฟื้นตัวดีขึ้นมาก และดูเหมือนเขาจะรู้สึกสบายใจกับการอยู่ที่นี่ด้วย
เฉินเจียเหอวางของไว้ในห้องโถงและทักทายหมออาวุโสเย่ จากนั้นเขาก็ไปที่ห้องครัว เพราะเขาอยากเห็นท่าทางของเอ้อร์เลิ่งเวลาทำงาน
สิ่งที่บ่งชี้ว่าเขาหายดีแล้วหรือยัง สามารถสังเกตได้จากพฤติกรรมประจำวันของเขา
หลินเซี่ยเดินตามผู้เฒ่าเซี่ยเข้ามาในห้องโถงพลางเอ่ย “หมออาวุโสเย่ ฉันมารบกวนอีกแล้วค่ะ”
“เชิญนั่งก่อนสิ”
ชายชราทั้งสองดูจริงจังมากขึ้น เมื่อหลินเซี่ยนั่งลงและกล่าวทักทายอีกเล็กน้อย เธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอีก จึงลุกขึ้นและพูดว่า
“หมออาวุโสเย่ คุณตา ฉันจะไปหาอวี้หลงนะคะ”
หลินเซี่ยถือกระเป๋าของเธอและไปที่ห้องพักฟื้นของเสิ่นอวี้หลง ขณะนี้เด็กหนุ่มกำลังนอนอยู่บนเตียง สภาพร่างกายผ่ายผอมมาก
หลินเซี่ยเห็นรูปร่างหน้าตาของเขาแล้ว เธอก็รู้สึกแสบจมูกขึ้นมา
เธอนั่งลงที่เก้าอี้แล้วเรียกเขาเบาๆ ว่า “อวี้หลง ฉันเป็นพี่สาวของนายเอง นายได้ยินเสียงของพี่ไหม?”
“นายนอนอยู่บนเตียงมาหนึ่งปีแล้วนะ ถึงเวลาตื่นแล้วล่ะ เพราะทุกคนตั้งตารอการตื่นขึ้นมาของนายอยู่ ดังนั้นนายต้องสู้นะ”
“อวี้หลง พี่จำได้ว่านายอยากได้เครื่องเล่นเทปมาโดยตลอด พี่ซื้อมาให้นายด้วยนะ แล้วคราวหน้าพี่ไปเมืองเชินเฉิง จะซื้อเครื่องเล่นวีซีดีแบบใหม่ล่าสุดมาให้ด้วย มันเป็นของใหม่ที่นายยังไม่เคยเห็น ดังนั้นนายรีบตื่นเร็วๆ แล้วพี่จะซื้อให้ ตกลงไหม?”
หลินเซี่ยพูดพร้อมกับสะอื้นออกมา
หลินเซี่ยนั่งอยู่ข้างเตียงของเสิ่นอวี้หลงเป็นเวลานานและพร่ำพูดไปมากมาย แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองจากคนบนเตียงเลย
เมื่อเธอหมดเรื่องพูดแล้ว จึงทำแค่นั่งมองเขาต่อเงียบๆ
อยู่ๆ เธอก็ค้นพบว่า ระหว่างพวกเธอดูเหมือนจะไม่มีความทรงจำต่อกันมากนัก
เพราะหลังจากที่เสิ่นอวี้หลงลืมตาดูโลก เธอก็ถูกส่งไปอยู่กับผู้เฒ่าเซี่ยแล้ว
แต่เสิ่นอวี้หลงแตกต่างจากเสิ่นเถี่ยจวินและครอบครัวมาก เพราะเขาชอบเธอในฐานะพี่สาวจริงๆ
ตอนที่เธอไปเป็นเด็กฝึกงานในร้านตัดผมของรัฐ เสิ่นอวี้หลงบอกให้เธอหาเงินมาซื้อเครื่องเล่นเทปให้เขาด้วย
ตอนนี้เธอซื้อมันได้แล้ว ทว่าเขาไม่อาจตื่นขึ้นมาได้
หลินเซี่ยเปิดเครื่องเล่นเทปและใส่เทปลงไป จากนั้นกดเล่นเพลง เกิดเป็นเสียงเพลงคลอเบาๆ ในท่วงทำนองที่ผ่อนคลาย
จากนั้นเธอก็มองเด็กหนุ่มบนเตียงเงียบๆ และนั่งฟังเพลงไปด้วย
เธอหวังสุดใจว่าเสิ่นอวี้หลงจะตื่นขึ้นมาฮัมเพลงไปด้วยกัน
จนกระทั่งเฉินเจียเหอมาเรียกเธอที่หน้าประตู หลินเซี่ยจึงลุกขึ้นยืน
“อวี้หลง รออีกไม่กี่วันพี่จะมาหานายใหม่นะ”
หลินเซี่ยปรับความดังของเสียงเพลงให้เบาลงจนค่อย
หลังจากพูดคุยกันได้สักพัก เฉินเจียเหอก็เริ่มพูดกับหมออาวุโสเย่ก่อนว่า “หมออาวุโสเย่ครับ ระยะนี้เซี่ยเซี่ยมักรู้สึกไม่สบายท้อง และมีอาการอาเจียนด้วย คุณช่วยตรวจชีพจรของหล่อนหน่อยเถอะครับ”
“ไม่สบายท้องเหรอ? รีบมาตรงนี้สิ” หลังจากที่ได้ยินเฉินเจียเหอบอกว่าหลินเซี่ยมีอาการไม่สบายท้อง หมออาวุโสเย่จึงสบสายตากับเฉินเจียเหอแบบมีความหมาย และบอกให้หลินเซี่ยมานั่งลง
หลินเซี่ยยื่นแขนออกไปเพื่อให้เขาตรวจชีพจร
หมอแผนจีนอาวุโสหรี่ตาลงขณะตรวจชีพจรของเธอ หลังจากนั้นพักหนึ่ง เขาก็ดึงมือออก
เฉินเจียเหอรีบถามขึ้น “ผู้อาวุโสเย่ ผลเป็นยังไงบ้างครับ?”
น้ำเสียงของเขาแสร้งทำเป็นผ่อนคลาย ทว่านัยน์ตามีความกังวลใจชัดเจน
หมออาวุโสเย่มองทั้งสองแล้วหัวเราะเบาๆ ว่า “ฉันเกรงว่าพวกเธอจะมีคำตอบอยู่ในใจแล้วสินะ?”
เมื่อได้ยินถ้อยคำนี้ เฉินเจียเหอและหลินเซี่ยก็มองหน้ากัน ราวกับว่าเข้าใจความหมายของเขาดี
แต่เฉินเจียเหอยังอยากได้ยินคำตอบเชิงบวกเพื่อยืนยันความมั่นใจ “หมออาวุโสเย่ช่วยอธิบายเรื่องนี้โดยละเอียดเถอะครับ”
“ท้องน่ะ”
หมอแผนจีนเย่เพิกเฉยต่อเขา แต่หันไปพูดกับผู้เฒ่าเซี่ยว่า “เหล่าเซี่ย คุณจะได้เป็นตาทวดแล้วนะ”
ผู้เฒ่าเซี่ยก็ยิ้มหลังจากได้ยินคำพูดของอาวุโสเย่
ในฐานะผู้อาวุโสที่ได้เฝ้ามองสาวน้อยเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ได้แต่งงานจนกระทั่งตอนนี้มีลูกแล้ว เขาย่อมมีความสุขใจและยินดี
แต่เมื่ออาวุโสเย่บอกว่าเขาจะกลายเป็นตาทวด ก็ทำให้ผู้เฒ่าเซี่ยอดนึกถึงเสิ่นอวี้อิ๋งขึ้นมาไม่ได้
รวมถึงลูกน้อยในท้องของหล่อนด้วย
เด็กที่มาอย่างไม่ตั้งใจ และน่าจะคลอดเดือนหน้านี้
ผู้เฒ่าเซี่ยมองไปที่ดวงตาของเฉินเจียเหอซึ่งเต็มไปด้วยความรักยามทอดมองหลินเซี่ย และมองรอยยิ้มแห่งความสุขของหลินเซี่ย นี่แสดงให้เห็นว่าเด็กในครรภ์ของเธอเกิดมาในโลกนี้พร้อมความรักและการรอคอยแสนอบอุ่นของทุกคน
แต่สำหรับเสิ่นอวี้อิ๋ง บางทีชีวิตของหล่อนอาจจะพังพินาศเพราะเด็กคนนั้น
ตอนนี้อารมณ์ของผู้เฒ่าเซี่ยจึงซับซ้อนมาก
เสิ่นอวี้อิ๋งเป็นหลานสาวของเขา แต่เมื่อหล่อนมาถึงจุดนี้ ผู้เฒ่าเซี่ยก็คิดว่าเขาได้พยายามดีที่สุดแล้วเช่นกัน
ทุกคนพยายามเต็มที่แล้วจริงๆ
แต่หล่อนทำชีวิตพังเอง โดยที่ไม่มีใครสามารถช่วยได้เลย
ทางฝ่ายพวกเขาไม่อาจไม่พอใจพ่อแม่บุญธรรมของเสิ่นอวี้อิ๋งได้เช่นกัน
เพราะเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา หมอแผนจีนเย่ยังรำลึกถึงความมุ่งมั่นของหลินต้าฝูในการพยายามจะรักษาเสิ่นอวี้อิ๋งให้ได้
ถ้าไม่ใช่เพราะชายชนบทผู้ซื่อสัตย์คนนั้น เสิ่นอวี้อิ๋งก็คงเสียชีวิตไปนานแล้ว
ผู้เฒ่าเซี่ยมองไปที่เฉินเจียเหอและเตือนว่า “เจียเหอ นับจากนี้ต้องดูแลเซี่ยเซี่ยให้ดีนะ อย่าปล่อยให้ทำงานหนักเกินไประหว่างท้อง”
“ผมเข้าใจแล้วครับคุณตา”
เอ้อร์เลิ่งยืนอยู่ข้างๆ และไม่เข้าใจสิ่งที่พวกเขากำลังพูดถึง เขาจึงไม่ตอบสนองจนกระทั่งผู้เฒ่าเซี่ยบอกว่าหลินเซี่ยท้อง
“ต้าเหอ พี่สะใภ้กำลังจะมีลูกเหรอ?” เอ้อร์เลิ่งมองเฉินเจียเหอและถามด้วยความตื่นเต้น
เฉินเจียเหอตอบว่า “จะคลอดปีหน้าโน้นแหละ”
ผู้อาวุโสเย่ยิ้มและพูดว่า “หู่จือเด็กคนนั้นจะมีน้องชายน้องสาว และยังมีเพื่อนด้วย ในอนาคตทุกคนจะต้องปฏิบัติต่อเด็กๆ ด้วยความเท่าเทียมกันนะ”
“ผู้อาวุโสเย่ พวกเราจะไม่ลืมคำสอนครับ”
เฉินเจียเหอจับมือของหลินเซี่ยไว้ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นมากๆ จนแทบจะลอยขึ้นฟ้า หากไม่มีผู้อาวุโสทั้งสองคนอยู่ข้างๆ เกรงว่าเขาจะอุ้มเธอแล้วหมุนเธอไปรอบๆ แน่นอน
แต่ในเวลานี้ เขายังต้องแสร้งทำเป็นสงบที่สุด
“เอ้อร์เลิ่ง หลังจากที่นายหายดีแล้ว นายวางแผนไว้ยังไงบ้าง?” เฉินเจียเหอเห็นว่าเอ้อร์เลิ่งพูดจาและทำสิ่งต่างๆ ได้ตามปกติ จึงไม่อาจปล่อยให้เขาอยู่ที่นี่ตลอดไปได้
เขาต้องหางานให้เอ้อร์เลิ่งทำ
ผู้อาวุโสเย่เหลือบมองเอ้อร์เลิ่งแล้วพูดว่า “ให้เขาอยู่ที่นี่เพื่อทำอาหารให้พวกฉันเถอะ เพราะฉันชอบเจ้าหนุ่มคนนี้มาก เขาทั้งฉลาด ซื่อตรงและเรียบง่าย”
เอ้อร์เลิ่งพูดด้วยความตื่นเต้นว่า “หมอเทวดาเย่บอกว่าอยากให้ผมเป็นผู้ช่วย และยังต้องการสอนวิชาแพทย์แผนจีนให้ผมด้วยครับ”
เฉินเจียเหอได้ยินคำพูดของเอ้อร์เลิ่ง แล้วจึงหันไปมองผู้อาวุโสเย่ด้วยความประหลาดใจ
สอนวิชาแพทย์แผนจีนให้เอ้อร์เลิ่งน่ะหรือ?
น้ำเสียงของผู้อาวุโสเย่จริงใจมาก “เรียนวิชาแพทย์อะไรล่ะ? ให้ทำอาหารไปก่อน เพื่อดูว่าเขาเข้าใจจริงๆ หรือเปล่า เพราะเขาเองก็ยังเป็นคนไข้อยู่ ควรรู้จักดูแลร่างกายตัวเองให้เป็นก่อนจะพูดเรื่องอื่น หากจิตใจแจ่มใสแล้ว ในอนาคตเขาจะมีงานอย่างเช่นตามฉันไปซื้อตัวยานั่นแหละ”
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ท้องเหมือนกันทั้งคู่ แต่อารมณ์ต่างกันราวฟ้ากับเหวเลย
ไหหม่า(海馬)