ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 – ตอนที่ 537 คนก่ออาชญากรรมคือคนใกล้ตัว

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ตอนที่ 537 คนก่ออาชญากรรมคือคนใกล้ตัว

ตอนที่ 537 คนก่ออาชญากรรมคือคนใกล้ตัว

ลุงหลี่อุทานเมื่อเห็นว่าบ้านของเขาถูกโจรปล้น

“เกิดอะไรขึ้น?”

ลุงหนิวและคนอื่น ๆ ที่ยังไม่จากไปเดินกลับเข้ามาดูสถานการณ์ เมื่อเห็นว่าประตูบ้านมีร่องรอยถูกงัดแงะจึงรีบร้อนถาม “ใครกันที่ทำแบบนี้?”

ลุงหลี่มองไปที่ภาพตรงหน้า ร่างกายของเขาสั่นเทา

เลขานุการจางเห็นแล้วโกรธมากไม่แพ้กัน โพล่งออกมาทันที

“โทรแจ้งตำรวจ”

ในฐานะผู้นำ เขารู้สึกว่าตัวเองละเลยหน้าที่ของตนอย่างมาก เมื่อเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้นในอาคารพักอาศัยในเขตโรงงาน ไม่ว่าจะเป็นคนในหรือคนนอกที่ทำตัวเป็นหัวขโมยก็ตาม คนคนนั้นสมควรถูกลงโทษอย่างรุนแรง ไม่อย่างนั้นอาคารหลังนี้จะยังปลอดภัยอยู่เหรอ?

“เลขาจาง ผมคิดว่าอาจเป็นเด็กชิงกั๋วนั่นที่กลับมาก่อปัญหา หรือว่า…” ลุงหนิวเหล่ตามองไปที่ลุงหลี่

เพราะถ้าแจ้งตำรวจ คนที่กระทำจะถูกควบคุมตัว แม้ว่าจะไม่มีอะไรสูญหายก็ตาม

มือลีบเล็กของลุงหลี่ที่ห้อยตกยู่ข้างลำตัวสั่นเทิ่ม สีหน้าของเขาเศร้าหมอง

เลขาจางบอกว่า “เข้าไปดูก่อนเถอะว่ามีอะไรหายไปบ้าง ถ้าไม่มีอะไรหายไปก็ลืมมันไปซะ”

ลุงหลี่เปิดประตูเข้าไปในบ้านและตรวจสอบดูอีกครั้ง

ตู้ที่เคยล็อกกุญแจเพราะมีสมุดบัญชีเงินฝากเก็บไว้ในนั้นถูกเปิดค้างไว้

สมุดบัญชีรับเงินบำนาญข้างในหายไป อีกทั้งหยกชิ้นหนึ่งอันเป็นมรดกตกทอดของบรรพบุรุษซึ่งเก็บไว้ในลิ้นชักก็หายไปเช่นเดียวกัน

ไม่บอกก็รู้ ว่านี่เป็นอาชญากรรมที่กระทำโดยคนใกล้ตัว

ถ้าของไม่สูญหาย เขาอาจจะปล่อยผ่านเรื่องดังกล่าวไปก็ได้ แต่สมุดบัญชีธนาคารและหยกล้ำค่าของลุงหลี่หายไป ขืนไม่โทรแจ้งตำรวจ หลี่ชิงกั๋วไม่มีทางคืนของแน่นอน

เขารู้รหัสผ่านสำหรับถอนเงินจากสมุดบัญชีธนาคารของชายชรา ถ้าเงินทั้งหมดในนั้นมีอันสูญสิ้นไป คู่สามีภรรยาหมาด ๆ จะมีชีวิตอยู่อย่างไรในอนาคต?

เลขาจางรู้แล้วโกรธมาก ลำพังถ้าเป็นการตัดสินใจของเขาเอง เขาคงแจ้งตำรวจไปนานแล้ว

แต่ผู้ชายคนนั้นเป็นลูกชายของลุงหลี่ ฉะนั้นลุงหลี่คือคนที่มีอำนาจในการตัดสินใจขั้นสุดท้าย

หลินเซี่ยและเฉินเจียเหอยืนอยู่ด้านหลังพร้อมกับหู่จือ รอให้ลุงหลี่ตัดสินใจ

ใบหน้าของป้าหวังน่าเกลียดเป็นพิเศษ

หลินเซี่ยจับมือของเฉินเจียเหอไว้อย่างประหม่า เหลือบมองเขาไปพลาง ๆ

พวกเขาพอเดาออก ว่าถ้าลุงหลี่เลือกที่จะปกปิดเรื่องนี้และเก็บเป็นความลับ เขาอาจทำให้สภาพจิตใจของป้าหวังพลอยเย็นชาและจืดจางลงไป

ไม่นานหลังจากนั้น ลุงหลี่ก็ตัดสินใจด้วยท่าทางแน่วแน่ “โทรแจ้งตำรวจเถอะ ไม่ว่าคนทำจะเป็นใครก็ตาม ฉันจะไม่ยอมให้เขาทำสำเร็จ”

เลขาจางลงไปโทรแจ้งตำรวจ ไม่นานตำรวจก็มาถึง

ด้วยความร่วมมือจากลุงหลี่ ทำให้พวกเขาระบุตัวผู้ต้องสงสัยว่าเป็นหลี่ชิงกั๋วได้อย่างไม่ยากเย็น

“ผมตัดความสัมพันธ์ฉันพ่อลูกกับเขามานานแล้ว เขาขโมยสมุดบัญชีรับเงินบำนาญของผมไป แถมยังเอาหยกล้ำค่าชิ้นหนึ่งจากบ้านของผมไปด้วย”

ลุงหนิวจับเขาไว้ข้าง ๆ เตือนเขาด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “เหล่าหลี่ คิดให้ดี ๆ นะ ความผิดทั้งหมดที่เขาก่อ รวมกันแล้วน่าจะทำให้เขาได้รับโทษจำคุกแปดถึงสิบปีเชียวนา”

น้ำเสียงของลุงหลี่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังและโศกเศร้าในเวลาเดียวกัน “เหล่าหนิว ฉันเข้าใจสิ่งที่นายกำลังจะสื่อ แต่คราวนี้ฉันไม่อยากอดทนกับพฤติกรรมของเขาอีกต่อไปแล้ว ฉันเหนื่อย ฉันเหนื่อยกับการต้องมานั่งลำบากใจเพราะลูกชายอกกตัญญูคนนี้ มันนานหลายปีเหลือเกินแล้ว”

ในไม่ช้า หลี่ชิงกั๋วก็ถูกจับ

เขาไม่อยากจะเชื่อเลย

แค่กลับบ้านไปเอาของมาจากบ้านพ่อตัวเอง ผิดกฎหมายด้วยเหรอ?

วันชื่นคืนสุขเนื่องในโอกาสแต่งงานของลุงหลี่หยุดชะงักลง แต่โชคดีที่ป้าหวังเข้าใจดีเกี่ยวกับสถานการณ์ของเขา ดังนั้นหล่อนจึงไม่เข้ามาขัดขวางแต่อย่างใด

แต่ลุงหลี่กลับเสนอว่าเขาจะหย่ากับป้าหวัง

โชคดีที่เพื่อนบ้านทั้งหมดอยู่ที่นั่นและเป็นพยานได้ ไม่อย่างนั้นหลังจากคืนนี้ไปเขาอาจจะอธิบายอะไรไม่ได้เลย

“เหล่าหลี่ บ้าไปแล้วหรือไง? คุณต่อสู้กับปัญหาทุกอย่างมาถึงขนาดนี้ จนได้จดทะเบียนสมรสแล้วแท้ ๆ ทำแบบนั้นไม่เท่ากับหลอกคนอื่นและตัวเองหรอกเหรอ?”

“ผมสอนลูกชายได้ไม่ดี แถมยังส่งเขาเข้าซังเตด้วยตัวเอง ผมทำใจใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้อย่างสบายใจไม่ได้จริง ๆ ผมไม่สมควรได้รับอะไรแบบนั้นเลย”

เขาจะนอนหลับสบายด้วยความสงบสุขได้อย่างไร ในเมื่อลูกชายถูกส่งไปอยู่ในที่แบบนั้นด้วยมือเขาเอง?

เขาล้มเหลวในการสั่งสอนลูกชายให้ดี ดังนั้นโดยหน้าที่แล้วจึงต้องทนทุกข์ร่วมกับเขา

เหล่าหวังเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ควรต้องมาแบกรับความทุกข์ร่วมกับเขา

ภรรยาของลุงหนิวไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องคอยอยู่เป็นเพื่อนป้าหวังที่บ้าน ในขณะที่ลุงหนิวไปดูแลและอยู่เป็นเพื่อนลุงหลี่ พร้อมกันนั้นก็คอยให้ความกระจ่างแก่เขา

หลังจากประสบเหตุการณ์ดังกล่าว เฉินเจียเหอและหลินเซี่ยที่กลับมาบ้านพร้อมกับหู่จือก็รู้สึกหนักอกหนักใจกันมาก

หู่จือพูดเพื่อให้พวกเขาสบายใจขึ้นว่า “พ่อฮะ แม่ อย่าเอาแต่ถอนหายใจเลย ถ้าผมโตขึ้น ผมจะไม่ทำตัวขี้เกียจเหมือนลูกชายลุงหลี่คนนั้นแน่นอน และจะไม่หวังเงินของพวกคุณด้วย”

“เด็กดี”

หลินเซี่ยเอ็นดูความคิดของเขามาก ดึงเขามากอดไว้ในอ้อมแขนแล้วพูดว่า “สมแล้วที่เป็นลูกชายแสนดีของแม่ ความรักที่แม่มอบให้ไม่สูญเปล่าจริง ๆ”

“แต่ถ้าวันหนึ่งแม่จากไป ในขณะที่พ่อของลูกยังมีชีวิตอยู่ ลูกต้องดูแลเขาให้ดี ปล่อยให้เขามีคู่ชีวิตที่พร้อมจะร่วมทุกข์ร่วมสุขในยามแก่เฒ่านะ”

หู่จือเกือบจะร้องไห้เมื่อได้ยินแบบนั้น “แม่ แม่ไม่ได้บอกว่าจะอยู่ดูแลผมกับพ่อไปจนกว่าพวกเราจะแก่หรอกเหรอ? ผมไม่อยากให้พ่อแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น พวกหล่อนเป็นผู้หญิงไม่ดี”

หลินเซี่ยมองดูใบหน้าเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยความประหม่าของหู่จือ อดไม่ได้ที่จะน้ำตาซึมเมื่อหวนนึกถึงช่วงหนึ่งในชีวิตก่อนหน้า ที่เขาแอบหาทางติดต่อกับเธอ โดยหวังว่าเธอจะกลับมาอยู่กับเฉินเจียเหออีกครั้ง

“ได้ พวกเราจะอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่าเลย”

เฉินเจียเหอล้างหน้าเสร็จแล้ว เมื่อเขาออกมาแล้วเห็นสองแม่ลูกจับมือกันพร้อมกับร้องไห้ พร้อมกับได้ยินการสนทนาของพวกเขา จึงถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้

ผู้หญิงท้องอ่อน ๆ มีภาวะอารมณ์อ่อนไหวมากจริง ๆ ซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนในร่างกายที่เปลี่ยนไป

เขารู้สึกว่าอาจเป็นเพราะหลินเซี่ยอยู่ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ ทำให้อารมณ์ผันผวนได้ง่าย

เขาจึงแยกทั้งสองออกจากกัน แล้วส่งหู่จือกลับไปอยู่ในห้องของเขาด้วยตัวเอง

หลินเซี่ยยังคงถอนหายใจแม้จะนอนอยู่บนเตียง “ถ้าเราสองคนมีลูกชาย คุณจะทำยังไงคะ?”

เฉินเจียเหอดึงผ้าห่มขึ้นคลุมเธอแล้วพูดว่า “เป็นไปไม่ได้ที่ลูกชายทุกคนจะไร้ประโยชน์เหมือนหลี่ชิงกั๋ว เขาน่าจะเป็นคนเดียวในไห่เฉิงเลยมั้งที่แปลกขนาดนั้น”

“งั้นเจ้าตัวน้อยที่อยู่ในท้องฉันล่ะ?” หลินเซี่ยมองไปที่เฉินเจียเหอพลางถามว่า “คุณอยากให้เขาเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง?”

หลินเซี่ยหวังว่าเธอจะสามารถให้กำเนิดเด็กหญิงตัวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มสักคน

ทันใดนั้น เธอก็นึกถึงเงาทางจิตใจที่ยังหลงเหลือจากนังเด็กปีศาจในชาติที่แล้ว จนรู้สึกเศร้าโศกขึ้นมาอีกครั้ง

เฉินเจียเหอตอบกลับ “เพศไหนก็ได้”

“ตอบแบบลวก ๆ เกินไปแล้ว เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งสิ”

หลินเซี่ยทำหน้างอ ขอให้เขาเลือกใหม่

เฉินเจียเหอคิดสักครู่ แล้วมองหน้าเธอพร้อมกับพูดว่า “ผมอยากให้เขาเป็นผู้ชาย”

เฉินเจียเหอมองเธอ เกาจมูกหญิงสาวแล้วหัวเราะเบา ๆ “ถ้ามีลูกชาย จะไม่มีใครแก่งแย่งความโปรดปรานจากคุณ พวกเราสามคนพ่อลูกจะช่วยกันปกป้องและดูแลคุณด้วยกัน”

หลินเซี่ยไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะให้เหตุผลได้ดีขนาดนี้ เธอเดาะลิ้นสองครั้งแต่ไม่ได้ตอบสนองใด ๆ มากนัก

ไม่อยากจะคิดเลยว่าเธอต้องปวดหัวแค่ไหน ถ้าอีกหน่อยเธอต้องรับมือกับผู้ชายทั้งสามคนในบ้าน

เธอหยิบสมุดจดบันทึกแผนการคร่าว ๆ ที่เธอเขียนไว้มาจากโต๊ะข้างเตียง พูดว่า “ฉันมีอะไรจะให้คุณดูด้วย”

เฉินเจียเหอรับสมุดแผนการที่เขียนโดยหลินเซี่ยมาอ่าน หลังจากเหลือบมองมันก็หันมองเธออย่างสงสัย “คลาสเรียนเสริมสวยและทำผม?”

“ใช่ คุณคิดว่ามันพอจะเป็นไปได้ไหมคะ?” หลินเซี่ยมองเขาอย่างคาดหวัง ถามความคิดเห็นของเขา

เฉินเจียเหออ่านเอกสารการวางแผนอย่างรอบคอบ จากนั้นก็ให้คำตอบที่ชัดเจนมาก “เป็นไปได้สิ”

ด้วยทักษะการเสริมสวยรอบด้านของภรรยาเขา เธอสามารถเปิดชั้นเรียนฝึกอบรมเพื่อฝึกสอนให้กับนักเรียนได้อย่างแน่นอน

พูดกันตามตรง คือเด็กฝึกงานที่ทำงานในร้านตัดผมของรัฐมีหน้าที่แค่สระผมและทำความสะอาดภายในร้านทั่วไปเท่านั้น ไม่มีโอกาสได้มุ่งเน้นไปที่การเรียนรู้ทักษะเลย

แต่ถึงแม้เฉินเจียเหอจะสนับสนุนเธอ เขาก็ยังกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของเธอด้วย เพราะเธอเพิ่งรู้ตัวว่าท้องได้ไม่นาน

“ที่รัก ตอนนี้สุขภาพคุณยังไม่อำนวยไม่ใช่เหรอ? ผมอยากให้คุณดูแลตัวเองและลูกน้อยในท้องอย่างสบายใจมากกว่า รอจนกว่าจะคลอดก่อนก็ได้”

หลินเซี่ยบอกว่า “ถึงอย่างนั้นฉันก็อยากเริ่มเตรียมความพร้อมก่อน เสร็จสรรพค่อยรับสมัครนักเรียนหลังปีใหม่ ฉันจะแบ่งเวลาให้ดี ไม่ทำให้ตัวเองเหนื่อยเกินไป”

เฉินเจียเหอเคารพการตัดสินใจของหลินเซี่ย แต่เขาก็ยังไม่มั่นใจเรื่องการแบ่งเวลาของเธออยู่ดี ไม่ว่ายังไงเขาก็พร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ เขากล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นช่วงนี้คุณก็ดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองไปก่อน อย่าเดินเหินไปรอบ ๆ ให้เหนื่อยเกินไปในช่วงสามเดือนแรก ผมจะปรึกษาเกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินงาน แล้วค่อยรับสมัครคน และจัดหาสถานที่ เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว เราจะเริ่มลงประกาศโฆษณาในวงกว้างเพื่อรับสมัครนักเรียน ค่อย ๆ ทำทุกอย่างไปทีละขั้นตอนนะ”

ด้วยการสนับสนุนของเฉินเจียเหอ หลินเซี่ยรู้สึกมั่นใจมากยิ่งขึ้น

เฉินเจียซิ่งกำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมงานแต่ง และนัดหมายการหารือร่วมกันระหว่างพ่อแม่ของทั้งสองฝ่าย

ในฐานะอาสะใภ้รอง วังซูเฟินยืนกรานที่จะติดตามเฉินเจียซิ่งกับคนอื่น ๆ ไปพบพ่อแม่ของหยางหงเสีย แต่เฉินเจียซิ่งปรามหล่อนไว้ด้วยทัศนคติอันมั่นคง

เห็นได้ชัดว่าอาสะใภ้รองตั้งใจมาที่นี่เพื่อก้าวก่ายเกี่ยวกับการแต่งงานของเขา

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

ลุงหลี่สมควรมีชีวิตในบั้นปลายที่ดีต่อจากนี้ ลูกชายลุงต้องติดคุกก็เป็นเพราะผลการกระทำของเขาเอง ลุงอย่าโทษตัวเองเลยนะคะ

งานแต่งเจียซิ่งจะเป็นยังไงหนอ มีคนชอบกินเผือกอย่างอาสะใภ้รองมายุ่งแบบนี้

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

Status: Ongoing
เมื่อสวรรค์ได้ให้โอกาสเธอย้อนกลับมาแก้ขในสิ่งที่ผิดพลาด เธอจะใช้โอกาสนี้เป็นช่างเสริมสวยยอดฝีมือให้ได้ตามฝันอย่างไรกันนะ? เรื่องย่อ : ในชาติก่อน หลินเ เป็นสไตสต์คนโง่ผู้ร้ความคิดป็นของตัวเอง จึงถูกดาราดาวรุ่งผู้เป็นเพื่อนสนิทวางแผนทำลายชีวิตจนพังพินาศ ไร้ซึ่งเครดิต ไร้ซึ่งอำนาจ และหน้ามืดตามัวทิ้งสามีพ่อม่ายลูกติดที่คอยสนับสนุนมาตลอดได้ลงค แต่เหมือนสวรรค์ยังคงเห็นใจต่ชะตาชีวิตอันรันทดของเธอ จึงทำให้เธอได้ย้อนกลับมาเกิดใหม่ในปี 1988 อันเป็นปีที่ทุกอย่างยังไม่สายเกินกว่าแก้ หลินเชี่ยจะใช้โอกาสที่ได้มีชีวิตครั้งที่สองเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตัวเองอย่างไรบ้าง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท