Hell mode – ตอนที่ 96

ตอนที่ 96

บทที่ 96 หลบหนี 1

อเลนอุ้มท่าเจ้าหญิงกับเซซิล ก่อนจะกระโดดลงมาจากเรือเหาะเวทมนตร์ ถึงด้านล่างจะยังห่างเกิน 100 เมตร แต่ด้วยค่าสเตตัสจากเลเวลกับพรคุ้มครองคงไม่มีปัญหา

แล้วเท้าทั้งสองข้างก็ถึงพื้นพร้อมกับแรงกระแทกอันรุนแรง พื้นหินที่ปูเอาไว้อย่างสวยงามตรงจุดลงแตกกระจาย

(เจ็บฉิบหาย!)

กระดูกขาทั้งสองข้างของอเลนเองก็หักเช่นกัน แต่ตอนถึงพื้นใช้สมุนไพรแห่งชีวิต ทำให้กระดูกขาที่หักหายเป็นปลิดทิ้ง

(เยี่ยมๆ สมุนไพรแห่งชีวิตรักษากระดูกที่หักได้ ดีนะเนี่ยที่เมื่อกี้โดนดรากฮาเตะซี่โครงจนหัก)

อเลนตรวจสอบเซซิล ถึงผ้าคลุมจะขาดเล็กน้อย แต่ดูเหมือนเซซิลจะไม่บาดเจ็บอะไร

(เยี่ยมเลย ใช้สมุนไพรแห่งชีวิตเอาไว้ทำให้เซซิลไม่บาดเจ็บ จะว่าไปแรงกระแทกมาไม่ถึงแขน ความทนทานช่างมีประโยชน์จริงๆ)

อเลนคิดไว้ว่าความทนทานเป็นเหมือนสิ่งที่คอยดูดซับแรงกระแทกเพื่อปกป้องร่างกายจากความเสียหายทางกายภาพ

ถึงจะคิดอยู่ตลอดจาการต่อสู้หรือตอนปะดาบกับโจรเมื่อครู่ ถึงความทนทานจะเพิ่มขึ้นแต่ไม่ได้ทำให้มวลร่างกายเพิ่มขึ้น ไม่ได้ทำให้ร่างกายบึกบึนหรือแข็งแกร่งขึ้น สุดท้ายมันเป็นค่าสเตตัสนี้ก็เหมือนเยื่อที่เอาไว้คิดค่าป้องกันร่างกายจากแรงกระแทก

แรงกระแทกทางกายภาพครั้งนี้ทำการอุ้มเด็กผู้หญิงและร่วงลงมายังพื้นที่ห่างไปเป็น 100 เมตร ถึงจะบาดเจ็บแต่ก็แค่ขาหัก แรงกระแทกนั้นโดนหักลดจากความทนทาน ทำให้แรงมาไม่ถึงครึ่งท่อนบนหรือเซซิล

กระดูกที่หักจากการโดนดรากฮาเตะในโกดังก็รักษาหายแล้ว แต่เท่านี้ก็ยืนยันได้แล้วว่า การฟื้นฟูกระดูกที่หักอยู่ในขอบเขตของการฟื้นฟูค่าพลังกายด้วย

“คุณหนูเซซิล จะแก้มัดให้เดี๋ยวนี้ครับ”

ตอนที่ร่วงลงมาก็ใช้สมุนไพรแห่งชีวิตกับเซซิลเผื่อไว้แล้วเลยคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร แต่ลองตรวจสอบดูว่าบาดเจ็บเพราะเศษหินหรือเปล่า เนื่องจากไม่บาดเจ็บเลยเอาดาบสั้นออกมาฟันเชือก

“เดี๋ยวสิ!!! อเลน!!!!”

“ต้องขอประทานอภัยด้วยครับ พาคุณหนูเซซิลลงมาจากเรือเหาะแล้วครับ”

เซซิลขัดขืนเต็มที่ตอนที่ปลดพันธนาการ แต่ตอนนี้ไม่ว่างพอจะมาฟังการทักท้วงของเธอ และเอาผ้าคลุมห่มเซซิลอีกครั้ง

(อย่างนี้น่าจะดีกว่า อาจจะโดนยิงธนูไล่ตามหลังมาก็ได้)

“เดี๋ยวสิ ฟังกันก่อน!! เอาสิ่งนี้ออกมาจากไหนกัน!!! แล้วเมื่อกี้มันอะไร—-”

“คุณหนูเซซิล!”

“อะ อะไรเหรอ?”

“ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือความปลอดภัยของคุณหนูเซซิลครับ ต้องรีบหนีจากที่นี้ กรุณาขึ้นมาขี่หลังด้วยครับ”

อเลนพูดเสียงแข็งเล็กน้อยกับเซซิลว่าจะให้ขี่หลัง เนื่องจากอุ้มท่าเจ้าหญิงมันทำให้วิ่งยาก เรือเหาะเวทมนตร์เองก็น่าจะลงจอดแล้วด้วย

ถึงเซซิลจะไม่พอใจ แต่ก็เข้าใจสถานการณ์เลยขึ้นไปขี่หลังของอเลน

“เดี๋ยวสิ ระ เร็วไปแล้ว!”

“กรุณาจับให้แน่นๆด้วย ถ้าพูดระวังกัดโดนลิ้นนะครับ”

เซซิลประหลาดใจกับความเร็วในการวิ่งของอเลน อย่างน้อยก็เร็วกว่าม้า

(ไม่มีเวลาแล้วด้วยสิ ฮอล บอกตำแหน่งด้วยตากลางคืนที)

เรียกสัตว์อัญเชิญนก D 4 ตัวบนท้องฟ้ายามค่ำคืน และใช้แชร์เพื่อดูภาพรวมของเมืองเพื่อหาประตูทางออก แล้วก็มุ่งหน้าไปยังประตูออกนอกเมือง

(โอ๊ะ! เยี่ยมเลย ดรากฮาต้องไปรายงานสถานการณ์ให้กับคาร์เนลรู้ อย่างนี้คงถ่วงเวลาได้เยอะอยู่)

อเลนวิ่งพร้อมกับตรวจสอบสถานการณ์ภายในเรือเหาะเวทมนตร์ ยังเหลือสัตว์อัญเชิญนก G ที่มีรูปร่างของนกแก้วอยู่ภายในเรือเหาะเวทมนตร์ ระหว่างหนียังไงก็ต้องใช้สัตว์อัญเชิญที่แชร์ยืนยันสภาพของคนที่จะไล่ตามมาด้วย

ดรากฮารีบไปอธิบายสถานการณ์ให้ฟังว่าคนรับใช้ของตระกูลแกรนเวลกับเซซิลกระโดดลงไปจากเรือเหาะเวทมนตร์ ไวเคานต์คาร์เนลรีบร้อนถามว่า “แล้วทั้ง 2 คนยังมีชีวิตหรือเปล่า?” แต่ดรากฮาบอกว่ายังไม่รู้จนกว่าจะร่อนลง แต่จากความสูงขนาดนี้อาจจะตายแล้วก็ได้

ในระหว่างที่วิ่งก็ทำการเปลี่ยนโครงสร้างการ์ด

・ การ์ดแมลง D 44 ใบ

・ การ์ดนก G สองใบ

・การ์ดนก D 4 ตัว

(ดูเหมือนจะลนลานหนักอยู่ เพราะว่าที่ต่างโลกนี้ไม่มีอาชีพผู้ใช้มอนสเตอร์ คงประหลาดใจกับสัตว์อัญเชิญก็ได้)

ในขณะที่วิ่งก็นึกถึงเรื่องที่คุยกับนักผจญภัยเรเวน อเลนตอนที่เล่นเกมในโลกก่อน มีอาชีพที่คล้ายกับนักอัญเชิญอยู่นั่นคือผู้ใช้มอนสเตอร์

ผู้ใช้มอนสเตอร์คืออาชีพที่ใช้งานมอนสเตอร์ เป็นอาชีพที่คล้ายกับการใช้สัตว์อัญเชิญของนักอัญเชิญ แต่เท่าที่คุยกับเรเวนที่ต่างโลกนี้ไม่มีผู้ใช้มอนสเตอร์ และจำได้ว่าการใช้มอนสเตอร์เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

เหตุผลที่พวกโจรตกตะลึงตอนสัตว์อัญเชิญปรากฏตัวออกมา เพราะจู่ๆพวกมันโผล่ขึ้นมา ถ้าหากมีผู้ใช้มอนสเตอร์อยู่แล้วละก็ปฏิกิริยาคงต่างออกไปเล็กน้อย

ประตูเมืองคาร์เนลยังเปิดอยู่ ถ้าให้ดูตราของตระกูลแกรนเวลคงผ่านไปได้ ต่อให้เป็นคนเฝ้าประตูของแคว้นข้างเคียงแต่คงรู้จักสัญลักษณ์อยู่หรอก ถึงจะดูแปลกที่คนรับใช้แบกเด็กผู้หญิงไว้กลางหลัง แต่คงไม่มีเหตุผลให้ปฏิเสธหรอก

(เอาละ ออกกันเลย เทือกเขาอยู่ทางนี้สินะ)

เพราะดาวเต็มฟ้าเลยยังพอเห็นทางข้างหน้า ออกวิ่งในเมืองภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน ก่อนอื่นต้องออกห่างจากเมืองนี้ให้ได้ แล้วหลังจากนั้นค่อยมุ่งหน้าไปแคว้นแกรนเวล

(โชคดีที่ออกทางประตูได้ พบเทือกเขามังกรขาวแล้ว เลยวิ่งอ้อมไปทางเหนือของเทือกเขาเพื่อกลับเมืองแกรนเวล จะใช้เวลากี่วันกันนะ)

หลังจากออกห่างจากเมืองก็ให้เซซิลได้หยุดพัก เอาอุปกรณ์ตะเกียงเวทมนตร์ น้ำ และอาหารออกมาจากที่เก็บต่อหน้าเซซิล ซึ่งเธอก็จับตาดูสภาพอย่างนั้น

หลังจากพักได้ไม่นาน สัตว์อัญเชิญนก D ที่รออยู่ตรงเรือเหาะเวทมนตร์ที่ลงจอดแล้วก็เห็นการเคลื่อนไหวที่ไม่น่าไว้วางใจ

ตรงพื้นหินที่อเลนลงมาจากเรือเหาะเวทมนตร์มีผู้คนมามุงอยู่

(ทั้งคาร์เนลและดรากฮาก็อยู่ด้วย เหมือนกำลังสั่งอะไรอยู่เลย คงเพราะว่าไม่เจอศพของฉันกับเซซิลสินะจะรู้ว่ายังมีชีวิตอยู่ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้)

รอบตัวคาร์เนลมีคนสนิทหลายคนรายล้อม ระหว่างที่สัตว์อัญเชิญนก D ที่แชร์บินดูอยู่บนฟ้า ไวเคานต์ก็ออกคำสั่งอย่างว่องไว ตอนที่จับตาดูเพื่อยืนยันสภาพของคนที่จะไล่ตามมา ดรากฮาก็เข้าไปคุยกับไวเคานต์ราวกับจะขวางการออกคำสั่ง

มันไกลเกินไปเลยไม่ได้ยิน และตอนที่อเลนคิดว่าคุยอะไรกันอยู่นั้นเอง

ร่างของดรากฮาก็เบลอไปครู่หนึ่ง ราวกับร่างกายถูกปกคลุมด้วยไอร้อน แล้วก็ออกวิ่งมาทางประตู

(ระ เร็วมาก! สมแล้วที่เป็นอาชีพสายสอดแนม)

ดรากฮาที่คาดเดาไว้ว่าสเตตัสความเร็วจะเพิ่มขึ้นเยอะเพราะเป็นสายสอดแนม มุ่งตรงมาทางประตูที่อเลนออกไป

(โอ๊ะ? จะออกมาทางประตูเหรอ?)

สัตว์อัญเชิญนก D ที่แชร์ ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบการเคลื่อนไหวของดรากฮาอันดับแรก ดรากฮาที่ออกจากประตู เริ่มวิ่งสุดแรงเกิด

(เอ๊ะ นะ นี่มัน)

อเลนรับรู้ถึงได้ถึงฝันร้าย ตอนนี้ดรากฮากำลังมุ่งหน้าตรงมาที่อเลน

(ยะ แย่แล้ว ทำไมกัน? นี่มันหรือว่าใช้สกิลค้นหาศัตรูงั้นเหรอ)

ดรากฮาที่คิดว่าเป็นสยสอดแนม ดูเหมือนจะใช้สกิลอะไรบางอย่างเพื่อหาตำแหน่งของอเลน ก่อนจะวิ่งตรงมาทางอเลน

“คุณหนูเซซิล ต้องขอประทานโทษด้วยครับ ศัตรูตามมาแล้ว ออกห่างจากที่นี่กันเถอะครับ”

“เอ๊ะ? ขะ เข้าใจแล้ว”

ดรากฮาวิ่งมาอย่างไว แต่ความเร็วของอเลนพอรวมกับพรคุ้มครองแล้วก็สูงถึง 2000 ต่อให้แบกเซซิลไว้บนหลังด้วย แต่ดรากฮากลับตามมาด้วยความเร็วที่ไม่แพ้กัน

ทำการแบกเซซิลและหนีการไล่ตามของดรากฮาไปเรื่อยๆ

หลังจากนั้นก็ลองปรับทิศทางบ้าง หรือเข้าไปในแม่น้ำที่พบบ้าง แต่ดรากฮาก็ตามมาโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลย ดรากฮาไล่ตามหลังมาตลอด อเลนอยู่ค่อนข้างห่างแต่เหมือนรู้ตำแหน่งของอเลนได้อย่างแม่นยำเลย

(สายสอดแนมนี่ช่างมีประโยชน์จริงๆ โอ๊ะ เมืองนี่!!!)

สัตว์อัญเชิญนก D ที่นำหน้าพบเมืองแล้ว ดูเป็นเมืองที่ค่อนข้างใหญ่ในแคว้นคาร์เนล อเลนเลยวิ่งตรงไปที่เมือง แต่ประตูมันปิดไปแล้วและมีคนเฝ้าประตูรอบกลางคืนยืนอยู่

“นี่อเลน จะเข้าเมืองเหรอ?”

เซซิลสังเกตเห็นเมืองจากกองไฟ เธอชะโงกหน้าจากด้านหลังมาพูดกับอเลนที่มุ่งหน้าไปที่เมือง

“ครับ”

“แต่ดูเหมือนประตูจะปิดแล้วนี่?”

“นั่นสิครับ จะลองพยายามดู ช่วยพูดให้ตรงกันด้วยนะครับ”

(จะใช้เมืองหยุดดรากฮาได้หรือเปล่านะ)

“นะ นี่หยุดอยู่ตรงนั้น!”

อเลนโดนคนเฝ้าประตูสั่งให้หยุด และทำหน้าตาประหลาดใจออกมาอย่างชัดเจนเพราะเห็นเด็กชายสวมชุดคนรับใช้อุ้มเด็กหญิงไว้กลางหลังในเวลาค่ำเช่นนี้ ถึงขนาดตั้งหอกขึ้นมาเลย

“ดะ ดีจังเลย……ถึงเมืองสักที คุณหนูอดทนอีกนิดนะครับ”

“อะ อือ”

ไม่สนคนเฝ้าประตูที่กำลังเฝ้าระวัง อเลนหายใจหอบพูดราวกับจะให้เซซิลโล่งใจ

“ต้องขอโทษคุณคนเฝ้าประตูด้วยครับ ไม่ทราบว่าขอเข้าไปในเมืองได้หรือเปล่าครับ?”

“ระ เรื่องนั้นไม่ได้หรอก มันเลยเวลาเปิดประตูแล้ว แล้วจะให้คนน่าสงสัยอย่างพวกเธอที่มาในเวลาอย่างนี้เข้าไปข้างในไม่ได้หรอก”

“ไม่ใช่ครับ พวกผมไม่ใช่คนน่าสงสัยครับ”

อเลนแสดงตราของตระกูลแกรนเวลให้ดู

“ตระกูลแกรนเวลเหรอ เดี๋ยวสิ ทำไมถึงมาดึกดื่นป่านนี้?”

ถึงจะสะดุ้งไปครู่หนึ่งเพราะเห็นตรา แต่เพราะอยู่ในแคว้นของคาร์เนล การที่มีคน 2 คนจากตระกูลแกรนเวลซึ่งอยู่ในแคว้นข้างเคียงมาในเวลาดึกๆอย่างนี้มันดูไม่เป็นธรรมชาติ

“เปล่าครับ ที่จริงแล้วรถม้าพังห่างจากตรงนี้ไปหน่อย แล้วเคลื่อนไหวไม่ได้ครับ จะให้คุณหนูพักในที่อย่างนั้นก็ไม่ได้ด้วยครับ”

อเลนโกหกออกมาอย่างลื่นไหล และแสดงสีหน้าลำบากใจออกมาทั้งรถม้าพังกับคุณหนูที่พูดเอาแต่ใจ

“……”

เพราะเซซิลโดนโบ้ยให้เป็นความผิดของตัวเอง เลยลืมพูดสิ่งที่เตี๊ยมกันไว้

“อย่างงั้นเหรอ แต่ว่ามัน……”

(โอ๊ะ อย่างนี้น่าจะได้อยู่ อีกเดี๋ยวดรากฮาจะมาถึง คงถามตอบไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว)

“ผมเองก็รู้อยู่ว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่ว่าแค่ครั้งนี้ช่วยทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นได้ไหมครับ”

อเลนยื่นมือไปหาคนเฝ้าประตู เขาสะดุ้งพร้อมกับตรวจสอบสิ่งที่อเลนยื่นมา สิ่งนั้นพอเจอแสงจากกองไฟที่อยู่ข้างประตูก็ส่องประกายแสงสีทองออกมา

อเลนมอบเหรียญทองให้ 1 เหรียญ

“ชะ ช่วยไม่ได้นะ แต่ผ่านเข้าไปที่พักก็ปิดหมดแล้วนะ”

“เรื่องนั้นไว้จะไปลองขอร้องดูครับ”

ทำให้คิดว่าจะใช้เงินในการขอที่พัก คนเฝ้าประตูพูดว่าไม่ไหวๆ ก่อนจะให้ผ่านไปยังประตูสำหรับคนเฝ้าประตูที่อยู่ข้างๆ

เข้าไปในเมืองเพื่อหนีการไล่ล่าจากดรากฮา

Hell mode

Hell mode

Status: Ongoing

ยามาดะ เคนอิจิ พนักงานกินเงินเดือน อายุ 35 ปี ผู้ชื่นชอบเกมที่ต้องฟาร์มหนักๆ ตอนนี้กำลังสิ้นหวังกับยุคที่เกมเล่นผ่านง่ายๆกำลังเป็นที่แพร่หลาย ระหว่างนั้นเองที่เขาโดนเว็บไซต์หนึ่งที่เขียนว่า “สำหรับผู้ชื่นชอบการฟาร์มอย่างคุณ” ทำให้ไปเกิดใหม่ในต่างระดับเฮลโหมด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท