สืบแค้นคุณหนูสวมรอย – ตอนที่ 208 ผิดหวัง

สืบแค้นคุณหนูสวมรอย

ตอนที่ 208 ผิดหวัง

คนผู้นั้นรู้ถึงการดำรงอยู่ของ ‘คุณชายซิน’ แล้ว?

ซินโย่วยกจอกชาขึ้นจิบเปะปะไปคำหนึ่ง

แววตาเฮ่อชิงเซียวที่มองนางแอบซ่อนความห่วงใย “ฝ่าบาทสงสัยว่าท่านซงหลิงก็คือคุณชายซิน”

ซินโย่วกุมแก้วชาแน่น

คนผู้นั้นฉลาดกว่าที่คิด

“คุณหนูโค่ว”

ซินโย่วมองคนที่ส่งเสียงเรียกนาง “หืม?”

“ฝ่าบาทเดาว่าท่านซงหลิงยังอยู่เมืองหลวง รับสั่งกับข้าว่าแม้ต้องขุดพื้นลึกลงไปสามฉื่อก็ต้องหาตัวเขาให้พบ”

ซินโย่วนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก็ถามขึ้นว่า “แล้วใต้เท้าเฮ่อมั่นใจว่าจะหาพบหรือ”

“นี่ก็คือเรื่องที่ข้าคิดถามคุณหนูโค่ว คุณหนูโค่วคิดว่าข้าจะหาท่านซงหลิงพบหรือไม่ อยากให้ข้าหาพบหรือไม่”

คำพูดนี้หากเป็นคนอื่นกล่าว ซินโย่วก็คงรู้สึกว่าเป็นคำพูดข่มขู่ แต่สีหน้าจริงจังของคนตรงหน้าและแววตาอ่อนโยนเช่นนี้ ทำให้นางรู้ว่าเขากำลังถามความเห็นนางอยู่จริงๆ

เขารู้ว่าท่านซงหลิงก็คือคุณชายซิน คุณชายซิน… ก็คือนาง

“ใต้เท้าเฮ่อ มีคำถามหนึ่ง ไม่รู้ว่าท่านสะดวกตอบหรือไม่” ซินโย่วไม่ได้ตอบคำถามเฮ่อชิงเซียวในทันที

“คุณหนูโค่วเชิญถาม”

“ฝ่าบาทตัดสินพระทัยโบยกู้ชางป๋ออย่างรวดเร็วเช่นนี้ เป็นเพราะเหตุใด แล้วเรื่องพระสนมซูเฟยกับชิ่งอ๋อง ทรงเผยความคิดอันใดหรือไม่”

เฮ่อชิงเซียวส่ายหน้าเล็กน้อย “พระทัยยากคาดเดา ฝ่าบาทคิดทำเช่นไรกับพระสนมซูเฟยและชิ่งอ๋องนั้น มิได้ทรงเอ่ยถึง”

“อย่างน้อยตอนนี้ ก็ไม่ได้ทรงบอกถึงสาเหตุที่เอาชีวิตกู้ชางป๋อต่อทุกคน ใช่ไหม”

เฮ่อชิงเซียวเผยสีหน้าขออภัย “บางทีเพราะฝ่าบาทรู้ว่ามีคุณชายซินอีกคน คิดตามหาคุณชายซินให้พบก่อนค่อยว่ากัน”

ซินโย่วมุมปากแค่นเยาะ “หากหาพระโอรสที่ถือกำเนิดจากฮองเฮาพบ บางทีอาจลงโทษพระสนมซูเฟยสองแม่ลูก แต่หากหาไม่พบ บุตรชายเติบโตแล้วเช่นชิ่งอ๋องนี้ก็คงพอทำใจรับได้?”

ช่างไม่เสียเปรียบเสียจริงๆ

เฮ่อชิงเซียวมองดูอาการโมโหของซินโย่ว แต่ก็ไม่ได้คล้อยตามความคิดนาง “อาจเป็นดังที่คุณหนูโค่วคาดเดา แต่ก็อาจเพราะเป็นห่วงว่าข่าวคุณชายซินจะแพร่ออกไป จะมีบางคนไม่ประสงค์ดีต่อคุณชายซิน การดำรงอยู่ของพระโอรสที่ถือกำเนิดจากฮองเฮานั้นส่งผลกระทบต่อคนมากมายจริงๆ”

“เช่นนี้ ดูท่าใต้เท้าเฮ่อหาตัวท่านซงหลิงให้พบเร็วหน่อยย่อมเป็นเรื่องดี” ซินโย่วน้ำเสียงราบเรียบ

เฮ่อชิงเซียวจ้องมองนางนิ่งลึก แววตากระจ่างใสดังสายน้ำในฤดูวสันต์ “หากเป็นไปได้ ข้าก็หวังว่าท่านซงหลิงจะห่างไกลจากสถานที่วุ่นวาย ใช้ชีวิตอิสระอยู่ในธรรมชาติป่าเขา”

กลับไปเป็นชายหนุ่มอิสรเสรีดังที่พยานเหล่านั้นเอ่ยเล่าถึง

ซินโย่วได้ยินแล้วก็ยิ้มเอ่ยว่า “น่าเสียดายที่ไม่ได้แล้ว”

ในเมื่อคนผู้นั้นตัดใจสังหารเพียงกู้ชางป๋อ เช่นนั้นนางก็คงต้องลงมือเองแล้ว

ยามนี้เฮ่อชิงเซียวยังไม่รู้การตัดสินใจของคุณหนูโค่ว เขารู้สึกเสียดายกับคำตอบนี้อยู่บ้าง แต่ก็มีความเข้าใจยิ่งกว่า

“ในเมืองหลวงนี้ไม่มีคนรู้โฉมหน้าท่านซงหลิง ยังคงหาไม่พบในตอนนี้ ฝ่าบาทจะทรงเอาเรื่องใต้เท้าเฮ่อไหม”

“ไม่”

แม้จะใช่ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่คุณหนูโค่วต้องเป็นกังวล

“เช่นนั้นก็ดี”

เห็นสีหน้านิ่งสงบของซินโย่ว เฮ่อชิงเซียวถามขึ้นว่า “คุณหนูโค่ว จากนี้คิดการเช่นไรต่อ”

ซินโย่วไม่อยากดึงเฮ่อชิงเซียวมาข้องเกี่ยวด้วย ได้แต่ยิ้มบางพลางเอ่ยขึ้นว่า “อยู่ในสภาวะนิ่งรอดูไปก่อน ดูงานศพกู้ชางป๋อ ดูว่าหาท่านซงหลิงไม่พบแล้วจะเป็นอย่างไร”

ได้ยินว่าซินโย่วว่าจะอยู่ในสภาวะนิ่งรอดูต่อไป เฮ่อชิงเซียวก็เบาใจลง หยิบม้วนภาพวาดหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อมาคลี่ออก

เห็นชายหนุ่มในภาพ แววตาซินโย่วก็เบิกกว้างเล็กน้อย

นี่คือ ‘คุณชายซิน’ ที่นางปลอมตัว

“ฝ่าบาทให้จิตรกรวาดออกมาตามคำบอกเล่าของพยาน”

ซินโย่วมองสองสามที “เหมือนจริง จิตรกรฝีมือยอดเยี่ยม”

เฮ่อชิงเซียวม้วนภาพเก็บ เอ่ยเตือนอ้อมๆ “กองกำลังองครักษ์จิ่นหลินรับพระบัญชาให้ตามหาท่านซงหลิง ทุกคนล้วนได้เห็นภาพนี้”

“ข้าเข้าใจแล้ว ขอบคุณใต้เท้าเฮ่อที่เตือน”

“เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน” เฮ่อชิงเซียวมองใบหน้าซูบผอมลงของสาวน้อยตรงหน้าอยู่ครู่หนึ่ง ได้แต่กลืนวาจาปลอบใจลงไป เอ่ยเพียงว่า “หากคุณหนูโค่วต้องการความช่วยเหลือใดก็มาหาข้าได้เสมอ”

ซินโย่วลุกขึ้น ย่อกายให้เขาทีหนึ่ง “ขอบคุณใต้เท้าเฮ่อเจ้าค่ะ ตอนนี้ยังไม่มีเรื่องใด”

ในเมื่อฝากความหวังไว้ที่คนผู้นั้นไม่ได้ นางก็จะหาเส้นทางของนางเอง ในเมื่อเป็นเส้นทางตาย ก็ไม่จำเป็นต้องทำให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย

ซินโย่วไปส่งเฮ่อชิงเซียวออกจากร้านหนังสือด้วยตนเอง

แสงตะวันงดงามในฤดูวสันต์ ชายชุดแดงทั้งชุดงามสง่าใต้แสงตะวันงาม

ใต้เท้าเฮ่อรูปงามจริง

ซินโย่วนิ่งมองเขาลุ่มลึก ก่อนยิ้มโบกมือ

เฮ่อชิงเซียวพยักหน้ารับก่อนขี่ม้าจากไป

เห็นซินโย่วยังคงนิ่งอยู่ เสี่ยวเหลียนก็ส่งเสียงเรียก “คุณหนู?”

“เสี่ยวเหลียน ไปเดินเล่นกับข้าหน่อย”

ต้นไม้ใบหญ้าชอุ่มข้างทาง ใบหลิ่วทิ้งตัวดุจน้ำพุ เด็กหญิงขายดอกไม้เดินผ่านไปตามถนนตรอกซอกซอย ร้องขายดอกไม้เสียงหวาน

ไม่รู้เดินมานานเท่าใด ซินโย่วก็หยุดมองไปยังจวนหลังหนึ่ง

ยามนี้ประตูใหญ่จวนกู้ชางป๋อเปิดกว้าง ประดับผ้าขาว มีคนเข้าออกตลอด พลันมีคนขี่ม้ามาหยุดลงหน้าประตู ผู้ที่นำมาก็คือชิ่งอ๋อง

ซินโย่วกำกิ่งต้นไหวต้นใหญ่ต้นนั้นไว้แน่น จ้องมองชิ่งอ๋องเดินเข้าไปในจวนกู้ชางป๋อ

เสียงร่ำไห้ดังแว่วมา

จัดการฝังโค่วชิงชิงให้เรียบร้อย นางก็จะได้ตั้งใจจัดการงานของตนเองให้เต็มที่

พอข่าวการตายของกู้ชางป๋อแพร่ไปทั่วในหมู่บรรดาขุนนางและชนชั้นสูง ทุกคนก็พากันแอบสอบถาม แต่ก็ไม่ได้ความอันใดจึงพากันเริ่มลำบากใจขึ้นมา

แท้จริงต้องไปร่วมงานศพหรือไม่

หากไม่ไปก็เท่ากับล่วงเกินชิ่งอ๋อง หากไป การตายของกู้ชางป๋อก็เห็นชัดว่าด้วยเหตุอื่น เกิดทำให้ฮ่องเต้ไม่พอพระทัยจะทำเช่นไร

กู้ชางป๋อผู้นี้ตายแล้วยังทิ้งความยุ่งยากให้พวกเขาอีก

ดังนั้นพวกที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดก็ไปร่วมงานศพกันด้วยความรู้สึกหวาดระแวง คนที่ความสัมพันธ์ไม่ใกล้ชิดนักก็ส่งพ่อบ้านไป สำหรับสถานะเช่นกู้ชางป๋อจัดงานศพ ก็นับว่าเงียบเหงาอย่างเห็นได้ชัด

บรรดาขุนนางไม่มีเวลามาสนใจอารมณ์ของคนในจวนกู้ชางป๋อมากนัก ไม่นานพวกเขาก็พบว่าบนท้องถนนมีแต่กองกำลังองครักษ์จิ่นหลิน คล้ายว่ากำลังตรวจสอบบางอย่าง

เรื่องนี้ทำให้ทุกคนยิ่งรู้สึกหวาดระแวง พวกที่มีสายสัมพันธ์กับผู้บัญชาการกองกำลังองครักษ์จิ่นหลินไม่เลวล้วนไปเลียบเคียงถามความ

ผู้บัญชาการกองกำลังองครักษ์จิ่นหลินแซ่เฝิง เป็นชายวัยกลางคนอายุราวสี่สิบกว่า ได้ยินก็ถอนหายใจ “เรื่องพวกนี้ล้วนอยู่ในความรับผิดชอบของท่านโหวผู้นั้น ผู้บัญชาการเช่นข้าไม่อาจยื่นมือไปแทรกได้”

ไปเลียบเคียงถามจากฉางเล่อโหวเฮ่อชิงเซียว?

ไม่ดีกว่า เกิดไปถึงพระกรรณฮ่องเต้ เกรงว่าก็คงเป็นกู้ชางป๋อคนถัดไป

การตายของกู้ชางป๋อทำให้เกิดกระแสคลื่นใต้น้ำในบรรดาขุนนางและชนชั้นสูง แต่ซินโย่วไม่ได้คิดสนใจ เช้าวันต่อมาก็พาเสี่ยวเหลียนนั่งรถตรงไปเขาเชียนอิง

ก็เหมือนเช่นครั้งก่อน พวกนางไปที่หมู่บ้านเล็กแห่งนั้นก่อน เยี่ยมเยียนสองสามีภรรยาที่เคยช่วยซินโย่วไว้

“คุณหนูเป็นผู้สูงศักดิ์ มักมาเยี่ยมเราสองผู้เฒ่า เกรงใจยิ่ง”

หญิงชราเองก็เอ่ยว่า “ใช่ ตอนปีใหม่ คุณหนูยังให้คนส่งข้าวสาร เนื้อและไข่มา พวกเราไม่รู้ว่าเหตุใดจึงได้โชคดีเพียงนี้…”

ซินโย่วกุมมือหญิงชราไว้เอ่ยว่า “ท่านย่าหวัง อย่าได้กล่าวเช่นนี้ ได้พบพวกท่านจึงเป็นความโชคดีของข้า”

หลังจากทักทายกันได้ครู่หนึ่ง ก็มอบของที่นำมาไว้ให้ สองสามีภรรยาออกมาส่งซินโย่วที่หน้าหมู่บ้าน

รถม้าเคลื่อนไปบนเส้นทางหลวง ไม่นานก็เลี้ยวตรงไปเขาเชียนอิง

สืบแค้นคุณหนูสวมรอย

สืบแค้นคุณหนูสวมรอย

Status: Ongoing
เมื่อมารดาถูกสังหาร ซินโย่วจึงมายังเมืองหลวงเพื่อสืบหาตัวฆาตกร แต่เมื่อสืบลึกลงไปก็กลับต้องพบกับความจริงอันน่าตกใจภายในนั้น…รายละเอียด นิยายรัก-สืบสวน ครบรสจากนักเขียนมากฝีมือ ‘ตงเทียนเตอะหลิ่วเยี่ย’ขณะที่ ซินโย่ว กำลังเดินทางเข้าสู่เมืองหลวงเพื่อสืบหาเบาะแสสำคัญของฆาตกรสังหารมารดาก็ได้บังเอิญจับพลัดจับผลูตกหน้าผาแล้วเข้าสวมรอยฐานะของ โค่วชิงชิง คุณหนูหลานนอกของจวนรองเจ้ากรมพระราชยานหลวงเข้าเพราะทรัพย์สินมากมายโค่วชิงชิงจึงถูกญาติที่มาหวังพึ่งพิงผลักตกหน้าผาจนถึงแก่ความตาย นั่นทำให้นางได้เข้ามาสวมฐานะของอีกฝ่ายซินโย่วนั้นมีดวงตาที่พิเศษกว่าคนทั่วๆ ไป นางสามารถมองเห็น ‘เรื่องร้าย’ ที่จะเกิดขึ้นกับคนผู้หนึ่งได้โดยไม่เลือกว่าจะเป็นผู้ใด เวลาไหนประกอบกับไหวพริบอันชาญฉลาดทำให้นางสามารถอยู่ในสถานะนี้ได้อย่างไม่ยากเย็นนักเพื่อสืบเรื่องฆาตกรสังหารมารดาซินโย่วจำต้องใช้ฐานะใหม่ที่มีสืบหาเบาะแสจาก ‘บันทึกโบตั๋น’ เปื้อนเลือดที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุยิ่งสืบลงลึกเรื่องราวก็เหมือนจะซับซ้อนยิ่งกว่านั้นเรื่องราวในอดีตเบาะแสที่โยงใยสืบเนื่องกันมา ได้เวลาเผยโฉมแล้ว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท