ตอนที่ 2948 หมากกระดานโต

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ยาม​ระดับ​นิรันดร์​ห้า​คน​มาเยือน​ บรรยากาศ​กลาง​ฟ้าดิน​ก็​ยิ่ง​กดดัน​แล้ว​

“พวกเรา​มาโดย​ไม่ได้​รับเชิญ​ ถ้าเป็นการ​รบกวน​ทุกท่าน​ก็​ขออภัย​ด้วย​”

ชาย​ชรา​ชุด​เหลือง​ท่วงท่า​สง่าผ่าเผย​คน​หนึ่ง​มาถึงเป็น​คน​แรก​ จากนั้น​ก้มหัว​คารวะ​รูปจำลอง​เจตจำนง​ของ​บรรพ​จารย์​ทั้ง​สี่ “ว่าด้วย​ลำดับ​ศักดิ์​แล้ว​ ทั้ง​สี่ท่าน​เป็น​เมธีบน​มรรคา​นิรันดร์​ แม้ร่าง​ต้น​ไม่อยู่​ แต่​ยัง​ควรค่า​ให้​พวกเรา​เคารพ​เช่น​เดิม​”

“ถ้าเจ้าเคารพ​จริง​ก็​อย่า​มาหาเหาใส่หัว​ตัวเอง​ที่นี่​!”

ก่อนหน้านี้​หยวน​ชูยัง​ยิ้มแย้ม​มาตลอด​ ต่อให้​เผชิญหน้า​กับ​เทียน​อู​และ​ซื่อ​ก็​ไม่เปลี่ยน​สีหน้า​

แต่​ตอนนี้​สีหน้า​เขา​กลับ​ดู​อึมครึม​นัก​

ชาย​ชรา​ชุด​เหลือง​ยิ้ม​น้อย​ๆ เอ่ย​ว่า​ “ถ้าผู้อาวุโส​ถอย​ให้​ก้าว​หนึ่ง​ ส่งผู้สืบทอด​คีรี​ดวงกมล​นาม​ว่า​หลิน​สวิน​คน​นั้น​มา ข้าน้อย​จะจากไป​ทันที​”

“มาแล้วก็​ต้องการ​ตัว​คน​ทันที​ ดูท่า​พวก​เจ้าตระกูล​หยวน​จะแค้น​คีรี​ดวงกมล​เข้ากระดูกดำ​จริงๆ​ หรือ​ตอนนั้น​เจ้าแห่ง​คีรี​ดวงกมล​ไป​ทุบ​ประตู​บ้าน​เจ้าที่​น่านฟ้า​ที่​เก้า​กัน​”

ซวี​อิ่น​แค่น​หัวเราะ​ขึ้น​มา

ชาย​ชรา​ชุด​เหลือง​นิ่วหน้า​เอ่ย​ “ข้าน้อย​เคารพ​ผู้อาวุโส​ว่า​เป็น​เมธี แต่​ถ้าผู้อาวุโส​ไม่เคารพ​ตัวเอง​ก็​ทำให้​ผู้อื่น​เกรงใจ​ไม่ได้​แล้ว​”

“อ้อ​ เจ้าลอง​ไม่เกรงใจ​ดู​ไหม​ล่ะ​”

ซวี​อิ่น​ใบหน้า​เปี่ยม​รอยยิ้ม​ “มาๆๆ พวกเรา​ลงมือ​กัน​หน่อย​ ถ้าฆ่าเจ้าไม่ตาย​ ทุบ​รากฐาน​นิรันดร์​ของ​เจ้าให้​แหลก​เป็น​ชิ้นๆ​ ก็​ไม่ต้อง​พูดถึง​แล้ว​”

ชาย​ชรา​ชุด​เหลือง​หรี่ตา​เล็กน้อย​ สายตา​มอง​ไป​ที่​บรรพ​จารย์​ลัทธิ​ฌาน​ซื่อ​

ซื่อ​เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​สงบนิ่ง​ว่า​ “มีข้า​อยู่​ เกรง​ว่า​จมูก​โค​อย่าง​เจ้าจะไม่มีโอกาส​ทำได้​ถึงขั้น​นี้​ กลับกัน​ทันทีที่​เปิดศึก​ ผู้​ร่วม​มรรค​ที่​มาจาก​น่านฟ้า​ที่​เก้า​ห้า​คน​นี้​จะถือโอกาส​บุกเข้าไป​ใน​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ได้​ ผลลัพธ์​เป็น​เช่นไร​ทุกคน​รู้แก่ใจ​”

คำพูด​เดียว​ทำให้​บรรยากาศ​ใน​ที่​นั้น​ยิ่ง​กดดัน​ พร้อม​จะปะทุ​ขึ้น​ทุกเมื่อ​

และ​ตอนนี้​หลิน​สวิน​ได้​รู้​ฐานะ​ของ​ระดับ​นิรันดร์​ห้า​คน​นั้น​จาก​ปาก​เสวียน​เฟยห​ลิง​แล้ว​

พวกเขา​มีชาย​สี่หญิง​หนึ่ง​

แต่ละคน​มาจาก​เผ่า​เทพ​นิรันดร์​ตระกูล​หยวน​ ชาง ไท่เฮ่า​ ผา​น​อู่​ และ​เจวี๋ย​

ชาย​ชรา​ชุด​เหลือง​ที่​เอ่ยปาก​ก่อนหน้านี้​ก็​คือ​ระดับ​นิรันดร์​ตระกูล​หยวน​ นาม​ว่า​หยวน​เฟย​หู​.

ชาย​สามคน​และ​หญิง​หนึ่ง​คน​ที่​เหลือ​ได้แก่​ชางสยง​ถู ผา​น​อู่​ซิงหยวน​ เจวี๋ย​ปี้​ไฮ่และ​ไท่เฮ่า​หา​นเว่ย​

ใน​นั้น​หลิน​สวิน​เคย​เจอ​ไท่เฮ่า​หา​นเว่ย​มาก่อน​ ตอนนั้น​ใน​น่านฟ้า​ที่หก​ เขา​เคย​สังหาร​รูปจำลอง​เจตจำนง​ของ​อีก​ฝ่าย​

หลังจาก​ระดับ​นิรันดร์​พวก​นี้​มาถึง แต่ละคน​เก็บงำ​กลิ่นอาย​ไว้​ถึงขีดสุด​ เห็นชัด​ว่า​กังวล​ว่า​จะชักนำ​การ​สะท้อน​กลับ​จาก​กฎระเบียบ​ฟ้าดิน​

แต่​ใครๆ​ ต่าง​รู้​ชัด​ว่า​ใน​เมื่อ​พวกเขา​กล้า​ปรากฏตัว​ที่นี่​ ก็​ย่อม​ไม่สนใจ​เรื่อง​พวก​นี้​แล้ว​

หลิน​สวิน​เห็นภาพ​นี้​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​อึดอัด​กระวนกระวาย​

ถึงตอนนี้​เขา​ถึงตระหนัก​รู้​ได้​ว่า​ก่อนหน้านี้​ตน​ประเมิน​ความแน่วแน่​ของ​ศัตรู​พวก​นี้​ต่ำ​ไป​

ดู​ผิวเผิน​พวกเขา​เคลื่อน​กำลัง​พล​เป็น​เฒ่าดึกดำบรรพ์​ขั้น​หลุดพ้น​ ซ้ำยัง​นำ​รูปจำลอง​เจตจำนง​ระดับ​นิรันดร์​มามากมาย​ แต่​ไพ่ตาย​ที่​แท้จริง​ของ​พวกเขา​กลับเป็น​รูปจำลอง​เจตจำนง​บรรพ​จารย์​ผู้ก่อตั้ง​สอง​คน​นั้น​ กับ​ระดับ​นิรันดร์​น่านฟ้า​ที่​เก้า​ห้า​คน​นี้​!

พูด​ได้​ว่า​สถานการณ์​ตอนนี้​ไม่ดี​ต่อ​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​แล้ว​โดยสิ้นเชิง​

ไม่ว่า​ใคร​ได้​เห็นภาพ​นี้​เกรง​ว่า​จะเกิด​ความรู้สึก​ไร้​พลัง​และ​สิ้นหวัง​

“ตัวเลือก​ก็​อยู่​ใน​มือ​พวก​เจ้าลัทธิ​แรก​กำเนิด​ พวกเรา​มาคราวนี้​เพียง​เพื่อ​ผู้สืบทอด​คีรี​ดวงกมล​หลิน​สวิน​เท่านั้น​ ถอย​ก้าว​เดียว​ก็​จะปกป้อง​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ของ​พวก​เจ้าให้​ไร้​โศก​ได้​!”

บรรพ​จารย์​ลัทธิ​พ่อ​มด​เทียน​อู​เอ่ยปาก​ วาจา​ดุดัน​หนักแน่น​

“ถอย​ก้าว​เดียว​หรือ​”

หยวน​ชูสีหน้า​เฉยชา​ “ถ้าถอย​ก้าว​นี้​ไป​ ข้า​มีชีวิต​อยู่​ยัง​จะมีความหมาย​บ้า​อะไร​”

“เช่นนั้น​ก็​สู้!”

เทียน​อู​อานุภาพ​แกร่งกล้า​

ซื่อ​สีหน้า​เรียบ​เฉย​ เอ่ย​ว่า​ “เช่นนี้​ดูท่า​ใน​วันนี้​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​จะต้อง​ถูกลบ​ชื่อ​ไป​จาก​โลก​ น่าเสียดาย​แล้ว​…”

“ลัทธิ​แรก​กำเนิด​กับ​คีรี​ดวงกมล​ร่วมมือ​กัน​กระ​ทำชั่ว​ ย่อม​ไม่อาจ​ดำรงอยู่​บน​โลก​นี้​ได้​อีก​”

ชาย​ชรา​ชุด​เหลือง​หยวน​เฟย​หู​สีหน้า​เฉยเมย​ ดวงตา​ระดับ​นิรันดร์​ข้าง​กาย​เขา​อีก​สี่คน​ก็​มีประกาย​เย็นชา​น่า​หวาดผวา​ไหว​เคลื่อน​

“อยาก​ทำลาย​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ มาถามข้า​ไท่​เสวียน​ก่อน​ว่า​ยอม​หรือไม่​!”

ทันใดนั้น​ห้วง​อากาศ​สั่นสะเทือน​ เงาร่าง​สูงใหญ่​ร่าง​หนึ่ง​ปรากฏ​ เขา​แต่งกาย​ชุด​ผ้าป่าน​ เบื้องหลัง​มีเงาแสงที่​วิวัฒน์​จาก​ปราณ​กระบี่​ไพศาล​

เป็น​ร่าง​ต้น​ของ​หัวหน้า​หอ​แรก​มายา​ไท่​เสวียน​!

หลิน​สวิน​สะท้าน​ใน​ใจ กลับ​ดีใจ​ไม่ออก​สักนิด​ เขา​รู้​ว่า​ไท่​เสวียน​ขัง​ตัวเอง​อยู่​ใน​เขต​ผนึก​แจ้งเร้น​เพื่อ​หยั่งรู้​มหา​มรรค​ แต่​ตอนนี้​กลับ​ถูก​บีบ​ให้​ออก​ด่าน​ เกรง​ว่าความ​ทุ่มเท​แสน​กว่า​ปี​จะต้อง​สูญสิ้น​ไป​…

หยวน​ชูแววตา​ซับซ้อน​ เอ่ย​ว่า​ “ยัง​ไม่ตัดสิน​แพ้ชนะ​เจ้าก็​แจ้น​มาแล้ว​ จะร้อนรน​ไป​หน่อย​นะ​”

ไท่​เสวียน​หัวเราะ​เบิกบาน​เอ่ย​ว่า​ “ช้าเร็ว​ล้วน​เหมือนกัน​ ก็​แค่​สู้จนตัวตาย​เท่านั้น​ จะครึกโครม​หน่อย​ก็​ไม่เป็นไร​”

เมื่อ​ไท่​เสวียน​ปรากฏตัว​ พวก​เทียน​อู​ที่อยู่​ไกลๆ​ ต่าง​นัยน์ตา​หด​รัด​

“มีแค่​เจ้าคนเดียว​จะเปลี่ยน​สถานการณ์​วันนี้​ได้​หรือ​”

เทียน​อู​เอ่ย​เย็นชา​

ไท่​เสวียน​ยิ้ม​เอ่ย​ “ข้า​ยัง​ห่วง​เรื่อง​พวก​นี้​ทำไม​ ยาม​ตาย​ลาก​คน​ไป​ตาย​ด้วย​อีก​สอง​สามคน​เป็น​พอ​”

ประโยค​เดียว​กลับ​ทำให้​พวก​หยวน​เฟย​หู​นิ่วหน้า​ไม่หยุด​ ถ้าระดับ​นิรันดร์​คน​หนึ่ง​สู้สุด​ชีวิ​ต.​.. เช่นนั้น​ก็​จัดการ​ยาก​แล้ว​!

“เช่นนั้น​หรือ​ ถ้าอย่างนั้น​ก็​รอ​ถูก​ฝังไป​พร้อม​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​เถอะ​”

เทียน​อู​เสียง​เหี้ยมเกรียม​

“ศึก​นี้​นับ​ข้า​เข้าไป​ด้วย​คน​”

ทันใดนั้น​เสียง​น่าเกรงขาม​ไม่เหมือน​ใคร​เสียง​หนึ่ง​ก็​ดัง​ขึ้น​ เงาร่าง​ผอมแห้ง​ของ​หัวหน้า​หอ​แรก​นภา​เหยียน​จี้ปรากฏตัว​ใน​ที่​นั้น​

หลิน​สวิน​กับ​เสวียน​เฟยห​ลิง​ต่าง​หน้า​เปลี่ยนสี​

โหย​วเป่ย​ไห่​กำลัง​ข้าม​มหา​เคราะห์​นิรันดร์​ แต่​เหยียน​จี้กลับมา​ที่นี่​ เช่นนั้น​ใคร​จะปกป้อง​แดน​แรกเริ่ม​เล่า​

“โรค​ทางใจ​รักษา​หาย​แล้ว​หรือ​”

หยวน​ชูเอ่ย​ถาม

เหยียน​จี้ตอบ​ “เหลือ​แต่​อาการ​เล็กๆ น้อยๆ​ ไม่กระทบ​กับ​การต่อสู้​”

หยวน​ชูถอนใจ​ยาว​ “เฮ้อ​ ต้องโทษ​ที่​ตอน​ข้า​จากไป​รีบร้อน​ไป​หน่อย​ หาไม่​เจ้าอาจ​ไม่มีโรค​ทางใจ​เช่นนี้​”

เหยียน​จี้ยิ้ม​เอ่ย​ “เคราะห์​โชค​แนบ​อิง​กัน​ โรค​ทางใจ​นี้​สำหรับ​ข้า​แล้ว​กลับ​เป็นเรื่อง​น่ายินดี​เช่นกัน​ ทำให้​ข้า​รู้แจ้ง​ว่า​จะไป​จะมาอย่างไร​ใน​ระดับ​นิรันดร์​ได้​ในที่สุด​”

หยวน​ชูไม่พูด​อะไร​อีก​ ดวงตา​มอง​ไป​ไกล​

เขา​คล้าย​ตัดสินใจ​แล้ว​ ทั้งตัว​ดู​เยือกเย็น​และ​สงบนิ่ง​นัก​ เอ่ย​ว่า​ “มาเถอะ​ จะชักช้า​ไม่ได้​ สู้ให้​สาแก่ใจ​สัก​ตั้ง​ ต่อให้​วันนี้​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ย่อยยับ​ วันหน้า​รอ​ร่าง​ต้น​ข้า​กลับ​มาจาก​แหล่ง​สถาน​อัศจรรย์​จะต้อง​ไป​เยือน​แดน​สมบัติ​ของ​ทุกท่าน​!”

เสียง​เผย​ความดุร้าย​

ใน​ใจพวก​ถูมู่หุน​ จี้คง​ต่าง​บีบ​เกร็ง​ หน้า​เปลี่ยนสี​เล็กน้อย​

กลับ​พบ​ว่า​เทียน​อู​ยิ้ม​เย็นชา​เอ่ย​ว่า​ “เคราะห์​แห่ง​ยุคสมัย​จะมาเยือน​ภายใน​พันปี​ มหายุค​สับเปลี่ยน​ ทุกสิ่ง​ใน​อดีต​ล้วน​วอดวาย​ ถึงตอนนั้น​เจ้าเฒ่าหยวน​จะรอด​มาจาก​เคราะห์​ดับ​สิ้นไร้​ชีพ​หรือไม่​ยัง​บอก​ไม่ได้​ ตอนนี้​กลับ​โวยวาย​ว่า​จะล้างแค้น​ น่าขัน​ปาน​ไหน​กัน​!”

ซื่อ​ยิ่ง​ตัดบท​ตรงๆ​ ว่า​ “สหาย​ยุทธ์​น่านฟ้า​ที่​เก้า​ทุกท่าน​ หยวน​ชูกับ​ซวี​อิ่น​มอบให้​ข้า​กับ​เทียน​อู​จัดการ​ พวก​เจ้าแบ่ง​สอง​คน​ไป​จัดการ​ไท่​เสวียน​กับ​เหยียน​จี้ คนอื่น​ถือโอกาส​นี้​จับ​หลิน​สวิน​ บุก​เข้า​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​”

“ได้​!”

พวก​หยวน​เฟย​หู​พยักหน้า​

ฟ้าดิน​หนาวเหน็บ​ มหา​ศึก​ใกล้​จะเกิดขึ้น​

หลิน​สวิน​กับ​เสวียน​เฟยห​ลิง​ต่าง​ใจจมดิ่ง​

ก็​ใน​ตอนนี้​เอง​พลัน​มีเสียงหัวเราะ​เหิมเกริม​เสียง​หนึ่ง​ดัง​ขึ้น​ “รีบ​อะไร​ คิด​ว่า​คีรี​ดวงกมล​ไม่มีคน​หรือ​”

โครม​!

ฟ้าดิน​ปั่นป่วน​ แสงมรรค​สาด​กระเซ็น​ เงาร่าง​เด็กหนุ่ม​รูปงาม​คน​หนึ่ง​ปรากฏตัว​ขึ้น​ที่นั่น​ แม้พลัง​ขับเคลื่อน​ทั้ง​ร่าง​จะเก็บงำ​ถึงขีดสุด​ แต่​กลิ่นอาย​ระดับ​นิรันดร์​นั้น​กลับ​แข็งแกร่ง​จน​พา​ให้​ใจสั่นระรัว​

“อาจารย์​อา​คง​เจวี๋ย!”​

หลิน​สวิน​ตา​เป็นประกาย​

“ก็​รู้​ว่า​เจ้าต้อง​ปรากฏตัว​”

เหยียน​จี้คล้าย​ลอบ​ถอนหายใจ​โล่งอก​ ยิ้ม​เอ่ยปาก​

คง​เจวี๋ย​เอ่ย​ “ศิษย์​หลาน​ข้า​คน​นี้​ได้รับ​การ​คุ้มครอง​จาก​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ของ​พวก​เจ้ามาตลอด​ บุญคุณ​ใหญ่​ยิ่ง​เช่นนี้​ ข้า​คง​เจวี๋ย​จะนิ่งดูดาย​ได้​อย่างไร​”

“เฒ่าชรา​โพธิ​มีศิษย์​น้อง​เพิ่ม​มาอีก​คน​ตั้งแต่​ตอน​ไหน​”

เทียน​อู​นิ่วหน้า​ถาม

คนอื่น​ก็​ฉงน​

พวกเขา​ไม่ได้​ไม่รู้จัก​คง​เจวี๋ย​ แต่​ไม่รู้​ชัด​ว่า​คง​เจวี๋ย​กลายเป็น​อาจารย์​อา​ของ​หลิน​สวิน​ตั้งแต่​ตอน​ไหน​ เช่นนั้น​ก็​มีแต่​ต้อง​เป็น​ศิษย์​น้อง​ของ​เจ้าแห่ง​คีรี​ดวงกมล​

“เรื่อง​ข้า​กับ​พี่​โพธิ​ พวก​เจ้ามายุ่ง​ได้​หรือ​”

คง​เจวี๋ย​กลอกตา​ “ไม่ใช่อยาก​สู้หรือ​ วันนี้​ฆ่ากัน​ให้​สาแก่ใจ​ก็​พอ​ ต่อให้​ตาย​ก็​ไม่เสียดาย​!”

การ​ปรากฏตัว​ของ​คง​เจวี๋ย​ทำให้​พวก​เทียน​อู​กับ​หยวน​เฟย​หู​ประหลาดใจ​อยู่​บ้าง​ แต่​ไม่ถึงกับ​ใส่ใจอะไร​มากมาย​ ก็​แค่​คู่ต่อสู้​ระดับ​นิรันดร์​เพิ่มขึ้น​มาหนึ่ง​คน​เท่านั้น​

สถานการณ์​ตรงหน้า​ พวกเขา​ยัง​ได้เปรียบ​อย่าง​เบ็ดเสร็จ​เหมือนเดิม​!

“เหอะ​ๆ ข้า​เข้าใจ​แล้ว​ เคราะห์​วันนี้​ดู​คล้าย​มีโหย​วเป่ย​ไห่​เป็น​คน​ชัก​นำมา​ แล้ว​ตกลง​บน​ตัว​เจ้าหลิน​สวิน​นี่​ ความจริง​แล้ว​เจ้าเฒ่าอย่าง​พวก​เจ้าอยาก​วางหมาก​กระดาน​โต​ละ​สิท่า​”

“ให้​ข้า​เดา​ เคราะห์​แห่ง​ยุคสมัย​จะมาเยือน​ใน​พันปี​ เวลานี้​สิ่งที่​ทำให้​พวก​เจ้าร่วมมือ​โดย​ไม่สนใจ​หน้าตา​เช่นนี้​ได้​ อาจจะ​มีความเป็นไปได้​เพียง​อย่าง​เดียว​”

ซวี​อิ่น​ยิ้ม​ออกมา​ เขา​เหมือน​ดู​อะไร​ออก​แล้ว​ ยื่นมือ​ไป​ชี้ที่​ส่วนลึก​ของ​เวิ้ง​ฟ้า “คน​วางหมาก​ ใช่ผู้บงการ​ที่ซ่อน​อยู่​หลัง​ม่าน​นั่น​หรือไม่​”

ประโยค​เดียว​ประหนึ่ง​ฟ้าผ่า​!

บรรยากาศ​เงียบกริบ​ทันใด​

หลิน​สวิน​ยัง​อด​ขนลุก​ไม่ได้​ ทั้งหมด​นี้​เป็น​สิ่งที่​ผู้บงการ​หลัง​ม่าน​เคราะห์​แห่ง​ยุคสมัย​ทำ​หรือ​!?

ครั้น​หัน​มอง​พวก​หยวน​ชู ไท่​เสวียน​ เหยียน​จี้ คง​เจวี๋ย​อีกครั้ง​ ต่าง​ล้วน​นิ่วหน้า​

คำพูด​นี้​ของ​ซวี​อิ่น​เหมือน​แทง​ทะลุ​กระดาษ​หน้าต่าง​ ทำให้​พวกเขา​ได้กลิ่น​ที่​ต่าง​ออก​ไป​

และ​ห่าง​ออก​ไป​ไกล​ สีหน้า​พวก​เทียน​อู​ ซื่อ​ หยวน​เฟย​หู​ล้วน​แตก​ต่างกัน​ไป​ แต่ละคน​เหมือน​เก็บ​ซ่อน​ความลับ​นับไม่ถ้วน​เอาไว้​ พา​ให้​คน​ครุ่นคิด​

ใน​ใจหลิน​สวิน​ปั่นป่วน​ ถ้าเป็น​เช่นนี้​จริง​ เคราะห์​ใน​วันนี้​ก็​น่ากลัว​กว่า​ที่​คาด​ไว้​แล้ว​!

“เจ้าจมูก​โค​ เคราะห์​แห่ง​ยุคสมัย​ยัง​ไม่มาเยือน​เจ้าก็​พูดจา​เกิน​จริง​ที่นี่​ จะน่าขัน​ไป​หน่อย​แล้ว​ พวก​เจ้าลัทธิ​แรก​กำเนิด​เก่งกล้า​สามารถ​มาจาก​ไหน​ ถึงจะถูก​ผู้บงการ​หลัง​ม่าน​นั่น​หมายหัว​”

เทียน​อู​หัวเราะ​เย็นชา​ ทำลาย​ความ​เงียบ​

“หาก​ใน​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​ปรากฏ​พลัง​ที่​สามารถ​คุกคาม​ผู้บงการ​หลัง​ม่าน​นั่น​ได้​ ย่อม​ต้อง​ถูก​จับจ้อง​”

ซวี​อิ่น​แววตา​วาววาม​ “หาไม่​แล้ว​เหตุใด​เฒ่าชรา​อย่าง​พวก​เจ้า แต่ละคน​ถึงอยู่​มาไม่รู้​กี่​ปี​ ล้วน​เป็น​ระดับ​นิรันดร์​นาน​แล้ว​ แต่​เหตุใด​ต้อง​ระดม​กำลังคน​มาจัดการ​ผู้สืบทอด​คีรี​ดวงกมล​คน​หนึ่ง​เช่นนี้​ด้วย​”

เมื่อ​พูด​ออก​ไป​เช่นนี้​ ทำให้​บรรยากาศ​ใน​ที่นั่น​ยิ่ง​ประหลาด​และ​กดดัน​

ไม่ว่า​ใคร​ต่าง​ฟังออก​ว่า​ความหมาย​ใน​คำพูด​ของ​ซวี​อิ่น​คือ​ เป็นไปได้​สูงยิ่ง​ที่​บน​ตัว​หลิน​สวิน​จะมีพลัง​ที่​สามารถ​คุกคาม​ผู้บงการ​หลัง​ม่าน​นั่น​ได้​

นี่​น่า​เหลือเชื่อ​นัก​

หลิน​สวิน​เอง​ยัง​นิ่งอึ้ง​ ยาก​จะเชื่อ​เช่นกัน​

“พลัง​ระเบียบ​ระดับ​เทพ​สาย​นั้น​ใน​มือ​เจ้าหลิน​สวิน​นี่​เป็น​สมบัติ​ล้ำค่า​ไม่อาจ​ประเมิน​ได้​จริงๆ​ แต่​เกรง​ว่า​จะไม่อาจ​ทำให้เกิด​สถานการณ์​เช่นนี้​ได้​ เช่นนั้น​ก็​มีความเป็นไปได้​เพียง​อย่าง​เดียว​ หนึ่ง​บัว​ที่​เจ้าแห่ง​คีรี​ดวงกมล​รอคอย​นี้​ หรือ​พูด​อีก​อย่าง​ก็​คือ​เจ้าหนู​นี่​ สำหรับ​ผู้บงการ​หลัง​ม่าน​นั่น​แล้วก็​คือ​ภัย​คุกคาม​ที่​แฝงอยู่​!”

ซวี​อิ่น​สีหน้า​สงบนิ่ง​ วาจา​สะท้อน​กลาง​ฟ้าดิน​ “มีแต่​เป็น​เช่นนี้​ พวก​เจ้าลัทธิ​พ่อ​มด​ ลัทธิ​ฌาน​ รวมถึง​น่านฟ้า​ที่​เก้า​ถึงจะนั่ง​ไม่ติด​ และ​ก่อ​ศึก​ใหญ่​วันนี้​ขึ้น​มา นี่​เป็น​หมาก​กระดาน​โต​จริง​เชียว​!”

หลิน​สวิน​เสียวสันหลัง​วาบ​ เป็น​เช่นนี้​จริง​หรือ​

ยาม​มอง​สีหน้า​คนอื่นๆ​ ใน​ที่​นั้น​ ต่าง​แปรง​เปลี่ยน​แตก​ต่างกัน​ไป​ คล้าย​ว่า​หลังจาก​ได้ยิน​คำพูด​ซวี​อิ่น​แล้ว​ต่าง​มีความคิด​ต่างๆ​ กัน​

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท