โลกมืด
ชิงอิงที่อยู่ในชุดกระโปรงเขียวเงยหน้าขึ้นมองไปยังท้องฟ้า
ก่อนหน้านี้ในใจนางก็มีเสียงของอู๋ซวงดังขึ้นมา นอกจากอุทานด้วยความตกใจในใจแล้ว มุมปากยังเผยรอยยิ้ม
ยังคงเหมือนเมื่อก่อน ชิงอิงมีใบหน้างดงามที่ยั่วยวนถึงขีดสุด กางร่มสีเลือด ผิวขาวผ่องเหมือนหยกมันแพะ เครื่องหน้างามลออ คอระหงเรียวยาวขาวราวกับหิมะ แม้ยืนอยู่ง่ายๆ ก็มีเสน่ห์ดึงดูด
“ต้าหวง นี่เจ้าจะไปไหน”
จู่ๆ ชิงอิงก็สังเกตเห็นว่าต้าหวงพุ่งขึ้นท้องฟ้า ท่าทางร้อนใจไม่อาจทนรอได้แล้ว
“ไปหาหลินสวิน เขาต้องเจอนายท่านนานแล้วแน่ ไปหาเขาก็จะได้รู้สถานการณ์ของนายท่านแล้ว”
ต้าหวงตะโกนอย่างตื่นเต้น
“เจ้ารอก่อน ข้าไปกับเจ้า”
ชิงอิงว่าพลางเคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศตามหลังไป
……
รอบนอกทางเดินโบราณฟ้าดารา
เงาร่างผู้ฝึกปราณราวกับกระแสน้ำกลุ่มหนึ่งมารวมตัวกันในฟ้าดาราแถบหนึ่ง
นี่คือผู้ฝึกปราณของแต่ละฟ้าดาราที่มาจากโลกพันจักรวาล รวมตัวกันกลายเป็นกองทัพใหญ่ที่สามารถกวาดล้างทั่วหล้าได้
เพียงแค่ระดับอมตะก็มีสามสิบกว่าคนแล้ว!
เมื่อครึ่งเดือนที่แล้ว หลินสวินกลับมาก็กวาดล้างเจ็ดขุมอำนาจใหญ่ที่อยู่นอกแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ในคราเดียว ทันทีที่ข่าวเผยแพร่ออกไป โลกพันจักรวาลล้วนฮือฮา เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ขึ้น
นี่คือกองทัพใหญ่ผู้ฝึกปราณที่เกรียงไกร และมาเพื่อจัดการหลินสวิน!
เพียงแต่ตอนนี้พวกเขาต่างล้วนชะงัก สีหน้าเปลี่ยนแปลงไม่สามารถสงบได้ บรรยากาศก็กดดันอย่างที่สุด
เสียงที่ไร้คลื่นอารมณ์ของอู๋ซวงก่อนหน้านี้ดังก้องอยู่ในใจทุกคนในกองทัพผู้ฝึกปราณเช่นกัน ทำให้พวกเขาสังเกตเห็นความผิดปกติของสถานการณ์
“ตั้งแต่ตอนนี้ไปเก็บกลิ่นอายของตน ระหว่างทางอย่าลงมือโดยพลการ หากเจอการต่อสู้ อย่าทำร้ายผู้บริสุทธิ์!”
ชายชุดดำที่เป็นผู้นำสูดหายใจลึกคราหนึ่งก่อนออกคำสั่ง
ประโยคเดียวนอกจากทำให้คนเกรงขามแล้ว ยังอดรู้สึกหดหู่ด้วยไม่ได้
เดิมทีสำหรับขุมอำนาจต่างถิ่นอย่างพวกเขา ทางเดินโบราณฟ้าดาราเป็นเหยื่อที่พวกเขาสามารถล่าได้ตามอำเภอใจ
แต่เมื่อหลินสวินกลับมา และยามพลังระเบียบลึกลับน่ากลัวนั่นปกคลุมทั้งบนล่างฟ้าดารา กลับทำให้พวกเขาจำต้องล้มล้างความคิดและยอมก้มหัว!
“สหายยุทธ์ พลังระเบียบนี้ไม่สามารถต้านทานได้หรือ” มีคนรุ่นอาวุโสอดถามไม่ได้
“ทุกคนคงได้ยินเสียงเจตจำนงนั่นแล้วกระมัง นั่นเป็นพลังที่วิญญาณระเบียบเท่านั้นจึงจะสามารถมีได้ น่ากลัวยิ่งกว่าระเบียบระดับสวรรค์ขั้นเก้า!”
ชายชุดดำที่เป็นผู้นำเสียงต่ำลึก น้ำเสียงแฝงความหวั่นหวาดหาใดเปรียบ “อย่าว่าแต่ในโลกพันจักรวาล ต่อให้เป็นโลกยอดนิรันดร์ ก็มีเพียงยักษ์ใหญ่อมตะของน่านฟ้าที่แปดที่สามารถครอบครองพลังมหัศจรรย์เช่นนี้ได้”
“ยักษ์ใหญ่อมตะหรือ”
หลายคนใจสะท้าน สูดหายใจด้วยความตกใจ
“คนอย่างพวกเรา ในโลกพันจักรวาลอาจจะเรียกเป็นนายเหนือหัวได้ กระทำการได้โดยไม่กลัวเกรง แต่หากไปโลกยอดนิรันดร์ก็ไม่มีค่าอะไรเลย ในสายตายักษ์ใหญ่อมตะพวกนั้น พวกเราไม่ต่างอะไรกับมดปลวก”
ชายชุดดำเสียงเนิบช้าทว่าหนักแน่น “ตอนนี้หลินเต้ายวนเอาวิญญาณระเบียบกลับมาด้วย พูดอย่างไม่เกินจริง แค่วิญญาณระเบียบเขาก็สามารถกำราบทุกฟ้าดาราในโลกพันจักรวาลได้อย่างง่ายดาย”
คำพูดเดียวทำเอาทัพของแต่ละฟ้าดาราหัวใจหล่นวูบ อกสั่นขวัญหนี
หลินเต้ายวน!
ถึงกับน่ากลัวถึงขั้นนี้เชียวหรือ
“สหายยุทธ์ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ การที่พวกเราไปแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการไปตายไม่ใช่หรือ”
มีคนอดถามไม่ได้
“ไม่ถึงขนาดนั้น”
แววตาของชายชุดดำวูบไหว “เมื่อครู่นี้วิญญาณระเบียบพูดชัดมากแล้ว ไม่อนุญาตให้ทำร้ายผู้บริสุทธิ์เท่านั้น ไม่ได้บอกว่าห้ามขุมอำนาจต่างถิ่นอย่างพวกเราเข้าทางเดินโบราณฟ้าดารา”
ได้ยินเช่นนี้เฒ่าชราหลายคนตาเป็นประกาย พลันเข้าใจความหมาย
“ขอเพียงแค่พวกเราให้ความร่วมมือ ไม่ไปยั่วโมโหวิญญาณระเบียบ ใชว่าจะไม่สามารถลงหลักปักฐานในทางเดินโบราณฟ้าดารานี้ได้”
ชายชุดดำพูด “ทุกท่านต้องมองการณ์ไกลหน่อย การเปลี่ยนแปลงน่าตกตะลึงของแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์จะทำให้ทั้งทางเดินโบราณฟ้าดาราเกิดการเปลี่ยนแปลงที่พลิกฟ้าพลิกดิน ขอเพียงสามารถลงหลักปักฐานในทางเดินโบราณฟ้าดาราได้ ต่อไปย่อมสามารถได้รับผลประโยชน์ที่คิดไม่ถึง!”
ผู้คนไม่น้อยที่สภาพจิตใจตกต่ำกลับมาตื่นเต้นแล้ว
มีคนเผยสีหน้ามุ่งหวัง “ไม่ผิด คนน่ากลัวอย่างหลินเต้ายวนไม่มีทางอยู่ในทางเดินโบราณฟ้าดาราได้นาน ต่อไปใต้หล้านี้ ไม่แน่ว่าใครจะมีอำนาจสูงสุด!”
……
ผ่านไปไม่กี่วัน
พร้อมกับที่พลังระเบียบของอู๋ซวงซวงปกคลุมทางเดินโบราณฟ้าดารา ความปั่นป่วนและการเข่นฆ่าทั่วหล้าก็เหมือนยุติไปกะทันหันอย่างไรอย่างนั้น
แม้แต่พวกขุมอำนาจที่เป็นศัตรูกันยังเลือกอดทน ถอยกันคนละก้าว ไม่กล้าเข่นฆ่าตามอำเภอใจอีก
ไม่ทันไรสถานการณ์ของทั่วหล้าล้วนปรากฏภาพความสันติ ไม่ใช่สิ่งที่เมื่อก่อนสามารถเทียบได้สักนิด
การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้แน่นอนว่าผู้คนทั่วหล้าล้วนสังเกตเห็น ต่างโห่ร้องด้วยความดีใจไม่หยุด
“ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันใครสามารถทำได้อย่างจักรพรรดิเต้ายวน ใช้พลังของตนเพียงคนเดียวก็กำราบความปั่นป่วนหล้าจนราบเรียบ คืนอนาคตที่สดใสให้กับใต้หล้า”
“ผู้คนมากมายในทางเดินโบราณฟ้าดาราแห่งนี้สำนึกในบุญคุณของจักรพรรดิเต้ายวน!”
“ครั้งนี้หากไม่ใช่เพราะจักรพรรดิเต้ายวน ทางเดินโบราณฟ้าดาราจะต้องล่มสลายแน่ ผู้คนบนโลกก็ไม่มีทางไม่โดนลูกหลง!”
…ทั่วหล้าล้วนกำลังวิพากษ์วิจารณ์ถึงชื่อเดียวกัน…
หลินสวิน!
ในประวัติศาสตร์ของทั้งทางเดินโบราณฟ้าดารา ยังไม่เคยปรากฏคนที่ใช้พลังของตนเพียงคนเดียวสยบทั่วหล้า ลบล้างความปั่นป่วนได้อย่างหลินสวิน
และไม่เคยมีบุคคลระดับตำนานคนใด สามารถทำให้ขุมอำนาจในแต่ละฟ้าดาราของโลกพันจักรวาลก้มหัวได้อย่างหลินสวิน!
ดินแดนรกร้างโบราณ หอฤทธิ์เทพ
หอฤทธิ์เทพถูกเรียกว่า ‘เสมียนของโลกผู้บำเพ็ญ’ ครอบครองสมบัติเทพสองชิ้นอย่างพู่กันวสันต์สารทและหนังสือบันทึกประวัติศาสตร์ บันทึกประวัติศาสตร์ตามความเป็นจริงตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน จารึกการเปลี่ยนแปลงของเรื่องราวบนโลก
บุคคลที่ถูกพวกเขาบันทึก ล้วนสามารถชื่อเสียงเลื่องลือชั่วนิรันดรได้แทบทั้งหมด
เมื่อนานมาแล้วยามหลินสวินบุกดินแดนรกร้างโบราณ เรื่องน่าตกตะลึงเกี่ยวกับเขาก็เคยถูกท่านเมี่ยวเสวียนแห่งหอฤทธิ์เทพบันทึกไว้
และวันนี้ ท่านเมี่ยวเสวียนหยิบสมบัติทั้งสองชิ้นอย่างพู่กันวสันต์สารทและหนังสือบันทึกประวัติศาสตร์ออกมาอีกครั้ง เขียนบันทึกอย่างจริงจัง
‘ผ่านไปหลายปี หลินเต้ายวนครอบครองอานุภาพไร้เทียมทาน กลับมายังทางเดินโบราณฟ้าดารา ลบล้างเภทภัยแห่งแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ใช้พลังระเบียบสยบทั่วหล้า ไม่มีใครกล้าไม่ทำตาม…’
‘ทุกคนบนโลกล้วนชื่นชมเขา มองเขาเป็นนายเหนือหัว ไม่มีใครกล้าไม่เคารพ…’
‘ย้อนมองประวัติศาสตร์ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน หาคนที่เรียกได้ว่าเทียบเคียงไม่ได้!’
……
แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์
แดนลับดวงกมล
“แม่นางชิงอิง พวกเจ้ามาได้พอดี รอข้าสืบเรื่องการเปลี่ยนแปลงของแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ได้กระจ่างแล้ว พวกเจ้าก็ไปโลกยอดนิรันดร์กับข้าเถอะ”
ในโถงหลักของสำนักยุทธ์ก่อเกิด หลินสวินยิ้มพูด
วันนี้ชิงอิงและต้าหวงมาด้วยกัน ทำให้หลินสวินดีใจมาก
ยังไม่รอชิงอิงพูด ต้าหวงก็เอ่ยอย่างร้อนใจแล้ว “ไปโลกยอดนิรันดร์หรือไม่ค่อยว่ากันในภายหลัง ตอนนี้เจ้ารีบเล่าเรื่องของนายท่านข้ามาได้แล้ว”
หลินสวินลูบหัวสุนัขของต้าหวงแล้วเอ่ยว่า “โอ๋ อย่าใจร้อน”
ต้าหวงโกรธจนแยกเขี้ยวยิงฟัน อ้าปากจะไปกัดน่องของหลินสวินทันที กลับถูกหลินสวินหลบหลีก
“เจ้าหมอนี่ คิดว่าพลังปราณร้ายกาจกว่าข้าก็ไม่ต้องเกรงกลัวได้แล้วหรือ” ต้าหวงเห่าเสียงดังคราหนึ่งแล้วพุ่งเข้าใส่หลินสวิน
หลินสวินรีบโบกมือ “เอาล่ะๆ ข้าบอกเจ้าก็ได้”
ต้าหวงถึงยอมหยุด นั่งลงกันพื้นอย่างฟึดฟัด
หลินสวินเองก็ไม่ปกปิด เล่าเรื่องที่เจอศิษย์พี่รองจ้งชิวในโลกยอดนิรันดร์
ฟังจบต้าหวงพลันลุกขึ้นกล่าวว่า “ข้าจะไปแหล่งสถานคุนหลุน!”
หลินสวินรีบเอ่ยว่า “ตอนนี้ที่แห่งนั้นเป็นสถานที่อันตรายยิ่งแล้ว ระดับนิรันดร์รวมตัว อันตรายเกินไป! หากเจ้าอยากเจอศิษย์พี่รองของข้าจริง ติดตามอยู่ข้างกายข้าก็พอ”
ต้าหวงสีหน้าอึมครึมไม่สามารถสงบได้
ชิงอิงเองก็พูดอยู่ข้างๆ “ต้าหวง เจ้าก็รั้งอยู่เถอะ”
ต้าหวงเอ่ยด้วยสีหน้าท้อแท้ “ข้าไร้ประโยชน์ขึ้นเรื่อยๆ แล้วใช่หรือไม่ ไม่มีความสามารถไปช่วยนายท่านได้แล้ว…”
หลินสวินกล่าวอย่างจริงจัง “เจ้าพูดเช่นนี้ไม่ถูกต้อง นายท่านของเจ้าคือศิษย์พี่รองของข้า ข้าเป็นห่วงความปลอดภัยของเขายิ่งกว่าเจ้า อยากช่วยเขาจริงๆ ตั้งใจฝึกปราณก็พอ”
ต้าหวงเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า
หลินสวินและชิงอิงโล่งอกทันที พวกเขากังวลจริงๆ ว่าต้าหวงจะไปแหล่งสถานคุนหลุนโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เช่นนี้ย่อมเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นได้ง่ายมาก
“แม่นางชิงอิง ท่านลู่เองก็อยู่ในโลกยอดนิรันดร์ รอตอนข้าจากไป เจ้ากับต้าหวงก็ไปกับข้าเถอะ” สายตาของหลินสวินมองไปยังชิงอิง
“ได้” ชิงอิงตอบรับอย่างรวดเร็ว
วันนี้หลินสวินจัดแจงให้ชิงอิงและต้าหวงพักอยู่ในแดนลับดวงมกลต่อ
และวันนี้เสวียนจิ่วอิ้นกับจินเทียนเสวียนเยวี่ยย้อนกลับมาแล้ว คนที่มากับพวกเขายังมีคนทั้งบนล่างของตระกูลเสวียน
คืนนั้นหลินสวินจัดงานเลี้ยงยิ่งใหญ่ ต้อนรับคนใหญ่คนโตตระกูลเสวียน รวมถึงผู้นำตระกูลเสวียนอย่างเสวียนซั่งเฉิน
ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะเสวียนซั่งเฉินส่งข่าวมาล่วงหน้า ให้คนตระกูลหลินย้ายไปแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ตระกูลหลินคงถูกกองกำลังที่พวกฝูเหวินหลีส่งมาทำลายล้างไปนานแล้ว!
นี่เป็นบุญคุณยิ่งใหญ่ หลินสวินไม่กล้าลืมแน่
ทั้งบนล่างตระกูลเสวียนถูกหลินสวินจัดแจงที่อยู่ตามความเหมาะสม รอยามจากไปก็จะพาพวกเขาไปโลกยอดนิรันดร์ด้วยกัน
……
“ท่านพี่ ข้าตั้งใจว่าจะไปเผ่าเจินหลงสักหน่อย”
วันนี้จ้าวจิ่งเซวียนมาหาหลินสวิน บอกการตัดสินใจของตนเสียงเบา
หยวนจี๋และอ๋าวซิงถังบิดามารดาของนางล้วนอยู่ที่เผ่าเจินหลง เมื่อรู้ว่าหลังจากหลินสวินสำรวจความลึกลับในการเปลี่ยนแปลงของแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์เสร็จแล้วก็จะพาคนในแดนลับดวงกมลทุกคนจากไป จ้าวจิ่งเซวียนจึงตัดสินใจจะรับบิดามารดาไปด้วย
“ข้าไปกับเจ้า”
หลินสวินใคร่ครวญคร่าวๆ แล้วตอบรับทันที
เขากลับมาทางเดินโบราณฟ้าดาราครั้งนี้ เป้าหมายหลักคือรับญาติมิตรทุกคนไปด้วย ตอนนี้รวบรวมญาติมิตรไว้แล้ว จะหยุดการสำรวจไว้ครู่หนึ่งก่อนย่อมไม่เป็นปัญหา
ยิ่งกว่านั้นการเปลี่ยนแปลงน่าตกตะลึงของแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ทำให้เขาประหลาดใจมากจริงๆ
หากไม่ใช่เพราะช่วงนี้เรื่องที่ต้องจัดการเยอะเกินไป เขาคงไปส่วนลึกของแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์นานแล้ว
จ้าวจิ่งเซวียนเม้มปากยิ้ม “ตอนนี้เจ้ายุ่งมาก อยู่ที่นี่เถอะ ซย่าจื้อเองก็ตกลงใจว่าจะไปกับข้าแล้ว”
หลินสวิยอดมองซย่าจื้ออย่างประหลาดใจไม่ได้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นซย่าจื้อเป็นฝ่ายตอบรับการไปทำเรื่องเช่นนี้ด้วยตัวเอง
“เรื่องของพี่จิ่วเซวียน ข้าไม่สนได้อย่างไร” เสียงของซย่าจื้อไพเราะเสนาะหู
หลินสวินปลามปลื้มขึ้นมาทันที ด้วยอุปนิสัยของซย่าจื้อ สามารถมีการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ได้ถือว่าไม่ง่ายเลยจริงๆ
ควรรู้ว่าเมื่อก่อนนอกจากตนแล้ว ซย่าจื้อไม่สนใจเรื่องของใครบนโลกอีก