หลินสวินจมสู่ภวังค์ความคิด
ตอนนี้เขามีสองทางเลือก หนึ่งคือเลือกจะอยู่ที่นี่ต่อ เช่นนี้ก็สามารถรวบรวม ‘เหยื่อ’ ได้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน
แต่กลับมีข้อเสียหนึ่ง
นั่นก็คือภายใต้สถานการณ์ที่ใช้อภินิหารต้องห้ามสองประเภทอย่างประตูเนรเทศและประทับผนึกเวลาต่อเนื่อง พลังกายจะผลาญไปมากอย่างรวดเร็ว
เช่นนี้การฟื้นฟูพลังกายก็จะเป็นจุดสำคัญ
หลินสวินในตอนนี้มั่งคั่งยิ่ง ในตัวตอนนี้โอสถเทพที่สามารถเสริมพลังกายได้ก็มีมากมาย แต่จากความเร็วในการใช้ตอนนี้ อย่างมากก็ยืนหยัดได้อีกแค่สามเดือนเท่านั้น
อีกตัวเลือกหนึ่งก็คือเดินหน้าต่อ เข้าไปในประตูใหญ่ที่ลึกลับนั่น
ทำเช่นนี้เสี่ยงมากอย่างไม่ต้องสงสัย ถึงอย่างไรก็ไม่มีใครรู้ว่าในประตูบานนั้นซ่อนอันตรายไว้มากมายเพียงใดกันแน่
แต่เช่นเดียวกัน ขอเพียงเข้าไปในนั้นก็อาจสามารถสืบหาสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์เกิดการเปลี่ยนแปลงได้
‘ทำอย่างไรดี’
หลินสวินลังเลเล็กน้อย
กายมรรคทั้งห้ากับเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งของเขาล้วนทิ้งไว้ที่ลัทธิแรกกำเนิด ตอนนี้ทำได้เพียงพึ่งร่างต้นในการเคลื่อนไหว หากประสบเรื่องไม่คาดฝันอะไร ถึงขั้นจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวที่เขาหมายจะพาคนในแดนลับดวงกมลไปโลกยอดนิรันดร์ด้วย
‘ช่างเถอะ อยู่สำรวจที่นี่อีกสักระยะ’
หลินสวินสูดหายใจลึกแล้วตัดสินใจ
เขาไม่ใช่คนที่นิสัยลังเลมาแต่ไหนแต่ไร หลังจากตัดสินใจได้ก็เข้าไปในประตูเนรเทศทันที ตัดสินใจฉวยโอกาสนี้หลอมกฎเกณฑ์นิรันดร์ที่เหยื่อเหล่านั้นทิ้งเอาไว้ก่อน
วู้ม…
จานเทพคร่าศพขาวดำขนาดใหญ่ทั้งสองโคจรในห้วงอากาศ แผ่คลื่นกฎระเบียบลบล้าง
บริเวณรอบๆ ยังมีวงแสงเล็กใหญ่หลายสิบดวง มีทั้งสีแดง สีเขียว สีขาว สีดำ สีม่วง… งดงามหลากสี แผ่กลิ่นอายกฎเกณฑ์นิรันดร์ที่แตกต่างกัน
‘สามสิบเก้าชิ้น กฎเกณฑ์นิรันดร์บางส่วนในนี้เห็นชัดว่ามาจากระดับนิรันดร์คนเดียวกัน กลิ่นอายที่แผ่ออกมาเหมือนกันไม่มีผิด…’
หลินสวินสัมผัสได้ในพริบตาว่ากฎเกณฑ์นิรันดร์เหล่านั้นน่าจะมาจากระดับนิรันดร์เก้าคน
สิ่งที่สามารถมั่นใจได้ตอนนี้คือ เก้าคนนี้ได้ร่วงหล่นในประตูใหญ่ลึกลับที่อยู่ในส่วนลึกแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์นั่นนานแล้ว
หลินสวินไม่เสียเวลาอีกต่อไป สะบัดแขนเสื้อ นำกฎเกณฑ์นิรันดร์เหล่านี้ออกจากประตูเนรเทศ
ฟุ่บ!
ขณะที่เก็บอภินิหารประตูเนรเทศ หลินสวินก็สำแดงพลังของประทับผนึกเวลาอีกครั้ง นั่งขัดสมาธิอยู่ในกระบวนผนึกแล้วเริ่มทำสมาธิ
‘ก็ไม่รู้ว่าหลังจากหลอมกฎเกณฑ์นิรันดร์เหล่านี้ กฎเกณฑ์อมตะของข้าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงถึงขั้นไหน…’
หลังจากนั้นหลินสวินสลัดความคิดฟุ้งซ่าน สงบจิตฟื้นฟูพลังกาย
ตูม ครืนๆ…
คลื่นพลังชีวิตยิ่งใหญ่ราวกับมหาสมุทรแถบหนึ่งพุ่งออกจากประตูใหญ่ที่อยู่ห่างออกไปเสียงดังโครมคราม
คลื่นพลังระดับนั้นสามารถสังหารระดับอมตะได้อย่างง่ายดาย!
แม้เป็นหลินสวิน ตอนนี้ยังทำได้เพียงใช้พลังของอภินิหารพรสวรรค์ต้านทานและสลายไป ไม่เช่นนั้นด้วยมรรควิถีระดับอมตะขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์ของเขา ต่อให้ไม่ถูกฆ่า ก็ต้องถูกโจมตีจนบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ พลังของประทับผนึกเวลาก็ถูกโจมตีอย่างรุนแรงเช่นกัน อย่างมากก็ยืนหยัดได้หนึ่งวันเท่านั้น
ยังดีที่สำหรับหลินสวิน เวลาหนึ่งวันก็เหลือเฟือแล้ว
สามชั่วยามหลังจากนั้น
พลังที่กำลังจะสูญสิ้นจนหมดสิ้นของหลินสวินฟื้นคืนสู่จุดสูงสุด
หลังจากนั้นเขาใช้เวลาหกชั่วยามหลอมกฎเกณฑ์นิรันดร์ทั้งสามสิบเก้าชิ้น
กฎเกณฑ์นิรันดร์เหล่านี้ถูกบดขยี้จากระเบียบลบล้างของจานเทพคร่าศพมาก่อนแล้ว บริสุทธิ์หาใดเปรียบ ไม่มีสิ่งเจือปนสักนิด ยามถูกหลอมย่อมง่ายมาก
ตั้งแต่ตอนที่อยู่ในแดนมารสิบทิศ หลินสวินก็เคยรวบรวมเศษเสี้ยวของระเบียบระดับเทพมาแล้ว ทว่าพลังที่มีในนั้นไม่สามารถเทียบกับ ‘กฎเกณฑ์นิรันดร์’ ได้สักนิด
ต่างกันปานน้ำหนึ่งหยดกับลำธารยาว
แตกต่างราวฟ้ากับดิน
และหลังจากหลอมกฎเกณฑ์นิรันดร์ทั้งสามสิบเก้าชิ้น หลินสวินรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าอานุภาพกฎเกณฑ์อมตะของตนพัฒนาขึ้นช่วงใหญ่อย่างเห็นได้ชัด!
การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้หลินสวินงุนงงเล็กน้อย
ตอนที่กลับทางเดินโบราณฟ้าดารา อานุภาพของกฎเกณฑ์อมตะของเขาเทียบเท่าระเบียบระดับเทพแล้ว
ที่ไม่สามารถหลอมพลังหนึ่งส่วนที่เหลือของระเบียบนิพพานได้ เพราะถูกจำกัดด้วยพลังปราณของเขา
ทว่าตอนนี้ ในสถานการณ์ที่กฎเกณฑ์อมตะที่เขาครอบครองเทียบเท่าระเบียบระดับเทพ ยังคงเกิดการพัฒนาไปได้อีกขั้น นี่เหนือความคาดหมายของเขาโดยสมบูรณ์
ถ้ายังพัฒนาต่อไป หรือจะสามารถแข็งแกร่งกว่าระเบียบระดับเทพได้
นี่เป็นครั้งแรกที่หลินสวินรู้สึกว่ากฎเกณฑ์อมตะของตนผิดปกติเล็กน้อย
ใคร่ครวญครู่ใหญ่เขาถึงกล้ามั่นใจ ว่านี่ต้องเกี่ยวข้องกับระเบียบนิพพานเก้าส่วนที่หลอมไปอย่างแน่นอน
ครู่ใหญ่หลินสวินสลัดความคิดฟุ้งซ่าน สายตามองไปยังประตูลึกลับบานใหญ่ไกลออกไป
เขาปลดพลังของประทับผนึกเวลาแล้วสำแดงประตูเนรเทศออกมา
หว่านแหราวกับชาวประมงมากประสบการณ์
คลื่นพลังชีวิตำพศาลไหลหลั่งออกมาราวกับไม่มีสิ้นสุด และนำพาสิ่งของที่กลิ่นอายนิรันดร์คละคลุ้งมากมายออกมาด้วย
สามารถมองเห็นชิ้นส่วนร่างกายของระดับนิรันดร์เป็นระยะๆ และพวกนี้ก็คือ ‘เหยื่อ’ ที่หลินสวินจะจับ
เวลาสามวันติด
หลินสวินรอคอยอยู่ในบริเวณนี้มาโดยตลอด โดยเฉลี่ยวันหนึ่งสามารถรวบรวมพลังกฎเกณฑ์นิรันดร์ได้ประมาณสามสิบชิ้น
หลังจากหลอมกฎเกณฑ์นิรันดร์เหล่านี้ กฎเกณฑ์อมตะก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กละเอียดไม่หยุด
ถึงตอนนี้หลินสวินถึงขั้นมีความรู้สึกอย่างหนึ่ง ว่าอานุภาพกฎเกณฑ์อมตะของตนเกรงว่าจะเรียกได้ว่า ‘เหนือกว่าระดับเทพ’ แล้ว!
ทว่าในขณะหลอมกฎเกณฑ์นิรันดร์เหล่านี้ หลินสวินก็สัมผัสได้ว่าการเปลี่ยนแปลงของกฎเกณฑ์อมตะช้าลงอย่างเห็นได้ชัด
ราวกับพลังกฎเกณฑ์นิรันดร์ที่สั่งสมอยู่ใน ‘เหยื่อ’ ที่หักพังเหล่านั้น ยากจะทำให้เกิดการพัฒนาที่ชัดเจนต่อกฎเกณฑ์อมตะของตนแล้ว
วันนี้หลินสวินจ้องประตูลึกลับบานใหญ่ไกลออกไปนั่น สุดท้ายก็ตัดสินใจว่าจะเข้าไปดูสักหน่อย!
‘หากเกิดเรื่องร้ายแรงที่อันตรายถึงชีวิตก็ออกมาทันทีเป็นพอ…’
หลินสวินสูดหายใจลึกคราหนึ่ง สำแดงพลังของประตูเนรเทศแล้วเริ่มเคลื่อนไหว
ยิ่งเข้าใกล้ประตูลึกลับมหึมานั่น แรงกดดันก็ยิ่งน่ากลัว ถึงขั้นสามารถบดขยี้ระดับอมตะทุกคนได้ แม้หลินสวินจะใช้พลังของประตูเนรเทศด้วยก็ยังเคลื่อนไหวได้ยากลำบาก
ครึ่งเค่อหลังจากนั้น
ในที่สุดเงาร่างของหลินสวินก็เผชิญหน้ากับคลื่นพลังชีวิตขาวโพลนนั่น และหายไปในประตูลึกลับมหึมานั้น
ตูม!
ชั่วขณะที่เข้าไปในประตูลึกลับบานนั้น หลินสวินรู้สึกเพียงว่าตัวเบาไปทั้งตัว เหมือนทิ้งภูเขาใหญ่ที่แบกไว้อย่างไรอย่างนั้น
ขณะเดียวกันหลินสวินก็เห็นโลกที่อยู่ในประตูลึกลับนี้อย่างชัดเจน
ฟ้าดินมืดมน มองไปไม่เห็นจุดสิ้นสุด ผืนฟ้าที่มืดมิดเหมือนม่านเหล็ก ขุ่นมัวไร้แสง
ยอดเขาเรียงตัวเป็นคลื่น ทอดยาวไปสี่ทิศแปดด้าน เวิ้งว้างและกว้างใหญ่ไพศาล หมอกควันราวกับแรกกำเนิดระลอกแล้วระลอกเล่าล่องลอยอยู่ในอากาศ ปกคลุมฟ้าดินแห่งนี้เหมือนม่านลึบลักชั้นหนึ่ง
ด้านหลังของหลินสวินกลับมีประตูมิติที่มีขอบเขตเพียงสิบจั้งบานหนึ่ง
เห็นชัดว่าประตูลึกลับนี้เชื่อมต่อกับสถานที่ที่เขาเพิ่งจากมา เพียงแต่เทียบกับ ‘ทางเข้า’ ที่กว้างใหญ่ไร้ที่เปรียบนั่น ‘ทางออก’ นี้เห็นชัดว่าเล็กกว่าหลายเท่า
ตูม โครม…
บนพื้นดิน ธารน้ำที่ราวกับแรกกำเนิดสายหนึ่งไหลผ่านภูเขามากมาย สายธารนั่นถึงกับเป็นระลอกคลื่นพลังชีวิตที่บ้าคลั่งพลุ่งพล่าน
ธารน้ำไหลเชี่ยว พุ่งไปยัง ‘ทางออก’ ไม่ขาดสาย
‘ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้’
หลินสวินเข้าใจทันที คลื่นพลังชีวิตที่ทำให้แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์เกิดการเปลี่ยนแปลง มาจากธารแรกกำเนิดที่ยิ่งใหญ่ไพศาลสายนี้!
และนี่ก็หมายความว่า ขอเพียงแค่ทวนลำน้ำแรกกำเนิดสายนี้ขึ้นไป ก็จะเจอ ‘จุดเริ่มต้น’ ของมันได้แล้ว!
หลินสวินมุ่งหน้าไป
กลิ่นอายที่กดข่มใจคนพวยพุ่งอยู่กลางฟ้าดิน หลินสวินสัมผัสได้อย่างฉับไวว่าแม้ระดับนิรันดร์ต่อสู้ที่นี่ ก็ยากจะส่นคลอนพลังระเบียบของฟ้าดินแห่งนี้
พูดอีกอย่างคือ ที่แห่งนี้สามารถรับพลังต่อสู้ของระดับนิรันดร์ได้!
นอกจากนี้ตอนที่หลินสวินมุ่งหน้าไปตามลำธารแรกกำเนิด ก็สัมผัสได้ถึงคลื่นพลังชีวิตดั้งเดิมที่พลุ่งพล่านหาใดเปรียบระลอกแล้วระลอกเล่า เข้มข้นและบริสุทธิ์อย่างที่สุด ถึงขั้นแฝงพลังนิรันดร์รางๆ
‘หากฝึกปราณที่นี่ ต้องมีประโยชน์ยิ่งยวดต่อการแจ้งมรรคนิรันดร์!’
หลินสวินทอดถอนใจอย่างตกตะลึงในใจ
ระหว่างทางเขาสังเกตเห็นเช่นกันว่าในธารแรกกำเนิดนั่นมีชิ้นส่วนศพและสมบัติมากมายปรากฏเป็นระยะๆ
น่าเสียดาย พลังของธารแรกกำเนิดรุนแรงเกินไป หลินสวินเคยลองเข้าใกล้ ผลลัพธ์คือเขาต้องตกใจยกใหญ่ แม้ใช้พลังของประตูเนรเทศ ก็ยังถูกโจมตีจนทรุดในชั่วพริบตา!
นี่ทำให้หลินสวินเกิดความระแวงอย่างแรงกล้า ยามมุ่งหน้าไปก็ระมัดระวังเป็นพิเศษ
หลังจากเดินอยู่เช่นนี้สามชั่วยามเต็ม ในความรู้สึกหลินสวินเหมือนทะยานห่างมาอย่างน้อยหนึ่งแสนลี้แล้ว กลางฟ้าดินที่มืดมิดหมอกคละคลุ้งนั่นปรากฏภูเขาห้าลูก
ภูเขาทุกลูกล้วนมีรูปร่างแตกต่างกัน
บ้างรูปร่างเหมือนเปลวเพลิงลุกโชน ปกคลุมด้วยแสงประกายสีเลือดที่คลุมเครือลึกลับ บ้างเป็นสีดำสนิทราวกับเหล็ก ไม่มีต้นไม้ใบหญ้า หินประหลาดซ้อนเรียง มีไอสังหารเย็นเยียบที่น่ากลัวคละคลุ้งอยู่ภายใน บ้าง…
ภูเขาห้าลูก ล้วนใหญ่โตจนไม่สามารถจินตนาการได้ เผชิญหน้ากับพวกมัน สุริยันจันทราดารายังเล็กเหมือนเม็ดทราย
ให้ความรู้สึกเหมือนนั่นไม่ใช่ภูเขาห้าลูก แต่เป็นโลกที่ยิ่งใหญ่ห้าแห่ง กว้างใหญ่ไพศาลและโอ่อ่าเกินไป!
และธารแรกกำเนิดสายนั้นก็ไหลมาจากบนภูเขาเทพทั้งห้า อ้อมผ่านตัวภูเขาทั้งห้าแล้วพุ่งห้อไปยังทิศทางที่หลินสวินจากมา สุดท้ายทะยานออกไปยังทางออกของฟ้าดินผืนนี้…
‘ต้นกำเนิดที่ทำให้แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์เกิดการเปลี่ยนแปลง ถึงกับอยู่ในภูเขาเทพห้าลูกนี้!’
หลินสวินตกใจ
ตอนนี้ระยะห่างของเขากับภูเขาเทพทั้งห้ายังไกลมาก แต่เพราะภูเขาเทพทั้งห้าใหญ่โตเกินไปจริงๆ ยังคงสามารถมองเห็นได้ว่าพวกมันทรงพลังและยิ่งใหญ่เพียงใด
พวกมันเหมือนเสาห้าต้นที่คำยันฟ้าดินแห่งนี้ มีพลังชีวิตที่พลุ่งพล่านไร้ใดเปรียบไหลลงมาราวกับน้ำตก สุดท้ายกลายเป็นธารสายใหญ่ปานแรกกำเนิด ทอดยาวคดเคี้ยวไปไกลหลายแสนลี้และพุ่งออกจากฟ้าดินแห่งนี้ ทำให้ทางเดินโบราณฟ้าดาราเกิดการเปลี่ยนแปลงที่พลิกฟ้าพลิกดิน!
ชั่วขณะหนึ่งความสงสัยนับไม่ถ้วนก็ผุดขึ้นในใจหลินสวิน
ที่นี่ยังอยู่ในแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์หรือไม่
ภูเขาเทพห้าลูกนั่นมีที่มาอย่างไรกันแน่
เหตุใดจึงมีศพและสมบัติของระดับนิรันดร์ปรากฏมากมายขนาดนี้
หรือว่าเมื่อนานมาแล้ว บนภูเขาเทพทั้งห้านั่นเกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่ของระดับนิรันดร์ ทำให้ที่แห่งนั้นกลายเป็นสุสานฝังศพของระดับนิรันดร์
สีหน้าของหลินสวินแปรเปลี่ยนไม่สามารถสงบได้