ตอนที่ 3225 ยุคแรกกำเนิด

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

หน้า​กระท่อม​

ได้​นั่ง​ดื่ม​สุรา​สนทนา​กับ​เฉิน​ซี ทำให้​หลิน​สวิน​ผ่อนคลาย​นัก​

กระทั่ง​ดื่ม​สุรา​หมด​ไป​หนึ่ง​กา​ เฉิน​ซีก็​วาง​จอก​ลง​ ถอนใจ​ออกมา​เหมือน​พอใจ​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ “ข้า​จำได้​ว่า​ยาม​ดื่ม​สุรา​กัน​คราวก่อน​ยัง​ดื่ม​กับ​มือ​กระบี่​อย่าง​เต็มที่​ เขา​ดื่ม​สุรา​ดี​ที่​ข้า​เก็บรักษา​ไว้​สามสิบ​เก้า​ไห​หมดเกลี้ยง​ก็​ยัง​ไม่พอใจ​ บ่นว่า​อยาก​ดื่ม​อีก​ ข้า​จะไป​ทำให้​เขา​สมใจได้​อย่างไร​ บอ​กว่า​รอ​ตอน​เขา​กลับ​มาจาก​วัฏจักร​ข้า​ค่อย​เลี้ยง​เขา​มื้อ​ใหญ่​ รับรอง​ว่า​จะให้​เขา​ดื่ม​จน​สาแก่ใจ​… ประเดี๋ยวเดียว​ก็​ผ่าน​ไป​หลาย​ยุค​แล้ว​…”

ความผิดหวัง​ฉาย​ขึ้น​ใน​แววตา​เขา​

“ไม่อย่างนั้น​คราวนี้​ผู้อาวุโส​ก็​เลี้ยง​ข้า​มื้อ​ใหญ่​ไหม​เล่า​”

หลิน​สวิน​หัวเราะ​เอ่ย​

เฉิน​ซีก็​หัวเราะ​ พูดว่า​ “ทำไม​จะไม่ได้​ แต่​ต้อง​รอ​จน​การ​ประลอง​หมาก​ครั้งนี้​ปิดฉาก​ลง​ถึงจะได้​”

เขา​เว้น​ช่วง​ไป​แล้ว​พูด​ต่อว่า​ “เจ้าไม่รู้​อะไร​ ตอนนั้น​ถ้ามือ​กระบี่​นั่น​ไม่ต้อง​กลับ​เข้าสู่​วัฏจักร​ฝึก​ปราณ​ใหม่​อีกครั้ง​ให้ได้​ ข้า​จะไม่เลี้ยง​สุรา​ชั้นดี​เขา​มาก​ขนาด​นั้น​เด็ดขาด​”

หลิน​สวิน​อึ้ง​ไป​ เอ่ย​ว่า​ “ผู้อาวุโส​ พูด​อย่าง​ไม่ปิดบัง​ ข้า​ก็​รู้เรื่อง​มรรค​วัฏจักร​เช่นกัน​ แต่​ถึงตอนนี้​ยัง​ไม่เคย​ครอบครอง​นัย​เร้นลับ​แกน​หลัก​วัฏจักร​ จน​ถึงกับ​ตอนนี้​ยัง​ไม่กล้า​เชื่อ​ว่า​บน​โลก​นี้​มีวัฏจักร​เวียนว่ายตายเกิด​อยู่​จริง​”

เฉิน​ซีเอ่ย​ด้วย​แววตา​พิกล​ “ไม่มีใคร​เคย​บอก​เจ้าหรือว่า​ข้า​ครอบครอง​นัย​เร้นลับ​วัฏจักร​สมบูรณ์​ อีก​ทั้ง​ยาม​มือ​กระบี่​นั่น​เกิด​ใหม่​ฝึก​ปราณ​อีกครั้ง​ก็​เป็น​ข้า​ส่งเขา​ไป​”

หลิน​สวิน​ยิ้ม​ขื่น​กล่าว​ “เรื่อง​นี้​ข้า​ไม่รู้​จริงๆ​”

เฉิน​ซีเอ่ย​ “เช่นนั้น​เจ้าคง​รู้จัก​ลาย​ธาร​ใช่ไหม​”

หลิน​สวิน​พยักหน้า​ “ข้า​เคย​เห็น​อานุภาพ​ของ​สมบัติ​นี้​ยาม​อยู่​เมือง​เทพ​ศุภโชค​”

เฉิน​ซียิ้ม​น้อย​ๆ เอ่ย​ว่า​ “มหา​มรรค​วัฏจักร​ที่​สมบูรณ์​มาจาก​สมบัติ​อย่าง​ลาย​ธาร​นี้​ แต่ก่อน​สมัย​ข้า​ฝึก​ปราณ​ คน​ที่​มีลาย​ธาร​จะถูก​มอง​เป็น​ ‘ผู้ทำนาย​เคราะห์​แห่ง​ยุค​’ แต่​ข้า​ก็​เพิ่ง​อนุมาน​ได้​ทีหลัง​เหมือนกัน​ว่า​พลัง​วัฏจักร​มาจาก​ลาย​ธาร​”

“และ​จนกระทั่ง​มาถึงแหล่ง​สถาน​อัศจรรย์​แห่ง​นี้​ ข้า​ถึงอนุมาน​ได้​ในที่สุด​ว่า​สมบัติ​ลาย​ธาร​นี้​ก็​มาจาก​เขต​ผนึก​อัศจรรย์​แห่ง​นั้น​”

หลิน​สวิน​ทึ่ง​ “นี่​ไม่ได้​เหมือนกับ​เรือ​นิรันดร์​หรือ​”

เฉิน​ซีพยักหน้า​ “เป็น​เช่นนี้​จริงๆ​ วัฏจักร​เกี่ยวโยง​ถึงความลับ​แห่ง​การ​กลับ​ชาติ​เกิด​ใหม่​ของ​ชีวิต​ และ​น่าจะ​ถือเป็น​มรรค​แห่ง​ชีวิต​ชนิด​หนึ่ง​ด้วย​”

หลิน​สวิน​ถึงได้​กระจ่าง​ใน​ยาม​นี้​

ด้าน​เฉิน​ซีเอา​ม้วน​หยก​ม้วน​หนึ่ง​ออกมา​ เป็น​สิ่งที่​ไท่​ชูทิ้ง​ไว้​ก่อนหน้านี้​

“สหาย​น้อย​ ข้า​รู้​เป้าหมาย​ที่​เจ้ามาคราวนี้​ อีก​เดี๋ยว​ข้า​จะบอกเล่า​ใจความ​และ​ประสบการณ์​ที่​ได้มา​ยาม​สัมผัส​เขต​ผนึก​อัศจรรย์​ใน​ช่วง​หลาย​ปี​นี้​ให้​ทั้งหมด​”

เฉิน​ซีเล่น​ม้วน​หยก​ม้วน​นั้น​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ “แต่ก่อน​จะทำ​เช่นนี้​ พวกเรา​มาดู​ใจความ​กับ​ประสบการณ์​ที่​ไท่​ชูทิ้ง​ไว้​ก่อน​เป็น​อย่างไร​”

หลิน​สวิน​ยิ้ม​เอ่ย​ “ข้า​ก็​ใคร่รู้​เช่นกัน​”

เฉิน​ซีไม่พูดพร่ำทำเพลง​อีก​ จิต​รับรู้​สาย​หนึ่ง​แทรก​เข้าไป​ใน​ม้วน​หยก​

ผ่าน​ไป​ครู่ใหญ่​เขา​จึงเก็บ​ม้วน​หยก​ ท่วงทำนอง​ประหลาด​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​สีหน้า​ ครู่หนึ่ง​ถึงเอ่ย​ว่า​ “สหาย​น้อย​ก็​ลองดู​”

พูด​พลาง​ส่งม้วน​หยก​ให้​

หลิน​สวิน​แผ่​จิต​รับรู้​สาย​หนึ่ง​แทรก​เข้าไป​ใน​นั้น​เช่นกัน​

ทันใดนั้น​การ​หยั่งรู้​ต่างๆ​ ก็​ปรากฏ​ออกมา​เหมือน​กระแสน้ำ​ การ​หยั่งรู้​เหล่านี้​มาจาก​ไท่​ชู เป็น​ใจความ​ที่​เขา​ได้รับ​ขณะ​สัมผัส​เขต​ผนึก​อัศจรรย์​ใน​กาลเวลา​ไร้​สิ้นสุด​นี้​

ใน​การ​หยั่งรู้​เหล่านี้​มีภาพ​น่า​เหลือเชื่อ​มากมาย​ แต่​ถูก​กลิ่นอาย​แรก​กำเนิด​ปกคลุม​แทบทั้งสิ้น​ ดู​คลุมเครือ​เหมือน​ภาพ​ฝัน​ ไม่อาจ​แยกแยะ​ได้​ ราวกับ​ชมบุปผา​กลาง​สาย​หมอก​

แต่​การ​หยั่งรู้​บางอย่าง​ใน​ม้วน​หยก​นี้​ก็​เป็นนัย​เร้นลับ​ที่​อนุมาน​มาจาก​ ‘ภาพ​’ เหล่านี้​

กระทั่ง​ครู่ใหญ่​หลิน​สวิน​จึงเก็บ​จิต​รับรู้​กลับมา​ ใน​ใจสั่นสะท้าน​อยู่​บ้าง​

จาก​นัย​เร้นลับ​ที่​หยั่งรู้​และ​อนุมาน​ได้​เหล่านี้​ ไท่​ชูได้​ความรู้​อย่างหนึ่ง​…

เขต​ผนึก​อัศจรรย์​มีความหมาย​สามอย่าง​

อย่าง​แรก​คือ​ต้นกำเนิด​ที่​ให้กำเนิด​มรรค​แห่ง​ชีวิต​ มีมรรค​แห่ง​ชีวิต​ที่​สมบูรณ์​สาย​หนึ่ง​

อย่าง​ที่สอง​คือ​เป็น​แกน​หลัก​ต้นกำเนิด​ของ​แหล่ง​สถาน​อัศจรรย์​ ก็​เหมือน​ ‘สายธาร​ยุคสมัย​’ ซึ่งเป็น​แกน​หลัก​ต้นกำเนิด​ของ​แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​ ‘ห้า​ภูเขา​แหล่งน้ำ​ศักดิ์สิทธิ์​’ ที่​เป็น​แกน​หลัก​ต้นกำเนิด​ของ​แหล่งน้ำ​ศักดิ์สิทธิ์​ ‘ทะเล​โชคชะตา​’ แกน​หลัก​ต้นกำเนิด​ของ​แหล่ง​สถาน​คุ​น​หลุน​

อย่าง​ที่สาม​คือ​ เป็นหนึ่ง​ใน​ต้นกำเนิด​ของ​ ‘ไอ​แรก​กำเนิด​’ อัน​สมบูรณ์​!

ความหมาย​แรก​เข้าใจ​ได้​ง่าย​ ก่อนหน้านี้​หลิน​สวิน​ก็​เคย​ได้​ข้อสันนิษฐาน​ทำนอง​นี้​มาก่อน​

ความหมาย​ที่สอง​หาก​โยง​ความเกี่ยวข้อง​ระหว่าง​จตุ​โบราณสถาน​ ก็​เข้าใจ​ได้​ง่าย​เช่นกัน​

เขต​ผนึก​อัศจรรย์​แห่ง​นี้​ก็​คือ​ต้นกำเนิด​ของ​แหล่ง​สถาน​อัศจรรย์​เช่นเดียวกับ​ ‘สายธาร​ยุคสมัย​’ ‘ห้า​ภูเขา​แหล่งน้ำ​ศักดิ์สิทธิ์​’ และ​ ‘ทะเล​โชคชะตา​’

มีเพียง​ความหมาย​ที่สาม​ เป็น​สิ่งที่​หลิน​สวิน​คิดไม่ถึง​เด็ดขาด​

หนึ่ง​ใน​ต้นกำเนิด​ของ​แรก​กำเนิด​อัน​สมบูรณ์​!

ใน​สายตา​ของ​ไท่​ชู ‘ไอ​แรก​กำเนิด​’ ที่ว่า​ สามารถ​บรรจุ​จำนวน​ของ​ยุคสมัย​ที่​ผัน​เปลี่ยน​ สามารถ​รวม​มหา​มรรค​ไร้​สิ้นสุด​ สามารถ​วิวัฒน์​ให้กำเนิด​โลก​นับไม่ถ้วน​ สามารถ​เพิ่มพูน​สิ่งมีชีวิต​ได้​ไม่รู้​จบ​

ก็​เหมือน​ทางเดิน​ดารา​ฟ้าโบราณ​ โลก​พัน​จักรวาล​ โลก​ยอด​นิรันดร์​… โลก​เหล่านี้​ต่าง​อยู่​ใน​ยุค​วิญญาณ​ยุทธ์​ สิ่งนี้​สามารถ​มอง​เป็น​อารยธรรม​ยุคสมัย​แห่ง​หนึ่ง​ได้​

และ​ก่อน​ยุค​วิญญาณ​ยุทธ์​ ยังมี​อารยธรรม​ยุคสมัย​อีก​มากมาย​

อารยธรรม​ยุคสมัย​ต่างๆ​ รองรับ​อารยธรรม​ฝึก​ปราณ​ทั้งปวง​ รวมถึง​มหา​มรรค​ทั่วหล้า​

แต่​สุดท้าย​ อารยธรรม​ยุคสมัย​ต่างๆ​ ล้วน​บรรจุ​อยู่​ใน​ไอ​แรก​กำเนิด​แห่ง​หนึ่ง​!

‘ไอ​แรก​กำเนิด​’ เช่นนี้​ไม่ใช่บ่อเกิด​แรก​กำเนิด​ยาม​เมื่อ​โลก​ใบ​เล็ก​แห่ง​หนึ่ง​ถือกำเนิด​ และ​ไม่ใช่กฎระเบียบ​แรก​กำเนิด​ด้วย​

มัน​ก็​คือ​ร่าง​มารดา​ร่าง​หนึ่ง​ ภายใน​นั้น​รองรับ​การสับเปลี่ยน​ยุคสมัย​ รองรับ​อารยธรรม​ มหา​มรรค​และ​ชีวิต​เอาไว้​!

ไอ​แรก​กำเนิด​เช่นนี้​มอง​ได้​ว่า​เป็น​ ‘ยุค​แรก​กำเนิด​’ ยุค​หนึ่ง​

ยุค​แรก​กำเนิด​รวม​รวม​อารยธรรม​ยุคสมัย​ มหา​มรรค​ ชีวิต​ การ​ไหลเวียน​ของ​หมื่น​ลักษณ์​หมื่น​สรรพสิ่ง​ รวมถึง​การเปลี่ยนแปลง​ของ​เรื่องราว​บน​โลก​นับไม่ถ้วน​

ไม่ว่า​จะเป็น​ยุค​มรรค​เซียน​ ยุค​มาร​ ยุค​ธรรม​ หรือ​ยุค​พ่อ​มด​… อารยธรรม​ยุคสมัย​ที่​เคย​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​อดีต​เหล่านี้​ต่าง​เป็น​เพียง​ส่วนหนึ่ง​ของ​ ‘ยุค​แรก​กำเนิด​’

และ​ใน​ยุค​แรก​กำเนิด​ยุค​หนึ่ง​มีสี่ต้นกำเนิด​

ได้แก่​ชีวิต​ โชคชะตา​ ศุภโชค​และ​จุดจบ​

หรือ​พูด​อีก​อย่าง​ก็​คือ​ใน​ยุค​แรก​กำเนิด​นี้​ ต้นกำเนิด​ของ​จตุ​โบราณสถาน​อย่าง​แหล่ง​สถาน​อัศจรรย์​ แหล่ง​สถาน​คุ​น​หลุน​ แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​และ​แหล่งน้ำ​ศักดิ์สิทธิ์​ ก็​คือ​สี่ต้นกำเนิด​ที่​รวมตัว​เป็น​ทั้ง​ยุค​แรก​กำเนิด​

ใน​นั้น​ต้นกำเนิด​ชีวิต​เป็น​แกน​หลัก​ของ​ยุค​แรก​กำเนิด​ ทั้ง​ยัง​เป็นยอด​มรรคา​ที่​ผู้ฝึก​ปราณ​บน​โลก​แทบจะ​สัมผัส​ได้​ยาก​สาย​หนึ่ง​!

ส่วน​อีก​สามต้นกำเนิด​อย่าง​ศุภโชค​ โชคชะตา​และ​จุดจบ​ก็​แปร​เปลี่ยนเป็น​การสับเปลี่ยน​ยุคสมัย​ วัฏจักร​โชคชะตา​ ปลายทาง​สรรพสิ่ง​…

และ​ระหว่าง​สี่ต้นกำเนิด​ต่าง​เกี่ยวโยง​กัน​ จะขาด​สิ่งใดสิ่งหนึ่ง​ไม่ได้​ ก็​เหมือน​ระหว่าง​จตุ​โบราณสถาน​ พลัง​ของ​แต่ละ​ที่​สอดคล้อง​สมบูรณ์​ต่อกัน​ หมุนเวียน​เป็น​วัฏจักร​ เป็น​วังวน​ตั้งแต่​เริ่ม​จน​จบ​ รักษาการ​โคจร​ของ​ทั้ง​ยุค​แรก​กำเนิด​

ข้างต้น​ก็​คือ​นัย​เร้นลับ​ที่​ไท่​ชูหยั่งรู้​ได้​จาก​เขต​ผนึก​อัศจรรย์​ใน​กาลเวลา​ไร้​สิ้นสุด​นี้​

และ​เมื่อ​เข้าใจ​ทุก​อย่างนี้​ก็​ทำให้​หลิน​สวิน​ได้​คำตอบ​ของ​ข้อสงสัย​มากมาย​ใน​ใจ อย่างเช่น​การ​มีอยู่​และ​ความสัมพันธ์​ของ​จตุ​โบราณสถาน​

แต่​ในขณะเดียวกัน​ก็​เกิด​ความ​สั่นสะท้าน​มากมาย​เช่นกัน​

เพราะ​สำหรับ​เขา​แล้ว​ ‘นัย​เร้นลับ​’ มากมาย​ใน​นั้น​ล้วน​เป็น​สิ่งที่​ไม่เคย​ได้ยิน​มาก่อน​!

“รู้สึก​อย่างไร​”

ฝั่งตรงข้าม​ของ​โต๊ะ​ หลังจาก​เห็น​หลิน​สวิน​สงบใจ​ลง​แล้ว​เฉิน​ซีจึงยิ้ม​เอ่ย​ถาม

“ต้อง​ยอมรับ​ว่า​ไท่​ชูร้ายกาจ​มาก​”

หลิน​สวิน​ระวัง​คำพูด​ เอ่ย​ว่า​ “ต่อให้​เป็น​คู่ต่อสู้​ก็​ไม่อาจ​ไม่พูด​ ว่า​การเสาะหา​บน​มหา​มรรค​ของ​เขา​มีความรู้​ความเข้าใจ​ที่​เหนือ​ธรรมดา​”

เฉิน​ซีพยักหน้า​พูดว่า​ “ไท่​ชูร้ายกาจ​จริงๆ​ ทั้ง​ยัง​เป็น​คู่ต่อสู้​ที่​น่ากลัว​ยิ่ง​คน​หนึ่ง​ เมื่อนานมาแล้ว​เขา​เคย​คิด​ออกจาก​โลก​นี้​ หลอม​แหล่งน้ำ​ศักดิ์สิทธิ์​ แหล่ง​สถาน​คุ​น​หลุน​และ​แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​ทั้งหมด​เข้าไป​ใน​มหา​มรรค​ของ​ตน​ ตาม​คำพูด​ของ​เขา​ ถ้าหลอม​สามโบราณสถาน​นี้​เข้าสู่​มรรคา​ของ​ตน​ได้​ ก็​จะครอบครอง​รากฐาน​พลัง​ที่​สามารถ​หลอม​แหล่ง​สถาน​อัศจรรย์​ได้​เช่นกัน​”

หลิน​สวิน​สูด​หายใจ​สะท้าน​ “เจ้าหมอ​นี่​ถึงกับ​บ้า​ขนาด​นี้​เลย​หรือ​”

“สำหรับ​เขา​แล้ว​นี่​ก็​เป็น​วิธี​แสวง​มรรค​อย่างหนึ่ง​ เพียงแต่​ถ้าเขา​ทำ​เช่นนี้​จริง​ ผู้ฝึก​ปราณ​ใน​ยุค​ต่างๆ​ ของ​ใต้​หล้า​แห่ง​นี้​กับ​สิ่งมีชีวิต​นับไม่ถ้วน​จะพบ​เจอ​พิบัติ​เคราะห์​ไป​ด้วย​”

“พูด​อีก​อย่าง​ก็​คือ​ ถ้าถึงเวลา​นั้น​จริงๆ​ ทั่วหล้า​นี้​นอกจาก​เขา​ไท่​ชูแล้ว​ สิ่งมีชีวิต​ทั้งปวง​จะต้อง​ประสบ​เคราะห์​”

เฉิน​ซีเอ่ย​

หลิน​สวิน​พลัน​เอ่ย​ว่า​ “กฎระเบียบ​ไท่​ชูที่​ปกคลุม​รอบ​ๆ แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​นั่น​ คง​ไม่ใช่สิ่งที่​ไท่​ชูวาง​ไว้​เพื่อ​หลอม​ต้นกำเนิด​ศุภโชค​กระมัง​”

“เป็น​เช่นนี้​จริงๆ​”

เฉิน​ซียิ้ม​เอ่ย​ “ตอนนั้น​หลังจาก​ข้า​รู้​ทุก​อย่างนี้​ก็​มุ่งหน้า​ไป​สร้าง​เมือง​เทพ​ศุภโชค​ กำราบ​ต้นกำเนิด​ศุภโชค​ไท่​นั่น​ ทั้ง​ยัง​คุ้มครอง​ด้วย​สมบัติ​ลาย​ธาร​ เช่นนี้​จึงขวาง​พลัง​ของ​ไท่​ชูที่​ปกคลุม​อยู่​รอบ​ๆ แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​ไว้​ได้​”

ตอนนี้​หลิน​สวิน​ถึงเข้าใจ​ในที่สุด​ว่า​เหตุใด​แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​ถึงติด​อยู่​ใต้​การ​ปกคลุม​ของ​กฎระเบียบ​ไท่​ชู

ใคร​จะคิด​ว่า​ไท่​ชูถึงกับ​เคย​บ้า​ขนาด​คิด​จะหลอม​สามโบราณสถาน​ทั้งหมด​

“เจ้าหมอ​นี่​ เพื่อ​แสวง​มรรค​ถึงกับ​ไม่สนใจ​ทุกสิ่ง​แล้ว​”

หลิน​สวิน​ทอดถอนใจ​

เฉิน​ซีเอ่ย​ “ถ้าไม่เป็น​เช่นนี้​ ยาม​มือ​กระบี่​นั่น​จากไป​ใน​ตอนนั้น​ก็​คง​ไม่แปลง​มรรค​วิถี​ทั้งตัว​เป็น​โซ่กระบี่​ กำราบ​ไท่​ชูไว้​ใน​โลก​หม่น​มัว​หรอก​ ที่​กังวล​ก็​คือ​เขา​จะออกจาก​แหล่ง​สถาน​อัศจรรย์​นี้​ไป​สร้าง​เภทภัย​ให้​ทั่วหล้า​”

เขา​เว้น​ช่วง​ก่อน​กล่าว​ต่อ​ “แต่​ปฏิเสธ​ไม่ได้​ว่า​ไท่​ชูเป็น​คู่ต่อสู้​ที่​น่ายกย่อง​คน​หนึ่ง​ ความ​รู้เรื่อง​มหา​มรรค​รวมถึง​จิตใจ​เสาะแสวง​มรรค​ที่​ไม่เปลี่ยน​ผัน​ชั่ว​กาล​ของ​เขา​ กระทั่ง​ข้า​ยัง​เลื่อมใส​ยิ่ง​”

หลิน​สวิน​พยักหน้า​ จากนั้น​เอ่ย​ว่า​ “ผู้อาวุโส​ ใน​ความเห็น​ท่าน​ ไท่​ชูหยั่งรู้​และ​อนุมาน​เขต​ผนึก​อัศจรรย์​อย่างไร​”

เฉิน​ซีนิ่งเงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ก่อน​กล่าว​ “เขา​ไม่ได้​เล่น​ตุกติก​ใน​การ​หยั่งรู้​เหล่านี้​ เพราะ​ความลับ​ที่​เขา​หยั่งรู้​ได้​ ข้า​ก็​หยั่งถึง​เช่นกัน​ พูด​อีก​อย่าง​ก็​คือ​ ในแง่​ความ​รู้เรื่อง​เขต​ผนึก​อัศจรรย์​ เขา​ถึงกับ​ทำให้​ข้า​รู้สึก​เข้าใจ​หัวอก​และ​เห็นอกเห็นใจ​กัน​”

พูด​จบ​เขา​ก็​ถอนใจ​ยาว​ๆ “น่าเสียดาย​ ต่อให้​มีความรู้​มหา​มรรค​แบบ​เดียวกัน​ แต่​มรรคา​ต่างกัน​ สิ่งที่​ไขว่คว้า​จึงขัดแย้ง​กัน​ นี่​ก็​คือ​สิ่งที่​เรียก​ว่า​ ‘สอง​ทาง​ไม่อาจ​บรรจบ​’ อย่างไร​ก็​ไม่อาจ​เป็นมิตร​ต่อกัน​”

หลิน​สวิน​เอ่ย​ “คน​ที่​เข้าใจ​ตัวเอง​ดี​ที่สุด​มัก​เป็น​ศัตรู​ ประโยค​นี้​สามารถ​ใช้กับ​ไท่​ชูได้​ ว่า​กัน​ถึงที่สุด​แล้ว​ การ​ประลอง​หมาก​ครั้งนี้​อย่างไร​ก็​ต้อง​ตัดสิน​แพ้ชนะ​”

เฉิน​ซีเอ่ย​ “ช่วงเวลา​ตัดสิน​แพ้ชนะ​ยัง​เร็ว​ไป​ ถือโอกาส​นี้​ข้า​ก็​มีใจความ​บางส่วน​อยาก​พูดคุย​กับ​สหาย​น้อย​เช่นกัน​”

หลิน​สวิน​ยิ้ม​เอ่ย​ “ผู้น้อย​ขอ​รับฟัง​ด้วย​ความเคารพ​”

“ไท่​ชูคิด​ว่า​เขต​ผนึก​อัศจรรย์​เก็บ​ซ่อน​มรรค​แห่ง​ชีวิต​เอาไว้​ และ​มรรค​แห่ง​ชีวิต​นี้​ถูก​เขา​มอง​เป็น​ต้นกำเนิด​แกน​หลัก​ของ​ ‘ยุค​แรก​กำเนิด​’ แต่​ข้า​คิด​ว่า​มรรค​แห่ง​ชีวิต​นี้​ควร​เรียก​ว่า​ ‘มรรคา​หง​เห​มิง[1]’ ถึงจะถูก​”

‘มรรคา​หง​เห​มิงหรือ​’ หลิน​สวิน​ครุ่นคิด​

“ใช่แล้ว​ หง​เห​มิงที่​พูดถึง​ ก็​คือ​แกน​หลัก​ของ​ยุค​แรก​กำเนิด​อย่างหนึ่ง​ เป็น​ต้นกำเนิด​แห่ง​ชีวิต​ ถ้าเปรียบเทียบ​ก็​คือ​ หาก​ยุค​แรก​กำเนิด​คือ​ไข่ไก่​ฟอง​หนึ่ง​ เช่นนั้น​พลัง​หง​เห​มิงนี้​ก็​จะเป็น​ไข่แดง​ มรรค​แห่ง​ชีวิต​ทั้งหมด​ล้วน​ฟูมฟัก​และ​ถือกำเนิด​จาก​จุด​นั้น​…”

ขณะ​เอ่ย​เฉิน​ซีก็​บอก​นัย​เร้นลับ​ที่​ตน​หยั่งรู้​ได้​ใน​กาลเวลา​ไร้​สิ้นสุด​นี้​ออกมา​ทั้งหมด​

——

[1] หง​เห​มิง หมายถึง​ความขุ่นมัว​อัน​กว้างใหญ่​ เป็น​คำ​เรียก​ชี่ดั้งเดิม​ตาม​ธรรมชาติ​ที่​ขุ่นมัว​คลุมเครือ​ใน​ช่วง​ก่อน​เบิก​ฟ้าตาม​ความเชื่อ​ของ​ชาว​จีน​โบราณ​

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท