ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 – ตอนที่ 631 เสิ่นอวี้หลงตายแล้ว เธอคงพอใจแล้วสินะ

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ตอนที่ 631 เสิ่นอวี้หลงตายแล้ว เธอคงพอใจแล้วสินะ

หลินเซี่ยกับหู่จือนอนจนถึงเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ หลังหาวออกมาครั้งหนึ่งก็ลืมตาขึ้นมา

เมื่อเธอขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ก็เห็นเฉินเจียเหอกำลังนั่งมองเธอจากตรงขอบเตียง

ข้าง ๆ คือหู่จือที่กำลังหลับปุ๋ย

หลินเซี่ยเห็นคนรักและลูกชายอยู่ข้างกายก็ลูบหน้าท้องของตัวเองโดยไม่รู้ตัว

หน้าท้องยังกลมนูนเหมือนเดิม

เธอค่อยวางใจได้โดยสมบูรณ์

ดีจริง ๆ ทุกคนล้วนอยู่กันพร้อมหน้า

เฉินเจียเหอมองท่าทีตอบสนองตามสัญชาตญาณของหลินเซี่ยตอนเพิ่งตื่น ดวงตาลึกล้ำของเขามองเธออย่างอ่อนโยน ความห่วงใยเอ่อล้นในแววตา

เขาจุมพิตมุมปากของเธอ กระซิบแผ่วเบาว่า “นอนเถอะ”

เรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้คงกระทบกระเทือนจิตใจของหลินเซี่ยเข้าจริง ๆ แล้ว

นอกจากกลัวว่าจะหาลูกไม่เจอ เธอยังกลัวว่าเขาจะกล่าวโทษเธออีกด้วย

เขารู้ว่าช่วงที่ผ่านมาเธอต้องแบกรับความกดดันและความเจ็บปวดมากแค่ไหน

เสิ่นอวี้อิ๋ง เสิ่นเสี่ยวเหมย และถังหลิง พวกผู้หญิงสามคนนั้นใจคอลึกซึ้งและใช้วิธีการชั่วร้ายอย่างมาก

พวกหล่อนคิดว่าถ้าหู่จือหายตัวไปตอนอยู่กับหลินเซี่ย ก็จะเกิดรอยร้าวขึ้นระหว่างพวกเขา ถ้าหาลูกไม่เจออีกเลย ชีวิตนี้ของหลินเซี่ยก็จะต้องจมอยู่กับความรู้สึกผิดและความทรมานที่ไม่มีวันจบสิ้น

ส่วนเขาก็จะโทษหลินเซี่ย เรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาของพวกเขาอย่างแน่นอน

แต่พวกผู้หญิงน่าสงสารที่ไม่เคยได้รับความรักเหล่านั้นหารู้ไม่ว่าเมื่อคนเรารักใครคนหนึ่งอย่างแท้จริง การเห็นคนคนนั้นเจ็บปวดทรมาน เขามีแต่จะปวดใจ

แต่ไม่โกรธเคือง

เรื่องที่หู่จือถูกลักพาตัวไปขาย ตำรวจสืบสวนอย่างละเอียดและทุ่มเทกำลังในการคลี่คลายคดีอย่างเต็มที่

หลังจากหู่จือได้พักผ่อนแล้ว ตำรวจก็จำเป็นต้องสอบปากคำหู่จือ โดยที่เฉินเจียเหอ เซี่ยไห่และหลินเซี่ยต้องไปด้วย หลินเซี่ยบอกเล่าความบาดหมางอันยาวนานระหว่างเธอกับพวกเสิ่นอวี้อิ๋งให้ตำรวจฟังอย่างละเอียด

เพื่อพิสูจน์ว่าแรงจูงใจในการก่อคดีของคนทั้งสามคือการแก้แค้น

ส่วนผงที่เสิ่นอวี้อิ๋งใส่ลงไปในอาหารเหลวของเสิ่นอวี้หลง หลังจากตำรวจส่งตรวจก็ได้ผลออกมาแล้ว

เป็นยาชนิดหนึ่งที่มีฤทธิ์กระตุ้นประสาท

เสิ่นอวี้หลงเป็นเจ้าชายนิทรา เมื่อยาชนิดนี้เข้าสู่ร่างกายก็จะเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงมาก

กรณีเลวร้ายที่สุดคือถึงแก่ชีวิตเพราะเส้นเลือดในสมองแตก

เมื่อผลตรวจยาออกมาแล้ว ตำรวจก็ได้แจ้งให้เซี่ยหลานทราบ

พร้อมเชิญหล่อนมาที่สถานีตำรวจ

เซี่ยตงมาเป็นเพื่อนเซี่ยหลาน

วันนี้พวกหลินเซี่ยมาสถานีตำรวจเพื่อให้ปากคำพอดี หลินเซี่ยกับหู่จือเพิ่งให้ปากคำเสร็จ เฉินเจียเหอและเซี่ยไห่กำลังสอบถามความคืบหน้าของคดีกับทางฝั่งตำรวจ

“แม่ น้า” หลินเซี่ยหันไปพูดกับหู่จือ “หู่จือ สวัสดีคุณยายกับจิ้วเหยียเหยีย(น้องชายของยาย) เร็วเข้า”

หู่จือเอ่ยทักทายอย่างว่าง่าย “สวัสดีครับคุณยาย สวัสดีครับจิ้วเหยียเหยีย”

เซี่ยหลานกับเซี่ยตงเห็นหลินเซี่ยจูงมือหู่จือ เด็กน้อยดูเหมือนจะไม่เป็นอะไร พวกเขาค่อยวางใจได้เสียที

“กลับมาได้ก็ดีแล้ว”

สีหน้าเซี่ยหลานย่ำแย่มาก เพราะยังมีธุระต่อ หล่อนทักทายหลินเซี่ยเสร็จก็ขอตัวไปหาเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบคดีกับเซี่ยตง

หลังจากฟังตำรวจอธิบายผลตรวจสารพิษอย่างละเอียดแล้ว เซี่ยหลานก็มองเอกสารตรงหน้า มือสั่นระริก รู้สึกว่าภาพตรงหน้ามืดวูบวาบ แทบจะเป็นลมไปเสียตรงนั้น

ส่วนเซี่ยตงโกรธจัดจนตบโต๊ะ “สารเลว ชั่วร้ายเกินไปแล้ว”

เซี่ยตงไม่อาจจินตนาการได้เลยว่าเสิ่นอวี้อิ๋งเป็นปีศาจร้ายแบบไหนกันแน่

เสิ่นอวี้หลงเป็นน้องชายแท้ ๆ ของหล่อนนะ

น้องชายของหล่อนเป็นเจ้าชายนิทรามาหนึ่งปีกว่า จนถึงตอนนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะฟื้น พี่สาวของเขาใกล้จะทนไม่ไหวเต็มที

เสิ่นอวี้อิ๋งกลับไม่มีความเห็นอกเห็นใจแม้เศษเสี้ยว ถึงขั้นวางยาให้เสิ่นอวี้หลงตาย นี่เท่ากับเป็นการตัดความหวังสุดท้ายของเซี่ยหลาน ทำให้หล่อนหมดหวังโดยสิ้นเชิง

“สหาย โปรดควบคุมอารมณ์ด้วย”

เซี่ยตงตระหนักว่าตัวเองเสียกิริยาจึงชักมือที่ทุบโต๊ะกลับไป พยายามสงบสติอารมณ์เอาไว้ ไม่ระเบิดโทสะออกมาอีก

แต่เขายังคงไม่เข้าใจอยู่ดีว่าเหตุใดจึงเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น

เสิ่นอวี้อิ๋งคิดอะไรอยู่กันแน่?

หลังจากรายงานความคืบหน้าคดีเสร็จแล้ว ตำรวจกล่าวว่า “เซี่ยหลาน เสิ่นอวี้อิ๋งขอพบคุณ”

“ฉันไม่พบ” เซี่ยหลานตอบอย่างหนักแน่น

นอกจากจะไม่พบเสิ่นอวี้อิ๋งแล้ว หล่อนยังจะฟ้องร้องดำเนินคดีตามขั้นตอนปกติด้วย

เซี่ยตงพูดว่า “ผมจะไปพบหล่อน”

“ไม่จำเป็น” เซี่ยหลานมีสีหน้าเศร้าสร้อย “เจอหล่อนไปก็ไม่มีความหมาย ฉันไม่มีทางใจอ่อน”

“พี่สาว พี่ไม่ต้องยุ่ง ผมจะไปพบหล่อนเอง”

เซี่ยตงเห็นหลินเซี่ยยังไม่ไป เขาจึงเรียกเธอมาแล้วฝากเธอดูแลเซี่ยหลาน จากนั้นก็ตามตำรวจไปพบเสิ่นอวี้อิ๋ง

เมื่อเสิ่นอวี้อิ๋งที่สวมกุญแจมือถูกนำตัวมา พอไม่เห็นเซี่ยหลาน ดวงตาก็หม่นแสงลง

“คุณน้า” เสิ่นอวี้อิ๋งเอ่ยแผ่วเบา

เซี่ยตงมีสีหน้าเย็นชา “ฉันไม่ใช่น้าของเธอ ฉันเป็นน้าของเธอไม่ไหวหรอก”

“แม่ฉันล่ะ?” เสิ่นอวี้อิ๋งถามแผ่วเบา

“แม่เธอ? ใครเป็นแม่ของเธอ? เสิ่นอวี้หลงตายแล้ว เธอคงพอใจแล้วสินะ?” เซี่ยตงจ้องหล่อนอย่างเย็นชาขณะถามคาดคั้น

เสิ่นอวี้อิ๋งดูเหมือนจะตกใจเพราะคำพูดของเซี่ยตง สีหน้าของหล่อนแลดูตะลึงพรึงเพริด “เป็นไปไม่ได้ ยานั่นไม่ได้เข้าปากเสิ่นอวี้หลงด้วยซ้ำ ไอ้โง่นั่นยังถอดสายออกด้วยอีกต่างหาก”

“สายเกินไปแล้ว ยาที่เธอใส่เป็นยาพิษร้ายแรง แค่หยดเดียวก็ทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ นับประสาอะไรกับอวี้หลงที่เป็นเจ้าชายนิทรา” เซี่ยตงจ้องหล่อนแล้วถามคำถามเดิมซ้ำอีกครั้ง “ผลลัพธ์แบบนี้ เธอคงพอใจแล้วสินะ?”

เสิ่นอวี้อิ๋งถูกเขาถามจนพูดอะไรไม่ออก

เสิ่นอวี้หลงตายแล้ว หล่อนพอใจไหมที่ผลลัพธ์ออกมาเป็นแบบนี้?

ถ้าหล่อนไม่ถูกจับ และได้ตามถังหลิงไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เมืองปินเฉิง หล่อนก็คงจะพอใจที่ผลลัพธ์ออกมาแบบนี้

เพราะตอนแรกที่หล่อนตัดสินใจแก้แค้นเซี่ยหลาน เป้าหมายก็คือการทำให้เสิ่นอวี้หลงตาย

หล่อนต้องไม่เหลือความหวังให้เซี่ยหลาน ทำให้เซี่ยหลานสิ้นหวังอย่างแท้จริง

ทำให้เซี่ยหลานเหลือแค่ลูกสาวอย่างหล่อนคนเดียว ไม่อาจไม่มาประจบเอาใจหล่อนในวันหน้า แก่ตัวไปก็ต้องให้หล่อนเลี้ยง ยกมรดกทั้งหมดให้ลูกสาวอย่างหล่อน

เสิ่นอวี้หลงตายแล้ว หล่อนก็จะกลายเป็นลูกคนเดียวของเซี่ยหลาน เป็นที่พึ่งและญาติสนิทเพียงหนึ่งเดียวของเซี่ยหลาน

แต่…

ความจริงคือ หล่อนถูกจับได้คาหนังคาเขา

ถ้าเสิ่นอวี้หลงรอดชีวิต หล่อนยังพอมีหวัง มีความหวังว่าจะได้ออกไปจากที่นี่

แต่เสิ่นอวี้หลงตายแล้ว ต่อให้เซี่ยหลานยอมให้อภัยหล่อน กฎหมายก็ไม่มีทางผ่อนปรนให้หล่อน

เสิ่นอวี้อิ๋งคิดถึงเรื่องพวกนี้แล้วร่างกายก็สั่นเทิ้มอย่างไม่อาจควบคุม คิดไม่ถึงว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะอยู่เหนือการควบคุมไปขนาดนี้

หล่อนถูกความริษยาทำให้ขาดสติและประมาทศัตรูเกินไป

ตอนนี้หล่อนมองเซี่ยตงอย่างเสียขวัญ ส่ายศีรษะไปมา “คุณน้า อย่าล้อเล่นแบบนี้นะ อวี้หลงจะตายได้ยังไง? ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย ฉันไม่ได้ทำจริง ๆ ฉันไม่ได้วางยาพิษอวี้หลง เขาเป็นน้องชายแท้ ๆ ของฉันนะ ฉันจะทำร้ายเขาได้ยังไง?”

เสิ่นอวี้อิ๋งปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา “คุณน้า คุณน้าอย่าฟังความข้างเดียวจากหลินเซี่ย ไอ้โง่ที่อยู่บ้านเดียวกับผู้อาวุโสเย่เป็นเพื่อนเฉินเจียเหอ เขากับหลินเซี่ยร่วมมือกันใส่ร้ายฉัน พวกนั้นอยากให้ฉันตาย พวกเขาจะใช้แผนนี้ฆ่าอวี้หลงแล้วโยนความผิดให้ฉัน ทำแบบนี้ก็จะสามารถกำจัดลูกสองคนของแม่ได้ในคราวเดียว หลินเซี่ยจะได้ครอบครองความรักและทรัพย์สมบัติของคุณแม่แต่เพียงผู้เดียว”

เสิ่นอวี้อิ๋งพูดจนตัวเองก็เริ่มเชื่อเสียแล้ว “ใช่แล้ว เป็นแบบนี้แหละ นี่เป็นแผนร้ายของหลินเซี่ย พวกน้าอย่าไปอย่าหลงกล ฉันเป็นผู้บริสุทธิ์นะ”

เซี่ยตงมองผู้หญิงที่กำลังเล่นละครเหมือนมองดูตัวตลกคนหนึ่ง พูดเปิดโปงว่า “ยานั่น ถังหลิงเป็นคนให้เธอมา หล่อนได้มันมาจากอันธพาลเมืองปินเฉิง สิ่งที่ได้มาไม่ได้มีแค่นี้ ยาที่เธอให้อวี้หลงเป็นยากระตุ้นประสาท เธอก็รู้ว่าน้องชายตัวเองสลบไม่ฟื้นเพราะสมองได้รับบาดเจ็บ ยาที่เธอผสมลงไปในอาหารเหลวของเขาเทียบเท่าได้กับยาพิษ เธอทำแบบนี้คือเจตนาฆ่าคน”

“ดีมาก เธอบรรลุเป้าหมายแล้ว น้องชายตาย แม่เธอก็ล้มป่วย ต่อไปทรัพย์สมบัติทุกอย่างของแม่ก็จะกลายเป็นของเธอ” เซี่ยตงมองเธอพร้อมหัวเราะในลำคอ “แน่นอน นั่นเป็นกรณีที่เธอมีชีวิตรอดออกไปได้น่ะนะ”

เซี่ยตงมีสีหน้าเย็นชา สายตาที่มองเสิ่นอวี้อิ๋งอัดแน่นด้วยโทสะ

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

Status: Ongoing
เมื่อสวรรค์ได้ให้โอกาสเธอย้อนกลับมาแก้ขในสิ่งที่ผิดพลาด เธอจะใช้โอกาสนี้เป็นช่างเสริมสวยยอดฝีมือให้ได้ตามฝันอย่างไรกันนะ?เรื่องย่อ : ในชาติก่อน หลินเ เป็นสไตสต์คนโง่ผู้ร้ความคิดป็นของตัวเอง จึงถูกดาราดาวรุ่งผู้เป็นเพื่อนสนิทวางแผนทำลายชีวิตจนพังพินาศ ไร้ซึ่งเครดิต ไร้ซึ่งอำนาจ และหน้ามืดตามัวทิ้งสามีพ่อม่ายลูกติดที่คอยสนับสนุนมาตลอดได้ลงค แต่เหมือนสวรรค์ยังคงเห็นใจต่ชะตาชีวิตอันรันทดของเธอ จึงทำให้เธอได้ย้อนกลับมาเกิดใหม่ในปี 1988 อันเป็นปีที่ทุกอย่างยังไม่สายเกินกว่าแก้ หลินเชี่ยจะใช้โอกาสที่ได้มีชีวิตครั้งที่สองเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตัวเองอย่างไรบ้าง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท