หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 40: จัดเก็บและเอาไปด้วย

บทที่ 40: จัดเก็บและเอาไปด้วย

บทที่ 40: จัดเก็บ เอาไปด้วย

หลานเยาเยากำลังตกอยู่ในภวังค์ของห้องที่เต็มไปด้วยเงินมากมาย…

ดวงตาของเย่แจ๋หยิ่งตกลงบนหนังสือตัดความสัมพันธ์พ่อลูก ดวงตาที่ล้ำลึกของเขาหรี่ขึ้นเล็กน้อย

จากนั้น หลานเยาเยาก็ถูกเสียงเยียบเย็นที่ดูเย็นชาเล็กน้อยปลุกให้ตื่นขึ้นจากภวังค์ “ถึงกับถึงให้ข้าต้องมาเสียเวลาถึงเพียงนี้”

พูดไป เย่แจ๋หยิ่งก็เคลื่อนสายตาไปหาจื่อเฟิงที่ยืนอยู่ด้านหนึ่ง และเอ่ยเสียงเรียบ “จัดเก็บและพากลับไปด้วย!”

หลังจากพูดจบเขาก็ลุกขึ้นและออกจากห้องไป

ดั่งที่เห็น!

พ่อบ้านเหมยมองหลานเฉินมู๋อย่างเย็นชา และส่งเสียงฮึขึ้นมาทีหนึ่ง ก่อนจะสะบัดแขนเสื้อและเดินจากไป

ในเวลานี้!

จื่อเฟิงเดินไปข้างหน้าหลานเยาเยา และใช้สายตาราบเรียบมองดูนางอย่างแน่นิ่ง และไม่ทันรอให้หลานเยาเยาได้เอ่ยปาก เขาก็พกนางกลับไปด้วยทันที

จวนอ๋องเย่ ลานซวนซี

ลานซวนซีเป็นลานสวนที่สวยงามและสง่างามที่สุดภายในจวนอ๋องเย่ ที่แห่งนี้มีทิวทัศน์อันงดงามราวกับภาพวาด ดอกไม้บานสะพรั่ง และอากาศสดชื่นบริสุทธิ์ เป็นพ่อบ้านเหมยที่เริ่มสร้างสวนแห่งนี้เอาไว้เพื่อรองรับว่าที่พระชายาของจวนอ๋องในอนาคต

“ตุ๊บ … ”

“โอ้ย โดนก้นข้าแล้ว!”

หลังจาก จื่อเฟิงจึงอุ้มเธอเข้าไปในห้องนอนของเธอ จากนั้นจึงโยนเธอลงไปที่พื้นโดยไม่มีความเมตตาเลยแม้แต่น้อย จากนั้นจึงหมุนตัวและเดินจากไปทันที

หลานเยาเยาที่ถูกโยนลงพื้นราวกับผักปลา รีบลุกขึ้นบ่น ในขณะที่กำลังจะเอ่ยปาก ก็ค้นพบว่าในห้องนั้นว่างเปล่าไปแล้ว

เอ่อ……

คนล่ะ?

แย่งคนมาเสร็จก็หนีไปงั้นเรอะ!

แม้ว่าเธอมองเห็นธุรกิจของเย่แจ๋หยิ่งอยู่ในสายตา แต่อย่างไรเสียนางก็ยังเป็นคนให้ความสำคัญกับหลักการ คิดหรือไงว่านางจะแต่งให้กับเขาเพียงเพราะเงิน?

แน่นอนว่าคำตอบคือใช่

แม้ว่าเย่แจ๋หยิ่งจะร้ายกาจไปมาก แต่หลังจากแต่งงานเข้ามาแล้ว เธอก็นับว่าเป็นคนของจวนอ๋องเย่ เย่แจ๋หยิ่งคงไม่ถึงกับต้องการเอาชีวิตเธอหรอกมั้ง?

เงินเชียวนะ!

เงินเยอะมากๆ!

ในขณะที่กำลังคิด…

สายลมเย็นๆก็พัดมาอย่างช้าๆปลุกให้จิตสำนึกของหลานเยาเยาได้สติขึ้นมาอยู่หลายส่วน

ไม่ได้ ไม่ได้ ต้องทำสัญญากฎหมายตราสามดวง มิเช่นนั้นเธอพอถึงเวลาจริงเธอก็เสียเปรียบอย่างยิ่งน่ะสิ?

ดังนั้น!

หลานเยาเยาจึงก้าวเท้าของเธอและรีบเดินออกไปจากประตู เมื่อเธอเห็นทหารยามคนหนึ่ง เธอจึงเอ่ยถามขึ้น

“ท่านอ๋องของพวกเจ้าล่ะ?”

“ไม่ทราบ!”

องครักษ์ที่ถูกคาดคั้นงุนงงอยู่บ้าง หลังจากเห็นว่าเป็นหลานเยาเยา นัยน์ตาก็สว่างขึ้นมาทันใด

นี่คือผู้หญิงคนนั้นที่โดนท่านอ๋องรังแกไม่ใช่หรอกหรือ? ว่าที่พระชายาของท่านอ๋องในอนาคต?

ว่าแต่ ท่านอ๋องไปไหนไม่ใช่ว่านางควรจะถามตนเองหรอกหรือไง?

ใครจะคาดคิด …

ทันทีที่เขาเอ่ยว่าไม่รู้ ยังไม่ทันได้ขาดคำ หลานเยาเยาก็หายไปต่อหน้าต่อตา

หลานเยาเยามาถึงสวนขององค์หญิงจาวหยางด้วยความร้อนรน เมื่อมองเห็นว่ามีเพียงองค์หญิงเพียงแค่ผู้เดียว นางก็รีบหมุนตัวและจากไปทันที

ทำเอาหญิงองค์หญิงจาวหยางงุนงงอย่างยิ่ง!

โชคดีที่ได้พบพ่อบ้านเหมยที่หน้าประตูใหญ่ของจวนอ๋องเย่ ถึงแม้ว่าหลานเยาเยาจะรู้ว่าเขาเป็นคนของจวนอ๋อง แต่หลับไม่รู้ว่าที่แท้แล้วเขามีหน้าที่อะไรกันแน่

แต่ว่าวันนี้คนผู้นี้ติดตามเย่แจ๋หยิ่งไปยังจวนแม่ทัพด้วยกัน ดังนั้น จะต้องเป็นคนที่เย่แจ๋หยิ่งให้ความสำคัญแน่นอน

ดังนั้น!

นางรีบหยิบยกรอยยิ้มหวานขึ้นมาในทันที และเอ่ยตะโกนชื่นชม

“ท่านลุง ดูท่าทางโดดเด่นราวกับอมตะของท่านเข้าสิ เห็นทีตอนท่านยังหนุ่มแน่นจะต้องเป็นคนที่หล่อเหลาสง่างามแน่นอน ท่านทราบหรือไม่ว่าท่านอ๋องของพวกเราอยู่ที่ใดกัน?”

พ่อบ้านเหมยที่เส้นผมใบศีรษะเปลี่ยนเป็นสีขาวมานานแล้ว สำหรับคนอายุเช่นหลานเยาเยา สามารถนับได้ว่าตนเป็นคนของปู่ของเธอแล้ว แต่หลานเยาเยากลับเรียกเขาว่าลุง?

นั่นมิใช่หมายความว่าเขายังดูไม่แก่หรอกหรือ?

พ่อบ้านเหมยราวกับติดปีก ก่อนจะมีสีหน้ายินดีและเอ่ยตอบอย่างมีความสุข “ท่านอ๋องเพิ่งจะออกไปจากจวน พระชายาโปรดรอท่านอ๋องกลับมาอย่างวางใจ หากมีเรื่องอะไรรีบร้อนจัดการได้โปรดบอกข้า”

รถม้าเป็นเขาที่จัดเตรียมขึ้น ในขณะที่เขาเพิ่มเขามา ก็เห็นท่านอ๋องกำลังเตรียมขึ้นรถม้าพอดี คาดว่าตอนนี้รถม้าคงไปไกลแล้ว

เอ่อ……

พระชายา?

ข้าวสารยังไม่ทันได้เป็นข้าวสุกเลยนะ?

หลานเยาเยาเหลือบมองไปที่ประตูใหญ่ และเห็นรถม้าที่ทั้งงดงามและไม่ธรรมดาคันหนึ่งจอดอยู่พอดี พริบตาเดียวนางก็เอ่ยขึ้น

“เช่นนั้นท่านอ๋องไปไหนกัน? รถม้าคันนั้นข้าขอยืมชั่วครู่ได้หรือไม่? ”

มองเมื่อสายตาแพรวพราวของหลานเยาเยา พ่อบ้านเหมยก็ตะลึงไปทันที

ประตู? รถม้า?

ที่ประตูจะมีรถม้าได้อย่างไรกัน นอกเสียจากท่านอ๋องจะ…

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ พ่อบ้านเหมยก็หันกลับมาทันทีพร้อมดวงตาเปล่งประกาย

“พระชายา รีบๆๆ ท่านอ๋องยังไม่ได้ออกไป! เขาอยู่ในรถม้า”

“โอ้โอ้โอ้!”

ที่แท้เย่แจ๋หยิ่งยังไม่ได้ไปไหน! ไม่น่าล่ะนางถึงรู้สึกได้ว่ารถม้าคันนั้นดูไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง!

เช่นนั้น นางจึงรีบพุ่งเข้าไป …

อย่างไรก็ตาม เรื่องน่าแปลกอยู่ที่ ทันทีที่เท้าของนางแตะลงตรงประตูใหญ่ ล้อรถก็เริ่มขยับหมุนทันที

ทันใดนั้นดวงตาของหลานเยาเยาก็เบิกกว้าง ก่อนจะช้ำพลังทั้งหมดที่มีเพื่อไล่ตามรถไป

แต่ว่า……

มีสิ่งประหลาดก็คือ ยิ่งเธอวิ่งตามเร็วขึ้นเท่าไหร่ รถม้าก็ยิ่งวิ่งเร็วขึ้นเท่านั้น จนกระทั่งสามารถรักษาระยะห่างจากเธอเอาไว้ได้ในระยะสามเมตร

หลังจากไล่ตามไปมารอบๆ หลานเยาเยาวิ่งเร็วเสียจนฝีเท้าของนางไร้ความรู้สึกไปแล้ว แต่ปากก็ยังคงเอ่ยตะโกนไม่หยุด

“เฮ้ หยุดเดี๋ยวนี้ รอก่อน ข้าต้องการพบท่านอ๋อง รอข้าด้วยสิ! ”

เดิมทีการเดินทางแบบนี้ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเธอ แต่ปัญหาอยู่ที่ร่างกายนี้

ร่างนี้ช่างอ่อนแอจนเกินไป ที่นางสามารถวิ่งมาได้นานขนาดนี้นับว่าเกินขีดจำกัดไปแล้ว พอค่อยๆผ่านไป นางก็รู้ว่าไม่สามารถตามได้ทันจากนั้นจึงผ่อนฝีเท้าลง

สุดท้ายจึงค่อยคุกเข่าลงกับพื้นเพื่อสูดอากาศหายใจอย่างถี่หนัก สายตาของนางเต็มไปด้วยดวงดาวมากมายปรากฏขึ้น

“แฮ่ก…แฮ่ก……แฮ่ก… ”

โดยไม่รู้ว่าตนเองคุกเข่าอยู่ตรงนั้นไปนานเท่าไหร่ ในที่สุด นางก็กลับมาหายใจได้อย่างปกติอีกครั้ง หลานเยาเยาทิ้งร่างทั้งร่างของตนเองลงบนพื้นและตะโกนด้วยความโกรธ:

“เย่แจ๋หยิ่ง หูหนวกหรือไง? รอให้ถึงตาของข้าบ้างเถอะ

เพื่อทรัพย์สิน และความมั่งคั่งของเจ้า เอาไว้หลังจากที่ข้าเตะเจ้าออกไปได้เมื่อไหร่ ข้าจะจับเจ้ามัดไว้กับด้านหลังรถม้าจากนั้นจึงปล่อยให้เจ้าได้โบยบินราวกับว่าว”

ทำเอาขาของเธอแทบหักอยู่แล้ว ซ้ำลำคอของเธอยังแทบจะแตกออก เขาก็ยังไม่สนใจเธอ เจ้าตัวบัดซบ เห็นทีเขาจะต้องจงใจแน่ๆ

ใครจะคาดคิด…

“พ่อบ้านเหมย ไปเอาเสื้อคลุมกันลมมาให้ข้า!”

จู่ๆน้ำเสียงเยียบเย็นน่าดึงดูดก็ดังขึ้นมา ทันในนั้นหลานเยาเยาจึงเงยหน้าขึ้นมา ก่อนจะมองไปยังเย่แจ๋หยิ่งที่กำลังยืนอยู่ข้างรถม้าซึ่งไม่รู้ว่าถูกหยุดลงตั้งแต่เมื่อไหร่

เขาไม่ได้มองมาที่เธอ แต่กลับมองที่อื่น

“อึ๊กก… ”

เธออดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงไปยาวๆ ก่อนจะมองไปยังด้านซ้ายตามทิศที่เขากำลังจ้องไป

หงส์ฟ้อนมังกรเหินห้าคำนี้ ภาพของจวนอ๋องเย่ปรากฏเข้ามาในดวงตาจองเธอ ท่าทางองอาจดุดันของทหารองครักษ์เฝ้าประตูใหญ่กำลังมองเธอด้วยสายตาตื่นตะลึง

ซ้ำพ่อบ้านเหมยที่ก่อนหน้านี้มองดูหลานเยาเยาที่กำลังไล่ตามรถม้าอย่างบ้าคลั่ง ตอนนี้กลับตัวแข็งค้างไปเช่นกัน!

วินาทีนี้ หลานเยาเยาโขกศีรษะของตัวเองลงบนพื้นเบาๆอย่างห้ามไม่อยู่ นางแทบนึกอยากจะขุดหลุดเพื่อมุดตัวเองเข้าไป

รถม้าแห่งความรู้สึกของเย่แจ๋หยิ่งจู่ๆก็กลับมายังจวนอ๋องเย่อีกครั้ง ซ้ำคำพูดสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเองเหล่านั้นยังถูกเย่แจ๋หยิ่งได้ยินอย่างไม่ตกหล่นสักคำ

จบเห่!

ความฝันอันยิ่งใหญ่และแข็งกร้าวของเธอสูญสลายไปเสียแล้ว….

ตอนนั้นเอง!

“พ่อบ้านเหมย เหตุใดเจ้ายังไม่ไปอีก?” เสียงเอ่ยเตือนของเย่แจ๋หยิ่งดังขึ้นอีกครั้ง

“ขอรับ!”พ่อบ้านเหมยที่ได้สติกลับมาเหลือบมองดูหลานเยาเยา ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปด้านใน

ไม่นานหลัง พ่อบ้านเหมยก็เดินออกไปพร้อมกับเสื้อคลุมลมที่งดงาม ก่อนจะมอบมันให้กับเย่แจ๋หยิ่งอย่างนอบน้อม

เย่แจ๋หยิ่งรับเสื้อมา ก่อนจะขึ้นไปยังรถม้าโดยไม่แม้แต่จะเหลือมองนาง

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท