หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 51 โดนต้อนจนมุมแล้ว

บทที่ 51 โดนต้อนจนมุมแล้ว

บทที่ 51 โดนต้อนจนมุมแล้ว

“นี่….”

โม่เหลียงเฉินท่าทางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ในที่สุดก็พยักหน้า

“ดูท่าทางแม่นางก็เป็นคนจริงใจดี เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน! สี่ร้อยยี่สิบ ลดกว่านี้ไม่ได้แล้ว”

“ตกลง!”

แป๊บเดียวก็ลดไปร้อยยี่สิบ อย่างนี้ก็ต้องซื้อแล้ว แม้ห้องนั้นจะดูเหมือนกับบ้านร้าง แต่หากนางทำความสะอาดนิดหน่อย ก็ทำให้สะอาดสะอ้านสวยงามได้

ดังนั้น!

เพียงครู่เดียวหลานเยาเยาก็ทำข้อตกลงลายลักษณ์อักษรกับโม่เหลียงเฉิน ตัวโม่เหลียงเฉินก็ใจกว้างนัก เมื่อเห็นตราประทับบนข้อตกลงแล้ว ก็รีบนำโฉนดที่ดินมอบให้นางทันที

ต่อเมื่อหลานเยาเยามอบตั๋วเงินให้กับเขาแล้ว จึงเอ่ยขึ้นน้ำเสียงเรียบ

“แม่นางหลานโปรดรอซักครู่ ข้าจะให้เพื่อนข้าพาท่านไปดูบ้าน วางใจเถิด เขาอยู่บ้านข้างๆ แม้บ้านนั้นจะห่างไปไม่ไกล แต่จะไม่รบกวนบ้านท่านแน่นอน เพราะเพื่อนข้าชอบความสงบ”

“…อ้ออย่างนี้นี่เอง!”

อย่างไรก็ไม่ได้อยู่ภายใต้หลังคาเดียวกันเสียหน่อย คงไม่มีปัญหาอะไรหรอก!

อีกอย่าง เพื่อนของเขาชอบความสงบ ยิ่งไม่มีปัญหาอะไร

เมื่อโม่เหลียงเฉินออกไปแล้ว หลานเยาเยาก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรแปลกประหลาด ยิ่งไปกว่านั้นนางก็ตรวจสอบโฉนดนั้นเรียบร้อยแล้ว เป็นโฉนดจริงด้วย

แล้วนางก็ตรวจดูตราประทับนั้นอย่างละเอียดแล้ว

เมื่อนางดูป้ายแขวนเหนือประตูของบ้านหลังนั้น คิ้วก็ขมวดขึ้น “ลานซวนซี?”

ทำไมชื่อลานซวนซีมันถึงคุ้นหูนัก?

แปลกจริง?

วันนี้นางไม่ได้เอาสมองออกมาด้วยหรือนี่?ทำไมถึงรู้สึกเรื่องต่างๆ ถึงคุ้นเคยขนาดนี้?

ขณะนั้น!

“เอี๊ยด…”

ประตูห้องเปิดออกอีกครั้ง ชายรูปงามราวเทพบุตรเดินเข้ามาเดินจากด้านนอกเข้ามา

เขาสวมอาภรณ์ไหมพลิ้วสีดำแซมขาวอันงามงด รอบขอบปักดิ้นไหมทอง ภาพปักงามราวกับมีชีวิต ให้คนมองดูรู้สึกถึงอำนาจน่าเกรงขาม

หน้าตาสัดส่วนงดงาม ใบหน้าอันขาวใสผุดผ่อง ดวงตาทั้งคู่ลึกล้ำเย็นชาราวกระแสน้ำวนไหลลึก ทำให้หลานเยาเยาจดจ้องอย่างตื่นตะลึง!

นางกระโดดพรวดลุกขึ้นยืน และก้าวถอยไปด้านหลังอย่างไม่รู้ตัว

นี่มัน… คนคนนี้ไม่ใช่เย่แจ๋หยิ่งหรอกหรือ?

เขามาผิดที่หรือเปล่า?

ไม่ใช่ ไม่ใช่ ต้องมีบางสิ่งบางอย่างไม่ถูกต้องแน่ๆ

หลานเยาเยาคิดกลับไปถึงเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในตอนนี้ที่ยิ่งผิดประหลาดไปยิ่งกว่าเดิม

ทันใดนั้นนางก็ตบหัวตัวเองหนักๆ

ไอ้บ้าเอ้ย!

โม่เหลียงเฉินก็มิใช่ชายคนนั้น ในวันนั้นที่ห้องอาบน้ำในจวนอ๋องเย่ จื่อซีพุ่งผ่านประตูเข้ามาพลางเอ่ยชื่อคุณชายเหลียงเฉินหรอกหรือ?

และยังมีลานซวนซีนี่อีก!

มิใช่วันนั้นหลานเฉินมู๋ถูกโบยลงโทษ เย่แจ๋หยิ่งออกคำสั่งให้จื่อเฟิงพาตัวนางกลับไปที่พัก ซึ่งก็คือลานซวนซีนี่หรอกหรือ?

เมื่อคิดได้ถึงเรื่องเหล่านี้ หลานเยาเยาเริ่มอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตาออกมา

อย่ามาหลอกกันอย่างนี้สิ!

“เย่แจ๋หยิ่ง ข้า ข้าไม่ได้พูดกับท่านให้รู้เรื่องแล้วหรือ?ข้าไม่แต่งกับท่าน”

“นั่นไม่สำคัญหรอก ที่สำคัญคือคนที่ข้าอยากจะครอบครอง ไม่ว่านางจะยินยอมหรือไม่ ก็หนีไปไหนไม่พ้น

เงื้อมมือของข้า เจ้า … หลานเยาเยา เจ้าก็หนีไม่พ้น!”

น้ำเสียงเขาเย็นชาและจริงจังอย่างขัดขืนไม่ได้

เมื่อเห็นนางค่อยๆ ถอยชิดกำแพงไปทีละก้าว เขาเหลือบมองแวบหนึ่งด้วยสายตาเย็นชา แล้วสืบท้าวตามอย่างบีบคั้น จนบังคับนางเข้าชิดกำแพง จึงหยุดฝีเท้าลงอย่างเกียจคร้าน

“ท่านต้องการจะทำอะไรกันแน่?”

หลานเยาเยาคิดจะแอบลอดหลบไปทางซ้าย เขากลับยื่นไหล่ขวาเรียวยาวมาพิงกำแพงบังทางนางไว้ทันที พอคิดจะหนีออกทางขวา เขาก็รีบยื่นมือซ้ายมาบังทางหนีของนางอีกอย่างรวดเร็ว

นางโดนต้อนจนมุมเข้าแล้ว…

“เจ้าจงเป็นพระชายาของข้า!”

น้ำเสียงน่าดึงดูดนั่นฟังออกถึงความต้องการอย่างชัดแจ้ง อย่างไรหากวันนี้นางไม่ตอบตกลง เขาก็คงไม่ยอมลดละแน่

“ข้าแปลกใจนัก เมืองหลวงมีหญิงงามมากหลาย หากจะเอ่ยถึงต้นตระกูล ยศถาบรรดาศักดิ์ ความงามหรือความสามารถ มีหญิงสาวมากมายดีกว่าข้า เหนือกว่าข้าตั้งมาก ทำไมท่านถึงจึงยังเลือกข้า?”

ร้านเหล้าเยาเยาไม่เข้าใจเอาเสียเลย

หากพูดถึงแต่ก่อนครั้งนางยังเป็นคุณหนูในจวนแม่ทัพ เขาจะสู่ขอนาง ก็อาจจะยังพอมีความเป็นไปได้ เพราะบิดานางหลานเฉินมู๋มียศเป็นถึงแม่ทัพ

ทว่าในตอนนี้นางนางตัวคนเดียว มีเพียงเท่านี้เอง!

แล้วทำไมเขายังเลือกจะสู่ของนางอีก?

“ข้ามีเหตุผลของข้า!” ที่เลือกนางแน่นอน เป็นเพราะเขาก็มีเหตุของเขา

เอ่อ…

อะไรคือเหตุผลของเขากัน?

ไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอกก็แล้วกัน นางก็ไม่ได้อยากจะฟังสักหน่อย!

ดังนั้น นางคลายมือออกจากกัน แล้วพูดขึ้นอย่างจริงจัง

“ข้าบอกความจริงท่านก็แล้วกัน!ข้าน่ะไม่อยากไปอยู่หลังจวนตบตีกับเหล่าสาวงามทั้งหลาย และก็ไม่อยากถูกบังคับไปเป็นโล่บังธนูในสมรภูมิรบให้ใคร”

แม้บางครั้งสมองของนางจะใช้ไม่ค่อยได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านางเป็นคนไม่มีคาวมคิด

เย่แจ๋หยิ่งเป็นพระอนุชาเพียงองค์เดียวขององค์ฮ่องเต้ปัจจุบัน มีตำแหน่งอันสูงศักดิ์ อำนาจล้นฟ้า ศัตรูก็มากมาย ผู้ที่มาดหมายชีวิตเขาอีกไม่รู้เท่าไหร่?

หากแต่งเข้าไปแล้ว การช่วงชิงทั้งต่อหน้าและลับหลัง เงากระบี่คมมีดต้องนับไม่ถ้วนเป็นแน่!

นางไม่อยากกลายเป็นเพียงหมากตัวนึงใต้เงื้อมมือของผู้อื่น!

“เรื่องเหล่านี้เจ้าวางใจได้ หลังจวนข้าไม่มีผู้หญิงแม้เพียงคนเดียว จะแต่งชายาก็เป็นเพียงเพื่อปิดปากพวกชอบซุบซิบนินทา และเพื่อจัดการกับอุปสรรคบางอย่างก็เท่านั้น

ด้วยความสามารถของข้า ย่อมไม่ได้ต้องการให้สตรีมาเป็นโล่ให้ หากเจ้าไม่วางใจ ข้าทำสัญญากับเจ้าก็ย่อมได้

ต้องการเวลาเพียงสามปี ก็จะปล่อยเจ้าไปอย่างอิสระ ให้เจ้าสะอาดไร้มลทินทีเดียว ข้าขอรับรองความปลอดภัยของเจ้าภายในสามปีนี้ เจ้าเห็นเป็นอย่างไร?”

ก็เป็นอย่างนี้อยู่แล้วนี่!

พูดแต่แรกก็จบแล้วไหม?ทำไมไม่พูดตั้งแต่ตอนแรกหล่ะ?

“แล้วเรื่องเงิน…”

“รับรองเรื่องเสื้อผ้าอาภรณ์อาหารไม่ต้องกังวล เสื้อผ้า อาหาร ที่อยู่ การเดินทางข้าเป็นคนจัดการเอง หลังจากสามปีผ่านไป ยังให้เงินเจ้าก้อนหนึ่งไปมีอนาคตอันสดใสได้เลย”

ในตอนนี้ อารมณ์ตื่นเต้นตกใจของหลานเยาเยา ก็สงบลง

แล้วนางก็ยื่นมือออกมาผลักที่ช่วงหน้าอกของเขา เย่แจ๋หยิ่งมองไปยังมือนุ่มเล็กที่วางบนอกเขา แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย

ท่าทางแบบนั้น

เขามองนางด้วยสายตาเย็นชา ราวกับจะถามอะไรบางอย่าง

“พวกเรานั่งลงคุยกันเรื่องสัญญา ดีที่สุดควรจะทำเป็นลายลักษณ์อักษรขึ้น ต้องตกลงเรื่องราวกันก่อน หลังจากสามปีผ่านไปท่านจะฆ่าข้าไม่ได้”

พูดปากเปล่าไม่มีหลักฐาน จดลงเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อเป็นเครื่องรับประกันจะดีกว่า

“ได้!”

ดังนั้น!

นางตกลงแล้วใช่ไหม?

เมื่อนั้นเขาก็ปล่อยนางออก ไม่คิดเลยว่าหลานเยาเยาจะตื่นเต้นกว่าที่เขาคิด นางรีบนั่งลงข้างๆ โต๊ะ รอเขียนหลักฐานให้เป็นลายลักษณ์อักษร ทั้งยังมองมาเร่งเขาอีก

“เย่แจ๋หยิ่ง ท่านรีบเรียกคนนำพู่กัน หมึก และกระดาษมาสิ”

เย่แจ๋หยิ่งตอบรับ “อืม” เบาๆ แล้วออกคำสั่งไปด้านนอกห้อง “ไปเตรียมมา!”

“ขอรับ!”

ในบรรยากาศมีความเคลื่อนไหวอยู่ชั่วครู่ แล้วก็กลับมาเงียบสงบดังเดิม

เย่แจ๋หยิ่งนั่งลงที่เก้าอี้ข้างนาง เพียงเมื่อเขียนหลักฐานลายลักษณ์อักษรเรียบร้อย หลานเยาเยาก็นำหลักฐานนั้นเดินดีใจออกจากห้อง

เมื่อพบเข้ากับโม่เหลียงเฉินบนทางเดิน หลานเยาเยาวาดสายตาไปอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม พลางเดินไปเบื้องหน้าเขา ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพูดขึ้น

“คุณชายเหลียงเฉิน โชคดีจริงๆ โชคดีจริงๆ!นำตั๋วเงินคืนมา”

เมื่อมันเป็นเพียงแผนการลับ ลานซวนซีก็ไม่นับว่านางได้ซื้อไป ในเมื่อไม่ได้ซื้อ ตั๋วเงินก็นับว่าต้องได้คืน

โม่เหลียงเฉิน

“โชคดีจริงๆ!เจ้าลิงน้อย”

“…”

แม่เอ้ย!แท้แล้วโม่เหลียงเฉินก็คือคนชุดดำที่เปิดหลังคานางคนนั้น

ดีมาก!

ตัวข้าเป็นคนมีแค้นต้องชำระ มีอาฆาตต้องอาฆาตคืน

คอยดูแล้วกัน!

แล้วหลานเยาเยาก็สะบัดเสียงเหอะอย่างเย็นชา เดินอย่างสบายใจจากไป

เมื่อหลานเยาเยาเดินออกไปแล้ว โม่เหลียงเฉินจึงเดินเข้าไปในห้อง ถามขึ้นด้วยความงุนงงสงสัย

“ทำไมนางถึงได้ตอบตกลงอย่างสุขใจอย่างนี้?”

มันไม่ควรเลย!

“เหอะ!”

เย่แจ๋หยิ่งเขม่นตามองไม่ได้ตอบอะไร เขารู้อยู่แล้วว่าทำไมหลานเยาเยาถึงตอบตกลงด้วยความดีใจเพียงนี้

นั่นเป็นเพราะ นางยังอยากจะมีอำนาจในจวนของเขา.

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท