หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 48 หาคนที่ตลาดมืด

บทที่ 48 หาคนที่ตลาดมืด

บทที่ 48 หาคนที่ตลาดมืด

เรื่องกินข้าวจบลง หลานเยาเยารู้ว่าชายชราผมขาวนามสกุลคือเย่นและก็บอกนางเพียงแค่สกุลเย่นเท่านั้น

ทว่าหลานเยาเยาก็ไม่ได้ใส่ใจ นางไม่ได้เรียกเขาว่าปู่ แต่เรียกว่าไอ้แก่เย่น

เพราะแบบนี้ไอ้แก่เย่นโกรธจนลมพ่นจมูก แต่ก็ทำอะไรนางไม่ได้ ทำได้เพียงหน้ามุ่ยหันหน้าไปทางอื่น ราวกับว่าไม่อยากสนใจนางอีก

“สมน้ำหน้า ไอ้แก่เย่น ใครให้เจ้าเรียกข้าว่านังเด็กบ้าตลอดล่ะ ข้าเรียกเจ้าไอ้แก่เย่นบ้างก็ไม่น่าผิดอะไร”

เห็นว่าเขายังไม่พูดเหมือนเดิม หลานเยาเยายักไหล่ที

“เจ้าพักผ่อนอยู่ที่นี่ดีดี อย่าเพ่นพ่านออกไปข้างนอกสร้างปัญหาให้ข้าล่ะ สถานะเจ้าในตอนนี้ไม่ดีนัก ทางที่ดีอย่าให้ใครพบเห็น ข้าจะออกไปซื้อบ้านหนึ่งหลัง ดูแลตัวเองด้วย”

นางรู้สึกเป็นห่วงไอ้แก่นั้น กลัวว่าจะหนีออกไปเที่ยวเล่นที่ไหน

เดิมที่เดินออกจากประตูใหญ่ไปแล้ว แต่กลับหยุดฝีเท้าลง จากนั้นก็เดินย้อนกลับไป เอาตั๋วเงินออกมาหนึ่งแผ่นวางไว้ที่โต๊ะ ถึงจะจากไปอย่างวางใจ

เดินในซอยเล็กๆ นางไม่ได้เดินออกมาทางเดิมเหมือนกับตอนที่เดินเข้าไปในซอย แต่ทว่าเดินคดเคี้ยวไปมา จากนั้นเดินวนในซอยหลายรอบ และออกมาอีกทางที่ไม่ได้เป็นจุดสังเกตมากนัก

บนท้องถนนใหญ่แลดูวุ่นวายนัก ผู้คนขวักไขว่ไปมาไม่ขาดสาย คนขายของสองข้างทางตั้งแผงขายของร้องเรียกลูกค้า

แล้วตรงที่เช่าบ้านกับขายบ้านต้องไปทางไหนกันน่ะ?

และนี่ก็ทำให้หลานเยาเยางงงวยพอควร

ทันใดนั้น นัยน์ตานางเป็นประกายขึ้นมา ราวกับว่านึกอะไรออก

นางรู้แล้วว่าควรไปหาใคร

เขาน่าจะอยู่ที่ตลาดมืดแหละ

ตลาดมืดไม่ได้ถูกควบคุมโดยกฎหมายของราชสำนัก โดยทั่วไปจะแอบค้าขายกันเงียบๆ ทั้งค้าสัตว์ มนุษย์ และสิ่งของอื่นๆ และของที่ค้าขายเหล่านี้ไม่ใช่วิถีแลกเปลี่ยนทั่วไป

แต่ทว่าคนที่อยู่ในตลาดมืดล้วนไม่ก่อเรื่องให้มันใหญ่โตนัก มิเช่นนั้นจะถูกคนที่ราชสำนักส่งมาทำการกวาดล้าง

หลานเยาเยามาถึงปากทางเข้าตรงสะพาน เห็นขอทานที่ผมเผ้ายุ่งเหยิงมอมแมมจึงเดินไปตรงหน้าเขาทันที และโยนเงินสิบเหวินให้เขา พร้อมพูดว่า

“ตลาดมืดไปทางไหน”

ขอทานเงยหน้าขึ้นมองนางอย่างประหลาดใจ จากนั้นเก็บเงินในถ้วยและยืนขึ้นโดยไม่พูดอะไร เดินตรงไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

หลานเยาเยาเดินตามมาติดๆ เดินผ่านบ้านช่องที่เปล่าเปลี่ยวและรุงรัง และผ่านตลาดสดหลายแห่ง จากนั้นมุดเข้าไปในร้านชาร้านหนึ่งที่หน้าร้านไม่สวยเท่าไหร่

คนในร้านชาให้นางสวมใส่เสื้อคลุมที่ทำจากผ้ากระสอบ และใส่หมวกด้วย

คนขอทานถึงจะพานางเข้าไปที่ห้องลับห้องหนึ่ง

ประตูหินของห้องลับเล็กมาก ซึ่งผ่านได้แค่คนเดียว

แต่ทว่า หลังจากที่ผ่านประตูลับไป ข้างในรู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบายขึ้นมาทันที

ตลาดค้าขายด้านมืดที่ใหญ่มากปรากฏตรงหน้านาง ข้างในนี้มืดครึ้มมาก แต่เสียงคนดังโกลาหลไปหมด คนทุกคนหน้าตาดำทมิฬ ดูเหมือนไม่ค่อยเป็นมิตรสักเท่าไหร่

ยิ่งไปกว่านั้นถึงแม้ว่าผู้คนที่อยู่ข้างในจะแต่งตัวต่างกัน แต่ทุกคนใส่เสื้อคลุมที่มีแบบต่างกันและบางคนก็มีม่านผืนใหญ่ด้วย

เวลานี้

ขอทานที่นำทางหยุดลงมองนางอย่างเงียบๆ นัยน์ตา

แฝงความโลภ

เห็นชัดแจ้ง ต้องเพิ่มเงินถึงจะพานางไปหาที่ที่นางกำลังตามหาอยู่

“เจ้าไม่ต้องนำทางแล้ว ข้าไปหาเอง”

ขอทานไม่ได้พูดอะไร แค่พยักหน้าแล้วกลับไปทางเดิม

เดิมคิดว่าตลาดมืดจะอยู่บนพื้นดินในที่ลับๆ คิดไม่ถึงว่าจะสร้างอยู่ในใต้ดิน

อากาศที่นี่ขุ่นหมอง และมีกลิ่นเหม็นอบอวล

หลานเยาเยาเดินผ่านแผงขายของต่างๆ ของที่ขายบนแผงขายของกับบนถนนใหญ่เหมือนกันอย่างกับแกะ ต่างกันแค่เพียงสีหน้าของคนขายที่ไม่ได้น่าคบค้าเท่าคนขายบนถนนใหญ่

และด้านหลังแผงขายของทุกที่จะมีบ้านหนึ่งหลังที่สร้างขึ้นอย่างมิดชิด

เวลานี้ นางเดินผ่านแผงขายของเจ้าหนึ่งที่ประตูบ้านด้านหลังเปิดอ้าไว้ มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่หน้าตาอัปลักษณ์และยิ้มเยิ้มเดินออกมา

และภายในห้อง มีผู้หญิงที่ถูกถอดเสื้อผ้าจนเกลี้ยงทั้งตัว กำลังถูกผู้ชายร่างบึกบึนหนวดยาวนัวเนียคลอเคลีย ทั้งยังใช้แส้เฆี่ยนตีหญิงสาวที่อยู่ใต้ร่างกายอย่างแรง

“มองอะไรหา ไปไปไป”

หลังจากที่เจ้าของแผงขายของเก็บเงินจากชายที่ยิ้มเยิ้มที่เพิ่งออกมาเสร็จ เห็นหญิงสาวอายุน้อยนางหนึ่งกำลังมองไปที่ภายในบ้าน จึงรีบออกเสียงไล่ให้นางไป

หลานเยาเยามองไปที่ชายผู้นั้นแวบเดียว ด้วยสายตารังเกียด จากนั้นรีบเดินไปข้างหน้า

ตลอดทางที่เดินมา บางบ้านที่เปิดประตูไว้ข้างในมีเด็กทารกที่ยังคงร้องไห้ บางคนเป็นชายที่ถูกขาย พวกเขาเป็นเหมือนสัตว์ที่ต้องคุกเข่าบนพื้นเพื่อพิสูจน์ความแข็งแกร่งของตน เพื่อที่จะได้ถูกเลือก และออกจากตลาดมืด

หลานเยาเยาแม้จะมีความเห็นใจ แต่นางรู้ดีว่า คนที่ตกอยู่ในสภาพนี้ใช่ว่าทุกคนจะเป็นคนบริสุทธิ์จริง

เดินผ่านจุดค้ามนุษย์ มาถึงจุดที่ขายสัตว์

สถานที่ตรงนี้ยิ่งโกลาหลวุ่นวายกว่าตรงจุดค้ามนุษย์ และมีกลิ่นเหม็นมาก

หลานเยาเยามาถึงแผงขายของเจ้าหนึ่งที่เจ้าของร้านดูเหมือนเป็นมิตร และได้วางเหรียญเงินหนึ่งตำลึงบนแผงขายของ

“ปกติถิงเมี่ยนนานแค่ไหนถึงจะมาที่ตลาดมืด?”

ดูจากการแลกเปลี่ยนเมื่อครั้งก่อน ยาพิษเหล่านั้นที่ถิงเมี่ยนเอามา ต้องซื้อจากตลาดมืดอย่างแน่นอน อีกอย่างเขาซื้อมาเยอะขนาดนั้น จะต้องสนิทกับคนในตลาดมืดมากๆแน่

และแผงขายของตรงหน้านาง วางกรงไว้หลายอัน ข้างในขังแต่งูที่ไม่มีพิษ

ดังนั้น

เจ้าของแผงขายของคนนี้จะต้องรู้จักถิงเมี่ยนอย่างแน่นอน

ใครจะไปคิด…

“แม่นาง เจ้าต้องถามอีกหนึ่งคำถาม”

เจ้าของแผงขายของที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ มือทั้งสองสอดเข้าไปในชายเสื้อ เอียงคอมองมาที่นาง ท่าทางประมาณว่าหากเจ้าไม่ถามอีกหนึ่งคำถาม ข้าจะไม่ตอบคำถามเจ้า

“ทำไมล่ะ?”

หลานเยาเยาถามอย่างไม่เข้าใจ

“ข้าว่าแม่นาง เจ้ามาที่ตลาดมืดครั้งแรกหรือ? เหรียญเงินหนึ่งตำลึงสามารถถามสองคำถาม ไหงเจ้าไม่รู้ล่ะ ข้าน่ะเป็นคนที่มีหลักเกณฑ์ เจ้าถามคำถามไม่ครบข้าจะไม่ตอบเจ้าหรอก”

แม่งเอ๊ย

ยังมีหลักเกณฑ์?

เหรียญเงินหนึ่งตำลึงถูกเขากุมไว้ที่มือ

กุมแน่นเชียว กลัวว่านางถามคำถามไม่ครบจะขอคืนเหรียญเงินครึ่งตำลึงล่ะสิ

ช่างเถอะ

ในเมื่อเหรียญเงินหนึ่งตำลึงนั้นก็ไม่คิดจะเอาคืนอยู่แล้ว ถามเพิ่มอีกคำถามกับไม่ถามเพิ่มก็ไม่ได้ต่างกันมาก

“จะหาเขาเจอได้ที่ไหน?”

“ปกติท่านถิงไม่ได้มาที่ตลาดมืดหรอก จะมาเองก็ต่อเมื่อมีการค้าล็อตใหญ่ อยากจะหาเขาให้เจอ…” นอกเสียจากว่าจะหาคนของเขาให้เจอก่อน

แต่ทว่า…

คำพูดของเจ้าของแผงขายของพูดยังไม่ทันจบ ก็ต้องเบิกตากว้างพร้อมชี้ไปทางที่ไม่ไกลออกไป และพูดว่า

“แม่นาง โชคดีของเจ้า พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มาพอดี”

มองตามทิศทางที่นิ้วมือดำๆของเจ้าของแผงขายของชี้ไป มองเห็นถิงเมี่ยนที่สวมใส่เสื้อคลุมจริงๆด้วย

เขาที่ใบหน้าอิ่มเอิบไปด้วยความสุข ดูเหมือนว่าเป็นที่ต้อนรับมากในตลาดมืด

“ท่านถิง ท่านถิง มีแม่นางผู้หนึ่งหาท่าน”

เจ้าของแผงขายของตะโกนเรียกเสียงดัง เสียงดังจนแสบหู ราวกับว่าดังจนสะท้อนไปทั่วทั้งตลาดมืด ไม่กลัวเลยว่าคนทั้งหมดจะได้ยิน

ถิงเมี่ยนก็ย่อมได้ยิน

แม่นาง?

อยู่ในตลาดมืดทำไมถึงมีผู้หญิงมาหาเขาล่ะ?

เขาหันหน้ากลับมา แวบเดียวก็มองเห็นหลานเยาเยาที่ยืนอยู่หน้าแผงแล้ว

มองเห็นนาง ถิงเมี่ยนถึงกับเปิดตากว้าง จากนั้นรีบเดินไปหา แต่คำพูดแรกไม่น่าฟังจนหลานเยาเยาหมดคำพูด

“คุณหนูหก ท่านยังไม่ตายหรือ? สุดยอดมาก”

พูดไปด้วยยกนิ้วโป้งให้นางด้วย ตามด้วยนัยน์ตาที่เป็นประกายทันที

ในเมื่อคุณหนูหกมาหาเขา นั่นก็แปลว่าการค้าล็อตใหญ่มาแล้ว ดังนั้นเขายังคงพูดจาเกรงอกเกรงใจ และตีเจ้าของแผงขายของไปทีที่ขยิบตาอยู่ด้านข้าง…

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท