หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 59 ให้ข้าสอนวิธีเป็นกุลสตรีให้เจ้า

บทที่ 59 ให้ข้าสอนวิธีเป็นกุลสตรีให้เจ้า

บทที่ 59 ให้ข้าสอนวิธีเป็นกุลสตรีให้เจ้า

คนเหล่านั้นต่างขมวดคิ้วเข้ม ไม่เข้าใจว่านางกำลังพูดอะไร

ในตอนนั้นโจรผู้นั้นก็ลุกขึ้นจากพื้น ยิ้มมุมปากขึ้นทำทีเก่งเสียเต็มประดาแล้วเอ่ยขึ้น

“รู้ไหมว่าข้าเป็นใคร?กล้าทำร้ายข้า ข้าจะทำให้พวกเจ้าต้องรู้สึกที่เกิดมาเลยทีเดียว”

พูดด้วยน้ำเสียงอันทรงอำนาจ พลางหันหลังพยักพเยิดยังกลุ่มคนด้านหลังที่ถือมีดในมือ และยังกระซิบกระซาบข้างหูพวกเขาอีกยกใหญ่

หัวโจกของกลุ่มตาวาวขึ้น ปราดตามองไปยังตั๋วเงินที่อยู่ในมือหลานเยาเยา แล้วจึงละสายตาไป!

แล้วมองไปยังองค์หญิงจาวหยาง พลางแลบลิ้นเลียริมฝีปาก ลักษณะท่าทางราวกับหมาป่าผู้หื่นกระหาย

“คนหนึ่งมีตั๋วเงิน อีกคนรูปงาม ดีมาก ข้าชอบนัก”

แม้คนเหล่านั้นจะมองไม่เห็นรูปโฉมขององค์หญิงจาวหยาง แต่เพียงดูลักษณะท่าทางแช่มช้อยรูปร่างบอบบางแล้ว ก็คาดเดาได้ว่าภายใต้หมวกคลุมนั้นต้องเป็นหญิงงามคนหนึ่ง

แต่เมื่อพูดถึงหญิงอีกนางที่ทั้งผอมทั้งอัปลักษณ์แล้วนั้น… มีตั๋วเงินก็เพียงพอแล้ว

หลานเยาเยามองตรงไปราวกับไม่มีคนเหล่านั้นอยู่ พลางหันมองไปยังองค์หญิงจาวหยาง เอ่ยขึ้นอย่างกวนๆ

“เจ้าดูสิ เจ้าดู เจ้าเป็นคนดีเสียเปล่าจริงๆ พวกมันต้องการตั๋วเงิน ข้าให้พวกมันได้ แต่พวกมันต้องการตัวเจ้าจะทำอย่างไรดี?”

“ข้า ข้าจะไม่ทำให้เจ้าต้องลำบากไปด้วย แต่ให้ตายอย่างไรข้าก็จะไม่ให้พวกมันได้สมหวัง”

เยาเยาเพิ่งก้าวเข้าจวนเป็นพระชายาเสด็จอาหมาดๆ นางจะทำให้มีปัญหาไม่ได้ หากคนพวกนี้กล้าทำอะไรกับนาง นางก็จะทุ่มศีรษะตายที่นี่ไปเลย

โห!

สาวน้อยช่างกล้าหาญเสียจริง

“อย่า อย่า อย่า วันนี้เป็นมงคล อย่าให้เกิดเลือดตกยางออกอะไรเลย ไม่อย่างนั้นจะไม่มงคลเอาเสีย”

พูดไปพลางยื่นมือนำตั๋วเงินโยนไปยังมือองค์หญิงจาวหยาง สองมือซ้อนเข้าหากัน “กร๊อบ กร๊อบ” กระดูกลั่นตามข้อมือของนาง

โจรที่ถูกมองข้ามเหล่านั้นต่างไม่มองหลานเยาเยาอยู่ในสายตา เพราะสำหรับพวกมันแล้วหลานเยาเยาก็เป็นเพียงหญิงร่างผอมอ่อนแอ ไม่มีเรี่ยวแรงแถมยังอัปลักษณ์

ดังนั้น!

หัวหน้าโจรกล่าวขึ้นอย่างดุดัน “อาจหาญไม่สนใจข้า ข้าจะจัดการพวกเจ้าให้ดู”

เพียงเขาพูดจบลง กลับเห็นใบหน้าของหญิงที่เขาคิดว่าอ่อนแอไม่มีเรี่ยวแรง กลับปรากฏเบื้องหน้าเขารวดเร็วราวปีศาจ

แล้วพลันกำมือหนึ่งก็พุ่งเข้ามา สายตาเขาพลันดำมืดขึ้นครึ่งหนึ่ง จากนั้นกลับมีอีกกำมือหนึ่งพุ่งตรงเข้ามา ทำเขาหมดสิ้นสติในทันที

“หัวหน้า หัวหน้า ท่านหัวหน้า…”

ยังไม่ทันได้รับคำสั่งหัวหน้าของพวกเขา ก็พลันเห็นท่านหัวหน้าล้มร่วงลงพื้น อดไม่ได้ที่จะถามหลานเยาเยา “เจ้า เจ้าทำอะไรกับหัวหน้าพวกเรา?”

“แม่เอ้ย ยังดูไม่ออกอีกหรือ?ข้ากำลังสั่งสอนหัวหน้าเจ้าวิธีเป็นหัวหน้าอย่างไรเล่า?” จากนั้นหลานเยาเยาก็จดจ้องไปยังพวกเขา พลางเอามือกุมปากหัวเราะขึ้น “ตอนนี้ถึงเวลาที่ข้าจะสอนวิธีเป็นกุลสตรีให้พวกเจ้าแล้ว”

เพียงพูดจบลง หลานเยาเยาก็พุ่งตัวไปยังพวกเขา แตะเข้าที่ส่วนล่างของพวกมัน เพลงเอ่ยปาก

“หนึ่งขา สองขา สามขา…”

เสียงร้องอย่างเจ็บปวดดังเข้าหูเป็นระยะๆ ทำให้องค์หญิงจาวหยางที่ดูแลตั๋วเงินอยู่ข้างๆ ตกใจกลัวพลางเอ่ยห้ามขึ้น

พระชายาเสด็จอาของนางทำไมจึงดุดันป่าเถื่อนถึงเพียงนี้?

หรือนางควรเข้าไปเตือนดู ให้หลานเยาเยาระวังท่าทีเสียบ้าง?

นางในตอนนี้เป็นคนของจวนเย่อ๋องเชียวนะ!

แต่ยังไม่ทันที่นางจะทำอะไร เสียงอันไพเราะของหลานเยาเยาก็ลอยมา

“รีบมานี่เร็ว ตรงนี้ยังมีอีกคน”

คนอื่นๆ หลานเยาเยาจัดการเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงโจรคนสุดท้ายที่คิดจะหนี แต่ถูกนางกระชากเสื้อกลับมา แล้วเตะเขาจนล้มลงกลับพื้น

นางหันกลับมาถามองค์หญิงที่เพิ่งเดินมาอยู่ข้างนาง

“เจ้ายังดีอยู่ใช่ไหม?”

องค์หญิงจาวหยางความคิดว่างเปล่า พลันสั่นศีรษะไปมา

นางมึนงงไปหมดแล้ว และนางก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ความรู้สึกของนางดีหรือไม่ดี

“อย่างนั้นเจ้าก็เตะมัน เตะแรงๆ เลย เตะจนอารมณ์ดีขึ้นถึงจะหยุด”

องค์หญิงจาวหยาง “…” นี่มันเป็นเรื่องอะไรกัน?

โจร “…”

ขอพวกเจ้าโปรดเข้าใจความรู้สึกของโจรด้วย

เพียงดูท่าทางลังเลขององค์หญิงจาวหยางแล้ว ใจของโจรผู้นั้นมีเพลิงของความหวังแห่งการอยู่รอดขึ้นมาทันที

เมื่อครู่นางสัมผัสได้แล้ว แม่นางที่รูปร่างแช่มช้อยงดงามคนนั้น จิตใจเมตตา มองดูก็รู้ว่าเป็นคุณหนูจากตระกูลผู้สูงศักดิ์ จะกล้าลงมือได้อย่างไร!

“อ้าก…”

โจรคนนั้นถูกองค์หญิงจาวหยางเตะครั้งหนึ่ง ก็มึนงงล้มลงไปแล้ว

แม่เอ้ย ไหนคุณหนูผู้สูงศักดิ์?ไหนหรือจิตใจเมตตา?

“เยาเยา ข้าเป็นสตรีที่รู้หนังสือมีการศึกษาทั้งยังอ่อนโยนและชาญฉลาด จะไม่ถูกเจ้ายุยงไปทำร้ายคนอื่นหรอก”

เพิ่งพูดจบลง นางก็รีบยกเท้าขึ้นเตะโจรอีกรอบหนึ่ง

คาดไม่ถึงเลย… การทำร้ายคนอื่นจะสะใจถึงขนาดนี้!

“… เจ้าเตะขาของเขาทั้งสองข้างแล้ว และยังเตะได้แรงกว่าข้าอีก”

องค์หญิงจาวหยางนี้เห็นอ่อนโยนเหมือนจะอ่อนแอ แต่กลับแรงเยอะเอาการเลยนะเนี่ย!

เอ่อ?

หรือว่านางทำคนอื่นเสียคนไปแล้วหรือนี่?

ในขณะที่กำลังคิดอยู่ว่าจะเข้าไปไปห้ามการกระทำอันป่าเถื่อนขององค์หญิงจาวหยางหรือไม่ นางก็เห็นองค์หญิงจาวหยางยื่นตั๋วเงินในมือของนางมาให้ แล้วจึงเตะและต่อยโจรอีกครั้ง

“เออ เออ เจาหยาง…”

“เรียกข้าโหลวเย่ว”

เรียกอะไรเจาหยาง นั้นมันแค่ชื่อศักดิ์ของนางเท่านั้น เรียกแล้วเปิดเผยบรรดาศักดิ์ของนาง เรียกว่าโหลวเย่วจะสนิทสนมกว่า!

“โอ ได้ๆ โหลวเย่ว!เป็นสตรีไม่ควรจะป่าเถื่อนอย่างนี้ จะมีผลกับภาพลักษณ์อันงดงามของเรา”

คำพูดนี้เหมือนจะมีผลกับโหลวเย่วที่กำลังจะทำร้ายโจรผู้นั้นในทันที นางรีบหยุดการกระทำของนาง และมองมายังหลานเยาเยาด้วยความเก้อเขิน

“เจ้าพูดดูมีเหตุผล!”

“นี่เป็นการออกมาครั้งแรกของเจ้า ข้าควรสอนเจ้าหลักเกณฑ์ของมนุษย์อยู่ข้อหนึ่ง วิธีรับมือกับคนชั่ว พวกเราอย่าได้ทำรุนแรง แต่ต้องปฏิบัติด้วยความอ่อนโยนเช่นนี้”

หลานเยาเยาถอยหลังหนึ่งก้าว เตรียมพร้อมร่างกาย ไม่พูดพร่ำทำเพลงใดๆ ออกแรงเหยียบลงไปเต็มที่ เมื่อได้ยินเสียงร้องโอดครวญ จึงเตะเข้าไปอย่างดุดันอีกรอบ

เมื่อเห็นหลานเยาเยาที่หยุดไม่อยู่แล้ว โหลวเย่วกลืนน้ำลายลงไป พลางถกแขนเสื้อขึ้น พร้อมเข้าร่วมสู้ในสมรภูมิที่สู้กันอยู่ฝ่ายเดียว

โจรผู้นั้นถูกทำร้ายทารุณ อยากร้องไห้แต่กลับไม่มีน้ำตา

สวรรค์เอย!พื้นพสุธาเอย!

แม่นางทั้งสองตอนนี้ดูราวกับเป็นบ้า

ในขณะนั้น!

น้ำเสียงที่อ่อนโยนราวสายลมฤดูใบไม้ผลิก็ดังขึ้น “แม่นางทั้งสองต้องการความช่วยเหลืออะไรหรือไม่?”

เสียงอะไรกัน!

เสีงชกต่อยและเสียงอวดครวญชะงักงันในทันที ทั้งสามคนต่างหันไปยังต้นเสียง ชายที่สง่างามมีภูมิความรู้คนหนึ่งยืนอยู่ไม่ไกล มองมาพวกเขาด้วยรอยยิ้มที่เสมือนไม่ยิ้ม

เบื้องหลังเขายังมีชายรูปงามอีกสองคน ชายทั้งสองในตอนนี้ต่างอ้อปากค้างราวกับสามารถใส่ไข่เป็ดทั้งฟองลงไปได้

เอ่อ…

ทั้งสามมิใช่สามองค์ชายในเจ็ดองค์ชายแห่งเมืองหลวงหรอกหรือ ทั้งสามมาปรากฏตัวที่ได้ได้อย่างไร?

“ไม่ต้อง ไม่ต้อง!”

หลานเยาเยาถอนหายใจเบาๆ อย่างยืนขึ้น แล้วศอกสะกิดโหลวเย่วที่แน่นิ่งไปแล้ว

เมื่อเห็นนางเรียกสติกลับมาได้แล้ว นางรีบแสร้งทำเป็นไม่มีเรื่องอะไรพลางเอ่ย “วันนี้อากาศดีมาก ออกกำลังยืดเส้นยืดสายแล้วสบายขึ้นเยอะ ตอนนี้ก็ขอมอบพวกมันให้กับพวกเจ้าแล้วกัน ให้พวกเจ้ายืนเส้นสายบ้าง”

โจรผู้นั้น “…”

ในตอนแรกคาดว่าทุกอย่างจบลงแล้ว โจรผู้นั้นเมื่อได้ยินคำพูดของหลานเยาเยาก็เป็นลมล้มลงไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท