หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 64 คืนวันเข้าหอ 4

บทที่ 64 คืนวันเข้าหอ 4

บทที่ 64 คืนวันเข้าหอ 4

เย่แจ๋หยิ่งได้รับผลกระทบจากระเบิดมือทำให้มึนงง แต่หลานเยาเยาสู้กับเขาก็ยังกินแรงมากอยู่ดี

ทั้งสองสู้กันอยู่ประมาณสิบรอบ แต่นางก็ยังเป็นรองอยู่ดี

ทันใดนั้นเอง

“แกรก ……”

ไม่รู้ว่าทำไมขาถึงได้พลิก ทำให้รู้สึกเจ็บปวด เดิมหลานเยาเยาที่คิดอยากจะจู่โจม แต่เผลอนิดเดียว เขาก็ลื่นล้มสไลด์ไปด้านข้าง เกือบจะล้มขึ้นมา

แต่ว่า ยังดีที่นางหลบการจู่โจมของเย่แจ๋หยิ่งได้ เย่แจ๋หยิ่งที่สูญเสียการมองเห็นไปจู่ ๆ ก็สะดุดล้ม

เมื่อเห็นดังนั้น

หลานเยาเยารู้สึกดีใจมาก

โอกาสที่ดี นางรีบหลบไปจากนั้นก็พุ่งเข้าใส่ตัวเขา ทั้งสองคนตีกันบนพื้นต่อ

ดวงตาของเย่แจ๋หยิ่งค่อย ๆ มองเห็นมากขึ้น ส่วนหูก็เริ่มได้ยินเสียงการต่อสู้ของพวกเขาแล้ว ……

ภายในห้อง บนกำแพง แสงเทียนสีแดงวิบวับไปมา ทำให้ตัวอักษรมงคลมันเห็นเด่นชัดมากขึ้น

ทันใดนั้นเอง

“ตุบตับ” เสียงดังขึ้น

ทำให้พวกเขาทั้งคู่ที่กำลังสู้กันอยู่นั้นหยุดลง แล้วหันมองไปที่ประตู

จื่อซียืนนิ่งราวกับก้อนหิน กระบี่ของเขาไม่รู้ว่ามันตกลงไปบนพื้นตั้งแต่ตอนไหน

พวกเขาได้ยินเสียงดัง เลยรีบมาที่ห้องหอ คิดไม่ถึงว่าจะได้เห็นภาพแบบนี้

เจ้านายของเขากำลังต่อสู้อยู่กับพระชายา อีกทั้งยังอยู่ในห้องหอด้วย?

ลมวูบหนึ่งพัดมายังทำให้ตกใจได้เลย

ตอนนี้เขาสับสนมาก ว่าเขาควรจะลงมือหรือเปล่า?

พระชายาคร่อมอยู่บนตัวเจ้านายของเขาแล้วก็ทุบตีอย่างหนัก แล้วทำไมเจ้านายของเขาถึงไม่ใช้กำลังภายในในการตอบโต้?

หรือว่าเจ้านายเขาจะถูกวางยา?

เพราะนึกถึงความเป็นไปได้แบบนี้ จื่อซีก็นิ่งไป จากนั้นก็ชักดาบออกมา แล้วเดินขึ้นหน้าไปอย่างรวดเร็ว

หลานเยาเยาเห็นดังนั้น ก็ไม่พอใจ

คิดในใจว่าคนมากรังแกคนน้อย แล้วก็จะมายึดเตียงนอนของนางไปใช่ไหม? ฝันไปเถอะ

ดังนั้น

หลานเยาเยาคร่อมอยู่บนตัวของเย่แจ๋หยิ่งเดิมเสื้อผ้าก็หลุดลุ่ยออกอยู่แล้ว นางก้มลงไปจูบที่หน้าอกของเขา ยังไม่ทันได้ชื่นชมแผ่นอกของเขาเลย ก็ใช้แรงดูดจนมันเป็นรอยแรงขึ้นมา

จากนั้นก็ฟุบลงอยู่ที่หน้าอกของเขาแล้วหันหน้ามา มือทั้งสองข้างของนางขึงมือของเขาเอาไว้ แล้วพูดกับจื่อซีว่า

“อะไรกัน? ข้ากับท่านอ๋องกำลังเข้าหอกันอยู่ เจ้าก็อยากจะมาร่วมวงด้วยเหรอ?”

พูดจบ นางก็เขียนอักษรใส่มือของเย่แจ๋หยิ่งว่า : ตัวต่อตัว

ตัวต่อตัวถือว่ายุติธรรมที่สุด

หลานเยาเยารู้สึกว่า จนถึงตอนนี้ การฟังกับการมองเห็นของเย่แจ๋หยิ่งน่าจะยังไม่กลับมาทั้งหมด ดังนั้นเลยใช้การเขียนใส่ฝ่ามือของเขา เขาถึงได้เข้าใจความหมายของนาง

จื่อซี “ …… ” นี่คือการเข้าหองั้นเหรอ?

ทำไมเขาถึงได้มองแล้วไม่เข้าใจเลย?

เขายืนอึ้งงง ๆ อยู่แบบนั้น

หลานเยาเยาลุกขึ้นมานั่ง แล้วเริ่มปลดเสื้อออก เสื้อสีสดด้านนอกถูกปลดออก จากนั้นก็โยนไปไม่มีที่ทาง อีกทั้งยังปลดเสื้อตัวใน จนเห็นไหล่ด้วย

ผิวที่หัวไหล่ของนางโผล่ออกมา จนเห็นชุดชั้นในสีแดงสด

ทำแบบนี้คงเชื่อได้แล้วสินะ?

นางไม่กล้าถอดไปมากกว่านี้แล้วนะ หากพวกเขายังไม่เชื่อ ก็คงต้องลงมือสู้กันต่อ

ใครจะคิด ……

สายตาของเย่แจ๋หยิ่งกลับจ้องไปที่ตัวของหลานเยาเยา เขากระพริบตา แล้วก็โบกมือ ลมวูบใหญ่พัดไปใส่จื่อซี จื่อซีราวกับใบไม้ ถูกซัดออกไปจนไปยืนอยู่ที่หน้าประตู ยังไม่ทันรู้ตัวเลยก็ถูกซัดออกไปแล้ว

หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยเสียง “ปึ้ง” ประตูถูกปิด

“ถือว่าเจ้ายังรู้ว่าคนมากไม่ควรรังแกคนน้อย” นางมองไปที่เย่แจ๋หยิ่งที่แสดงอารมณ์โกรธผ่านทางสายตาออกมา หลานเยาเยาถอนหายใจ “ช่างเถอะ ไม่ตีกับเจ้าแล้วก็ได้ หากเจ้าใช้กำลังภายใน คนที่แขนขาขาดไปคือข้า ไม่คุ้มเลย”

พูดจบ

นางก็นึกขึ้นมาได้ว่า เย่แจ๋หยิ่งสายตากับการได้ยินยังไม่กลับมานี่นา

นางเขียนกากบาทบนตัวของเย่แจ๋หยิ่ง แล้วพูดว่า “ใครตีใครก่อนเป็นลูกหมา”

“……”

เย่แจ๋หยิ่งกำหมัดแน่นจนเส้นเอ็นขึ้น แต่ก็ไม่ได้ตอบโต้

ในตอนนี้เอง หลานเยาเยากลับสบาย นางเดินไปที่ตู้ไม้แล้วเลือกเสื้อผ้าออกมาชุดหนึ่ง ตอนที่นางหันกลับมา นางก็ถึงกับงง

คน คนล่ะ?

ภายในห้องไม่มีเสียงของเย่แจ๋หยิ่งแล้ว

นางอดยักไหล่ไม่ได้ เลยเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่หลังฉากบังลม แล้วไปนอนที่เตียง

หลังจากสงบใจแล้ว หลานเยาเยาก็เริ่มรู้สึกกังวล

แล้วนางควรจะอธิบายยังไงเรื่องระเบิดมือทำให้มึนงงกับเย่แจ๋หยิ่งดีล่ะ?

กังวลก็ส่วนกังวล แต่ว่านางไม่ได้เสียใจที่ทำลงไป

นางเริ่มค่อย ๆ เปิดเผยความสามารถของนางออกมา เย่แจ๋หยิ่งก็จะอยากรู้อยากเห็นและแปลกใจ ทำแบบนี้แล้ว นางก็จะไม่ตายง่าย ๆ

อีกทั้งยังไม่กลายเป็นคนที่ถูกทิ้งง่าย ๆ ด้วย

ดังนั้นเมื่อกี้นางถึงได้ไม่ลังเลใจเลยที่จะโยนระเบิดมือทำให้มึนงงออกไป อย่างแรกเพื่อลดความโอหังอวดดีของเย่แจ๋หยิ่ง ระบายอารมณ์และเพื่อความสะใจของตัวนางเอง อย่างที่สองก็เพราะเขาคือท่านอ๋องที่มีอำนาจล้นฟ้า

คนร้ายกาจแบบเขา หรือไม่คิดที่จะมีอาวุธที่ร้ายกาจไว้กับตัวเลย?

คนเรามีความทะเยอทะยานด้วยกันทั้งนั้น ……

พอคิดได้แบบนี้ หลานเยาเยาก็ยิ้ม

ในที่สุดก็ไม่มีใครมาแย่งที่นอนกับนางแล้ว

ในตำหนักบรรทม

เย่แจ๋หยิ่งที่สวมชุดเจ้าบ่าวสีแดงเดินเรื่อยเปื่อยอยู่ในตำหนักบรรทม ก่อนหน้านี้เขาถูกหลานเยาเยาดึงเสื้อออก ตอนนี้เขาใช้สายรัดมันเอาไว้แล้ว แต่ยังคงมองเห็นแผ่นอกของเขาอยู่

อีกทั้งยังเห็นรอยดูดสีแดงชัดมากด้วย

เขามาถึงริมหน้าต่าง เปิดหน้าต่างออก แล้วมองไปที่ลานซวนซีที่ปิดไฟไปแล้ว สายตาของเขาก็แปลก ๆ

หลังจากนั้นไม่นาน

“จื่อซี” เขาพูดขึ้นมาว่า

“บ่าวอยู่นี่ขอรับ”

จื่อซีโผล่มาที่หน้าต่าง แล้วคุกเข่าลง รอให้เจ้านายของเขาออกคำสั่ง

“ส่งคนไปที่ชนเผ่าริมชาฝั่งทางตะวันตก ไปสืบมาที หลายปีนี้มีชาวต่างแดนเข้ามาบ้างหรือเปล่า”

“ขอรับ”

เมื่อได้ยินดังนั้น จื่อซีก็ตะลึงไป

ทางตะวันตกของดินแดนเป็นพื้นที่ทะเลขนาดใหญ่ อีกทั้งทะเลยังกว้างอย่างไม่มีที่สิ้นสุดด้วย

ตามตำนานกล่าวว่า ชาวต่างแดนมีอาวุธดุจดั่งเทพพระเจ้า หลายคนคิดอยากจะออกไปตามหาร่องรอยของคนกลุ่มนี้ แต่ไม่มีใครเคยทำสำเร็จ

ได้ยินมาว่าในรัชสมัยก่อนมีราชครูคนหนึ่งเป็นชาวต่างแดน

เขาไม่เพียงได้รับความเคารพจากฮ่องเต้ ยังได้รับความรักจากชาวบ้านด้วย ทุกคนเคารพยกย่องเขามาก ทุกปีลมฝนตกตามฤดูกาล ชาวบ้านอยู่เย็นเป็นสุข ในรัชกาลก่อนถือได้เป็นช่วงที่รุ่งเรืองที่สุดก็ว่าได้

แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุอะไร ท่านราชครูจู่ ๆ ก็หายตัวไป

หลังจากนั้นไม่กี่ปี ก็เกิดภัยพิบัติรุนแรง จนทำให้ล่มสลายไปในที่สุด แล้วถึงได้มีประเทศก่วงส้าขึ้นมา

ในเมื่อเจ้านายสั่งให้เขาเป็นสืบเรื่องที่ชนเผ่าทางชายฝั่งตะวันตก แสดงว่าจะต้องมีเบาะแสอะไรแน่

หลังจากรับคำสั่งแล้ว จื่อซีก็ขี่ม้าไปทันที

—— ——

เช้าวันต่อมา

เมื่อแสงอาทิตย์แรกส่องเข้ามา หลานเยาเยาก็ตื่นแล้ว

นางนอนขี้เกียจอยู่บนเตียงไม่ยอมลุก หลัก ๆ เป็นเพราะ หลังจากที่ข้ามเวลามาแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้นอนหลับสบายแบบนี้ ไม่อยากขี้เกียจมันก็ไม่ได้

เมื่อถึงเวลาอาหารเช้า สาวใช้ที่ติดตามนางมาก็ไม่ได้มาเคาะประตูปลุก

จนใกล้จะเลยเวลาอาหารเช้าแล้ว ถึงได้มีเสียงเคาะประตูอย่างรีบร้อน

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน