หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 101 จูบที่ไม่ได้ตั้งใจ

บทที่ 101 จูบที่ไม่ได้ตั้งใจ

บทที่ 101 จูบที่ไม่ได้ตั้งใจ

“ว้า เนื้อเสร็จแล้วหอมจังเลย!ขอข้าลองชิมก่อนนะ ส่วนเจ้าเชิญตามสบายเลย。”

เนื้อที่อยู่ในหม้อเขาอยากลองชิมรสชาติมานานแล้ว เมื่อเคลียปัญหาเสร็จ หลานเยาเยารีบลงมือรับประทานอาหารทันที

เย่เจ๋หยิ่งไม่ได้กิน เขามองเธออยู่เงียบๆ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

ใช้เวลาไม่นาน หลานเยาเยาก็กินอิ่มดื่มอิ่มเรียบร้อย น้ำซุปที่หลงเหลือในหม้อเพียงเล็กน้อยนางก็ดื่มจนหมดไม่ให้เหลือซาก

เมื่อล้างมือเสร็จ เอามือไปเช็คที่เสื้อของตัวเองเพื่อเตรียมตัวลงจากดอย

เย่เจ๋หยิ่งที่เดินตามหลังมาพูดขึ้นมาว่า:“ถ้าข้าหลอกลวงเจ้าหล่ะ เจ้าจะทำยังไง?”

เมื่อได้ยินแบบนั้น!

หลานเยาเยาหยุดเดิน หันหลังกลับมาเผชิญหน้ายิ้มหวานใส่เขา จากนั้นพูดติดตลกกับเขาว่า:“ถ้าอย่างนั้นข้าก็มีเหตุผลที่จะแสดงความรู้สึกดีๆที่ข้ามีต่อเจ้าสิ”

เมื่อสิ้นคำพูดของนาง เย่เจ๋หยิ่งสะดุ้งด้วยความตกใจ!

“เจ้า เจ้าพูดว่าอะไรนะ?”

“ข้าพูดว่าข้าจะไม่ชอบเจ้าอีกต่อไปล่ะ จะคิดกับเจ้าแค่ความเป็นเพื่อนเท่านั้น เจ้ารู้ไหมว่าเจ้าได้สูญเสียผู้หญิงที่ดีที่สุดในโลกอย่างข้าไปแล้ว?”หลานเยาเยาทำท่าแบ้มืออย่างช่วยไม่ได้ออกมา。

จากนั้นมุ่งหน้าเดินทางต่อ

เดินไม่ระวังสะดุดโดนก้อนหิน ล้มลงไปที่พื้น

บ้าที่สุดเลย!

นี่คือบทลงโทษของคนที่เวลาเดินไม่ดูดีดี

ทางข้างหน้ามีแต่ก้อนหิน ถ้าหกล้มลงไปต้องเจ็บน่าดู

ใครจะรู้……

ความเจ็บปวดไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ เนื่องจากว่านางตกใส่อ้อมกอดนุ่มๆอุ่นๆของใครบางคน จากนั้นทั้งสองได้ล้มลงไปที่พื้นพร้อมๆกัน ริมฝีปากของหลานเยาเยาประกบเข้ากับริมฝีปากของเขาอย่างจัง

โครม……

ทั้งสองเหมือนโดนสะกดจิต

เหมือนเวลาไม่ขยับจะหยุดเดินทันที!

ทั้งคู่ดวงตาประสานมองหน้ากันอย่างจัง

หลานเยาเยารู้สึกแค่ว่าสมองเขานางว่างเปล่า คิดอะไรไม่ออกในเวลานี้

เวลาผ่านไปนานนับนาทีถึงเรียกสติตัวเองกลับมาได้ นางรีบลุกขึ้นยืน

“เคะเคะ!”

“เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม!”

นางยื่นมือออกมาเพื่ออยากพยุงเขาให้ลุกขึ้น ทันใดนั้นเหมือนจะนึกอะไรได้ จึงรีบดึงมือกลับไป

อย่างไรก็ตาม!

มือของนางดึงกลับได้เพียงครึ่งเดียว ก็โดนฝ่ามือใหญ่ของเขากุมไว้ ใช้เป็นการยืมแรงช่วยพยุง เย่เจ๋หยิ่งจึงลุกขึ้นมาได้

“ข้าไม่เป็นไร!”เขาปล่อยมือนางออก

“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ขอบใจเจ้ามาก”

นางรู้สึกว่าจำเป็นต้องพูดขอบคุณเขา เพราะอย่างน้อยเขาก็ใช้ร่างกายตัวเองเป็นเบาะรองรับนางเพื่อไม่ให้ได้รับบาดเจ็บ

“ไม่เป็นไร!”

น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำเล็กน้อย จ้องมองนางโดยไม่ให้คลาดสายตา

หลังจากที่หลานเยาเยาพยักหน้าขอบคุณแล้ว นางก็กลับตัวเดินนำหน้าไปก่อน ทันใดนั้นนางเหมือนนึกอะไรได้ แล้วหันตัวกลับมาอีกที และยื่นมือหาเขา

“คืนมุกเย่หมิงให้ฉัน!”

ทางที่ดีใช้มุกเย่หมิงเป็นตัวส่องแสงสว่างจะดีกว่า จะได้ไม่มีเหตุการณ์ที่น่าอายแบบเมื่อกี้เกิดขึ้นอีก

หลังจากที่เย่เจ๋หยิ่งคืนมุกเย่หมิงให้นางแล้ว และนางจึงเดินทางต่อไปข้างหน้าด้วยความพึงพอใจ

เย่เจ๋หยิ่งยืนอยู่ตรงนั้น ยกมือขึ้นแตะที่ริมฝีปากของตัวเอง ในสายตาเขามีความอ่อนโยนแวปเข้ามา แต่เมื่อนึกถึงคำพูดของหลานเยาเยาเมื่อกี้แล้ว สายตาของเขาก็มืดมัวขึ้นมาทันที

เนื่องจากมีมุกเย่หมิงอยู่ในมือ

ทำให้หลานเยาเยาเดินทางได้อย่างมั่งคงและรวดเร็ว!

ใครจะรู้……

ยังเดินทางไปไม่ถึงไหนเลย ทันใดนั้นเหมือนมีอะไรมาโดนที่เอวของนาง ฝ่ามือที่ใหญ่และหนาจับที่เอวบางของนาง

เย่เจ๋หยิ่งปรากฏตัวอยู่ข้างกายนางกระทันหัน มองนางด้วยสายตาฉงน แล้วดึงตัวนางขึ้นมา บินลอยไปในทิศทางที่ไปเมืองหลวง

เมื่อกลับมาถึงจวน ก็ดึกมากแล้ว!

“โป้ง……”

ประตูห้องนอนของอ๋องเย่โดนเปิดออกทันที เย่เจ๋หยิ่งพาหลานเยาเยาบินเข้ามาข้างใน หลังจากนั้นประตูก็ปิดลงทันที

เย่เจ๋หยิ่งวางนางลงเบาเบา มองลึกเข้าไปในตาของนาง หายใจไม่เป็นจังหว่ะ ติดติดขัดขัด

เห็นได้ว่าเขากลับมาอย่างเร่งรีบแค่ไหน!

หลานเยาเยาไม่เข้าใจจึงถามขึ้นมาด้วยความสงสัยว่า:

“ท่านจะทำอะไรเหรอ?”

ระหว่างทางที่เดินทางกลับเขาไม่เคยเสียเวลาแม้สักนิด หลังจากกลับมาถึงจวนก็รีบนำนางเข้ามาที่ห้องนอนทันที ซึ่งมันทำให้นางจับต้นชนปลายไม่ถูก

“ข้ารู้สึกเสียดายล่ะ!”

“ห๋า?”

เย่เจ๋หยิ่งอยู่ๆก็โพร่งคำนี้ออกมา ทำให้หลานเยาเยายิ่งงงเข้าไปใหญ่

ใครจะรู้……

เย่เจ๋หยิ่งเดินเข้าไปใกล้ตัวนางทีละก้าวทีละก้าว ทำให้นางต้องเดินถอยหลังโดยปริยาย จากนั้นนางโดนบีบจนเข้าไปชิดขอบเตียง และล้มลงไปที่เตียงนอน

นางยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เพียงแต่รู้สึกว่ามีแรงกดมาที่ไหล่ มือที่ขาวยาวและใหญ่คู่นั้นกดทับมาที่ไหล่ของนาง

“เจ้าชอบข้าเหรอ?เขาถาม”

“มันเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว”

นางตอบอย่างตรงไปตรงมา เพราะนางได้ตัดความรู้สึกแบบนี้ออกไปก่อนที่เรื่องมันจะบานปลายไปมากกว่านี้

ตอนนี้หล่ะ?”เขาถามขึ้นที

“ก็ไม่ชอบแล้วไง!”

ถ้าหาวิธีกลับได้ นางจะหาทางกลับไป ที่นิ่ไม่ใช่ที่ของนาง นางไม่ควรมีความรู้สึกอาลัยอาวรเกี่ยวกับที่นิ่

“ข้าไม่อนุญาต ไม่อนุญาตเด็ดขาด!”น้ำเสียงเด็ดเดี่ยวห้ามใครปฏิเสธเด็ดขาด

ห๋า?

ไม่อนุญาต?หมายความว่าอะไรเหรอ?

หลานเยาเยามีความรู้สึกว่าหัวสมองของตัวเองเริ่มใช้งานไม่ได้ขึ้นมา

นางยังดึงสติตัวเองกลับมาไม่ได้ เย่เจ๋หยิ่งเหมือนโดนสะกดจิต โน้มตัวลงมาเข้าใกล้นาง อีกทั้งริมฝีปากของเขาใกล้ชิดของนางเข้ามาทุกที……

เขาจะจุบนางเหรอ?

หลานเยาเยาเริ่มรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาทันที

ควรทำยังไงดี?

เพิ่งตัดความรู้สึกดีๆที่มีต่อเขาออกไปเอง……

ทันใดนั้น!

“โต้งโต้งโต้ง……”

“เจ้านาย เกิดเรื่องแล้ว ฮองเฮาเหมือนโดนปีศาจต้องสิง ไทเฮาก็หมดสติไปแล้ว ส่วนพระราชธิดาจาวหยางก็โดนกักบริเวณ”เสียงขององครักษ์ลับดังมาจากข้างนอก

เนื่องจากเกิดเรื่องขึ้นอย่างกระทันหัน

องครักษ์ลับรู้ทั้งรู้ว่าเจ้านายและพระชายาเพิ่งกลับมาจากข้างนอก อาจกำลังเริงรักกันอยู่ แต่เรื่องนี้เขาจำเป็นต้องรีบรายงาน

ได้ยินว่า!

เย่เจ๋หยิ่งหยุดการกระทำของตัวเอง มองดูริมฝีปากที่ใกล้นั้น สายตาหยุดมองดูชั่วครู่ เขาเลื่อนสายตาออกไปอย่างไม่เป็นธรรมชาตินัก

“รอข้ากลับมาอยู่ที่นิ่นะ!”

พูดจบ เขาดันตัวเองออกจากร่างนาง แล้วหันกลับมาเดินออกไป

หลานเยาเยาลุกขึ้น เก็บอาการที่สับสนให้เรียบร้อย และเดินเข้าไปหาเขาแล้วพูดว่า:

“ข้าจะไปวังด้วย”

……

เพิ่งถึงเวลาเที่ยงคืน ตามหลักเวลานี้คนในพระราชวังน่าจะกำลังอยู่ในช่วงหลับนอน แต่ตอนนี้กลับวุ่นวายเหมือนโจ๊ก เหล่าบรรดาหมอต่างเข้าๆออกๆห้องนอนไทเฮาและฮองเฮา ทุกคนล้วนกระวนกระวายไม่รู้ควรจะทำอย่างไรดี

เนื่องจากฮองเฮาเป็นบ้า เหล่าบรรดาหมอหาวิธีรักษาไม่ได้ อาการเหมือนของพระราชธิดาจาวหยางเมื่อสามปีที่แล้ว แต่อาการป่วยขงฮองเฮากับอาการป่วยของพระราชธิดาจาวหยางมีความแตกต่างกัน

ส่วนไทเฮาเป็นลมที่ห้องนอนโดยไม่รู้สาเหตุ ซึ่งทำอย่างไรก็ไม่ตื่น!

พวกเขารู้สึกถึงภัยพิบัติกำลังเข้าใกล้พวกเขามาทุกที

ฮ่องเต้โมโหอย่างแรง พูดขึ้นมาว่าถ้ารักษาไม่หายพวกเขาจะโดนตัดศีรษะแน่นอน

คำพูดของฮ่องเต้พูดคำไหนคำนั้น!

ศีรษะของพวกเขาเหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้าย!

หลานเยาเยาและเย่เจ๋หยิ่งเมื่อถึงพระราชวังแล้ว อันดับแรกคือไปห้องนอนไทเฮาก่อน

เมื่อพวกเขาเข้าไปข้างใน ฮ่องเต้อยู่ข้างในพอดี

สีหน้าของฮ่องเต้ตอนนี้เคร่งครึม สายตานั้นเหมือนมีไฟจะพ่นออกมาได้ตลอดเวลา แต่เมื่อเห็นเขาทั้งสองเดินเข้ามา สีหน้าเปลี่ยนอ่อนโยนลงมาก

“อ๋องเย่ รีบให้จื่อซีช่วยดีอาการของไทเฮาเลย!”

“ได้!”เย่เจ๋หยิ่งส่งสายตาให้กับจื่อซีที่เดินตามหลังมา แล้วพูดขึ้นว่า:“เยาเยา เจ้าเข้าไปดูอาการของไทเฮาหน่อยสิ!”

“ได้ท่าน。”

สำหรับเรื่องนี้!

ฮ่องเเต้ไม่มีความคิดเห็นอะไร

เพราะอย่างน้อย อ๋องเย่เป็นผู้ชาย เข้าไปด้านในไม่ค่อยสะดวกเท่าไรนัก ให้พระชายาเย่เข้าไปดูอาการ น่าจะเหมาะสมมากกว่า

เมื่อหลานเยาเยาเข้าไปในห้องนอนด้านใน มองเห็นเหล่าบรรดาหมอหลวงต่างอยู่ข้างเตียงที่ดูหรูหราสง่างามนั้น เมื่อพวกเขามองเห็นหน้าของจื่อซี เปรียบเสมือนเห็นแสงแห่งความหวัง รีบกรูเข้าไปคำนับเขาทันที…

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท