หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่126 แสดงความรัก

บทที่126 แสดงความรัก

บทที่126 แสดงความรัก

สาวใช้ที่กลัวอยู่แล้ว

หลังจากได้ยินนางพูดก็พากันหน้าขาวซีด

“พระชายาเย่ ข้าน้อยสำนึกผิดแล้ว หลังจากนี้ข้าน้อยจะไม่กล้าพูดมั่วซั่วแล้ว”

“ใช่! พระชายาเย่ เมื่อครู่พวกข้าน้อยก็พูดส่งเดชไป ท่านกับอ๋องเย่คือคู่ที่พระเจ้าสร้าง ได้โปรดท่านอย่าโกรธเคืองคุณหนูสามเลย”

“พระชายา พระชายา คุณหนูสามเป็นคนดี ดีต่อพวกข้าน้อยมาก ที่พวกข้าน้อยพูดจาเหลวไหลเมื่อครู่นี้ไม่เกี่ยวข้องใดๆกับคุณหนูสามเลยสักนิด”

“……”

เผชิญกับเหล่าสาวใช้ที่แย่งกันขอความเมตตา นางยังไม่ทันพูดอะไรก็ช่วยหลานจิ่นเอ๋อขอร้องแล้ว

เอ่อ……

นางยังไม่ได้บอกว่าคิดอย่างไรนะ? ก็เป็นแบบนี้แล้ว

ถ้านางต้องการจะโกรธหลานจิ่นเอ๋อจริงๆ นางก็จะกลายเป็นนักโทษใช่หรือไม่?

จุ๊จุ๊!

คิดไม่ถึงจริงๆว่าหลานจิ่นเอ๋ออยู่ในจวนแม่ทัพจะอยู่ได้สุขสบายอย่างงี้!

ไม่ว่านางจะอยู่อย่างไรก็อย่ามาลามจนถึงหัวนางไม่งั้นต่อให้ผู้มีอำนาจมาก็ไม่มีทางที่จะหยุดยั้งการลงมือของนางได้

“ไอ๊หยาๆ ข้าก็แค่มายืนที่นี่เพื่อเตือนพวกเจ้า พวกเจ้าน้ำตาไหลกันออกมาเป็นสายอย่างงี้ คนที่ไม่รู้จะคิดว่าข้าทำอะไรพวกเจ้านะ!

เอาหล่ะๆ ข้าก็เป็นคนดี เรื่องเล็กๆอย่างงี้ข้าไม่คิดหยุมหยิมกับพวกเจ้าหรอก บอกข้ามาทีว่าท่านอ๋องของข้ากับคุณหนูสามของพวกเจ้าอยู่ที่ไหนกัน?”

นางก็จะไปสมทบด้วย

สาวใช้ทั้งหมดต่างไม่เข้าใจสำหรับปฏิกิริยาแบบนี้ของหลานเยาเยา

หลานเยาเยาไม่ควรด่าพวกนางเหรอ?

อย่างไรเสียพวกนางก็บอกว่าอ๋องเย่คู่ควรกับคนอื่นแล้วยังบอกอีกว่าไม่อยากให้นางเป็นพระชายาเย่

นางควรจะโมโห เสียใจ หลังจากนั้นก็สั่งให้คนมาโบยพวกนาง หรืออาจจะถึงขั้นขนาดไปสร้างปัญหาให้อ๋องเย่กับคุณหนูสามเลยก็ได้

ใครจะรู้ว่าหลานเยาเยาจะบอกว่าตนเองเป็นคนดี

ดูเหมือนจะไม่คิดหยุมหยิมอะไรกับพวกนางเลย……

แต่ว่าด้วยท่าทางแบบนี้ พวกนางก็โล่งใจอย่างเห็นได้ชัด

หลังจากที่พวกนางบอกว่าอ๋องเย่กับหลานจิ่นเอ๋ออยู่ที่ไหน หลานเยาเยาก็หมุนตัวจากไป แต่ยังไม่ทันได้ออกไปจากศาลาก็ต้องหยุดฝีเท้าลงแล้วเดินกลับมา

“พระชายายังมีเรื่องอะไรอีกหรือ?” สาวใช้คนนึงถามขึ้น

“ยังมีอีกเรื่องนึง!”

“เรื่องอะไรเพคะ? พระชายา ท่านอยากรู้อะไรข้าน้อยจะบอกท่านหมด”

“เมื่อครู่ข้าลืมตีพวกเจ้า!”

สาวใช้ทุกคน:“……”

ลืมตีพวกเจ้า……

แบบนี้ก็ลืมได้ด้วย?

หรือหลานเยาเยาไม่ต้องการเข้าใจความสัมพันธ์แต่ก่อนของอ๋องเย่กับคุณหนูสามเหรอ?

นางไม่สงสัยสักนิดเลยเหรอ?

แต่พวกนางก็ได้แต่คิดเพ้อเจ้อในใจอยู่มากมาย ก็เห็นหลานเยาเยาถกแขนเสื้อขึ้นควงหมัดไปทางพวกนาง

ชั่วครู่เดียว!

หลานเยาเยาวางแขนเสื้อลงเดินออกไปจากศาลา สาวเท้าออกไปอย่างสบายใจ

ทิ้งให้เหล่ากลุ่มสาวใช้ที่หน้าบวมช้ำคร่ำครวญอย่างเจ็บปวดอยู่ในศาลา……

……

ใต้ต้นไม้ที่หน้าลานมีศาลาแปดเหลี่ยมพร้อมผ้าบางๆปล่อยลงมาสี่ด้าน เมื่อตอนที่มีลมผ้าบางๆก็พริ้วไหวไปพร้อมกัน ดูแล้วช่างสวยงามและโรแมนติกมาก

ผ้าบางของศาลาด้านหนึ่งเปิดไว้อยู่ สถานที่ที่ผ้าบางๆเปิดไว้อยู่นั้นคือทางออกซึ่งถ้าหากต้องการออกจากศาลาก็ต้องลงบันไดหินห้าหกขั้น

ตอนที่หลานเยาเยามาถึงก็เห็นเย่แจ๋หยิ่งกับหลานจิ่นเอ๋อกำลังจิบชาเล่นหมากรุกกันอยู่

ใบหน้าของหลานจิ่นเอ๋อเต็มไปด้วยรอยยิ้มแดงระเรื่อ ส่วนสีหน้าของเย่แจ๋หยิ่งแม้จะยังนิ่งๆ แต่ก็ไม่ได้เย็นชาไม่ให้คนเข้าใกล้เหมือนแต่ก่อน

ในใจของหลานเยาเยาก็ยังรู้สึกสงสัย!

หรือแต่ก่อนพวกเขาเคยมีความรู้สึกต่อกัน?

ถ้าอย่างงั้นก็จะลำบากละ นางต้องการเลื่อนขั้นระบบนั้นก็ยิ่งยากแล้ว

ไม่ได้!

นางต้องไปดูสถานการณ์ก่อน

หลังจากนั้นก็ค่อยตัดสินใจว่าจะใช้แผนไหนดี

ดังนั้นหลานเยาเยาจึงจัดเสื้อผ้าตนเองกระแอมเสียงหนักแน่นเพื่อให้สองคนที่อยู่ในศาลารับรู้ถึงการมีตัวตนของนาง

ใครจะรู้……

ไม่มีใครหันมาเลย ดูเหมือนพวกเขาจะหมกมุ่นกันมาก

นี่มันน่าอายนะ!

แต่ถึงแม้เป็นเช่นนี่ ก็ไม่สามารถหยุดการเดินหน้าของนางได้

นางเดินโซเซเข้าไปในศาลาและก่อนที่จะเดินเข้าไปในศาลาก็ได้เด็ดดอกไม้บานมาหนึ่งดอก

ตอนนี้……

ในที่สุดก็มีคนหันมาแล้ว

แต่คนที่หันมากลับไม่ใช่เย่แจ๋หยิ่งแต่เป็นหลานจิ่นเอ๋อที่ยิ้มไปทั้งหน้า หลังจากที่นางเห็นหลานเยาเยาก็พยักหน้าน้อยๆเพื่อแสดงความเคารพและมีมารยาท

ส่วนเย่แจ๋หยิ่งมองหมากรุกเงียบๆราวกับไม่รู้ว่านางมา

หลานเยาเยาเบะปาก!

เอาดอกไม้ที่อยู่ในมือส่ายๆตรงหน้าเย่แจ๋หยิ่ง เหมือนจงใจขัดจังหวะการเล่นหมากรุกของเขา

มุมปากของเย่แจ๋หยิ่งแอบกระตุกขึ้นพร้อมจับมือนางที่ถือดอกไม้อยู่ จากนั้นก็จับเล็กน้อยเอานางเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดเขาอีกทั้งนางยังนั่งอยู่บนตักเขาอีก

หลานเยาเยาคิดว่าเขาจะดุนาง

ไม่คิดว่าเขาจะทำอะไรที่แตกต่างออกไปแล้วทำอย่างงี้ออกมา

หลานเยาเยาก็ไม่มีกะจิตกะใจที่จะก่อกวนแล้ว พยายามขัดขืนลุกขึ้นแต่ก็ต้องพบว่าเย่แจ๋หยิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วพูดเรียบๆว่า:

“หยุดโวยวาย!”

“ได้ งั้นเจ้าก็ปล่อยข้าก่อน”

อย่างไรก็ตาม!

เย่แจ๋หยิ่งไม่มองนางเลยสักนิด สายตายังคงมองอยู่ที่ตารางหมากรุกตลอด

“กลัวว่าเจ้าจะกระสับกระส่ายก็เลยกอดไว้ในอ้อมกอดให้สบายใจ”

“เจ้าคิดว่ากักข้าเอาไว้ในอ้อมกอดแล้วข้าจะสงบเสงี่ยมเหรอ?”

น่าตลก!

กักนางไว้ก็ไร้ประโยชน์ นางยังมีมือมีเท้าแล้วก็ยังมีปากอีก

หลังจากนั้นนางก็ใช้มือไปจั๊กจี้เขา เดิมทีมีเสื้อผ้ากั้นเย่แจ๋หยิ่งก็ไม่รู้สึกอะไรแต่ในไม่ช้าหลานเยาเยายื่นมือเข้าไปในเสื้อคลุมของเขา

ไปแตะที่เอวของเขาอย่างแม่นยำ นางไม่ได้รีบร้อนจั๊กจี้แต่กลับแตะผิวหนังของเขาเบาๆ

ตอนนี้……

เย่แจ๋หยิ่งตัวแข็งทื่อ มองนางด้วยสีหน้าแยกไม่ออก จากนั้นจึงวางตัวหมากในมือลง ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้

“อ๊า!”

เสียงขึ้นจมูกดังขึ้นมา เย่แจ๋หยิ่งแยกเสื้อออกจับเอามือเล็กๆของนางขังไว้

“เจ้าแน่ใจนะที่จะเล่นกับไฟ? หืม?”

“……”

หลานเยาเยาอดยกมุมปากไม่ได้

นางก็แค่จั๊กจี้เท่านั้น เล่นกับไฟที่ไหนหล่ะ?”

ช่างเถอะ!

ไม่ก่อกวนละ

หญิงสาวที่อยู่ตรงข้ามนั้นหน้าซีดก็ประสบผลสำเร็จแล้ว ต่อมาก็รีบลุกขึ้นจะจากไป

“ไม่ใช่ว่าเจ้าต้องการจะวางหมากหรอกหรือ? รีบปล่อยข้าเร็ว ข้ายังมีธุระต้องไปทำ”

“เกมหมากรุกของปรมาจารย์ เป็นร้อยปีก็ไม่มีใครแก้ได้ ข้าเองก็ไม่รีบร้อน!”

ถึงจะเป็นหมากรุกที่ค้างมานานร้อยปีก็ต้องน่าดึงดูดแน่นอน

แต่กลับฝีมือต่างกันมากกับที่อยู่ในอ้อมกอดนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ตัดสินใจที่จะตายกันไปข้างกับนางแล้ว!

ให้ตายเถอะ!

เย่แจ๋หยิ่งนี่นับวันยิ่งเป็นผู้ชายหลายใจ มือนึงขังไม่ให้นางพูด อีกมือนึงก็วนไปรอบเอวบีบๆเนื้อนางเบาๆเป็นการแหย่

หลานเยาเยาอยากจะหนีขึ้นมาทันที

ถ้ารู้เร็วกว่านี้ก็ไม่มาหยอกเย้าเขาที่นี่แล้ว แต่ก่อนเขาไม่รีบร้อนหนิ! ตอนนี้ไหงมาลวนลามนางได้

ไม่ได้!

เสียหาย เป็นการเสียหายครั้งใหญ่

“เจ้าแน่ใจนะว่าจะทำอย่างนี้ต่อหน้าคุณหนูสาม?”

ได้ยินดังนั้น!

เย่แจ๋หยิ่งชะงักไปมองหลานจิ่นเอ๋อที่นั่งก้มหน้าอยู่ฝั่งตรงข้ามก่อนจะปล่อยนางไปด้วยความไม่พอใจ

หลานเยาเยาหลังจากได้รับอิสระแล้วก็ตบๆเสื้อผ้ากวาดตามองพวกเขาจากนั้นก็ยิ้มหวาน:

“พวกเจ้าเล่นกันดีๆนะ ข้าไปก่อนหล่ะ!”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท