หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่129 วิกฤตของผืนดิน

บทที่129 วิกฤตของผืนดิน

บทที่129 วิกฤตของผืนดิน

อย่างไรก็ตาม!

ชายร่างใหญ่ก็ยังไม่ได้สลบล้มลงไป หลานเยาเยาก็ไม่ยอมหยุด เหล่าคนที่อยู่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเหงื่อตกแทนชายร่างใหญ่

จนกระทั่งหลานเยาเยาโมโหจนอยากจะควักมีดออกมา ไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูดขึ้น หลังจากที่พวกเขาตัดสินใจกันอย่างชัดเจนแล้ว ก็พากันหิ้วปีกคนที่สลบออกไปทางหน้าต่าง

ชายร่างใหญ่คนนั้นออกไปเป็นคนสุดท้าย

ตอนที่ออกไปนั้นเขามีท่าทีเวียนศีรษะ สั่นๆ ราวกับอีกนิดหนึ่งก็จะสลบลงไปแล้ว

น่าโมโหชะมัด!

หลานเยาเยาเพียงแค่มองพวกเขาออกไปแบบนั้น พลางถือมุกเย่หมิงเพื่อส่องแสงให้พวกเขา และนั่นทำให้พวกเขาหวาดกลัวเกินกว่าที่จะหันหลังกลับมา ทำเพียงเก็บเอาความสงสัยไว้กับตัวและหายออกไปจากสายตานางทีละคน

ยินดีต้อนรับ ไว้คราวหน้ามาใหม่นะ!

คราหน้านางจะใช้มีดฟันพวกเขาจริงๆแล้ว ไม่อย่างนั้นจะได้อับอายไปถึงต้นตระกูล!

เมื่อหลานเยาเยาสงบสติอารมณ์ลงได้แล้ว นางก็หรี่ตาลงอย่างฉับพลัน!

จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนอยากจะออกไปด้านนอก

แต่ที่มันบังเอิญมากก็คือ ในจังหวะที่นางกำลังจะออกไปนั่นเอง ก็มีเงาดำร่างหนึ่งเข้ามาในห้องที่ซึ่งควรจะเป็นที่นอนนาง

เฮอะๆ!

คืนนี้นี่มันช่างครึกครื้น ปีศาจเข้าออกเป็นว่าเล่น

ภายในห้องนั้นเงาดำได้ไปถึงที่ข้างเตียงแล้ว เล็บยาวๆสีดำของนางค่อยๆแหวกผ้าม่านคลุมเตียงให้เปิดออกช้าๆ

เมื่อเห็นว่ามีร่างหนึ่งกำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียง เงาดำตนนั้นก็กระตุกปากอ้าขึ้น รูปลักษณ์ดูน่าสยดสยอง น่าหวาดกลัวเป็นที่สุด นัยน์ตาของมันเต็มไปด้วยความพยาบาท

เพียงพริบตา

เล็บยาวสีดำที่เต็มไปด้วยแรงพยาบาท เตรียมที่จะตรงเข้าไปบีบจิกคอคนที่หลับใหลอยู่บนเตียงอย่างไม่ลังเล

“ปัง……”

ประตูถูกหลานเยาเยาถีบออกอย่างแรงจนแทบหลุด หลานเยาเยาเข้าไปในห้อง มุกเย่หมิงที่อยู่ในมือส่องสว่างไล่ความมืดภายในห้องทันที

เงาดำชะงักสั่น แต่นางก็ไม่ลังเลที่จะแทงเข้าไปที่ร่างนั้น

แต่แล้วนางก็จำต้องพบกับความประหลาดใจ เพราะคนที่นอนอยู่บนเตียงเมื่อครู่ได้อันตรธานหายไปแล้ว

ทันใดนั้นเอง!

เงาดำก็รู้สึกว่าแขนตนนั้นถูกคนจับตรึงเอาไว้

เมื่อหันกลับไปก็ปะทะกับใบหน้าที่ไม่คุ้นเคย และสายตาในขณะนั้นก็มองนางด้วยความเกลียดชัง “ตกใจไหมหล่ะ? แปลกใจอย่างนั้นหรือ? เจ้าเล่นผิดคนเสียแล้วหล่ะ”

สิ้นเสียง เชือกแดงเส้นหนาก็เข้ามารัดแขนของเงาดำไว้ เมื่อเห็นเล็บยาวดำของเงาดำนั่นแล้ว ดวงตาของนางก็อดหรี่ลงอย่างมาดร้ายไม่ได้

“คนของยิงจวนอีกแล้วหรือนี่ ยังชอบระรานไม่เลิกจริงๆ”

อย่างไรก็ตาม!

ฮัวหยู่อันยังไม่ได้มัดให้แน่น เงาดำก็ดิ้นหลุดออกจากพันธนาการ เดิมจะปรี่ตัวเข้าไปหาหลานเยาเยา แต่เห็นว่าที่นอกหน้าต่างจู่ๆก็ปรากฏร่างของคนคนหนึ่งโผล่เข้ามา จึงรีบถลาตัวหนีไปที่หน้าต่างอีกช่อง

หลานเยาเยาเหลือบไปมองที่นอกหน้าต่าง ก่อนจะรีบแฉลบตัวมาที่เตียงพลางถามอย่างไม่เข้าใจ

“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าจะมีคนมาฆ่าข้า?”

“ไม่ใช่ว่าท่านให้ข้าเก็บเสื้อผ้าหรอกหรือ? ตอนเก็บเสื้อผ้าก็พบว่ามันไม่ใช่ที่อยู่บนตัวท่าน มันเป็นกลิ่นที่ข้าคุ้นเคยดังนั้นจึงรู้ว่ามีคนคิดจะทำร้ายท่าน…” ฮัวหยู่อันราวกับพูดกับอากาศ

เหมือนจะโอ้อวด : เห็นมั้ยหล่ะ? ข้าช่วยชีวิตท่านไว้!

“กลิ่นอายที่คุ้นเคยอย่างนั้นเหรอ?”

เป็นไปไม่ได้มั้ง?

ฮัวหยู่อันเป็นตัวอะไรกัน?

“ใช่หน่ะสิ กลิ่นอายของศัตรูหมายเลขหนึ่งของชาวหยินไห่อย่างพวกเรา”

ให้ตายเถอะ!

นี่มันอะไรกันเนี่ย?

ชาวหยินไห่……

หลานเยาเยาค่อนข้างไม่แน่ใจ

“แล้วพวกศัตรูกลุ่มใหญ่สุดก็คือยิงจวนอย่างนั้นเหรอ?” เมื่อกี้เหมือนนางจะได้ยินคำว่ายิงจวน

“ท่านรู้ได้อย่างไร?” ฮัวหยู่อันดูออกจะตกใจหน่อยๆ

“เมื่อครู่เจ้าเป็นคนพูดออกมาเอง!”

จะตกใจหาพระแสงอะไรเล่า

เหมือนนางจะเป็นคนพวกที่เก็บอะไรไม่อยู่ เอาไว้ข้างกายจะดีหรอ? คิดเอานางไปขายอีกครั้งดีไหม?

“ถ้าท่านบอกอย่างนั้นก็คงจะพูดนั่นแหล่ะ! เป็นอย่างไรหล่ะ? ข้าสุดยอดเลยใช่ไหมท่าน? หากข้าช้าไปเพียงนิดพวกมันก็จะจับตัวท่านไปได้แล้วนะ”

“แล้วครั้งที่แล้วใครหน้าไหนโดนศพตายซากของยิงจวนกวดไล่จนหนีหัวซุกหัวซุน”หลานเยาเยาเหลือบมอง

“นั่นเพราะข้าบาดเจ็บ จริงๆข้าหน่ะเก่งสุดยอด ท่านอย่าดูถูกข้าเชียว” นางเถียงเพื่อป้องตัว

นางเก่งจริงๆ

เมื่อครู่นี้นางยังไม่ได้ใช้เคล็ดวิชาอะไรมากมาย! พวกนั้นก็เผ่นหนีกันไปแล้วไม่ใช่เหรอ?

หลานเยาเยามองนางนิ่งๆ ราวกับคนโง่อย่างไรอย่างนั้น

จากนั้นจึงเหลือบไปมองเชือกแดงเส้นหนาที่แตกเป็นเสี่ยงๆอยู่กับพื้น ถามขึ้นเงียบๆ “อาวุธวิเศษของเจ้าอย่างนั้นเหรอ?”

“เหอะ ไม่ใช่ ไอ้ของที่โดนตัดออกง่ายๆแบบนี้จะมาเป็นอาวุธวิเศษของข้าได้อย่างไร?”

ฮื่อๆๆ……

เชือกแดงเมื่อครู่เป็นอาวุธประจำตระกูลของนาง ซึ่งก็นับว่าเป็นอาวุธที่ร้ายกาจมากแล้ว นางต้องซื้อมาในราคาสูงลิบถึงจะได้มา จู่ๆก็กลายเป็นของถูกตัดขาดง่ายไปเสียเฉยๆ

ไม่สบอารมณ์เอาเสียเลย!

นี่มันเป็นอาวุธที่ดีที่สุดของตระกูลนางแล้วนะ อยากจะร้องไห้

หลานเยาเยากระชับมือ พลางมองไปทางที่เงาดำจากไป ก่อนจะถามขึ้นเรียบๆ “รู้ไหมว่านางเป็นใคร?”

รู้อยู่แล้วแล้วยังจะมาถามอีก ฮัวหยู่อันตอบแบบไม่คิด ตอบกลับไปอย่างชัดเจนและมั่นใจ

“เป็นคนของยิงจวน แล้วยังเป็นพวกที่ใช้ยาพิษได้เก่งกาจที่สุดของยิงจวน คนพวกนี้แช่ตัวด้วยยาพิษมาตั้งแต่ยังเล็ก ก็เลยกลายเป็นแบบนั้น

คนของยิงจวนเป็นศัตรูกับคนจากนอกแผ่นดินโดยกำเนิด ส่วนพวกข้าชาวหยินไห่นั้นก็อยู่เพื่อที่จะดูแลคนจากนอกแผ่นดิน ดังนั้นพวกข้าจึงรู้จักพวกเขาดี”

พูดมาถึงตอนนี้ ฮัวหยู่อันดูจะมั่นอกมั่นใจ นางค่อนข้างคาดหวังที่จะให้หลานเยาเยาเยินยอนาง

“เจ้ารู้ว่านางเป็นฮองเฮาของประเทศก่วงส้าอย่างนั้นเหรอ?”

“ทะ ท่านพูดอะไรหน่ะ?”

คำพูดนี้ทำให้ฮัวหยู่อันตกใจขึ้นมา

พวกยิงจวนเข้าไปแทรกซึมในเมืองหลวงแล้วอย่างนั้นหรือ?ดูจากที่นางได้ข่าวมา มันไม่ควรจะไวเช่นนี้นี่?

ประเทศก่วงส้าอยู่ในผืนทวีปนี้ก็เป็นดั่งประเทศที่แข็งแกร่งที่สุด คนของยิงจวนได้เข้าไปแทรกซึมในราชอาณาจักรประเทศก่วงส้าแล้ว

นั่นมันสามารถที่จะจินตนาการได้เลยหล่ะว่า……

ทุกๆราชวงศ์ในแต่ละประเทศ

น่าจะถูกแทรกซึมไปแล้วเกือบหมด รอเพียงแค่ให้ถึงเวลาเท่านั้น ผืนแผ่นดินนี้ก็เหมือนกับตกลงไปในนรกอย่างไม่มีวันสิ้นสุด

ไม่ได้ นางจำต้องแจ้งให้แก่เผ่าต่างๆ ไม่เช่นนั้นมันอาจจะเกิดอะไรที่ไม่อาจจะคิดได้

เมื่อนึกถึงตรงนี้ ฮัวหยู่อันก็เตรียมจะออกเดินทาง แต่แล้วก็กลับต้องตกใจกับประโยคหนึ่งของหลานเยาเยา!

“ดูเหมือนมีเผ่าอะไรสักอย่างหมายจะฆ่าเจ้า! เผ่าของพวกเจ้ากำลังมีความขัดแย้งกันภายใน!”

“ท่าน ท่านรู้ได้อย่างไร?”

ชาวหยินไห่ของพวกเขาเกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของเผ่าเล็กใหญ่ หลังจากมีการตายของหัวหน้าเผ่าสูงสุด ตอนนี้ก็ยังไม่มีการตัดสินหัวหน้าเผ่าอย่างแน่ชัด

ดังนั้น ชาวหยินไห่จึงมีความขัดแย้งกันภายใน ซึ่งก็มีสัญญาณของการล่มสลาย

“เมื่อครู่มีคนแต่งชุดประหลาดหมายจะฆ่าเจ้า หัวหน้าของพวกนั้นเป็นชายร่างใหญ่คนหนึ่ง เหมือนเป็นประเภทพวกฟันแทงไม่เข้าอะไรพวกนั้น

โชคดี ที่ข้าช่วยเจ้าขับไล่พวกนั้นไปหมดแล้ว ไม่ได้รู้สึกเป็นเกียรติอะไรหรอกนะ!”

เมื่อนึกถึงชายร่างใหญ่ หลานเยาเยาก็เกิดโมโหขึ้นมาในใจยิบยิบ

ตอนนี้

ก็ทำให้ฮัวหยู่อันรู้สึกหน้าร้าวทันที

เมื่อครู่ยังคิดไปว่าตนช่วยชีวิตหลานเยาเยาไว้อยู่เลย นางโอ้อวดได้เพียงครู่ หลังจากนั้นความรู้สึกนั้นก็ถูกทำลายไป นางเพียงแค่อยากที่จะโดดเด่นกว่านาง ไม่ให้นางมาดูถูกได้

ตอนนี้ดูท่าก็เพียงแค่เปลี่ยนผลัดสลับกันไม่ได้เป็นใครช่วยใครคนใดคนหนึ่ง

“เหอะ!”

ฮัวหยู่อันเหอะขึ้นมาเบาๆ เด็กน้อยกระทืบเท้าอย่างเอาแต่ใจ เตรียมที่จะเดินหนี แต่หลานเยาเยาก็พูดขึ้นมาอีก

“ก่อนที่เจ้าจะไปทำเรื่องอื่น ก็ช่วยจัดการเปลี่ยนสิ่งที่เจ้าทำสกปรกไว้ก่อนด้วย” ทั้งน้ำมูกน้ำลายฮัวหยู่อันที่เปื้อนอยู่บนที่นอนนั้นนางจำได้เป็นอย่างดี

ฮัวหยู่อันเหลือบมองแล้วเหลือบมองอีก จนสุดท้ายก็หยิบผ้าจากตู้มาเปลี่ยนให้

หลานเยาเยาถอนหายใจออกมาแผ่วเบา จากนั้นก็เหลือบมองไปที่หน้าต่าง

เมื่อครู่มีใครอยู่ที่นั่นนะ?

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท