หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 144 โหลวเย่วแปลกไป

บทที่ 144 โหลวเย่วแปลกไป

บทที่ 144 โหลวเย่วแปลกไป

หลานเยาเยาไม่ได้ตั้งใจจะมาเยี่ยมไฮเฮาตั้งแต่แรก นางมาเพราะคำเชิญของฮองเฮา

มาเยี่ยมไทเฮาเป็นเพียงแค่ข้ออ้างบังหน้า ดังนั้นนางจึงอยู่ที่ตำหนักของไทเฮาไม่นานนัก แล้วก็รีบปลีกตัวออกมา

แต่จากมุมมองของคนเฝ้าประตูด้านนอกนั้น นางอยู่กับไทเฮาในตำหนักตลอดเวลา

จากการนำทางบนแผ่นกระดาษ นางมาถึงตำหนักของฮองเฮา

ตำหนักของฮองเฮานั้นเนื่องจากกลัวว่าอาการไม่สบายของฮองเฮาจะกำเริบ ดังนั้นจึงปิดไว้อย่างแน่นหนา แม้แต่ประตูใหญ่ของตำหนักก็มีองครักษ์มากมายคอยเฝ้าอยู่

แต่ทว่า!

หลานเยาเยานั้นไม่ได้เข้าไปทางประตูหลัก

แต่เข้าไปทางด้านหลังของตำหนัก มาถึงห้องของฮองเฮา หน้าต่างที่ปิดสนิทตั้งแต่ทีแรก ก็ถูกนางค่อยๆผลักออก

ก็บอกแล้วไง!

ฮองเฮาดึกดื่นค่ำคืนออกไปที่จวนแม่ทัพเพื่อฆ่านาง จะเข้าทางประตูหลักอย่างเปิดเผยได้ยังไง

“เจ้ามาแล้วหรือ?”

เสียงทุ้มต่ำที่ฟังดูน่ากลัวของฮองเฮาดังขึ้น……

“เป็นอย่างไรบ้าง? ข้ากระตือรือร้นขนาดนี้ ท่านคงจะดีใจใช่ไหม?” หลานเยาเยามองดูผิวพรรณที่เหมือนกับทุกครั้ง กลับมามีเลือดฝาดเหมือนคนปกติของฮองเฮาพร้อมกล่าว กล่าวซ้ำว่า : “โห กินยาแล้วหรือ? ท่านผิวพรรณดีเช่นนี้ รู้สึกเหมือนสาวขึ้นไปอีกหลายปี”

มองดูหลานเยาเยาที่มีท่าทียิ้มเยาะ ฮองเฮาก็อดกัดฟันด้วยความโกรธไม่ได้

คิดว่านางฟังไม่ออกหรือไง?

นี่หลานเยาเยากำลังเสียดสีนาง

“ความตายมาอยู่ตรงหน้าแล้วยังกล้าพูดกับข้าด้วยน้ำเสียงเช่นนี้ หลานเยาเยา ข้าตัดสินใจแล้ว ว่าจะทำให้เจ้าตายอย่างทรมานยิ่งขึ้นไปอีก”

“จึ๊ๆ อย่าโมโห เวลาโมโหไม่น่าดูเลย หากสิ่งที่ทำไปล้มเหลว หน้าตาจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมในพริบตา จะได้ไม้คุ้มเสียนะเพคะ” หลานเยาเยายังคงยกมุมปากขึ้นยิ้มเยาะ

นางไม่ได้รีบร้อนถามถึงเบาะแสของโหลวเย่ว

เพราะนางจะเปลี่ยนจากการถูกกระทำให้กลายเป็นผู้กระทำ เช่นนั้นทางชนะจึงจะมีมากขึ้น

“เจ้า……”

เดิมทีเรื่องหน้าตานั้นเป็นจุดอ่อนของฮองเฮาอยู่แล้ว นางจำเป็นต้องกินยามานานหลายปี กว่าจะทำให้หน้าตาเปลี่ยนมาเป็นดังเช่นปัจจุบันนี้ได้

หากกลับมามีหน้าตาแบบเดิม นางจะเป็นเหมือนคนก็ไม่ใช้ผีก็ไม่เชิง!

ตอนนี้หลานเยาเยากลับไปขยี้ซ้ำที่บาดแผลของนาง

ดี

ดีมาก!

ตอนนี้นางแทบจะอดทนรอไม่ไหวที่จะฆ่านาง

เพียงชั่วครู่แววตาของนางก็ปรากฏถึงความชั่วร้ายออกมา ดวงตาเริ่มแดงก่ำ เล็บที่ขาวสะอาดนั้น ค่อยๆกลายเป็นทั้งยาวและดำ อีกทั้งยังแหลมคมสุดๆ!

บ้าเอ้ย!

หลายเยาเยาตะลึงงัน สิ่งที่นางพูดไปทำให้ฮองเฮาโกรธขนาดนี้เลยหรอ?

จะว่าไป นางก็ไม่ได้พูดอะไรนี่ ก็ชื่นชมนางตลอด จำเป็นต้องแปลงร่างขนาดนี้เลยหรือ!

แต่ทว่าก็ดี นี่คือสิ่งที่นางกำลังต้องการ

แต่กระนั้น!

ฮองเฮาก็กลับไปอยู่ในสภาพหน้าตาเดิมเพียงชั่วพริบตา และไม่ได้เป็นไปตามที่นางคาดคิดไว้ แต่นางกลับนั่งอย่างนิ่งเงียบบนเก้าอี้ จ้องมองนางด้วยแววตาที่ชั่วร้าย

“หลานเยาเยา เจ้าคิดว่าข้าจะลงมือฆ่าเจ้าด้วยตนเองหรือ?”

“แล้วไม่ใช่หรือไง? ท่านจงใจบอกข้าว่า

การตายของท่านแม่ข้าเกี่ยวข้องกับจวนแม่ทัพ จากนั้นก็หลอกล่อข้าให้ไปที่จวนแม่ทัพ

ก็เพื่อคืนนั้น ฆ่าข้าให้ตายอย่างไร้ร่องรอยโดยที่ไม่ให้ใครรับรู้ หากเป็นเช่นนั้นถึงตีให้ตายก็ไม่มีใครเชื่อ ว่าการตายของข้าเกี่ยวข้องกับท่านฮองเฮาผู้สูงส่ง

ตอนนี้ก็คิดล่อลวงให้ข้าเข้ามาในกับดักอีก จากนั้นก็ลงมือฆ่าข้าด้วยตัวเอง

โอกาสดีขนาดนี้ ทำไมท่านถึงไม่ลงมือล่ะ?”

หลานเยาเยาผายมือออกอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นก็หาเก้าอี้ตัวหนึ่งมาให้ตัวเองนั่ง

ได้ยินดังนั้น!

ฮองเฮาก็หัวเราะเสียงดังด้วยความชั่วร้ายขึ้นมา นางเอามือมาไว้ด้านหน้าตัวเอง ราวกับว่ากำลังชื่นชมเล็บที่ทั้งยาวทั้งดำของนาง

“เจ้าฉลาดจริงๆ ฉลาดกว่าผู้หญิงทุกคนที่ข้าพบเจอมา แต่กลับจงใจปิดบัง เอาความสามารถของตัวเองซ่อนเอาไว้”

แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าทำไมเจ้าถึงทำเช่นนี้ แต่นั่นก็ไม่สำคัญแล้ว ตอนนี้สิ่งสำคัญก็คือ ให้เวลาเจ้าอีกหน่อย ให้เจ้าและพระราชธิดาจาวหยางได้รำลึกความหลังกัน”

ขณะที่พูด ฮองเฮาที่มีพลังแห่งความชั่วร้ายร้ายแผ่ซ่านออกมาทั่วตัว ขยับมือเล็กน้อย

จากนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งค่อยๆเดินออกมาจากด้านหลังฉากบังลม

ผู้หญิงคนนั้นก็คือโหลวเย่ว!

นางใส่ชุดขาวทั้งตัว ผมม้วนขึ้นเหมือนปกติอย่างเคย สง่างาม สีหน้าก็ดูเหมือนเดิมขาวอมแดง

เพียงแต่……

สีหน้าของนางดูไร้อารมณ์ ท่าทางการเดินก็ดูแข็งทื่อ

หลังจากที่นางประสานตากับนาง มีเพียงแววตาที่ดูสับสนมึนงงปรากฏออกมา แต่ก็ยังคงดูไร้อารมณ์ความรู้สึกเหมือนเดิม มุมปากกลับปรากฏรอยยิ้มที่ไม่เข้ากับการแสดงออก

“โหลวเย่ว? โหลวเย่ว? เจ้ายังรู้จักข้าหรือไม่?”

เห็นดังนั้น!

หลานเยาเยาลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ ดวงตาหรี่ลงทันที

ด้วยสภาพของโหลวเย่วในตอนนี้ ไม่ได้เหมือนอาการกำเริบของพิษกู่ที่อยู่ในร่างกายของนาง ดูเหมือนกับการถูกควบคุมไว้

เพียงแต่……

“เยาเยา ข้าอยู่ตรงนี้ ข้าคือโหลวเย่ว เจ้าอย่ากลัวข้า ข้าคือโหลวเย่วจริงๆ ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้า……” ในน้ำเสียงที่ฟังดูโศกเศร้าของโหลวเย่ว แซมด้วยเสียงร้องไห้เบาๆ

เมื่อพูดๆไป ในดวงตาที่ดูสับสนมึนงงของนางกลับมีน้ำตาไหลออกมาหนึ่งหยด

“เจ้ากลัวข้าหรือ? ข้าคือโหลวเย่วไง! ตอนนี้ข้ารู้สึกทรมานมาก พิษในตัวข้ามันกำเริบแล้วใช่หรือไม่? เจ้าเคยพูด ว่าสามารถรักษาข้าให้หายได้ ยังเป็นเช่นนั้นหรือไม่? ข้าทรมานเหลือเกิน……”

น้ำเสียงของโหลวเย่วกลายเป็นที่เย็นยะเยือกและเศร้าโศกขึ้นเรื่อย ๆ แต่การท่าทีของนางยังคงดูไร้อารมณ์ความรู้สึก ไม่เปลี่ยนแปลงเลยสักนิด แม้แต่รอยยิ้มที่มุมปากของนางก็ยังคงดูหวานเยิ้ม

หลานเยาเยาปิดตาลงอย่างเงียบๆ จากนั้นเปิดตาขึ้นทันที!

นางบังคับตัวเองให้ละสายตาออกจากโหลวเย่ว จากนั้นก็จ้องมองไปยังฮองเฮาที่มีรอยยิ้มอันสุดแสนจะบ้าคลั่ง

“ท่านทำอะไรกับนาง?”

ในคำถามที่น้ำเสียงแผ่วเบา สอดแทรกไปด้วยความอดทนและโทสะที่คุกรุ่น

นางสัมผัสได้ เวลานี้ในใจจริงของโหลวเย่วนั้นกำลังเผชิญกับความทรมานที่ไม่สิ้นสุด ก็เหมือนกับน้ำเสียงที่ดูเจ็บปวดของนาง

ความทุกข์ทรมานและไร้หนทางช่วยเหลือเช่นนั้น!

“นางเป็นลูกสาวที่ข้าชอบที่สุด ข้าเอ็นดูนางจะตายไป! จะไปทำอะไรนางได้?

ดั่งที่เจ้าเห็น ตอนนี้นางสบายดีจนไม่รู้จะดีกว่านี้ได้เช่นไรแล้ว ไม่ใช่ว่าเจ้าเคยสัญญาว่าจะรักษานางให้หายหรือ? ที่นางกลายเป็นเช่นนี้ ทั้งหมดก็เพราะเจ้า”

“เจ้าหลอกใช้นางมาตลอด ก่อนหน้านี้เป็นเช่นไร ตอนนี้ก็เป็นเช่นนั้น หากว่าเจ้ายังมีคราวหน้า เจ้าก็จะหลอกใช้นางไปเรื่อยๆ”

ในมือที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของหลานเยาเยา เป็นมีดต่อสู้ ซึ่งแอบทายาน้ำอยู่ลับๆ

“เหอะเหอะเหอะ……มีค่าให้หลอกใช้ไม่หลอก เช่นนั้นไม่ใช่คนโง่หรือ? เจ้าก็เป็นเช่นกันไม่ใช่หรือ? พวกเราก็เหมือนๆกัน เจ้าจะต้องเสแสร้งทำตัวสูงส่งไปทำไม?”

“ข้าไม่เหมือนเจ้า!” แววตาของหลานเยาเยาแสดงออกถึงความครุ่นคิดอีกครั้ง

นางยอมรับ ตอนนั้นที่ช่วยโหลวเย่ว นางทำเพียงเพื่อเงิน

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่านางไม่จริงใจที่จะคบกับนาง!

แต่ฮองเฮาไม่เหมือนกัน

โหลวเย่วไม่ได้เป็นลูกสาวแท้ๆของนาง แต่กลับหลอกใช้นางทุกอย่าง

“หากว่าไม่เหมือนกัน งั้นก็ทำให้ข้าดูหน่อย ว่าตรงไหนกันที่พวกเราไม่เหมือนกัน?”

“อะไร?” หลานเยาเยาไม่รู้ว่าประโยคที่ฮองเฮาพูดหมายความว่าอะไร

ขณะนี้ มุมปากของฮองเฮายกขึ้นแสดงออกถึงรอยยิ้มที่ชั่วร้าย หันไปทางโหลวเย่วแล้วพูดว่า

“จาวหยาง หากเจ้ารู้สึกทุกข์ทรมานขนาดนี้ ทำไมไม่ฆ่าตัวตายซะล่ะ?”

หลานเยาเยาอดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง

นี่ฮองเฮาบ้าไปแล้วหรือ! จะให้โหลวเย่วฆ่าตัวตาย

คิดถึงความน่าจะเป็นต่างๆ อยู่ดีๆในใจนางก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมา โหลวเย่วที่ยืนอยู่ตรงนั้น ใบหน้าที่ยังคงมีรอยยิ้มเหมือนเดิม แต่ไม่รู้ว่านางไปเอามีดสั้นมาจากไหน เล็งไปเพื่อแทงที่ท้องของตัวเอง.

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท