หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 132 เก่งนักก็หยิกตัวเองสิ

บทที่ 132 เก่งนักก็หยิกตัวเองสิ

บทที่ 132 เก่งนักก็หยิกตัวเองสิ

จากการที่เย่แจ๋หยิ่งกระทำแบบนี้ ทำให้หลานเยาเยาตกใจและรีบลุกขึ้นมานั่งในทันที สายตาจับจ้องไปที่เขา

“ท่านขึ้นมาบนเตียงข้าทำไม?”

“พักผ่อน!”

คำตอบแบบกระชับ ทำให้นางตะลึงงัน มุมปากกระตุกเล็กน้อย

“นี่คือเตียงของข้า ท่านเป็นผู้ชายที่ขึ้นมาบนเตียงของข้าและบอกว่าพักผ่อน? สมเหตุสมผลแล้วงั้นหรือ? ไม่รู้จักคำว่าชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดกันหรือไง?”

ช่างประหลาดจริงๆ

จวนอ๋องเย่ของเขากว้างใหญ่ ทัศนียภาพงดงาม โออ่า ห้องนอนของเขายิ่งไม่ต้องพูดถึง การได้นอนในห้องนอนเขานั้นเหมือนกับได้รับความสุขในระดับสูงสุด

แต่นี่กลับจะมาพักผ่อนอยู่ที่จวนแม่ทัพ มาพักผ่อนไม่ว่า ยังจะขึ้นมาบนเตียงของนางอีก

คิดจะทำอะไร?

“ชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดกัน?” เย่แจ๋หยิ่งมองนางด้วยความฉงน

“ข้าเป็นผู้หญิง ท่านเป็นผู้ชาย นี่ไม่ใช่หญิงชายไม่ควรใกล้ชิดกันหรอกหรือ!” เขาลืมเอาสมองมาด้วยหรือไง? ลืมคำว่าชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดกันไปแล้วหรือไง?

เมื่อก่อนระวังเรื่องพวกนี้มากไม่ใช่หรือ!

ได้ยินดังนั้น!

เย่แจ๋หยิ่งหัวเราะอย่างเย็นชา พร้อมเบียดนางให้ไปข้างใน และเอาผ้าห่มที่คลุมเท้าตัวเองออก แล้วเอียงตัวไปพิงข้างเตียง

“ในรถม้า เจ้าเป็นคนเข้ามาหอมแก้มข้า ทำไมถึงไม่คิดว่าชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดกัน?”

หลังจากดื่มเหล้าจนเมาก็มายั่วยวนข้า เคยคิดถึงคำว่าชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดหรือไม่?

แม้กระทั้งตอนอยู่บนเรือลำใหญ่ อยู่ในอันตราย ก็ยังคิดจะยั่วยวนข้า ตอนนั้นเจ้าคิดถึงคำว่าชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดกันบ้างหรือไม่?

ในวันนี้ข้าเพียงแค่มานอนบนเตียงของเจ้าเพียงครู่เดียว โดยไม่ได้แตะต้องเนื้อตัวเจ้า ทำไมถึงได้กลายเป็นชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดกัน?

ยิ่งไปกว่านั้น พวกเราได้ไหว้ฟ้าดิน เป็นสามีภรรยากันแล้ว ถึงแม้ว่าจะทำเรื่องแบบนั้น เพียงแค่เจ้ายังคงความบริสุทธิ์อยู่ ก็ไม่ถือว่าข้าทำลายสัญญา

เมื่อคำพูดเหล่านี้เปล่งออกไป

ทำให้หลานเยาเยาตะลึงงัน!

คำพูดที่ฟังดูสมเหตุสมผล เพียงแต่……

มันทำให้พูดไม่ออก

ความจริงแล้วหลานเยาเยาคิดอยากจะเถียง แต่เมื่อสังเกตเห็นความเหนื่อยล้าในตาของเขา จึงได้ถอนหายใจไปเฮือกหนึ่ง

นางก็ไม่ใช่คนไร้เหตุผล

ในเมื่อเขาอยากจะพักผ่อน งั้นก็พักผ่อนเถอะ! นอกจากห้องนี้แล้ว ที่นี่ก็ไม่มีห้องพักอื่นเหลือให้เขานอนได้

แต่กระนั้น!

ขณะที่นางกำลังลุกขึ้นข้ามตัวของเย่แจ๋หยิ่งเพื่อลงจากเตียง ก็ถูกมือใหญ่ๆข้างหนึ่งฉุดเข้าที่ข้อมือ เมื่อถูกดึง ทำให้นางล้มลงไปนอนอยู่บนเตียง

ทำให้ใจนางนึกโมโหขึ้นมา ขณะที่นางกำลังจะกล่าวว่าคนร้ายที่จงใจดึงนางให้ล้มลงบนเตียง ก็รู้สึกว่าตรงช่วงเอวหนักๆ คิดไม่ถึงว่าเย่เจ๋หยิ่งจะเอามือเขาวางไว้บนเอว

นี่ยังถือว่าไม่เท่าไหร่

วินาทีถัดมา เขาโน้มตัวเข้ามาข้างหน้า เอาศีรษะตัวเองวางไว้บนศีรษะของนาง นางจึงตกอยู่ในอ้อมกอดของเขาแบบนั้น

เมื่อตกอยู่ในท่าทางแบบนั้นอย่างกะทันหัน ทำให้หลานเยาเยาตกใจ

ร่างกายแข็งทื่อ นางไม่กล้าแม้แต่จะดิ้น จึงได้แต่สอดส่ายสายตาไปมา

“นี่ เย่แจ๋หยิ่ง ท่านกำลังเอาเปรียบข้าอยู่นะ รีบปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นข้าจะร้องตะโกนแล้วนะ”

เมื่อหลานเยาเยาได้สติ จึงเริ่มตอบโต้

ดิ้น แต่กลับพบว่าไม่ว่าตัวเองจะดิ้นรนซักเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถหลุดออกจากเงื้อมมือของเขาได้เลย

ใครจะรู้……

น้ำเสียงต่ำทุ้มที่ฟังดูดึงดูดดังมาจากบนศีรษะ :

“แล้วที่เจ้าเอาเปรียบข้ายังนั้นน้อยหรือไง? ถ้าเจ้าอยากจะร้องตะโกน งั้นข้าจะทำเรื่องที่สนุกกว่านี้ เพื่อให้เจ้าร้องตะโกนออกมา”

พูดจบ มือใหญ่ๆของเย่เจ๋หยิ่งที่โอบเอวนางไว้นั้น ค่อยๆเลื่อนขึ้นมาด้านบน หลานเยาเยารีบเอามือมาจับเพื่อหยุดมือใหญ่ๆที่ซุกซนนั้นไว้ด้วยความตกใจ

“ถือว่าท่านชนะ!”

หลานเยาเยาหายใจเร็วและแรง พร้อมกัดฟันพูด

“อืม พักผ่อนเถอะ!”

ผักพ่อนบ้าอะไรหล่ะ!พักผ่อน

มาขนาดนี้แล้วยังบอกให้นางพักผ่อนอีกหรือ? ตั้งแต่จำความได้ ยังไม่เคยมีชายใดกล้าเอาเปรียบนางขนาดนี้มาก่อน

แต่ว่ามาคิดดูดีดีอีกครั้ง

นี่ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่จะพัฒนาระบบไปอีกขั้นนึง ทำไมนางจึงไม่ใช้ประโยชน์จากมันเล่า?

คิดได้เช่นนี้ หลานเยาเยาจึงได้ยิ้มมุมปาก

“แฮ่มๆ! นางคิดคำที่จะใช้พูด จากนั้นกล่าวว่า : “ไม่เช่นนั้น……พวกเรามาลองกัน?”

ได้ยินดังนั้น!

ร่างกายของเย่แจ๋หยิ่งชะงักงัน จากที่หลับตาไปแล้วจึงได้ลืมตาขึ้นมาทันที “ลองอะไร?”

“ลองเข้าหอด้วยกันไง! ท่านจูบข้าก่อน พวกเราจูบกันไปเรื่อยๆ เมื่อความรู้สึกเริ่มมากขึ้นก็เป็นเรื่องปกติที่จะถึงขั้นตอนเข้าหอยังไงเล่า!”

จากที่โหลวเย่วพูดมา เย่แจ๋หยิ่งน่าจะยังไม่เคยถูกเนื้อต้องตัวผู้หญิงคนใดมาก่อน

เขาอายุยี่สิบย่างยี่สิบเอ็ดแล้วนี่!

กับเรื่องบางเรื่อง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้สนใจ แต่ก็ต้องมีความต้องการในเรื่องสรีรวิทยากันบ้าง แม้ว่าในใจเขาอาจจะมีหญิงอื่น ขอเพียงแค่นางพยายามมากขึ้น คาดได้เลยว่าแค่จูบก็จะได้สิ่งที่ต้องการมาไว้ในมือแล้ว

เพียงก็จูบก็จะสำเร็จ แหะๆ……

แม้ว่าเย่แจ๋หยิ่งจะได้พูดอะไร แต่ก็เห็นได้ว่ามือไม้ของเขาแข็งไปหมด หลานเยาเยาใช้โอกาสนี้ แกะมือที่โอบนางอยู่ออก และพลิกตัวมาอยู่ตรงหน้าเขา

หลังก็นั้นก็เป็นคนเริ่มเอามือของเขามาไว้ที่เอวของตัวเองอีกครั้ง พร้อมยิ้มอย่างหวานเยิ้มให้เขา : “อยากทำเรื่องสนุกไม่ใช่หรือ? มาสิ!”

เมื่อพูดจบก็ยื่นมือไปกุมที่ใบหน้าของเขา แต่กลับโดนสายตาที่หรี่ลงเล็กน้อยของเย่แจ๋หยิ่งทำให้ตกใจ

“เจ้าจะทำอะไรกับข้า?”

เมื่อครู่ยังทำทีท่าเหมือนว่าตัวเองโดนเอาเปรียบ ตอนนี้กลับเป็นผู้เริ่มเอง ซึ่งเย่แจ๋หยิ่งไม่หลงกลแน่นอน

แต่เขาก็ไม่ได้ดึงมือออก แต่กลับหลับตาลงทันที

“……”

ด้วยความโกรธที่ครุกรุ่นในใจของหลานเยาเยาเธอกัดฟัน ฟันเสียดสีกันดัง “กรอดๆ” ด้วยความโกรธ แล้วก็หลับตาไป

หลังจากที่คิดถึงเรื่องของเย่แจ๋หยิ่งซ้ำไปซ้ำมาในใจเกือบ 18 รอบ และอาจจะเป็นเพราะเมื่อคืนนอนไม่เต็มอิ่ม จึงทำให้นางค่อยๆหลับไหลไปอย่างรวดเร็ว

ตื่นมาอีกครั้ง ก็เป็นเวลาบ่ายแล้ว

หลานเยาเยารู้สึกคันบริเวณใบหน้าของนาง เหมือนจะมีอะไรสักอย่างปัดผ่านไป กลิ่นอำพันทองที่หอมจางๆอยู่ที่ปลายจมูก

กลิ่นเช่นนี้เหมือนกลิ่นที่คุ้นเคย ราวกับว่าเหมือนเคยได้กลิ่นเช่นนี้จากใคร

เหมือนจะเป็น……เย่แจ๋หยิ่ง!

อะไร? เย่แจ๋หยิ่ง?!

จากที่ยังไม่ได้สติเท่าไรนัก

จากที่คิดว่าไม่ได้มีอะไร แต่ในสมองตอนนี้กลับปรากฏแต่ภาพใบหน้าของเย่แจ๋หยิ่ง ทำให้นางรีบลืมตาขึ้นมา

ขณะที่นางลืมตาขึ้นมานั้น นางก็ได้สบตากับสายตาคู่ที่คุ้นเคยและลึกซึ้งเป็นอย่างดีในทันที

สายตาคู่นั้นไม่ได้ดูเย็นชาเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา แต่กลับมีความอ่อนโยนแฝงอยู่ ทำให้เธอตกตะลึงไปครู่หนึ่ง

เวลาเพียงชั่วครู่ แววตาที่อ่อนโยนกลับหายวับไปอย่างไร้ร่องรอย หายังไงก็ไม่เจอ!

ต้องเป็นเพราะตาลายแน่ๆ

คนที่แสนจะเย็นชาขนาดนั้น จะมีแววตาอย่างนั้นได้เช่นไร?

เมื่อหลานเยาเยาลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง จึงรู้ว่าพวกเขาทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมากๆ ใกล้กันจนลมหายใจที่เขาหายใจออกมาแทบจะรดอยู่บนใบหน้าของนาง

และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ลำตัวท่อนบนเกือบทั้งหมดของนางนั้นนอนทับอยู่บนร่างกายท่อนบนของเขา

โอ้……

เพียงแค่การตื่นขึ้นมาเช่นนี้เป็นเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง ร่างกายของหลานเยาเยาเริ่มมีอุณหภูมิสูงขึ้น แก้มเริ่มแดง และคนทั้งคนก็เริ่มรู้สึกวิงเวียน

ในขณะที่นางรู้สึกว่าตนเองไม่มีที่ที่สามารถวางเท้าได้ ถึงได้สังเกตเห็นว่า มือของนางนั้นล้วงเข้าวางอยู่ด้านในเสื้อคลุมของเขา……

แม่ช่วย!

หลานเยาเยาตกใจจนพูดไม่ออก!

“ต้องเป็นฝันร้ายแน่ๆ ไม่เช่นนั้นทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้?”

นางตัดสินใจหยิกตัวเองอย่างแรง ทันใดนั้นก็รู้สึกถึงความผิดปกติ ดังนั้น เลยหยิกซ้ำๆอีกหลายครั้ง ทันใดนั้นนางก็รู้สึกดีใจขึ้นมา

เอ๊ะ! ไม่เจ็บนี่!

“เป็นเพียงแค่ฝันไปจริงๆด้วย!”

บอกแล้วไง เป็นไปไม่ได้ที่นางจะนอนกับเย่แจ๋หยิ่ง

“เยาเยา ถ้าเจ้าเก่งนักก็หยิกตัวเองสิ! แม้เขาจะผ่านสนามรบมานับร้อย แต่ก็รู้สึกเจ็บอยู่ดีเมื่อถูกนางหยิกเข้าที่เนื้อแบบเน้นๆ

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน